เซียวเฉวียนกระพริบตาปริบ ๆ หันหลังแล้วเดินจากไป
ตอนที่ออกจากจวนชวี เซียนชิวเด็กสาวตัวผอม ๆ เล็ก ๆ ยืนมองเซียวเฉวียนจากไปสายตาละห้อย
ในตอนที่เซียวเฉวียนหันหลังกลับมามองอยู่ไกล ๆ นางยังคงยืนพิงประตูและมองตามอย่างเหม่อลอย ราวกับลูกที่ทำใจไม่ได้เมื่อเห็นพ่อแม่ออกเดินทางไกล
นางเป็นเพียงดาบวิญญาณ นางไม่ใช่มนุษย์ เซียวเฉวียน นางไม่ใช่ลูกสาวของเจ้า มีสติหน่อยสิ เซียวเฉวียนตบหน้าตัวเอง โง่ไปแล้วหรืออย่างไร แยกไม่ออกว่าคนจริงหรือคนปลอมงั้นหรือ?
เซียวเฉวียน ไป!
เซียวเฉวียนปลอบใจตัวเอง เมื่อสลัดเจ้าหนูน้อยทิ้งไป เซียวเฉวียนก็ตัวเบามากขึ้น จิตใจก็ชื่นบานขึ้นมาก การเดินทางก็ฉับไวมากขึ้นด้วย
เขาไม่ได้กลับไปที่กระท่อมมุงหลังคาจากของเจี้ยนเหล่า แต่มีคำสั่งให้ไป๋ฉี่และคนอื่น ๆ กลับจวนเซียวโดยตรง
ตอนนี้ร่างกายของเซียวเฉวียนดีขึ้นมากแล้ว และเขาก็ไม่ได้ทำสิ่งใดผิด เหตุใดยังต้องอยู่ในป่าเขาด้วยเล่า?
แม้จะถูกไล่ออกจากพระราชวัง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเซียวเฉวียนมีความผิดจริง ๆ เซียวเฉวียนจะกลับไปอยู่ในเมืองหลวง และกลับไปอยู่ที่บ้านของตัวเอง
หลังจากที่จวนเซียวถูกเผา ก็ไม่ได้ซ่อมแซมอีกเลย ทว่าจะทรุดโทรมลงเพียงใด นั่นก็คือบ้านของตัวเขาเอง ลูกไม่รังเกียจแม่ที่อัปลักษณ์ สุนัขไม่รังเกียจบ้านที่ยากจน บ้านเงินบ้านทองเทียบไม่ได้กับบ้านหลังน้อยของตัวเอง แม้จวนเซียวจะทรุดโทรมลงไปมากกว่านี้ เซียวเฉวียนก็ไม่รังเกียจแม้แต่น้อย
ดังนั้นเซียวเฉวียนจึงออกคำสั่ง ไป๋ฉี่และต่งจัวพร้อมกับคนอื่น ๆ ให้กลับมายังจวนเซียวในทันที
ไม่เพียงเท่านั้น เจี้ยนเหล่าก็ได้ตามมาด้วย
เป็นเวลาหลายวันที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ที่จวนเซียว มีควันไฟเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย เซียวเฉวียนสั่งให้คนเก็บกวาดจวนเซียวคร่าว ๆ ก่อน แล้วค่อยซื้อคนรับใช้และสาวใช้ใหม่ เพื่อดูแลการดำรงชีวิตประจำวันของเหล่านายท่านไป๋ฉี่กลุ่มนี้
จากนั้น เซียวเฉวียนได้ออกคำสั่งเด็ดขาดว่า : ให้ทุกคนใช้ชีวิตของตัวเองตามอำเภอใจ ไม่อนุญาตให้มายุ่งวุ่นวายกับเขา
อย่างเช่นไป๋ฉี่ ให้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติเหมือนเมื่อก่อนของตัวเอง นำพวกเหมิงเอ้าฝึกซ้อมการรบพิเศษต่อไป ตอนนี้มีต่งจัวและเถ๋าจี๋เพิ่มขึ้นมาสองคน ไป๋ฉี่ก็ต้องพาพวกเขามาฝึกซ้อมด้วย
และอย่างเช่นเย่าเหล่า ไปอ่านตำราแพทย์ที่ตัวเองชื่นชอบก็พอ ไม่ต้องมากังวลเรื่องสุขภาพร่างกายของเซียวเฉวียนจะเป็นอย่างไรอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
และเจี้ยนเหล่า เซียวเฉวียนไม่มีคำสั่งใด ๆ ขอเพียงตาเฒ่าคนนี้เงียบได้ก็เป็นพอ
เซียวเฉวียนรู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้ของฮ่องเต้ไม่ดีมากนัก ทว่าเซียวเฉวียนก็ไม่มีแผนเข้าพระราชวังเพื่อช่วยเหลือพระองค์
ตามความคิดของเซียวเฉวียน ฮ่องเต้ทรงเป็นฮ่องเต้ที่ดี มีความมุ่งมั่นเที่ยงตรง มีความรักต่อราษฎร ทรงพระปรีชาสามารถ ทว่าพระองค์ยังทรงพระเยาว์เกินไป อายุที่ยังน้อยของพระองค์มองเห็นเพียงความชั่วของเว่ยเชียนชิว แต่กลับมองไม่เห็นความร้ายกาจของไทเฮา ฮ่องเต้ประเมินค่าความชั่วช้าของไทเฮาต่ำเกินไป
เซียวเฉวียนเชี่ยวชาญประวัติศาสตร์ เขารู้แน่ว่าสิ่งมีชีวิตอย่างไทเฮาไม่ใช่ผู้ที่จะนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่เฉยได้ ฮว๋าเซี่ยก็มีไทเฮาอย่างหลีไทเฮา บูเช็กเทียน และซูสีไทเฮาซึ่งเป็นบุคคลที่ยอดเยี่ยม เรียกได้ว่าอยู่ในระดับสูงสุด แม้แต่ฮ่องเต้ในสมัยนั้นของฮว๋าเซี่ยล้วนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกนาง
ไทเฮาผู้นี้ของต้าเว่ย แน่นอนว่าเทียบสามพระองค์ด้านบนไม่ได้ เพราะไม่ว่าไทเฮาของต้าเว่ยเผด็จการเพียงใด ในขณะเดียวกันก็ทรงรักลูกชายเป็นอย่างมาก
ไม่ว่าไทเฮาจะทำสิ่งใดต่อฮ่องเต้ ฮ่องเต้ก็ไม่มีทางได้รับอันตรายถึงชีวิต
แต่ในโลกแห่งนี้ ไม่เพียงแต่ความตายทางร่างกายเท่านั้นที่ถือว่าเป็นความตาย ความตายทางจิตใจก็เป็นความตายประเภทหนึ่งเช่นกัน
โดยเฉพาะฮ่องเต้ผู้ที่ทรงฉลาดปราดเปรื่องและมีไหวพริบเช่นนี้ การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ของไทเฮาที่กระทำต่อฮ่องเต้และเซียวเฉวียน จะต้องรุนแรงและเป็นแผลในใจของฮ่องเต้อย่างแน่นอน
ฮ่องเต้แห่งต้าเว่ยเกิดมาเพื่อเป็นจักรพรรดิ และเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ หากฮ่องเต้รู้สึกสูญเสียอำนาจไป และยังมีอำนาจที่ยิ่งใหญ่กว่าบีบพระองค์อยู่ ไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นเสด็จแม่ของพระองค์ ก็จะต้องสนองความตายในฐานะของจักรพรรดิด้วยเช่นกัน
สิ่งที่เซียวเฉวียนต้องการก็คือการยอมแพ้ของจักรพรรดิ
ต้องการให้ฮ่องเต้หนุ่มผู้นี้เห็นสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างชัดแจ้ง
ในฐานะราชครู นี่คือบทเรียนแรกที่เซียวเฉวียนมอบให้แก่ฮ่องเต้
เขาไม่อาจหยิบยกเรื่องราวของเหล่าพระนางหลีไทเฮา บูเช็กเทียนมาทูลต่อฮ่องเต้ได้ เรื่องของบุคคลเหล่านี้ไกลเกินไปสำหรับฮ่องเต้
มีเพียงการประสบพบเจอด้วยตัวเอง ฮ่องเต้จึงจะสามารถเข้าใจได้อย่างถ่องแท้ มีเพียงความแข็งแกร่งของตนเองและความโหดเหี้ยมที่มากพอ จึงจะทำให้พระที่นั่งของจักรพรรดิมั่นคงได้
ดังนั้น หลังจากร่างกายเซียวเฉวียนแข็งแรงแล้ว ก็ไม่ได้เอ่ยถึงฮ่องเต้แม้แต่น้อย
ความจริงแล้วเขาสามารถนำพวกไป๋ฉี่ เข้าสังหารในพระราชวัง และนำตัวฮ่องเต้ออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...