ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 699

สรุปบท บทที่ 699 แววตาแห่งความสิ้นหวัง: ซูเปอร์ลูกเขย

สรุปตอน บทที่ 699 แววตาแห่งความสิ้นหวัง – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

ตอน บทที่ 699 แววตาแห่งความสิ้นหวัง ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

“คุณชาย! ทั้งข้าและใต้เท้าเซียวต่างก็เป็นผู้บริสุทธิ์ในเรื่องนี้นะเจ้าคะ! อวี้หวนเป็นผู้บริสุทธิ์จริง ๆ !”

หยางอวี้หวนได้แต่ส่ายหัวไปมาในทันที นางกลับคิดไปว่าบางทีคุณชายอาจจะใส่ใจเป็นห่วงนางมากเกินไป นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณชายโกรธโมโหนางมากถึงเพียงนี้ ใช่แล้ว คุณชายไม่มีทางทอดทิ้งนางไปแบบนี้แน่นอน

คุณชายเคยบอกกับนางแล้วว่า ในอนาคตข้างหน้าคุณชายจักแต่งกับนาง ต่อแต่นี้ไปนางจักเป็นฮูหยินของคุณชาย

เช่นนั้น คุณชายจักปล่อยให้คนเหล่านี้มาทำเช่นนี้กับนางได้อย่างไร?

หยางอวี้หวนที่กำลังนั่งคุกเข่าลงบนพื้น พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตานองหน้าอย่างงดงาม ดูน่าสงสารเสียจน เหล่าบัณฑิตยากไร้ที่เห็นเช่นนั้นถึงกับน้ำลายสอไปในทันที

“แม่นางหยาง ท่านอย่าร่ำไห้ไปเลย ท่านร้องไห้ออกมาเช่นนี้ทำเอาพวกข้าทุกคนรู้สึกเศร้าใจยิ่งนัก”

“ในเมื่อท่านใส่ใจพี่หยางมากถึงเพียงนี้ เช่นพวกข้าจักเป็นคนตรวจสอบแทนพี่หยางเอง หากว่าเจ้ายังเป็นสาวแรกรุ่นบานสะพรั่งละก็ เจ้าจักสามารถกลับไปอยู่ข้างกายพี่หยางได้เช่นเดิม ”

“อย่างไรก็ตาม เจ้าคงมิใช่สตรีบริสุทธิ์ผุดผ่องเช่นเดิมแล้วเป็นแน่ ในยามนี้ เจ้าจักมามัวร่ำไห้ไปเพื่อผู้ใดกัน ในเมื่อหน้าตาพี่หยางถูกเจ้าฉีกขาดออกเป็นวิ่น ๆ เช่นนี้แล้ว”

เหล่าปัญญาชนที่วาจาปากเหม็นเน่านั้น ทำเอาหยางอวี้หวนรู้สึกเสียใจยิ่งนัก ก่อนจะร้องตะโกนออกมาว่า "หาได้เกี่ยวข้องอันใดกับพวกเจ้าไม่! ข้าบริสุทธิ์! ไปให้พ้น! พวกเจ้าอย่าได้เข้ามาใกล้ข้า!"

สตรีงามอยู่ตรงหน้าเช่นนี้ จักให้พวกเขาหยุดมือไปได้อย่างไรกัน?

เดิมทีเหล่าปัญญาชนกลุ่มนี้ต่างก็โลภอยากครอบครองหยางอวี้หวนมานมนานแล้ว เมื่อหยางซูมาอนุญาตให้เขาสามารถลงมือกระทำได้เช่นนี้อีก พวกเขาจักปล่อยสาวงามให้หลุดมือไปได้อย่างไรกัน

มือไม้ที่เหนียวนานราวกับปลาหมึก ค่อย ๆ เดินก้าวเข้ามาดึงเสื้อตัวนอกของหยางอวี้หวนเอาไว้ "ให้พวกเขาได้ยลโฉมหน่อยสิว่า เจ้าจักเชี่ยวชาญในการถอดเสื้อผ้าอาถรณ์ของตนเองหรือไม่"

ยามที่ผู้คนมากมายยืนรายล้อมอยู่เช่นนี้ พลันมีปัญญาชนผู้หนึ่งหัวเราะออกมาฉากใหญ่ว่า "ในเมื่อเจ้าสามารถรับใช้คนผู้นั้นได้ อะไรกัน เจ้าจักมารับใช้พวกข้ามิได้เลยหรือ?"

หยากน้ำตาไหลพลันไหล่อาบแก้มทั้งสองข้างของหยางอวี้หวนไปในทันที ก่อนที่นางจักหันไปมองที่หยางซูที่กำลังนั่งร่ำสุราอยู่โต๊ะโดยมิได้แยแสสิ่งใด ทำเอาแววตาแห่งความสิ้นหวังพลันปรากฏพาดผ่านขึ้นมาในดวงตาของนาง

หยางซูในยามนี้เสมือนเป็นคนแปลกหน้าก็ไม่ปาน ถึงได้ปล่อยให้นางถูกผู้อื่นมารังแกเช่นนี้ได้

ภายในเหลาอาหารเช่นนี้นั้น นับว่าเป็นเรื่องปกติที่จะสัมผัสสตรีเช่นนี้ อีกทั้งหอเทียนหมิงยังเป็นเหลาอาหารที่สามารถมาร่ำสุราเคล้านารีได้เช่นนี้อีก ฉะนั้นแล้ว แขกเรือผู้อื่นที่เห็นเหตุการณ์เช่นนี้ พวกเขาหาได้นึกแปลกใจกับสถานการณ์ตรงหน้าไม่

อีกทั้ง หยางอวี้หวนยังมีสถานะเป็นทาสคุนหลุนที่วรรณะต่ำต้อยจนมิอาจเทียบเท่ากับสถานะของสตรีที่เกิดในครอบครัวชนชั้นธรรมดาได้เสียด้วยซ้ำ หากหยางซูมิยอมรับนางละก็ นางย่อมต้องมีชะตากรรมถูกคนอื่นรังแกเช่นนี้

ชีวิตของนางตกอยู่ในกำมือของหยางซูแล้ว

เนื่องจากนางเป็นทาสของเขา

หยางซูที่กำลังนึกสนุกกับความรู้สึกที่ได้ควบคุมโชคชะตาของผู้อื่นนั้น ดูสิ สตรีนางหนึ่งกลับมีท่าทีอ่อนแอและบอบบางเช่นนี้ อีกทั้งเขายังเป็นคนเดียวที่สามารถช่วยนางออกมาได้อีกด้วย

เหล่าปัญญาชนเหล่านี้ พยายามที่จะเข้าหาหยางซูพร้อมกับเอื้อมมือมาแตะเนื้อต้องตัวผู้หยางอวี้หวนอยู่บ่อยครั้ง ทว่า หยางอวี้หวนกลับหลบหลีกได้ตลอด นางหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหยางซูจะสามารถช่วยนางได้ นางหวังว่าหยางซูจักเห็นถึงความสัมพันธ์ในวันวาน เพื่อยื่นมือออกมาช่วยเหลือนางและสั่งให้คนเหล่านั้นหยุดมือ

แต่เขาก็มิได้ทำเช่นนั้น

แม้แต่ในยามนี้ หยางอวี้หวนก็ยังคงเชื่อสุดหัวใจว่า คุณชายกำลังโกรธโมโหนาง ถึงได้ลงมือลงโทษนางเช่นนี้

ทว่า เหล่าปัญญาชนกลุ่มนั้นกลับผลักนางให้เข้าไปภายในห้องรับรองห้องหนึ่งแทน

มันคือห้องส่วนตัวขนาดใหญ่ ที่เป็นหนึ่งในสถานที่ที่เต็มไปด้วยความงามภายในหอเทียนหมิง หากแขกเรือท่านใดตกหลุมรักสตรีนางไหน ก็สามารถเข้ามาใช้ห้องรับรองนี้เพื่อให้เหล่าสาวใช้ปรนนิบัติพัดวีได้อย่างเต็มที่ บางทีอาจจะมีเพียงการร้องรำทำเพลงเพื่อให้แขกเรือพึงพอใจ แต่แท้จริงแล้วกลับเป็นห้องที่มีหน้าที่ทำให้แขกพึงพอใจในเรือนร่างของสตรีเท่านั้น

หยางอวี้หวนจับกลอนประตูเอาไว้แน่น ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยท่าทีแตกสลายว่า "คุณชาย! ท่านจักทำเช่นนี้จริง ๆ หรือ! ท่านมิต้องการข้าอีกต่อไปแล้วหรือ?"

นางร้องไห้ไปพลางเอ่ยขอร้องออกมาด้วยหัวใจที่แตกสลาย ทั้งยังเอาแต่เอ่ยกลับไปกลับมาว่า "อวี้หวนบริสุทธิ์! อวี้หวนบริสุทธิ์จริง ๆ เจ้าค่ะ!"

“พวกเจ้าอย่ามาแตะต้องตัวข้า!” หยางอวี้หวนพยายามผลักผู้ที่อยู่โดยรอบออกไปด้วยกำลังทั้งหมดที่นางมี “อย่ามาแตะตัวข้า!”

พลางชักปิ่นปักผมที่อยู่บนหัวของตนเองออกมาแล้วจ่อที่ลำคอของตนเองว่า "หากพวกเจ้ากล้าแตะตัวข้า! ข้าจักตายต่อหน้าพวกเจ้าให้ดู!"

“พี่หยาง มัน…..” เหล่าปัญญาชนต่างก็ชะงักไปในทันที ก่อนจะหันมาขอความเห็นต่อหยางซู พวกเขาเพียงแค่ต้องการจะรังแกสร้างความอับอายให้แก่หยางอวี้หวนเท่านั้น หาได้ต้องการเอาชีวิตไม่

ถึงอย่างไร พวกเขาก็ยังอยากมีหน้ามีตาในสังคมอยู่ อีกทั้งในยามนี้หยางอวี้หวนยังเป็นคนของเซียวเฉวียนอีก หากนางตกตาย ไปขึ้นมา เซียวเฉวียนจักไม่มาจัดการพวกเขาหรือ?

“นางเป็นทาสของฉัน ข้าจะทำอะไรก็ย่อมได้!” หยางชูพลันลุกขึ้นตบโต๊ะขึ้นมาในทันที แคว้นมีกฎหมายของแคว้น ตระกูลยังมีกฎของตระกูล เขาจักทำอันใดกับทาสคุนหลุนของตนเองนั้นก็ย่อมได้! ถึงแม้ว่าเซียวเฉวียนจักเป็นขุนนางในราชสำนักแล้วอย่างไร เขาก็หาได้มีสิทธิ์เข้ามายุ่งเกี่ยวไม่!

“ก็แค่ทาสคุนหลุนคนเดียว จักตกตายไปสักคนก็หาได้เป็นอันใดไม่ ชีวิตดั่งต้นหญ้าเช่นนี้ ข้าไม่กลัว! พวกเจ้าจักต้องกลัวอันใดเล่า!”

หยางซูตบโต๊ะไปพลางยกจอกสุราเข้าปาก ทำเอาหัวใจของหยางอวี้หวนแตกสลายยิ่งนัก

ปรากฏว่าสิ่งที่ใต้เท้าเซียวเอ่ยออกมานั้น พูดถูกต้องทุกอย่าง หยางซูในยามนี้เปลี่ยนไปแล้ว หยางซูมิต้องการนางอีกต่อไปแล้ว

เสี่ยวเชียนชิวที่เพิ่งตบตีกับเจี้ยนเหล่าจนเสร็จนั้น แม้ว่าผมเผ้าของนางจะยุ่งเหยิงไปเล็กน้อย ทว่า เหล่าปัญญาชนที่รู้สึกหวาดกลัวกับบุคคลที่ปรากฎตัวขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึงนั้น เมื่อพวกเขามองดี ๆ กลับเห็นว่าเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ หน้าตาน่ารักนางหนึ่ง จู่ ๆ ก็เกิดความคิดที่มิรู้จักผิดชอบชั่วดีขึ้นมา “สาวน้อย เจ้าสนใจอยากจะมาเล่นกับพี่ชายหรือไม่เล่า? "

“ปล่อยนางไป” เสี่ยวเชียนชี้นิ้วไปที่หยางอวี้หวน

บิดาเคยกล่าวเอาไว้ว่า ไม่ควรทำร้ายผู้บริสุทธิ์ในการต่อสู้

หยางอวี้หวนเป็นผู้บริสุทธิ์ เช่นนั้นต้องปล่อยตัวนางออกไปก่อน

“ช่างหาญกล้ายิ่งนัก” ทันใดนั้นเอง เหล่าปัญญาชนต่างก็รู้ได้ในทันทีว่า เด็กหญิงตัวน้อยมาที่นี่เพื่อสร้างปัญหาให้กับพวกเขา “นางเป็นคนของพวกข้า! หากจะให้พวกข้าปล่อยตัวนางไปนั้น จักให้ปล่อยตัวไปง่าย ๆ หรือ ? แล้วก็! เจ้าเป็นอันใดกับเซียวเฉวียนกัน!”

“เสี่ยวเฉวียนเป็นขุนนางในราชสำนัก พวกเจ้าควรเอ่ยตำแหน่งทางการของเขา หึ” เสี่ยวเชียนชิวเอียงหัวลงเล็กน้อยก่อนจะกล่าวว่า “ไร้มารยาทจริง ๆ ”

พูดจบ ร่างของเสี่ยวเชียนชิวพลันหายวับไปดึงตัวหยางอวี้หวนออกมาในพริบตาเดียว พร้อมทั้งส่งหยางอวี้หวนออกจากหอเทียนหมิงไปภายในเสี้ยววินาที

เสี่ยวเชียนชิวที่เพิ่งส่งคนออกไปนั้น ก็กลับมายังเรือนรับรองห้องเดิม

เพียงพริบตา เสี่ยวเชียนชิวก็กลับมายืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขาอีกครั้ง

"อ๊ากกก!"

"ผี!"

เหล่าปัญญาชนหาได้เคยเห็นพบเห็นบุคคลที่มีพลังการต่อสู้เช่นนี้มาก่อนไม่ พวกเขาจึงตกใจกลัวไปในทันที เสี่ยวเชียนชิวพลางก้าวไปคว้าคอเสื้อของคนผู้หนึ่งเอาไว้ "ข้าจักถามเจ้า! ใครเป็นคนปล่อยข่าวว่าเซียวเฉวียนและหยางอวี้หวนลักลอบมีความสัมพันธ์กัน! พูด! เจ้ามีหลักฐานอันใดมายืนยันกัน!”

“เขา เขา เขาเป็นคนเล่า” ปัญญาชนผู้นั้นพลันชี้ไปที่หยางซูด้วยมือที่สั่นเทาในทันที

เสี่ยวเชียนชิวจึงเร้นกายออกจากห้องรับรอง เพื่อมาปรากฏตัวอยู่หน้าโต๊ะสุราของหยางซู "ที่แท้เจ้าก็เป็นแค่คนขี้ขลาดตาขาวที่รนหาที่ตาย!"

เมื่อเท้าเล็ก ๆ ของเสี่ยวเชียนชิวเหยียบลงบนโต๊ะนั้น โต๊ะก็กลายเป็นขี้เถ้าไปในทันที หยางซูที่หวาดกลัวเสียจนต้องหลับตาปี๋ เหล่าผู้คนที่เหลืออยู่นั้น ต่างก็ตกใจกลัวจนวิ่งหนีไปทุกทิศทุกทาง แม้แต่เซียวเฉวียนเองก็นึกตกใจเช่นกัน สาวน้อยคนนี้... ดุร้ายยิ่งนัก…

"เจ้า! คืนความบริสุทธิ์ให้เซียวเฉวียนเดี๋ยวนี้!" เสี่ยวเชียนชิวจ้องมองไม่วางตา "มิเช่นนั้น ชะตาของเจ้าก็มิต่างจากโต๊ะตัวนี้แน่นอน!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย