“เจ้ากำลังพยายามรังแกผู้อื่นอยู่งั้นรึ?”
ริมฝีปากของหยางซูพลันสั่นเทา มีคนบอกว่าข้างกายของเซียวเฉวียนมีเพียงไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าที่แข็งแกร่งมิใช่หรือ หาได้มีผู้ใดเคยกล่าวว่ามีเด็กน้อยมากฝีมือเช่นนี้อยู่ข้างกายเซียวเฉวียนไม่
แน่นอนว่า ข้อมูลข่าวคราวของหยางซูมได้มาทันเวลา
มิต้องเอ่ยถึงหยางซูที่ไม่รู้เกี่ยวกับตัวตนของเสี่ยวเชียนชิวเอง แม้แต่เซียวเฉวียนเองก็ยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเสี่ยวเชียนชิวเลยเช่นกัน
“ใช่แล้ว” เสี่ยวเชียนชิวพยักหน้าลง “แต่ข้ามิได้ใช้พลังของตนเองในการรังแกผู้อื่น สาวน้อยเช่นข้า ใช้พลังของตนเองเพื่อรังแกสุนัขเกเรเท่านั้น”
สีหน้าของหยางซูพลันดูน่าเกลียดขึ้นมาในทันที เมื่อเสี่ยวเชียนชิวเอ่ยวาจาจิกกัดเขาขึ้นมาเช่นนี้ "อะไรกัน? รับไม่ได้! เช่นนั้นก็มาสู้กัน!”
เซียวเฉวียนได้แต่เอามือกุมหน้าผากของตนเอง เดิมทีเขาคิดว่าเด็กตัวน้อยจักเป็นสำลีขาวที่มีจิตใจดี ทว่า กลับกลายเป็นสำลีดำที่จิตใจโหดเหี้ยมไปเสียได้ ด้วยนิสัยเด็ดเดี่ยวมีเขี้ยวมีเล็บเช่นนี้ มิรู้ว่าไปได้ใครมากัน?
หากเสี่ยวเซียนชิวสังหารหยางชูขึ้นมาจริง ๆ ละก็ ต่อให้เซียวเฉวียนพิสูจน์ความบริสุทธิ์โดยการกระโดดลงแม่นางหวางเหอก็มิอาจล้มล้างความผิดนี้ไปได้
หากแต่กายหยาบของเสี่ยวเชียนชิวเป็นดาบวิญญาณดาบ มั้งยังมีกลิ่นอายที่แข็งแกร่งมากและทรงพลังมากอีกด้วย หยางซูที่จึงมิกล้าขยับตัวไปมาภายใต้การจ้องมองของนาง
นางรู้ดีว่าบิดามิต้องการให้นางสังหารคนผู้นี้ นางเพียงแค่ต้องการข่มขู่เขาเฉย ๆ "เจ้าอย่าได้คิดเอาแววตาขี้ขลาดมาจ้องมองเด็กน้อยเช่นข้า! เจ้าจัดการตัวเองให้ดีเสียเถิด! เซียวเฉวียนต้องการจะพูดคุยกับเจ้า! มิเช่นนั้น…..."
เสี่ยวเชียนชิวพลันยื่นมือของนางออกมา พร้อมกับหินลับมีดที่แข็งแกร่งเสียยิ่งกว่าโต๊ะพลันมาปรากฏอยู่ในมือของนางในทันที
เพียงแค่เสี่ยวเชียวชิวบีบมันเบา ๆ เท่านั้น หินลับมีดก้อนนั้นก็ปลิวสลายหายเป็นผุยผงเหมือนกับโต๊ะตัวเมื่อครู่!
เสี่ยวเชียนชิวเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "เห็นชัดแล้วใช่หรือไม่ หากเจ้ากล้าหยิ่งผยองต่อหน้าเซียวเฉวียนละก็ นี่คือจุดจบของเจ้า!"
หยางซูพลางเบิดตากว้างออกมาด้วยความตกตะลึง
นี่มันคือหินเชียว!
แม้แต่เซียวเฉวียนเองก็ตกตะลึงเช่นกัน
ให้ตายเถอะ นี่มันหินนะ!
"ข้าบอกเจ้าแล้ว ว่านางแข็งแกร่งกว่าเจ้า" ในยามนี้ เจี้ยนเหล่ากลับเดินมากระซิบข้างๆ เซียวเฉวียน
เซียวเฉวียนพลันหันหน้าไปมองด้วยความหวาดกลัวในทันที "เจี้ยน เจี้ยนเหล่า? เหตุใดท่านถึงมีสภาพเป็นเช่นนี้?"
เมื่อเห็นว่าเจี้ยนเหล่ามีสภาพมิเรียบร้อยเช่นเสี่ยวเชียนชิวนั้น ผมเผ้าพันรุงรัง อีกทั้งดวงตาของเขายังดำม่วงและบวมเป่งอีกด้วย ใบหน้ายังบวมขึ้นมาจากการถูกทุบตีอีก คำถามของเซียวเฉวียนทำให้เอาเจี้ยนเหล่ารู้สึกเจ็บใจยิ่งนัก "ข้าเป็นเช่นนี้ได้อย่างไรน่ะหรือ! ไม่ใช่เพราะเจ้าเด็กนั่นของเจ้าหรืออย่างไร! ถึงทำให้ผู้เฒ่าเช่นข้าไม่อาจเอาชนะเด็กตัวน้อยในตระกูลของเจ้าได้ !”
เจี้ยนเหล่าได้แต่เอามือปิดบังใบหน้าของตนเอง เจ้าเด็กนี่ชอบการต่อสู้เสียจริง จุดจบคงไม่แคล้วถูกสังหารภายใต้เงื้อมมือของนางเป็นแน่! หากมิใช่เพราะเจี้ยนเหล่าแข็งแกร่งมากพอละก็ เขาคงโดนนางทุบตีจนตายไปแล้ว!
"ข้าเข้าใจแล้ว เป็นท่านที่ไม่สามารถเอาชนะนางได้" เซียวเฉวียนทั้งตกใจและตกตะลึงยิ่งนัก แม้แต่เซียวเฉวียนเองยังอดสงสัยในตนเองมิได้ว่า หรือเขาเองก็อาจจะเอาชนะเจ้าสำลีใจดำตนนี้ไม่ได้เช่นกัน
สาวน้อยที่ดุร้ายเช่นนี้ เซียวเฉวียนจักไปทำอันใดกับนางได้! เขาทำได้แต่เพียงเกลี้ยกล่อมนางเท่านั้น! เซียวเฉวียนได้แต่ฝืนยิ้มกว้างออกมา ราวกับบิดาที่รักใคร่ในบุตรของตน "เสี่ยวเชียนชิวมานี่เร็ว เด็กผู้หญิงน่ารักเช่นนี้ เหตุใดถึงโกธรโมโหเช่นนี้ได้กัน?"
ใบหน้าของเซียวเฉวียนหาได้แสดงท่าทีประจบสอพลอออกมาไม่
แต่เป็นท่วงท่าที่บิดากำลังทำให้บุตรสาวพอใจ
นับว่าเด็กน้อยรู้ความยิ่งนัก ถึงมิได้เอ่ยเรียกตนเองว่าบิดาในที่ที่มีคนมากมายเช่นนี้ นั่นจึงทำให้เซียวเฉวียนเอ็นดูนางมากขึ้นไปอีก พร้อมกับภายในใจที่ยอมรับในตัวนางมากยิ่งขึ้น "มาเถอะ เจ้าไปอยู่เป็นเพื่อนกับพี่สาวอวี้หวนเสีย ตรงนี้เดี๋ยวข้าจักจัดการเอง!"
เสี่ยวเชียนชิวพลางจ้องมองไปที่หยางซูด้วยความอาฆาตก่อนจะหันมาส่งยิ้มหวานให้กับเซียวเฉวียนว่า "เจ้าค่ะ!"
ในขณะเดียวกัน นางพลันชูกำปั้นของนางขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนจะจ้องมองที่หยางซูด้วยความเดือดดาลว่า "หากเจ้ากล้าเล่นตุกติกขึ้นมาละก็ ข้าจักทำให้กระดูกของเจ้าแตกเป็นชิ้น ๆ เลยมีเดียว!"
หยางซูจ้องมองไปยังเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้า พลางก้มหน้าลงตอบรับออกมาโดยไม่รู้ตัว
เซียวเฉวียนได้แต่ยกมือกุมขมับ เดิมทีเขาคิดว่าเสี่ยวเชียนชิวจักมีแก่นแท้หรือเศษเสี้ยวครึ่งหนึ่งของชิวฝานมาบ้าง เนื่องจากชิวฝานเป็นสตรีที่อ่อนโยนและท่วงท่าสง่างาม ทว่า ในตอนนี้...
ดูเหมือนว่ายีนของเขาจะมีความแข็งแกร่งกว่านิดหน่อย
เซียวเฉวียนนึกกังวลถึงเด็กในท้องขององค์หญิงต้าถงขึ้นมิยิ่งนัก คงมิใช่เด็กมารตนใดเกิดออกมาใช่
เซียวเฉวียนขอให้เสี่ยวเชียนชิวพาหยางอวี้หวนกลับไปส่งที่จวน เมื่อเห็นว่าหยางอวี้หวนยังคงมีท่าทีร่ำไห้สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนั้น จักเป็นการดีกว่าหามิให้นางรั้งอยู่ที่นี่อีกต่อไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...