“ไม่เลวนี่ท่าน” หยางซูจ้องไปที่เซียวเฉวียน เขาพูดสิ่งที่เซียวเฉวียนเบื่อหน่ายกับการได้ยินมานานแล้ว “เซียวเฉวียน ท่านช่างเป็นคนหน้าซื่อใจคดซะจริง!”
“เพียะ!”
เซียวเฉวียนตบโต๊ะด้วยความดุร้าย “เจ้าบังอาจนัก! เจ้ามันอาศัยแต่ลมปากพูด! เจ้ายังจะกล้าใส้ร้ายชื่อเสียงข้าให้เน่าเฟะอีกหรือ? คิดว่าข้าเป็นหยางอวี้หวนสินะ ที่จะสามารถโดนใส่ร้ายได้อย่างง่ายดายอย่างนั้นหรือ?”
การตบโต๊ะครั้งนี้ ทำให้เหล่าลูกครอบครัวยากจนของหยางซูต่างสั่นกลัวไปกันหมด เซียวซียนจ้องเขม็งไปที่พวกเขา “หากข้า เซียวเฉวียนผู้นี้มีความผิด เช่นนั้นก็ให้ที่ว่าการหลักฐานที่ข้าทำผิดมาเสีย! ตัดสินถูกลงโทษก็เท่านั้น! พวกเจ้าอยู่ภายใต้ธารกำนัล ให้ขุนนางราชสำนักอดสู ใส่ความเจ่าของสถานที่ศึกษาชิงหยวน!”
“พวกเจ้าคงไม่อยากมีชีวิตอยู่กันแล้วใช่หรือไม่! หรือคิดว่าข้ามิกล้าทำอะไรพวกเจ้า?
ทุกคำทุกประโยคของเซียวเฉวียน ดังและทรงพลัง “ข้าจะไม่ปิดบังทุกคน วันนี้ที่ข้ามาจักมาเตือนพวกเจ้าให้ระวัง ในฐานะนักเรียนชิงหยวน ข้ามีหน้าที่ต้องปกป้องพวกเจ้า! ศาลเฉาช่างแปลกประหลาด พวกเจ้าควรเป็นผู้สมัครที่ดีด้วยความซื่อสัตย์และมีความรับผิดชอบ!”
“ส่วนข้าและหยางอวี้หวน หยางซู ถ้าหากข้าและหล่อนเป็นชู้ ขอให้ฟ้าผ่าลงมาหาข้า! ขอให้ข้าไม่ตายดี! ขอให้มิมีลูกหลานสืบทอด!”
ทันทีที่เซียวเฉวียนพูดจบ ผู้คนประหลาดใจกันอย่างมาก คำมั่นสัญญานี้ช่างร้ายแรงนัก!
“แต่หากข้ามิได้กระทำ หากเจ้าทำเพราะอยากให้หยางอวี้หวนอดสู และใส่ร้ายข้า ก็ขอให้เจ้าจงโดนฟ้าผ่า ขอให้มิมีลูกหลานสืบทอด!”
หยางซูชะงัก คนยุคโบราณให้ความสำคัญกับคำมั่นสัญญา คำพูดของเซียวเฉวียนน่าตกใจมากกว่าการทะเลาะ!
คำว่ามิมีลูกหลานสืบทอดนี้ ยิ่งทำให้หยางซูถึงกับหน้าซีด ดูเหมือนว่ามันจะเป็นจริงในไม่ช้า
เซียวเฉวียนจับจุดอ่อนของคนยุคโบราณที่ให้ความสำคัญกับคำมั่นสัญญาได้ หยางซูตกใจมากจนเขาตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง “ข้า…”
“ถ้าอยากมีชีวิตอยู่ล่ะก็! แค่นั่งอยู่บ้านให้จงดี! มุ่งมั่นกับการสอบครั้งต่อไป!”
เสียงของเซียวเฉวียน ดังพอที่จะให้ผู้ชมในหอคอยเทียนหมิงได้ยิน “ถ้าหากข้า เซียวเฉวียนผิดจริง ก็มิต้องกังวลใจไปหรอก มีกฎหมายรอจัดการข้าอยู่แล้ว!”
“แต่ถ้าเจ้า หยางซู กล้าที่จะลงมือฆ่าข้าล่ะก็!”เสียงของเซียวเฉวียน ความตกใจทำให้หัวใจของ หยางซูสั่นสะท้าน และเขาเห็นเซียวเฉวียนจ้องมองมาที่เขา “ก็อย่ามาโทษข้าละกัน ที่จะโหดร้ายกับเจ้า!”
หยางซูที่ถูกจ้องเขม็งอย่างนั้นขนก็ลุกชัน เซียวเฉวียนหัวเราะอย่างเย็นชา “ถ้าพวกเจ้าอยากจะฆ่าข้าจริง! พวกเจ้าก็ตรองให้ดีละกัน! ว่าจะสามารถผ่านไปฉี่นี้ไปได้หรือไม่!”
“หรือมิก็สามารถผ่านการทดสอบของสาวน้อยคนนั้นได้หรือไม่!”
“ถ้าหากสองคนนี้เจ้ายังสู้ไม่ได้ หยางซู ถ้าข้าเป็นเจ้า ก็จงทำคะแนนให้มันดี ๆเสีย อย่าไปวอกแวกเรื่องอื่นเด็ดขาด!”
แท้จริงแล้วหยางซูก็เป็นผู้มีความสามารถคนหนึ่ง เป็นผู้มีความสามารถที่โด่งดังของถนนจูเซวี่ย ถ้าหากเขาหลงทางผิดและหาทางกลับมาได้ มันคุ้มค่าสำหรับเซียวเฉวียนที่จะให้โอกาสเขาหันหลังกลับในครั้งนี้
แต่ทว่า หยางซูก็ทำเป็นไม่แจ้งใจปัญหา “ใต้เท้าเซียว ท่านกำลังพูดอะไรอยู่หรือ?”
“ข้า หยางซู เหตุใดจะต้องฆ่าท่านด้วยเล่า?
เซียวเฉวียนชะงัก นัยน์ตาของหยางซูเจ้าเล่ห์และสติปัญญาของเขาถูกใช้ในสถานที่ที่ไม่ควรใช้ “ท่านคงจะมิใช่กำลังยั่วยุข้าใช่หรือไม่ แล้วถือโอกาสกำจัดข้าซะ! ท่านเป็นขุนนางระดับสาม ท่านมิสามารถโจมตีคนธรรมดาสามัญเช่นข้าได้”
“ไม่ว่าหยางอวี้หวนจะมีความสัมพันธ์นั้นกับท่านหรือไม่ก็ตาม หล่อนผู้นี้ ก็ถือว่าข้ายกสิ่งเล็ก ๆน้อย ๆ ให้ท่านแล้วกัน ถือว่าข้าได้กตัญญูต่อครูฝึกเซียว กแค่ทาสคุนหลุนผู้หนึ่ง ข้าจะโกรธได้อย่างไรเล่า?” หยางซูยักไหล่ “แต่ที่ครูฝึกเซียวมาที่นี่มาทำให้ข้ากลัว มาทำมาปกปิด หรือท่านจะทำเป็นรู้สึกผิดกันเล่า?”
โอ้
ทำไมเซียวเฉวียนถึงไม่สังเกตฝีปากของชายคนนี้มาก่อน เขาพูดพร่ำ แต่เขาก็ยังมีพรสวรรค์ในการพูดมาก
เมื่อเขาพูดเยี่ยงนี้ ดูเหมือนว่าเซียวเฉวียนมีความผิดจริง เขายังมีความรู้สึกผิด ซึ่งทำให้หยางซูดูอ่อนแอ ทำอะไรไม่ถูกและและอยู่เหนืออำนาจเกม
ตัวหมากอย่างผู้หญิงนี้ เซียวเฉวียนเคยเห็นในละครวังมาก่อน จะเอาชนะเขาอย่างนั้นหรือ?
“หยางซู เจ้าอย่าโอ่อ่ากับข้าเกินไปนัก ครั้งนี้ข้าให้โอกาสเจ้า พูดชัดเจนถึงเพียงนี้แล้ว เหลือแต่เจ้าที่ต้องดูตนเองเสียที “เซียวเฉวียนเหลือบมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “อีกทั้ง เจ้าจะเสียใจภายหลังที่ทำกับแม่นางหยางเยี่ยงนี้”
“อย่าพูดถึงแม่นางหยาง!” หยางซูโกรธจนหน้าแดง “ท่านมิมีสิทธิ์พูดถึงหล่อน!”
หยางซูดูไร้ซึ่งเหตุผลเป็นอย่างมาก ราวเหมือนกับมนุษย์ป้าใจหยาบด่ากราดไปทั่ว เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว “ข้าคิดว่าที่เจ้าอ่านไปมิใช่หนังสือกระมัง คงเป็นน้ำ!ในสมองเจ้าคงมิใช้น้ำธรรมดาที่เข้าไป คงเป็นมหาสมุทรใหญ่เข้าไปกระมัง!”
คพูดของเซียวเฉวียนพูดแขวะหยางซู ตาหยางซูฟังไม่เข้าใจ แต่ตัวเองก็รู้ดีว่าตนกำลังถูกด่า!
“เซียวเฉวียน! ท่านกล้าแกล้งข้าถึงเพียงนี้! ท่านเองก็ยังเรียนอย่างไร้ประโยชน์!” เสียงของหยางซูเต็มไปด้วยความไม่พอใจเป็นหยางมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...