ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 703

ต้าเว่ย เมื่อวันเวลาผ่านไปกลิ่นอายอันตรายค่อย ๆ เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ

แม้แต่เหล่าชาวบ้านผู้คนธรรมดาก็ยังอดไม่ได้ที่จะเร่งฝีเท้าให้ไวขึ้นเมื่อเดินผ่านจวนตระกูลเซียว

"ไปไปไป อยู่ให้ห่างจากจวนตระกูลเซียวกันเถอะ ตระกูลเซียวกำลังพบเจอกับหายนะเข้าแล้ว"

"ใช่แล้ว อัปมงคลยิ่งนัก! อั๊ยหยา ช่วงเหล่าปัญญาชนตกตายไปมากมายนัก ในฐานะที่เซียวเฉวียนเป็นประมุขแห่งชิงหยวนเช่นนี้ เขายังกล้าทำเรื่องเช่นนี้ลงไปได้ มันเกินไปจริง ๆ !"

“นี่อย่างไรเล่า คนที่รู้หน้าไม่รู้ใจเช่นนี้ ก่อนหน้านั้นเขายังเปิดสถานศึกษาชิงหยวนอยู่เลย พวกเราเลยคิดว่าเขาเป็นคนดี”

“แต่ที่ไหนได้ ยังผ่านไปได้ไม่นานเลย เขาก็เผยโฉมหน้าที่แท้จริงของตนเองออกมาแล้ว ดูเหมือนว่าชิงหยวนในยามนี้จะไม่จ่ายเงินอีกต่อไป ทั้งยังหยุดรับสมัครบัณฑิตที่เข้าไปเรียนอีกด้วย ข้าว่า แม้ว่าเซียวเฉวียนจักต้องตาย นั่นก็เป็นโทษที่เขาสมควรได้รับมันแล้ว!"

ในครานี้ ไม่เพียงแต่ผู้เหล่าขุนนางผู้มีอำนาจเท่านั้นที่พูดจาดูหมิ่นเซียวเฉวียน หากแต่ยังรวมไปถึงเหล่าชาวบ้านคนธรรมดาอีกด้วย

แต่ก็ยังมีผู้คนบางกลุ่มที่มิได้เชื่อในข่าวลือ อีกทั้งพวกเขายังรู้สึกว่าเรื่องนี้อาจจะมีการเข้าใจอะไรผิดไปอย่างแน่นอน

ทว่า กลุ่มคนจำพวกนี้ก็นับว่ามีน้อยเกินไป คนส่วนใหญ่ที่ได้ยินต่างก็รู้สึกว่าเซียวเฉวียนที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ สมควรตายไปเพื่อชดใช้กรรมที่ตนเองก่อ

เมื่อมีข่าวลือและการใส่ร้ายมากมายขึ้นมาเช่นนี้ แม้แต่จวนเจียนกั๋วที่มิได้นึกถูกชะตาอะไรกับเซียวเฉวียนนั้น เมื่อได้ยินข่าวลือเช่นนี้พวกเขาเองยังรู้สึกมิพอใจออกมาเสียด้วยซ้ำ

เซียวเฉวียนสามารถตายได้ แต่มิใช่ในตอนนี้ พวกเขายังมิพบเจอกับยาอายุวัฒนะเลย!

เฮยหลังพลางรายงานสถานการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นภายในเมืองหลวงออกมา พร้อมกับเว่ยเชียนชิวที่ร่ำสุรากล่าวว่า "จักรพรรดิไร้ประโยชน์เสียจริง! เขายังถูกมารดาของตนเองควบคุมอีกด้วย!"

“ไม่ว่ามารดากับบุตรคู่นี้จะก่อความวุ่นวายอันใดหาได้เกี่ยวข้องกับข้าไม่ เฮยหลัง!” เว่ยเชียนชิวเอ่ยสั่งการออกมา “เจ้าไปจัดการคอยคุ้มครองความปลอดภัยของเซียวเฉวียนเสีย อย่าปล่อยให้เขาตายไปในตอนนี้! เมื่อใดที่ข้าได้รับยาอายุวัฒนะมาแล้วนั้น ไม่ว่าเขาจะอยากตายเช่นไรก็ย่อมได้! แต่ต้องไม่ใช่ในยามนี้!”

"ขอรับ! ข้าน้อยจักไปส่งคนไปคอยคุ้มกันจวนตระกูลเซียวในตอนนี้!"

เว่ยเชียนชิวพยักหน้าลง "ส่งคนไปคุ้มกันเจ้าสารเลวเซียวเฉวียนเสียด้วยเล่า หากเขากล้าเล่นตุกติกอันใดละก็ ข้าจักจับเขากุดมือให้!"

“ขอรับ! ข้าน้อยจะพยายามอย่างเต็มที่ขอรับ!” เฮยหลังพยักหน้าลงอย่างเคร่งขรึม เซียวเฉวียนมีความสำคัญต่อเว่ยเจียนกั๋วยิ่งนัก พวกเที่เป็นข้ารับใช้ย่อมรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี

“เจ้าสืบหาอย่างละเอียดแล้วหรือยัง? ว่าเหล่าปัญญาชนพวกนั้นเป็นฝีมือของสตรีนางนั้นที่สังหารพร้อมกับสาดโคลนให้เซียวเฉวียน?”

“มิผิดขอรับ กระหม่อมได้ส่งคนไปติดตามนางแล้ว ปรากฎว่าเป็นฝีมือนางจริง ๆ ขอรับ”

การสอบขุนนางระดับเคอจี่ในปีนี้ เว่ยเชียนชิวหาได้ลงมืออันใดไม่ กลับเป็นไทเฮาที่เข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้แทน มิรู้เพราะอันใดถึงทำให้เว่ยเชียนชิวนึกไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก?

เว่ยเชียนชิวรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเมื่อชื่อเสียงความชั่วร้ายของเขาได้ถูกผู้อื่นพรากไป

“มิจำเป็นต้องกังวลกับสิ่งเหล่านี้มากนัก แค่ปล่อยให้เซียวเฉวียนมีชีวิตอยู่อีกสามเดือนก็พอแล้ว”

เว่ยเชียนชิวพลันส่งเสียงฮึดฮัดออกมาด้วยความอย่างเย็นชา หลังจากผ่านไปสามเดือน หากว่าเซียวเฉวียนมิสามารถหายาอายุวัฒนะมาได้นั้น แม้ว่าไทเฮาจะยังมิสังหารเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนก็จักต้องมาตกตายอยู่ในกำมือของเว่ยเชียนชิวแทนอยู่ดี

แผนการขององค์จักรพรรดิในยามนี้ ก็มิต่างอะไรกับเหล่าสุนัขที่กำลังกัดกันเองกระมัง น่าสนใจยิ่งนัก เว่ยเชียนชิวที่มีชีวิตอยู่มานมนานเช่นนี้ นับว่าเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นจักรพรรดิขุดหลุมฝังศพของตนเอง

ในที่สุดจักรพรรดิก็ได้พบเจอกับเซียวเฉวียนที่แตกต่างจากเหล่าขุนนางคนอื่นๆ ที่ชื่นชอบการฉ้อโกง ทว่า มารดาของตนเอง ไทเฮาต้องการจะสังหารเขา

ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!

เว่ยเชียนชิวพลางเหม่อมมองขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วยิ้มกว้างออกมา มิใช่เป็นเพราะเขาแข็งแกร่งเกินไป แต่เป็นเพราะเขาพึ่งพาศัตรูของตนเองต่างหาก! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!

...

ภายในหอเทียนหมิงที่ตกอยู่ความวุ่นวายเป็นหน้ากลอง

ผมเผ้าของทุกคนต่างก็กระเซิงไปมา พร้อมทั้งนัยน์ตาที่เบิกตาโตไปด้วยความตกตะลึง ทั้งยังตกอยู่ในอาการสติสตังไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเช่นนี้อีก

เซียวเฉวียนและเวิงจ้งสองคนที่ยืนอยู่ตรงกลางของหอเทียนหมิงนั้น เวิงจ้งกำลังตกอยู่ห้วงอารมณ์คุกรุ่นไปด้วยอารมณ์โมโหมากมาย

ใบหน้าของเวิงจ้งหาใช่สีเทาไม่ บ้างก็เป็นคราบดิน บ้างก็เป็นน้ำ สภาพของเขาในยามนี้ดูน่าสังเวชยิ่งนัก

เขาทนต่อการโจมตีด้วยพลังแห่งถ้อยคำจากเซียวเฉวียนมานานเสียจนไม่อาจจะทนได้อีก

ไม่ว่าจะเป็นสายฟ้าที่ผ่าฟาดลงมาจากท้องฟ้า หรือสายน้ำที่มิรู้ว่าพุ่งมาจากที่ใด รวมไปถึงก้อนหินที่มิรู้ว่าตกลงมาจากที่ไหน รวมไปถึงม้าหลายสิบตัวที่วิ่งออกมากระแทกเขาจนล้มลงไปกับพื้น

สรุปได้ว่า ถึงแม้ว่าเวิงจ้งจะมีร่างกายทรงพลังสูงยาวกำยำก็ตาม หากแต่เขามีเพียงสมองก้อนเดียว พร้อมกับสองมือและสองขาเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถรับมือกับมันได้เลย!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย