ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 728

สรุปบท บทที 728 จวนเซียวถูกฆ่าล้าง: ซูเปอร์ลูกเขย

อ่านสรุป บทที 728 จวนเซียวถูกฆ่าล้าง จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

บทที่ บทที 728 จวนเซียวถูกฆ่าล้าง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

สวีซูผิงต้องการพบคนผู้หนึ่ง นั่นก็คือเจี้ยนเหล่า

ในปีนั้นอดีตฮ่องเต้ทรงต่อสู้กับไป๋อิ้นผู้นั้น จากนั้นก็ประชวรหนักไม่หาย ต้องขอบคุณที่เจี้ยนเหล่าช่วยยืดอายุให้กับอดีตฮ่องเต้ไปอีกครึ่งเดือน อดีตฮ่องเต้ถึงได้มีเวลาจัดการเรื่องราวในบัลลังก์ให้เรียบร้อยก่อนจากไป มิเช่นนั้น ต้าเว่ยคงต้องตกอยู่ในสภาวะวุ่นวายไม่รู้จบแน่

ตอนนี้ผู้ที่สามารถช่วยฮ่องเต้ได้ ก็มีเพียงเจี้ยนเหล่าคนเดียวแล้ว!

สวีซูผิงเพิ่งจะมาถึงจวนเซียว ยังไม่ทันได้ลงม้าก็รู้สึกตื่นตกใจเป็นที่สุด!

ยังมีคนที่เร็วกว่าเขาหนึ่งก้าว! ไม่นะ...สวีซูผิงใจหล่นลงตาตุ่ม

สวีซูผิงมองซ้ายมองขวา มั่นใจแล้วว่าไม่มีคนก็รีบหายตัว จากนั้นเขาใช้ความเร็วอันน่าตระหนกแล่นเข้าจวนเซียว

กลิ่นคาวเลือดอันหนานหนัก พลันปะทะใบหน้าเข้ามา

เพิ่งจะมาถึง สวีซูผิงก็ผงะไป

ตรงประตูใหญ่ตรงนั้น เจี้ยนเหล่าอยู่ตรงนั้น มีกระบี่นับร้อยตรึงร่างของเขาไว้ตรงกำแพง!

เมื่อดูจากท่วงท่าร่างกายของเจี้ยนเหล่าแล้ว ในตอนนั้นเขาน่าจะยกกระบี่กำลังจะออกจากประตู น่าจะเพราะได้ยินข่าวการเปลี่ยนแปลงในวังหลวง เขาถึงคิดอยากออกมาช่วยเซียวเฉวียน

ผลก็คือยังไม่ทันได้ออกจากประตู ก็ถูกกลุ่มคนรุมโจมตีเขา เขาสิ้นใจแล้ว

แขนอันแข็งแกร่งของเขาข้างนั้นถูกกระบี่แทงจนไม่เหลือพื้นที่เนื้อหนัง คนเหล่านั้นมีพลังภายในแข็งกล้า ถึงสามารถปักเขาตรึงเข้ากับกำแพงได้

ต่อให้เป็นในยามก่อนตาย เจี้ยนเหล่าก็ยังทรนงยิ่งนัก เขาไม่ยอมให้ศีรษะของตนก้มต่ำ คนเหล่านั้นคล้ายกับพึงพอใจปณิธานการฝืนดื้อดึงนี้ของเขา ถึงได้ใช้กระบี่หนึ่งปักคอหอยของเขาเอาไว้ ทำให้ศีรษะของเจี้ยนเหล่าคล้ายตั้งแน่วนิ่ง ไม่ได้ก้มลงมาเลยสักนิด

สวีซูผิงเห็นสภาพอาการแล้วก็ได้แต่สูดลมหายใจหนาวเหน็บ เขาสะบัดมือ จากนั้นก็ดึงกระบี่เล่มหนึ่งออกจากร่างของเจี้ยนเหล่า เสียงโลหะถูกเหวี่ยงกระทบลงกับพื้นดังลั่น

ร่างกายของเจี้ยนเหล่าถึงได้ค่อยๆ อ่อนยวบทรุดลงมา สวีซูผิงใช้ฝ่ามือรับเอาร่างของคนผู้ที่ทั้งชีวิตมุ่งหมายจะเป็นวีรบุรุษผู้นี้เอาไว้ พลางสะอื้นกล่าว “ไปดีเถอะขอรับ...”

เป็นใครกัน?

เป็นใครที่สังหารเขาอย่างทารุณได้ปานนี้?

สวีซูผิงค่อยๆ วางตัวเจี้ยนเหล่าลงพลางมองสำรวจไปรอบๆ “ยังมีใครอีกบ้าง! จวนเซียวมีใครอยู่อีกหรือไม่! ข้าสวีซูผิงรัฐมนตรีการคลัง! เพื่อนของเซียวเฉวียน! ยังมีใครอยู่อีกบ้าง?”

สวีซูผิงยามนี้ชักกระบี่ออกมา พลางตะโกนเรียกคนในจวนเซียวเสียงดัง “เย่าเหล่า!”

“จิ่นเซ่อ!”

“เจ้าเก้า! เจ้าหนึ่ง! พวกเจ้าอยู่หรือไม่?”

“ต่งจัว! ต่งจัว?”

ไม่มีใครสักคนขานรับ จวนเซียวเงียบกริบ

ระหว่างทางนั้นล้วนเต็มไปด้วยเลือด ตรงสะพาน ก้อนอิฐบนพื้น ในกระถางดอกไม้ ในบ่อน้ำ เลือดๆๆ เลือดเต็มไปหมด

จวนเซียวคล้ายเกิดการต่อสู้อันรุนแรง อีกทั้งดูจากสภาพนี้แล้ว เป็นการเข่นฆ่าอย่างทารุณเสียด้วย

แต่ว่านอกจากเจี้ยนเหล่าแล้ว เขาไม่เห็นศพอีกเลยสักศพ

สวีซูผิงมองซ้ายมองขวา เขามองหาไปตลอดทาง แต่กลับไม่พบคนจวนเซียวเลยสักคน

“ตึก”

มีเสียง

สวีซูผิงหันศีรษะกลับ ตรงกลางพุ่มไม้นั่น คล้ายมีคนลงฝีเท้าด้วยความตกใจ พอสังเกตเห็นสายตาของสวีซูผิง คนผู้นั้นก็กลับหลบซ่อนได้เร็วยิ่งกว่า

“ใครกัน?” สวีซูผิงนับว่าได้เห็นผู้มีชีวิตอยู่ในจวนเซียวอันเงียบงันนี้หนึ่งคนแล้ว เขาก้าวเข้าไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะคว้าตัวคนผู้นั้นออกมา

“อ๊ากกก! อย่าแตะข้า! อย่าจับข้านะ!” คนผู้นั้นตะโกนเสียงดัง สวีซูผิงก็แค่จับมือของเขาเท่านั้น ในสายตาของเขา สวีซูผิงกลับเหมือนผีร้ายที่จะมาทวงวิญญาณกระนั้น

สวีซูผิงในยามนี้ถึงได้มองเห็นใบหน้าคนผู้นี้ชัด นั่นคือเว่ยอวี๋

เว่ยอวี๋ตระหนกตกใจสุดขีด สติปัญญาของเขาสับสัน คล้ายกับได้รับความตระหนกตกใจถึงขีดสุด

“ท่านอ๋อง! เป็นข้า! เป็นข้า! อย่าได้กลัว! เป็นข้า! ข้าเองสวีซูผิง!”

“ข้ามาช่วยท่านแล้ว! ไม่ต้องกลัว! ไม่ต้องกลัว!”

สวีซูผิงรีบลูบหลังไหล่ของอีกฝ่าย เว่ยอวี๋พอเห็นเป็นสวีซูผิง สายตาของเขากลับไม่เชื่อใจ “ไม่! ข้าต้องการแค่เซียวเฉวียน! ข้าต้องพบเซียวเฉวียน! เจ้าอย่าเข้ามา! เจ้าอย่าเข้ามา!”

กล่าวแล้ว เว่ยอวี๋ก็ถอยหลังร่นไป สวีซูผิงทำได้แค่ไม่เข้าใกล้ “ท่านอ๋อง ท่านราชครูยามนี้อยู่ในวังหลวงกำลังถกปัญหาสำคัญกับฝ่าบาท! สวีโหม่วมาที่นี่ก็เพื่อตามหาเจี้ยนเหล่าแต่เห็นเขาตายแล้ว ท่านรู้หรือไม่ว่าใครฆ่าเขา?”

เว่ยอวี๋พยักหน้า

“หรือว่า เป่าจวิ้นอ๋องถูกบังคับเข้า?”

สวีซูผิงไม่กล้าเชื่อ นับตั้งแต่ที่ฝ่าบาทควบรวมอำนาจบริหารรัฐไป๋ลู่กลับมา เว่ยเป่าก็ใช้ชีวิตอยู่ในวังหลวงในเมืองหลวง อายุของเขายังเยาว์ แต่ไหนแต่ไรมาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นในรัฐไป๋ลู่ เหตุใดจู่ๆ ถึงเปลี่ยนเป็นเช่นนี้ได้กัน?

“เขาไม่ได้ถูกใครบังคับ เขาเป็นคนลงมือเอง! เขามันเป็นคนหลอกลวง! เขาหลอกพวกเราทุกคน! เด็กคนนี้เข้าใจทุกอย่าง!”

เว่ยอวี๋ร้องไห้ เว่ยเป่ามาเคาะประตูเขา ก่อนจะพูดกับเขาว่าเขาคิดถึงพี่ชายอย่างเว่ยอวี๋ผู้นี้ แล้วพูดว่าเอาของกินอร่อยๆ มาให้เขาบางอย่าง

จวนเซียวนั้นมีปราการติดตั้งอยู่ นั่นก็คือปราการของภาพวาดอรุณรั่ง

หากว่ามีคนนอกบังอาจขัดขืนบุกเข้ามา ย่อมจะถูกสายฟ้าฟาดเสียชีวิตไปได้

แต่ว่าหากมีคนเปิดประตูก็ไม่เหมือนกันแล้ว

เว่ยเป่าอายุยังน้อยเกินไป ยามปรกตินั้นมักจะขานเรียกพี่ชายเสียงหวาด เว่ยอวี๋ย่อมไร้ความระวังตัวดังนั้นเขาเลยเปิดประตู

“เป็นข้าที่เปิดประตู” เว่ยอวี๋ก้มหน้า ร่ำไห้ “เหล่าเซียวจะต้องชิงชังข้าตายแน่นอน!”

สวีซูผิงหัวใจบีบรัด “นอกจากเจี้ยนเหล่าแล้ว ยังมีใครอีกบ้าง?”

อาศัยฝีมืออย่างเจี้ยนเหล่ายังไม่อาจต้านทาน สวีซูผิงใจกล้าคาดเดา คนอื่นๆ ที่เหลือนั้น...คงจะไม่อยู่แล้ว

เว่ยอวี๋เงยหน้าขึ้น เขาตัวสั่นพลางเบ้ปาก ไม่อาจจะพูดอะไรออกมาได้สักนิด

ใช่แล้ว

ตายสิ้นแล้ว

เว่ยอวี๋ชี้ไปยังห้องด้านหลัง สวีซูผิงพลันพุ่งตัวเข้าไปทันที ก่อนจะเปิดประตูเสียงดัง “ปัง”!

ครั้นเข้าประตูมาก็ได้เห็นภาพฉากเบื้องหน้า สวีซูผิงที่ตกใจใหญ่หลวงพลันรีบหันศีรษะกลับ เขาไม่กล้ามองอีกแม้แต่ครั้งเดียว! พระเจ้า!

วังหลวง!

จู่ๆ หัวใจของเซียวเฉวียนก็พลันเจ็บแปลบขึ้นมา “อึก!”

เขากุมหน้าอกเอาไว้ ทำไมมันแน่นอกปานนี้กันนะ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย