“ท่านพ่อ!คือลม!”
เสี่ยวเซียนชิวแค่ชี้ไป ลมนั้นก็พัดออกไป
“ท่านพ่อ มันคือปีศาจลม! มันเร็วมาก!”เสี่ยวเซียนชิวคิดว่าตัวเขาเองนั้นเร็วมาก ไม่คาดคิดว่าเมื่อสิ่งนั้นผ่านพวกเขาไป เสี่ยวเซียนชิวก็ไม่เห็นอะไรเลย เห็นได้ชัดว่าปีศาจลมนี้มันเร็วมากแค่ไหน!
“เจ้าเห็นทิศทางที่มันหายไปไหม?”
"เห็น!"
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็รีบตามไปดู”
"ได้!"
ความเข้าใจโดยปริยายระหว่างสองพ่อลูกนั้นถึงระดับหนึ่งแล้ว ทันทีที่เซียวเฉวียนพูดจบ เสี่ยวเซียนชิวก็หายวับไปเลย
ในเวลานี้ ก็มีเด็กหลายสิบคนที่ดูเหมือนคนรับใช้เดินเข้ามาในจวนเซียว และผู้นำก็เข้ามารายงานว่า: "ใต้เท้าเซียว พวกข้าน้อยคือทาสของศาลาคุนหวู่ นายน้อยของข้าน้อยส่งพวกข้าน้อยมาที่จวนเซียวช่วยในการจัดการเรื่อง".....งานศพ"
"โอ้..." เซียวเฉวียนกลับมามีสติอีกครั้ง: "ศาลาคุนหวู่? โอ้ อี้กุย อยู่ในห้องถาดไป พวกเจ้านำตัวท่านไว้ในโลงศพได้เลย"
เมื่อเขาพูดคำนี้ออกมา เซียวเฉวียนไม่แสดงสีหน้าท่าทางอะไรออกมานัก แค่ความโศกเศร้าก็ยังไม่เห็นด้วยซ้ำ เด็กๆรีบพยักหน้าเร็ว ไม่กล้าถามอะไรเยอะจึงรีบไปทำตามคำสั่ง
เซียวเฉวียนไม่ได้เข้าไปดูพวกเจี้ยนเหล่า
เขายืนอยู่นอกห้องเป็นเวลานาน โดยไม่เข้าไป
แต่เซียวเฉวียนรู้สถานการณ์ของพวกเขาเป็นอย่างดี เสี่ยวเซียนชิวได้เล่าให้เขาทุกอย่างแล้ว
รวมทั้ง แต่ละคนมีบาดแผลเท่าไร
รวมทั้งเย่าเหล่าและจิ่นเซ่อเลือดบริสุทธิ์ก็ถูกพรากไปจากคิ้วของพวกเขาด้วย
เขารู้
เขารู้ทั้งหมด
ท่ามกลางลมหนาวในฤดูใบไม้ร่วง เซียวเฉวียนยืนอยู่ที่ลานบ้านของจวนเซียวพัดลมหนาว
เดิมทีที่จวนเซียวที่เฮฮาก็กลายเป็นความว่างเปล่าเงียบสงบ ไม่สามารถได้ยินเสียงที่เฮฮาของเจี้ยนเหล่าและเย่าเหล่าอีกต่อไป
ท่าทางของจิ่นเซ่อที่เธอกำลังเรียกพี่ชายของเธออย่างไพเราะ ก็หายไปกับสายลมหนาว
เสียงของพวกเจ้าหนึ่งที่ฝึกวรยุทธ์ก็หายไปเช่นกัน
ว่างเปล่า
เซียวเฉวียนหลับตาลงและรู้สึกไม่มีอะไรนอกจากความว่างเปล่า
"นายท่าน นายท่าน"
ทันใดนั้นก็มีเสียงเรียกเข้าหูของเขา เซียวเฉวียนก็ลืมตาขึ้นมากะทันหัน
......
......
ศาลาคุนหวู่
“ท่าน....กลับมาแล้วเหรอ? กลับมาแล้วเหรอ?”
มือที่เปื้อนเลือดของโย่วควน จับมืออี้กุยไว้แน่น และถามว่าเซียวเฉวียนเขามาหรือยัง
“คุณชายโย่วควน ข้าได้สั่งคนของข้าไปเชิญท่านปู่น้อยแล้ว เจ้ารอก่อน รอก่อน”
อี้กุยไม่กล้าจับมือเขาอย่างแรง มือของโย่วควนเต็มไปด้วยเลือดและรอยแผลเป็น ซึ่งน่ากลัวมาก
ทันทีที่โย่วควนลืมตาขึ้น อี้กุยก็ได้ส่งคนไปเชิญเซียวเฉวียนแล้วตอนนี้เซียวเฉวียนยังไม่มา บางทีเขาอาจล่าช้าระหว่างทางก้เป็นไปได้
อาการของโย่วควนเห็นได้ชัดว่าไม่ดีนัก เขาไม่ใช่ฝึกวิทยายุทธ์ตั้งแต่แรก ร่างกายของเขาอ่อนแอ และเขาไม่สามารถทนต่อการทรมานของกระบี่ชีวันได้เลย
“ทำไงดี?ทำไงดี?”
อี้กุยกังวลมากจนแทบน้ำตาไหลออกมา เซียวเฉวียนภายในพริบตาก็ปรากฏตัวอยู่ที่นอกประตู: "ข้ามาแล้ว"
"นายท่าน"
โย่วควนคิดว่าเขามีอาการประสาทหลอน เขาและโย่วควนมองออกไปที่ประตู ภาพที่เห็นคือเซียวเฉวียนจริงๆด้วย
"หลีกไป!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...