ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 748

พรุงนี้หรือ?

โย่วควนตะลึงงัน ความจริงอี้กุยก็ตกใจเช่นกัน นี่เร็วกว่าแผนเดิมที่วางไว้เสียอีก

ทว่าในเมื่อนี่เป็นการตัดสินใจของฝ่าบาท เช่นนั้นก็นับว่าผ่านการพิจารณาที่ถี่ถ้วนดีแล้ว

เมื่อผนึกจูเสินถูกทำลาย ผู้อารักขาใต้หล้าก็จะได้รับอิสระภาพ และสงครามจะเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

เซียวเฉวียนในฐานะตัวเอกของเรื่อง ทุกคนที่อยู่รอบด้านก็จะกลายเป็นเป้าหมายที่ถูกโจมตี ดังนั้นคนในตระกูลเซียวเฉวียน รวมถึงเพื่อน ๆ จึงต้องรีบซ่อนตัว

มิเช่นนั้น อาจไม่มากพอให้ศัตรูเข่นฆ่าได้

ฮ่องเต้จะทำลายผนึกจูเสินด้วยท่าทาง เหล่าขุนนางทั้งหลายต่างรู้อยู่แล้ว

เรื่องการทำลายผนึกจูเสินในอดีต ทุกคนต่างเคยได้ยินมาบ้าง แต่ไม่กล้าคิดว่าจะเป็นเรื่องจริง

ครั้งนี้ฮ่องเต้ประกาศทำลายผนึกจูเสินจากปากพระองค์เอง เหล่าขุนนางทั้งหลายต่างประหลาดใจ

พวกเขาไม่ได้ประหลาดใจที่ฮ่องเต้จะทรงทำลายผนึก ปฏิกิริยาของพวกเขาคล้ายกับที่เว่ยเชียนชิวคัดค้าน พวกเขาประหลาดใจในความมั่นใจของฮ่องเต้หนุ่ม ผนึกจูเสินเป็นตราประทับโบราณที่อยู่มานับพันปี ราวกับเทพเจ้าที่ดำรงอยู่ แคว้นต้าเว่ยที่เพิ่งสถาปนาประเทศได้ไม่นาน แม้จะทุ่มเทกําลังทั้งประเทศ ก็ไม่มีความสามารถมากพอที่จะทําลายผนีกได้

เมื่อฮ่องเต้นำเรื่องนี้ประกาศออกไป มีเพียงอี้กุยแห่งศาลาคุนหวู่ที่จริงจัง เหล่าขุนนางทั้งหลายต่างคิดว่าเป็นเรื่องขำขัน เห็นทีไทเฮาจะพูดถูก ฝ่าบาททรงประชวรจริง ๆ

ฝ่าบาทไม่เพียงแต่ประชวรเท่านั้น แต่อาการยังสาหัสอีกด้วย

ทว่าเหล่าขุนนางทั้งหลายกลับไม่กล้าคัดค้านอะไร อย่างไรเสียพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องแสดงความเห็นกับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เมื่อถึงเวลาที่พ่ายแพ้ พวกเขาไม่ต้องพูดอะไร ฝ่าบาทก็จะทรงวางมือเอง

พวกเขาคิดเช่นนี้ และวางแผนที่จะทำแบบขอไปทีกับฮ่องเต้

การไร้ความสามารถและการไม่เห็นด้วยของเหล่าขุนนาง ทำให้สายตาของฮ่องเต้มีแต่ความผิดหวังและความเย็นชาอย่างที่สุด

ฮ่องเต้กลับไม่ได้พูดสิ่งใด สิ่งที่ต้องเตรียมก็ได้เตรียมไว้หมดแล้ว คนเหล่านี้จะสนับสนุนพระองค์หรือไม่ ฮ่องเต้รู้สึกว่าไม่ได้สำคัญเลย

ขอเพียงมีราชครูอยู่ด้วย เช่นนั้นก็เพียงพอแล้ว

ดังนั้น ฝ่ายคู่แข่งในเมืองหลวงจึงแบ่งออกเป็นสามพรรค

พรรคแรกคือผู้ที่มีใจตื่นตัวอย่างอี้กุย สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของฮ่องเต้ และเริ่มทำการตอบสนอง นอกจากอี้กุยแล้ว ยังมีกลุ่มคนอย่างสวีซูผิงและเว่ยอวี๋ที่เข้าใจฮ่องเต้และเซียวเฉวียน เริ่มพะวงหน้าระวังหลัง เพื่อเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้น

อีกพรรคคือเหล่าขุนนางที่เป็นตัวแทนของเว่ยเชียนชิว ซึ่งพวกเขาเลือกที่จะเพิกเฉยต่อการตัดสินใจที่ไร้สาระของฮ่องเต้ พวกเขาให้ความสนใจกับต้นสายปลายเหตุของกบฏวังและการเปลี่ยนแปลงในราชสำนักเสียยิ่งกว่า

ส่วนสิ่งที่ฮ่องเต้ต้องเจอในหลายวันนี้ แม้พวกเขาจะประหลาดใจ แต่กลับไม่สนใจไยดีมากพอ

ขอเพียงฝ่าบาทยังมีชีวิตอยู่ เช่นนั้นก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร อย่างไรเสียฝ่าบาทก็ไม่ได้เปิดปากอธิบายสิ่งใด พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะไตร่สวนและไถ่ถามพระองค์เพิ่มเติม

และอีกพรรคก็คือกลุ่มประชาชนที่รอกินเผือก พวกเขาต่างไม่รู้สิ่งใดเลย รู้เพียงความสนุกที่ได้ซุบซิบนินทาเรื่องสำคัญ อย่างมากก็คือพวกกลุ่มคนของหยางซู พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไทเฮามีท่าจะพ่ายแพ้ และไม่สามารถคุ้มกะลาหัวพวกเขาได้แล้ว กลุ่มคนของหยางซูกลับคิดเพียงว่าจะฆ่าคนหน้าเนื้อใจเสืออย่างเซียวเฉวียนอย่างไรดี

เมืองหลวงแห่งต้าเว่ยวุ่นวายเช่นนี้ มีคนกลุ่มหนึ่งที่ดีใจอย่างออกหน้าออกตา

ในโรงเตี้ยมนอกเมืองทางเหนือของเมืองหลวง เป็นดังที่อี้กุยว่าไว้ เว่ยเป่าและคนหนุ่มนับสิบคนกำลังกินดื่มกันอย่างสำราญใจ

คนหนุ่มสิบคนนี้ ไม่ใช่สิบคนนั้นที่ติดตามเว่ยเป่าไปฆ่าจวนเซียวก่อนหน้า

กลุ่มคนหนุ่มนี้มรทั้งหมดยี่สิบคน หลังจากมีสิบคนที่ติดตามเว่ยเป่าไปฆ่าจวนเซียวแล้ว ก็รีบออกจากเมืองหลวงของต้าเว่ย และมุ่งหน้าไปทำภารกิจต่อไปที่รัฐมู่อวิ๋น

สิบคนที่เหลืออยู่ มีหน้าที่คุ้มกันเว่ยเป่าไปยังภูเขาจงหนาน

เว่ยเป่ามีอายุราวห้าปี เขาดูเด็กอย่างเห็นได้ชัด เมื่ออยู่ในกลุ่มของเด็กหนุ่มที่สูงใหญ่

ขณะที่พวกเรากำลังกินดื่มอยู่นั้น ก็มีคนคอยจับตามองพวกเขาอยู่ตลอดเวลา หนึ่งในนั้นก็คือสายลับของอี้กุย

“ฮ่า ๆ ๆ ฮ่า ๆ! จริงด้วย ๆ! ไม่ดูบ้างเลยว่าพี่ใหญ่ของเราเป็นคนแบบไหน!”

เหล่าเด็กหนุ่มชมเชยและสรรเสริญเยินยอด้วยความประจบกันยกใหญ่ เจวี๋ยซาภูมิใจที่ถูกเหล่าสหายยกยอปอปั้น ได้ยินมานานแล้วว่าเซียวเฉวียนก็เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อย รอยกายล้อมไปด้วยผู้มีความสามารถ เสือซุ่มมังกรซ่อน และเป็นขุนนางใหม่ที่เลื่องชื่อในเมืองหลวงของต้าเว่ย

ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น

เจวี๋ยซาเป็นหัวหน้าใหญ่ของเด็กหนุ่มกลุ่มนี้ สิบคนนั้นในจวนถูล้วนเป็นลูกน้องของเขา และกลุ่มคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีความสามารถรอบกายเซียวเฉวียน ก็ได้พ่ายแพ้ให้แก่ลูกน้องของเขา แค่คิดก็รู้แล้วว่าชื่อเสียงของเซียวเฉวียนต้องเป็นเรื่องจอมปลอมแน่นอน

เหอะ! เขาคิดว่าเซียวเฉวียนก็เป็นแค่คนขี้ขลาดเท่านั้น!

เซียวเฉวียนกลับมาถึงบ้าน เห็นศพที่กองอยู่เต็มพื้น คาดว่าคงตกใจจนฉี่ราดกางเกงเสียกระมัง!

“ฮ่า ๆ ๆ ฮ่า ๆ ๆ ๆ!” เจวี๋ยซาตบบ่าของเว่ยเป่าอย่างแรง “ท่านกลับไปยังภูเขาจงหนานพร้อมพวกเราด้วยความสบายใจเถิด ในเมื่อประมุขของเราอยากพบท่าน พวกเราก็ต้องนำตัวท่านไปส่งอย่างปลอดภัย”

“ส่วนเซียวเฉวียนอะไรนั้น อย่าว่าแต่เขาจะกล้ามาหรือไม่เลย ต่อให้เขามาอยู่ตรงหน้าข้า ข้าก็จะทำให้เขาหายวับไปกับตา!”

เจวี๋ยซาสีหน้าหยิ่งยโส เหล่าเด็กหนุ่มรีบปรบมือทันที “ดี! พูดได้ดี! พี่ใหญ่ของพวกเราคือวีรบุรุษหนุ่มตัวจริง!”

เด็กน้อยปลอบง่าย เมื่อเว่ยเป่าได้ยินดังนั้น ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงของเด็กน้อย “ดี ข้าจะได้ไม่ต้องกลัวแล้ว”

“ฮ่า ๆ ๆ ฮ่า ๆ ๆ ๆ! ถือว่าองค์ชายตาถึงนะพะยะค่ะ!”

“ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ!” เหล่าเด็กหนุ่มหัวเราะร่า ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะที่สดใสแทรกเข้ามา ลมหนาวพัดผ่านมาหนึ่งระลอก เว่ยเป่าตัวสั่นเล็กน้อย

เจวี๋ยซาเลิกคิ้ว แรงอาฆาตที่แรงกล้า!

“ฮ่า ๆ ฮ่า ๆ ๆ! น่าขำเสียจริง เพียงแค่คนธรรมดาไม่กี่คน กลับกล้าเทียบเคียงท่านพ่อข้า!”

*เจวี๋ยซา [绝杀] แปลว่า ฆ่าอย่างราบคาบ หรือรุกฆาต

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย