ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!
เซียวเฉวียนรู้สึกว่าน่าขันนัก เขาประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังเยาว์วัย ตอนแรกคิดว่าคนที่หน้าหนาที่สุดในต้าเว่ยเป็นตนเองเสียอีก ไม่คิดว่าเลยจะเป็นอย่างเช่นคำโบราณว่าไว้บนโลกใบนี้ยังมียอดเขาที่สูงกว่าอีกยอดหนึ่งเสมอใบหน้าของคนก็เช่นกันย่อมมีคนหน้าหนากว่าอีกคนเสมอ
กลัว? เซียวเฉวียนส่ายหัว หากเขาเกรงกลัวคนในจวนฉินแม้เพียงนิดเขาก็คงจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว : “พูดมาเถอะ พวกเจ้าที่มาจากภูเขาจงหนานเพื่อมาท้าทายกับข้าสุดท้ายแล้วมีเรื่องอะไรกันหรือ?”
“เจ้าพูดเรื่องบ้าบออะไร! เซียวเฉวียน...” เจวี๋ยซาปกปิดบาดแผลที่ร่างกายและพุ่งเข้าไปด้วยความโมโห “เจ้าเป็นใครกันถึงมีค่าพอให้พวกข้ามาท้าทาย?”
ไม่ได้พุ่งเป้ามาที่ข้างั้นหรือ?
หากไม่ใช่การท้าทาย แล้วคนจากภูเขาจงหนานจะมาพบเว่ยอวี๋เพื่อบอกว่าเมื่อเจ้ากับเซียวเฉวียนเป็นศัตรูคู่แค้นกันหากมีปัญหาให้ไปพบข้าได้ที่ภูเขาจงหนานงั้นหรือ?
หากไม่ใช่การมาเผชิญหน้า ก็เป็นการมาสังหารคนในจวนเซียวของข้าหรือ?
สายตาของเซียวเฉวียนจับจ้องไปที่เจวี๋ยซาเล่นเอาหัวใจของเขาสั่นระรัว เจวี๋ยวซาเองก็ทำสายตาที่ดูเหยียดหยามใส่เซียวเฉวียนมีท่าทีบ่งบอกว่าไม่ยอมแพ้ เจ้าอยากถามอะไรก็ถามมาเถอะยังไงเสียเจ้าก็ฆ่าข้าไม่ได้และข้าก็จะไม่พูดอะไรทั้งนั้น
เมื่อเซียวเฉวียนเห็นท่าทีที่ยั่วโมโหเช่นนั้นจึงโกรธเป็นอย่างมาก : “ผู้ที่พวกเจ้าเรียกว่าเจ้าสำนัก เป็น Boss ของพวกเจ้าสินะ”
พวกสกปรก? พวกสกปรกคืออะไร? เจวี๋ยซาไม่เข้าใจสิ่งที่เซียวเฉวียนพูด แต่เมื่อได้ยินเขาก็โกรธขึ้นมา : “เจ้ากล้าดียังไงมาว่าเจ้าสำนักของพวกข้าเป็นของเสียอย่างขี้เช่นนั้น?”
ผู้ไร้อารายธรรมเสวนาด้วยก็ดูจะไร้ประโยชน์ เซียวเฉวียนขมวดคิ้วคนหัวแข็งพวกนี้อยากจะฆ่าก็เห็นจะทำไม่ได้เขาจึงดีดนิ้วขึ้นมา : “เป๊าะ!”
ภาพรุ่งอรุณฤดูใบไม้ผลิแห่งเขาคุนหลุนลอยออกมาจากแขนเสื้อของเขาลอยเคว้งอยู่กลางอากาศและปล่อยสายฟ้านับพันออกมาอย่างที่เคยทำ
แสงสีขาวเจิดจ้าที่ออกมาแทบจะสามารถทำให้ดวงตาของกลุ่มเจวี๋ยซาบอดได้เลยทีเดียว!
เซียวเฉวียนจะทำอะไรกันแน่!
ผู้คนต่างตื่นตระหนกพากันจับกลุ่มเอาหลังชนกัน นำกระบี่ชีวันมาเตรียมพร้อมการโจมตี แต่สายฟ้านับพันสายนั้นไม่ได้โจมตีลงมาที่พวกตรงโดยตรงกลับกลายรูปร่างเป็นกรงขังเท่านั้น
ในยุคนี้มีคำกล่าวที่ว่า ร่ำเรียนดีมีวิชาติดตัวมิต้องเกรงกลัวสิ่งใด
เซียวเฉวียนยอมรับว่ากระบี่ชีวันนั้นจัดว่าเป็นกระบี่ที่ดีทีเดียว หากใช้พู่กันเฉียนคุนมาต่อสู้ก็จัดว่าได้แค่สูสี เพราะเช่นนี้มันเลยกลายเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างแรกในต้าเว่ย
แต่ไม่ว่ากระบี่จะดีเพียงใดแต่มันก็ยังคงทำมาจากโลหะ
และโลหะก็เป็นตัวนำไฟฟ้า! ฮ่าฮ่าฮ่า!
สายฟ้าที่ภาพคุนหลุนปล่อยออกมามาจากธรรมชาติทั้งสิ้นที่เก็บรวบรวมมาจากเกาะจูเสิน
ตามธรรมชาติแล้วค่าเฉลี่ยของกระแสฟ้าผ่าอยู่ที่สามหมื่นแอมป์ มากสุดอาจมากถึงสามแสนแอมป์ แรงดันไฟฟ้าของสายฟ้านั้นสูงมากราวๆ 100 ล้านถึง 1 พันล้านโวลต์ แรงของพายุฝนฟ้าคะนองระดับปานกลางสามารถมากถึง 10 ล้านวัตต์ เทียบเท่ากับผลผลิตของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก การฆ่าคนพวกนี้นับว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายดายทีเดียว
เพียงแต่ว่าภาพคุนหลุนนั้นเป็นอาวุธที่เอาไว้ป้องกันการโจมตีเพียงเท่านั้น ดังนั้นมันจึงไม่สามารถเริ่มโจมตีก่อนได้ทำได้แค่สร้างกรงสายฟ้ามาล้อมขังพวกเขาเอาไว้
ขอแค่กลุ่มคนพวกนี้สามารถซื่อสัตย์ว่านอนสอนง่าย สายฟ้าพวกนี้ก็ทำอะไรไม่ได้
แต่พวกเขาดูท่าจะไม่ใช่คนแบบนั้นแน่นอน พวกเขาล้วนหยิ่งผยองและมีจิตสังหารเต็มเปี่ยมแน่นอนว่าจะไม่ยอมถูกขังไว้เฉยๆแน่
พู่กันจินหลุนเฉียนคุนกับกระบี่ชีวันโต้กันไปมาจนรับรู้ได้ถึงพลังสังหารลึกลับที่ไม่สามารถมองเห็นได้ นับว่าสูสีกันทีเดียว
แต่เจ้าพวกนี้ไม่ใช่กระบี่ชีวันไม่ว่าจะเก่งแค่ไหนแต่ก็ยังเป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ กระบี่ชีวันช่วยปกป้องพวกเขาจากการโจมตีของดาบหยินได้ ไม่ว่าจะได้รับชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ก็ล้วนเป็นเพราะกระบี่ชีวันทั้งสิ้น หากกระบี่ล่อสายฟ้ามาฟาดพวกเขาก็มีแต่ความตายเท่านั้นที่รออยู่
“ถือกระบี่ของพวกเจ้าไว้ให้มั่นหล่ะเจ้าพวกคนโง่เขลาเอ๋ย”
เซียวเฉวียนพูดออกมาอย่างเยือกเย็น หันดลับมาเรียกเสี่ยวเซียนชิวแล้วเดินหันหลังลับออกไป
ไปแล้วหรือ?
ทำไมเซียวเฉวียนถึงไปแบบนี้หล่ะ?
เอ๊ะ? จะไปก็ไปเฉยๆก็ได้นี่ทำไมก่อนออกไปถึงต้องบอกว่าพวกเขาเป็นคนโง่ด้วยเล่า?
พวกของเจวี๋ยซาถูกแยกออกจากกันด้วยสายฟ้านับพันแม้จะอยากตามเซียวเฉวียนออกไปแค่ไหนก็ไม่อาจจะทำได้ เขาโกรธจัดเมื่อรู้สึกว่าถูกเซียวเฉวียนไม่แม้แต่เห็นพวกเขาในสายตาและดูถูกเหยียดหยามพวกเขา เจวี๋ยซาชูดาบขึ้นมา : “เซียวเฉวียน! เจ้าจงกลับมาเดี๋ยวนี้! เจ้าขังพวกข้าไว้แบบนี้นี่นะหรือความสามารถที่เจ้ามี! ถ้าเจ้าเก่งกาจมากนักก็มาสู้กับพวกข้าสิ! เห้ย!”
“เห้ย! มาสู้กันเลยดีกว่า! เป็นวีรบุรุษแบบใดกันถึงเลือกที่จะกักข้าไว้แบบนี้!”
เจวี๋ยซาชูดาบของเขาขึ้นสูงนั่นทำให้ตอนนี้มันทำหน้าที่ราวกับเป็นสายล่อฟ้าบนตึกสูงไปแล้ว
กระบี่ชีวันได้ถูกเจ้าของของมันง้างขึ้นมาพร้อมโจมตี แต่ทันใดนั้นก็มีสายฟ้าฟาดลงมา!
“เปรี้ยง!”
เสียงระเบิดดังก้องไปทั่ว!
เจวี๋ยซาถูกสายฟ้าฟาดกลายเป็นเถ้าถ่านต่อหน้าต่อตาของทุกคน!
บนโลกนี้ไม่มีแบ่งแยกว่าอาวุธอันนี้ดีกว่าหรืออันนั้นแย่กว่า อาวุธล้วนเป็นสิ่งของที่ไม่มีชีวิตจะใช้อย่างไรให้ได้ผลดีที่สุดนั่นคือสิ่งที่สำคัญกว่า
ผู้คนเหล่านั้นตายไป 9 ใน 10
ผู้สุดท้ายที่เหลือรอดคือเจ้าคนที่เดินตามเสี่ยวเซียนชิวเข้าไปในห้องคนสุดท้าย
เซียวเฉวียนให้เธอไว้ชีวิตเจ้านั่นไว้คนนึงเพื่อที่จะให้มันได้กลับไปรายงานให้ผู้ที่พวกนั้นเรียกว่าเจ้าสุนัขอะไรนั่นได้ฟัง
หลังจากที่ปล่อยสายฟ้าออกมาคร่าชีวิตเจ้าพวกคนเหล่านั้น ภาพคุนหลุนก็ค่อยๆม้วนเก็บเข้าไป ทิ้งเสียง “ฟวั่บ” เอาไว้และออกตามเซียวเฉวียนไปอย่างสง่างาม
โรงเตี๊ยมที่ตอนนี้สภาพเละเทะเหลือเพียงเจ้าคนที่รอดชีวิตกำลังยืนตะลึงอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออกกับภาพกระบี่และซากศพทั้งเก้าที่กลายเป็นสีดำเถ้าถ่าน เล่นเอาเขาสั่นจนแทบจะเป็นบ้าเลยทีเดียว
เขากลืนน้ำลายลงไปในคอที่แห้งเผือดยากเหลือเกินที่จะก้าวย่างขยับขาทั้งสองข้างราวกับวิญญาณได้ลอยออกไปจากร่างเสียแล้ว แต่ก็รีบวิ่งกลับไปภูเขาจงหนานให้เร็วที่สุด
...
ณ ศาลาคุนหวู่
อี้กุยจ้องเซียวเฉวียนที่กลับมาในสภาพที่หัวยุ่งเหยิง : “ท่านปู่ ท่านฆ่าพวกเขาทั้งหมดเลยหรือขอรับ?”
“ท่านบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”
“ต้องขอบคุณพู่กันจินหลุนเฉียนคุนกับเสี่ยวเซียนชิวข้าไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่นิดเดียว”
สุดยอด! อี้กุยตกใจมาก! กลุ่มคนที่สามารถสังหารหมู่คนในจวนเซียวได้แต่ท่านปู่น้อยกลับสามารถเอาชนะได้ด้วยตัวคนเดียว!
“ฟุ่บ” อี้กุยคุกเข่าลงกับพื้น : “ท่านปู่น้อยให้ข้าเรียกท่านว่าท่านพ่อเถิด!”
นี่มันสุดยอดมาก หลังจากนี้ศาลาคุนหวู่ก็ไม่ต้องหวั่นเกรงกระบี่ชีวันแล้ว!
กระบี่เล่มนั้นก็นับว่าเป็นแค่ของเล่นไร้ประโยชน์!
“ลุกขึ้นมาเร็ว!” เซียวเฉวียนรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก พร้อมกับวางขวดที่บรรจุเลือดของเย่าเหล่าและจิ่นเซ่อไว้บนโต๊ะ : “ปล่อยพวกเขาออกมาได้แล้ว”
“ท่านปู่ไม่มาด้วยตนเองหรือขอรับ?” อี้กุยตกใจเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...