สายลับคนนั้นเศร้าโศกและกระทืบเท้าอย่างบ้าคลั่งในขณะที่เมืองหลวงกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่วุ่นวาย นี้คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับสายลับที่จะหาเงินได้มากที่สุด
โลกวุ่นวายมากขึ้น ข้อมูลก็มีมูลค่ามากขึ้น จึงจะมีผู้คนมากมายที่สนใจซื้อข้อมูลจากสายลับ
สายลับถูกแบ่งเป็นสองประการหลัก คือ สายลับที่ถูกฝึกและใช้งานโดยครอบครัวผู้มีอำนาจเรียกว่า "นักสืบเปิดเผย”และอีกประการคือสายลับที่ไม่มีสังกัด มีชื่อเรียกในวงจรวังวนว่า "นักสืบลับ"
ไม่ว่าจะเป็นนักสืบเปิดเผยตัวหรือนักสืบลับ ทั้งคู่ต่างก็ถูกกับดักของเซียวเฉวียน
ไม่ต้องพูดถึงข้อมูลเกี่ยวกับเซียวเฉวียนอีกต่อไป ผู้คนเหล่านี้ที่แทบไม่มีข้อผิดพลาดในการตามร่องรอยแต่เซียวเฉวียน พวกเขาไม่สามารถตามได้เลย
ยากมาก ยากมากเหลือเกิน!
สายลับไม่เพียงแต่ติดตามไม่ทันข่าวของเซียวเฉวียน แต่ยังไม่สามารถเข้าถึงสมาชิกของตระกูลเซียวได้ด้วย
คุณหนูรองเซียว ณ ขณะนี้ไม่รู้ได้ว่าซ่อนอยู่ที่ใด แม้แต่ร่องรอยก็ไม่มีให้พบ
แม่เซียวอยู่ที่จวนเซียวทุกวัน ตลอดทั้งวันไม่มีใครเห็น เวลาทั้งหมดจะมีแต่การทานอาหารและนอน มีบางช่วงที่นั่งมองที่สวนนั่นคือมากที่สุดที่นางจะทำ
แล้วคนที่มีความสัมพันธ์กับเซียวเฉวียน ตอนนี้มีแค่ลูกสาวของเซียวเฉวียนที่ชื่อเสี่ยวเซียนชิวเท่านั้น
มันน่าขัดใจมาก ต้องระวังให้ระวังดีแม้สายลับอาจจะไม่สามารถตามติดรอยเซียวเฉวียนได้ แต่ก็สามารถนั่งรอได้ที่สถานที่ต่าง ๆ เช่น ศาลาคุนหวู่ จวนเซียว หรือจวนผู้อารักษ์ขา
เสี่ยวเซียนชิวคนนี้ไม่เพียงแค่ยากต่อการติดตามรอยเซียวเฉวียน แต่แม้แต่การนั่งรอที่จวนชวีก็ไม่สามารถรอได้!
เสี่ยวเซียนชิวเกือบจะไม่อยู่บ้านเลย ถึงแม้จะอยู่ที่บ้านก็เป็นแค่แวบผ่านไป สายลับเพียงแค่เห็นร่องรอยเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เพียงแค่นั้นแหละ อ้าว และก็หายไปอีกแล้ว!
ถ้าจะพูดถึงการตามรอยเซียวเฉวียนโดยสายลับนั้นน่าจะร้องไห้ได้ แต่ถ้าเป็นการตามรอยของเสี่ยวเซียนชิว นั้นถือว่าแท้จริงคือการต้องการตายหรือสายลับกล้าที่จะกลับไปบอกรายงานกับนายของตนไหม ว่าเขาไม่ได้เห็นหน้าเสี่ยวเซียนชิวเลยหรือไม่ล่ะ
如果说,跟着萧权的密探是欲哭无泪,跟着小仙秋的密探那才叫真正的想死,难道密探敢回去和自己主子说,自己连小仙秋的正脸都没有见过么。
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งคู่ก็กลายเป็นฝันร้ายของสายลับทั้งหลายที่อยู่ในเมืองหลวง แค่ได้ยินว่านายของตัวเองสั่งให้ตามรอยเซียวเฉวียนและเสี่ยวเซียนชิว สายลับทั้งหลายต่างก็คิดว่า ถ้าให้ทำงานนี้ตายสะเลยยังง่ายเสียกว่า
ทั้งคู่ไม่รู้ว่ามีคนจำนวนมากกังวลเกี่ยวกับตัวเอง ถ้ารู้คาดว่าทั้งคู่คงจะรู้สึกสบายใจทันที
สายลับไม่ได้รับข้อมูล ขนาดคนอยู่รอบตัวเขายังไม่รู้เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเซียวเฉวียนเลย ไม่รู้ว่าเซียวเฉวียนทำอะไร ไม่สามารถทราบได้เหมือนกันว่าเซียวเฉวียนเจอใคร ไปที่ไหนบ้าง หากไม่ไปถามถึงก็ไม่มีทางรู้ได้
เซียวเฉวียนเริ่มมีความลึกลับมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เหล่าชนชั้นสูงที่มีอำนาจรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้นว่าจะตัดสินใจหรือดำเนินการทำอะไรต่อไป
………
ในตอนนี้ จวนชวีในเมืองหลวงมีเรื่องเสียใจหนักมากเพราะการเสียชีวิตของเฉาสิงจือทำให้ตระกูลเฉาสิงจือไม่สามารถเตรียมการได้ทัน
แต่ไม่มีใครสนใจถึงตรูกูลเฉา ไม่มีคนมาร่วมแสดงความ้สียใจหรือให้ช่วยเหลือในเวลาที่ตระกูลเฉากำลังประสบปัญหา หลังจากที่เฉาสิงจือตายแล้ว ถูกไทเฮากล่าวหาว่าเป็นกบฏ เป็นผู้ทรยศ ณ ตอนนี้ยังไม่ทราบว่ามีชีวิตอยู่หรือว่าสิ้นชีพไปแล้ว
ในอดีตนั้นเฉาสิงจือนี้ได้มีความสัมพันธ์ดีกับขุนนาง ตอนนี้ไม่มีใครกล้ามาที่จวนเฉาเลย ขุนนางทั้งหลายกำลังทำหน้าที่สืบสวนเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการกบฏ สาเหตุของมันอาจเป็นเพราะความตั้งใจที่จะปกป้องตระกูลของบรรดาขุนนางที่ภูมิใจและทำหน้าที่ต่อต้านแรงกดดันจากตระกูลเฉาและมีความกลัวที่จะมีความเกี่ยวข้องกับจวนเฉา ในขณะที่เรื่องราวการกบฏกำลังต้องการความสนใจและความยุติธรรม
ณ ตอนนี้เหล่าขุนนางไม่กล้าที่จะเข้าไปยืนข้างใดข้างหนึ่งได้เลย เนื่องจากทราบว่าสถานการณ์วงในยังมีความไม่คงทน
จนถึงเมื่อฮ่องเต้ทรงประกาศพระราชกฤษฎีลงมาเมื่อสักครู่ ได้คืนชื่อเสียงของเฉาสิงจือหลังจากเป็นทาสตั้งแต่ครั้งก่อน และยังนำศพมาจากไทเฮา ซึ่งเป็นศพของเฉาสิงจือทำการจัดหาโลงศพที่ดีและพิธีเครื่องในลัทธิที่สง่างามที่สุด พร้อมทั้งนำศพของเฉาสิงจือกลับมามอบให้แก่ตระกูลเฉา
ท่านทรงดำเนินการนี้อย่างชัดเจนแล้ว เหล่าขุนนางทั้งหลายเข้าใจอย่างดี ถ้าพระองค์กล่าวว่าเฉาสิงจือเป็นขุนนางที่ซื่อสัตย์แล้ว ถ้าหากเกิดข้อผิดพลาดนั่นก็เกิดจากไทเฮาเอง
ดังนั้นหลังจากที่พระองค์ทรงประกาศพระราชกฤษฎีลงไปแล้ว เหล่าขุนนางทั้งหลายตกตะลึงจากพระองค์แล้ว ทุกคนมาร่วมงานเฉาสิงจือกันเต็มไปหมด มีการเปิดงานพิธีกรรมแสดงความเสียใจในตระกูลเฉา ทีเดิมมีแต่ความเงียบสงบเสมอมา ซึ่งต่างจากตอนนี้กลับมีเสียงคนพูดคุยและดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
นั่นคือเรื่องราวของการเข้าใจกันในโลกของมนุษย์
จากที่ที่ไม่ไกลมากนัก เซียวเฉวียนยืนอยู่ในมุม มีความคิดว่าถ้าพระองค์ไม่คืนชื่อเสียงให้เขา เหล่าชนชั้นสูงที่มีอำนาจที่เคยเป็นเพื่อนกับเฉาสิงจือ ก็จะไม่กล้าจะยุ่งหรือเป็นมิตรกับตระกูลเขาเลย
เซียวเฉวียนมาที่นี่เพื่อส่งเฉาสิงจือไปสู่ภพภูมิที่ดี
เขาได้ให้คนไปส่งโคลงกลอนที่เป็นคำอวยพรและลงนามโดยเซียวเฉวียน คนในตระกูลเฉาสิงจือที่เห็นคำอวยพรนั้น ใบหน้าของพวกเขารู้สึกเข้าใจยากจากการกระทำนี้และเกิดมีความเครียดขึ้นมา
ตระกูลเฉาด่าเซียวเฉวียน ซึ่งเซียวเฉวียนพยายามเข้าใจได้ ตระกูลเฉาสิงจือเคยเป็นคนที่ดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง และไม่เผชิญกับปัญหามากนัก แต่กับกลายมาเจอชะตากรรมแบบนี้...
เซียวเฉวียนจึงไม่อยากที่จะเข้าไปแสดงความเสียใจเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ตระกูลเฉาเกิดความโกรธมากขึ้น
วันนี้มีสองตระกูลมีการจัดงานศพ ตระกูลหนึ่งคือตระกูลเฉา และอีกตระกูลหนึ่งคือตระกูลเซียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...