“ท่านราชครู บ้านของท่านมีงานศพ แถมยังเป็นงานศพใหญ่ด้วย ยังต้องไว้ทุกข์อยู่ ว่ากันตามกฎ ท่านยังไม่อาจเข้าวังได้ กันมิให้ปะทะกับปราณมังกร”
องครักษ์ที่เฝ้าประตูกลืนน้ำลายพลางเอ่ยปาก เขาตื่นตระหนกจนแทบจะร้องไห้แล้ว เพราะว่าสีหน้าของเซียวเฉวียนเย็นชาเกินไป ยิ่งนานก็ยิ่งดูไม่ได้เรื่อง
เดิมทีกระทั่งองครักษ์สักรายที่เฝ้าประตูวังยังทราบเรื่องที่จวนเซียวถูกฆ่าล้างแล้ว เซียวเฉวียนสูดลมหายใจเข้าลึกครั้งหนึ่ง “เจ้าเข้าไปรายงานสักรอบก็พอ ฝ่าบาทจะทรงพบข้าหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง”
“เรื่องนี้...”
องครักษ์ในวังหลวงค่อนข้างลำบากใจ ประตูวังอันหนาหนักได้ปิดลงแล้ว เจตนาของฮ่องเต้นั้นชัดเจนแจ่มแจ้ง
“ให้เขาเข้ามา!”
ในยามนี้น้ำเสียงอันหยิ่งทะนงสายหนึ่งก็ดังขึ้น เซียวเฉวียนแทบไม่ต้องหันศีรษะ เขาไม่อยากเห็นนาง
เป็นฉินซูโหรวตัวปลอม
เขาเพียงเห็นฉินซูโหรวตัวปลอมหยิบป้ายคำสั่งอกอมา “จวิ้นจู่มีป้ายคำสั่งนี้แล้ว สามารถเข้าออกวังหลวงได้ นี่คือสิทธิพิเศษที่เสด็จอาฮ่องเต้มอบให้ข้า ตอนนี้ข้ากับราชครูจะเข้าวัง พวกเจ้ายังกล้าขวางหรือไร?”
“กระหม่อม...มิกล้า” เหล่าองครักษ์ต่างรู้ดีว่าจวิ้นจู่ผู้นี้นิสัยอันธพาล ไทเฮากับฮ่องเต้ทรงรักถนอมนางเสียอย่างอะไรดี ดังนั้นจึงรีบล่าถอยเปิดทาง ไม่กล้าขวางอีก
ฉินซูโหรวตัวปลอมพอเห็นเหล่าองครักษ์เชื่อฟังคำสั่งอย่างว่าง่าย ก็เก็บป้ายคำสั่งอย่างได้ใจ นัยน์ตาของนางทอประกายแวววาว รอให้เซียวเฉวียนชื่นชมนาง “ราชครู ขึ้นรถม้าของข้าสิจะได้เข้าไปพร้อมกับข้าเลย”
ผลก็คือ เซียวเฉวียนหายตัวไป ทันใดนั้นก็ไม่เห็นกระทั่งเงาของเขาแล้ว
เรื่องนี้ทำเอาฉินซูโหรวผงะไป นางโมโหจนร่องรอยความโกรธปรากฏขึ้นตรงหว่างคิ้ว นางลงมือช่วยเซียวเฉวียนแต่ไฉนเขาดันมีท่าทีแบบนี้กัน?
“มีเรื่องเช่นนี้ที่ไหน! ข้า...” ข้ากำลังจะอาละวาดแต่ก็คิดได้ว่าตัวเองกำลังจะขอคืนดีกับเซียวเฉวียน ดังนั้นจึงพยายามข่มอารมณ์โกรธเอาไว้ หากไม่แก้ไขนิสัย เซียวเฉวียนก็คงจะไม่ชอบนางเหมือนเดิม นิ่งเข้าไว้ นิ่งเข้าไว้...
วันนี้จวนเซียวถูกล้างสังหาร เซียวเฉวียนควรจะอารมณ์ไม่ดีก็ถูกต้องแล้ว
จวนเซียวมีใครตายไปบ้าง นางรู้กระจ่างแก่ใจ แต่นางกลับไม่ได้ปวดใจอะไรเลยสักนิด กลับกันยังแอบลิงโลดเล็กน้อย เพราะว่าคนของจวนเซียวแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ชอบนาง
ยิ่งไป๋ฉี่กับเหมิงเอ้า องครักษ์ทั้งสองรายนี้ล้วนแต่ไร้มารยาท ในยามนี้พวกเขาตายไปหมดแล้ว อีกหน่อยใครจะชักสีหน้าใส่นางได้อีกล่ะ?
อีกทั้งพอคนพวกนี้ตาย ยิ่งมีเรื่องโจโฉนี้เพิ่มขึ้นมาอีก วันข้างหน้าเซียวเฉวียนขาดไร้คนปรึกษา ก็คงไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เซียวเฉวียน เซียวเฉวียนจะต้องพึ่งพาจวนฉินแน่นอน
อีกหน่อยไปๆ มาๆ ความสัมพันธ์ของเซียวเฉวียนกับตระกูลฉินนับวันก็ยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น พอถึงเวลานั้นเธอคิดจะคืนดีกับเซียวเฉวียนก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ตระกูลเซียวเกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ สำหรับฉินซูโหรวตัวปลอมแล้ว นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดี
นางคิดว่าความคิดชั่วร้ายนี้เพียงปรากฏอยู่ในใจของตัวเองเท่านั้น แต่นางไฉนจะรู้เลยว่าความคิดในใจของนางนั้นเซียวเฉวียนฟังชัดเจนถนัดถนี่
สตรีรายนี้ช่างเป็นพวกใจดำอำมหิตจากในกระดูกจนถึงเนือ้หนัง เสียแรงที่ก่อนหน้านี้เซียวเฉวียนยังลังเลเล็กน้อย เขาเพียงรู้สึกว่าตัวปลอมรายนี้ก็เคยเป็นภรรยาของตนมากว่าปีครั้ง อย่างน้อยก็ยังมีน้ำจิตน้ำใจต่อกันอยู่ มาตอนนี้นับว่าเขาคิดมากเกินไปแล้ว
ฉินซูโหรวตัวปลอมกลับไม่ได้คิดเลยว่า เซียวเฉวียนจะมองนางปรุโปร่งปานนั้น นางจัดเก็บเสื้อผ้า ก่อนจะเดินอาดๆ ด้วยท่วงท่าของคุณหนู “ไป เข้าวังหลวงไปเถอะ พวกเราไปพบเสด็จอากันสักหน่อย”
“เจ้าค่ะ ออกเดินทาง” สาวใช้อาเซียงสั่งให้คนขับรถม้าแล่นเข้าไปในวังหลวง
เส้นทางในวังหลวงทอดยาว ด้านนอกและด้านในสงบอย่างยิ่ง
ตรงสวนดอกไม้วังหลวง มีบ่อน้ำอยู่แห่งหนึ่ง
มีไม้กระบองพาดอยู่แผ่นหนึ่งบนปากบ่อน้ำนั้น และเส้นเชือกขนาดใหญ่ก็มัดอยู่บนกระบองท่อนนั้น ส่วนไทเฮาก็กำลังกำเส้นเชือกนั่นแน่นอยู่ในบ่อน้ำ คล้ายกับว่าหากนางไม่คว้ามันเอาไว้ นางจะจมลงไปกระนั้น
ใต้บ่อน้ำนั่น ไป๋อิ้นกำลังนอนอยู่ตรงสุดก้อนบ่อ
ไป๋อิ้นที่แช่ตัวอยู่กลางบ่อน้ำเงียบสงบผิดปรกติ เขาไม่ขยับเลยสักนิด
ตอนนี้แม้ว่าไทเฮาจะไม่ถูกไป๋อิ้นทับ แต่ก็แช่ตัวอยู่ในบ่อน้ำเช่นกัน คิดจะขึ้นก็ขึ้นมาไม่ได้
กระดูกของนางหักแล้ว ส่วนเชือกก็มัดแน่นอยู่กับแขนของนาง เพียงเห็นก็รู้ว่ามีคนจงใจโยนพวกนางลงไปในบ่อน้ำ นางอดทนต่อความเจ็บปวด นางคำรามด้วยความโมโหผ่านน้ำในบ่ออันเย็นยะเยือก “ฮ่องเต้! ท่านทำตัวเช่นนี้ต่อมารดาของท่าน! วันนี้ข้าสังหารเฉาสิงจือกับเซียวเฉวียนไปก็เพื่อตัวเจ้าทั้งสิ้น!”
“แล้วเจ้าดูเจ้าสิ จนป่านนี้แล้ว! ยังลุ่มหลงมัวเมาไม่เลิกรา! รีบลากตัวข้าขึ้นไปเร็ว!”
ไทเฮาด่าทอไม่หยุด น้ำในบ่อนั้นเย็นเกินไป นางค่อนข้างรับไม่ได้อยู่บ้าง
ข้างบ่อนั้น ฮ่องเต้กำลังทรงหมากกับสวีซูผิง ส่วนเว่ยอวี๋ก็อยู่ด้านข้างมองพวกเขาลงหมากด้วยสีหน้าไม่สงบนิ่งนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...