“หรือเป็นเพราะว่าเจ้าไม่ได้เห็นคุณค่าของชีวิตใครต่อใครในต่าเว้ยนี้เลย ขนาดคนของเจ้าถูกฆ่าตาย เจ้าก็ดูไม่โกรธแค้นหรือต้องการฆ่าพวกมันเลย คงมีแต่ข้าเท่านั้นที่ปล่อยผ่านไปไม่ได้ เจ้าคิดว่าปล่อยพวกมันไปแล้วจะเป็นทางออกอย่างนั้นรึ?”
ทำไมตอนนี้ฮ่องเต้ถึงได้เป็นเช่นนี้?
มันดูไม่สมเหตุสมผลเลยไม่ใช่รึอย่างไร?
การพยายามปลอบใจพระองค์ไม่มีประโยชน์ใชหรือไม่?
นี้คือสิ่งที่ฮ่องเต้ตรัสออกมาอย่างนั้นรึ?
เซียวเฉวียนหายใจเข้าลึกๆ วางถ้วยชาในมือลงบนอย่างแรง และพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา: “ฝ่าบาท พระองค์ทรงเรียกกระหม่อมว่าท่านราชครู และหากพระองค์นับถือกระหม่อมเป็นราชครูของพระองค์จริงๆ แล้วล่ะก็”
“เหตุใดราชครูของพระองค์ถึงผิดที่ต้องการให้พระองค์แก้ปัญหาตรงหน้าอย่างเย็นพระทัย?”
“วันนี้ตระกูลเซียวของกระหม่อมเจอวิกฤตครั้งใหญ่ ในฐานะผู้นำ ข้าควรร้องไห้ให้กับความจริงบนโลกโสมมอย่างนั้นหรือ?”
เซียวเฉวียนเผชิญหน้ากับมัน ไม่ว่าฮ่องเต้จะพูดอะไร เขาก็โต้ตอบกลับไป
หากเป็นคนอื่นคงคุกเข่าลงแล้วร้องขอความเมตตา แต่นี้เขาไม่ได้ทำอะไรผิด
สิ่งที่เซียวเฉวียนพูดทำให้สวีซูผิงสำลักด้วยความตกใจจนหน้าซีดทันที นี้…นี้…นี้…แม้ว่าเซียวเฉวียนจะเป็นราชครู แต่เขาที่เป็นถึงเสนาบดีของฝ่าบาท ยังไม่กล้าพูดกับฝ่าบาทเช่นนี้
มันเหมาะสมหรืออย่างไร? ยิ่งท่าทางของเขาด้วยแล้วยิ่งไม่เหมาะสม
เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้นิ่งเงียบไป เซียวเฉวียนยิ่งมีอารมณ์มากยิ่งขึ้น และไม่ได้เรียกพระองค์ว่าฝ่าบาทด้วยซ้ำ: “ข้าขอให้ท่านปล่อยเหล่าองครักษ์ ข้ารับใช้และขันทีพวกนี้ไป เห็นแก่สถานะฮ่องเต้ของท่าน ชื่อเสียงของท่าน ทำตามคำแนะนำของข้า ข้าอยากเห็นชื่อท่านถูกเขียนลงในหน้าประวัติศาสตร์ส่งต่อไปยังรุ่นลูกรุ่นหลาน”
“แทนที่จะจัดการกับคนไม่มีทางต่อสู้พวกนี้ ท่านเอาเวลาไปหาวิธีจัดการกับผนึกเทพสังหารไม่ดีกว่าหรืออย่างไร!”
เซียวเฉวียนพูดจนทำให้สวีซูผิงหน้าถอดสี จบแล้ว จบแล้ว ไม่มีใครในโลกใบนี้กล้าพูดกับฝ่าบาทเช่นนี้…
เซียวเฉวียนไม่ต้องการที่จะหุบปาก: “แทนที่จะฆ่าเหล้าข้าราชบริบารตาใสๆ ท่านคิดหาวิธีจัดการกับแม่ของท่านเสียเถอะ! คิดหาวิธีปิดปากนางเสีย ท่านไม่คิดว่านางส่งเสียงดังไปแล้วอย่างนั้นหรือ?
ดวงตาของฮ่องเต้แดงก่ำ เซียวเฉวียนตะคอกอย่างเย็นชา: “ท่านดูเอาแล้วกัน! การติดตามท่านจะทำให้ข้าโชคร้ายอย่างนั้นหรือ? ท่านคงไม่ต้องการเป็นฮ่องเต้ที่ดี ที่ทำให้ข้าราชบริพารของท่านได้รับผลประโยชน์ที่ดี! อะไร ท่านโกรธอย่างนั้นหรือ?”
“ข้าดูแล้วท่านก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไร!” เซียวเฉวียนพูดท่าทางโกรธจัด พูดตามตรง ฮ่องเต้เก่งทุกอย่าง พระองค์เป็นคนน่าเกรงขาม ฉลาด มีไหวพริบ และใจดี แต่พระองค์ถูกขังนานเกินไป ตอนนี้จึงเปลี่ยนไป “การเปลี่ยนแปลง ฮ่องเต้พระองค์ไหนไม่เจอบ้าง อยากฆ่าข้าราชบริพารเพียงเพราะโกรธอย่างนั้นหรือ?”
“ท่านพูดถูก ฮว๋าเซี่ยของข้าไม่มีฮ่องเต้พระองค์ใดทำเรื่องเช่นนี้!”
“ข้าไม่เชื่อ! ในฮว๋าเซี่ยมไม่มีกบฏเลยอย่างนั้นหรือ?”
ฮ่องเต้ฟุ้งซ่านด้วยคำพูดของเซียวเฉวียน ดวงตาของเซียวเฉวียนเป็นประการและพยักหน้าอย่างรวดเร็ว: “มีอยู่ แต่ถ้าให้ยกตัวอย่างก็มีมากมาย!”
“ท่านอยากเป็นทรราชอย่างนั้นรึ? ถ้าท่านต้องการ ข้า เซียวเฉวียนจะทำหน้าที่ของข้า สั่งสอนให้ท่านเป็นทรราชที่โหดร้ายและเลวทรามที่สุดในต้าเว่ย”
เซียวเฉวียนหยิบดาบจิงหุนออกมา: “การข้าข้าราชบริพารจะมีประโยชน์อันใด? ”เซียวเฉวียนหยิบดาบจิงหุนออกมา: "การฆ่าทหารองครักษ์และสาวใช้จะมีประโยชน์อะไร ฆ่าใต้เท้าสวีซะด้วยสิ!"
......
......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...