ฮือ……สวีซูผิงขาดก็แต่ร้องไห้โฮแล้ว เขามองฮ่องเต้ “ฝ่าบาทช่วยกระหม่อมด้วย! ฝ่าบาทช่วยกระหม่อมด้วย!”
ฮ่องเต้เห็นยาพิษในมือของเซียวเฉวียนกำลังจะสาดเทลงมา ก็ขมวดคิ้วแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้ากำลังข่มขู่ตัวข้าอยู่รึ?”
“คำพูดของฝ่าบาทผิดไปแล้ว อาจารย์จะข่มขู่ฝ่าบาทได้อย่างไรกันล่ะ อาจารย์กำลังช่วยฝ่าบาทไม่ให้กลายเป็นกษัตริย์ผู้เผด็จการโหดเหี้ยม นี่มิใช่สิ่งที่ฝ่าบาทปรารถนาหรือ?”
สีหน้าของเซียวเฉวียนเย็นชาสุดขั้ว แต่ละคำแต่ละประโยคคล้ายจะล้อเล่น แต่มือกลับค่อยๆเอียงขึ้นเรื่อย ๆ พิษเชียนจีมีพิษร้ายแรงมาก ฉินปาฟางก็ตายภายใต้พิษนี้ หากสวีซูผิงเปื้อนไปเพียงเล็กน้อยละก็ต้องตายม่องเท่ง หมอวิเศษฮว่าถัวยังอยู่ก็ไร้หนทางรักษา
“หยุด!” ฮ่องเต้เห็นว่าเซียวเฉวียนเอาจริง ก็รีบตะคอกสั่งหยุดเขาทันที
ดวงตาเซียวเฉวียนมืดขึ้นมา “ฝ่าบาทห่วงใยใต้เท้าสวีเช่นนี้ เพราะเขาคือคนที่ท่านเชื่อถือ งั้นข้าหลวงหญิงและองครักษ์เหล่านั้น แม้สู้ใต้เท้าสวีไม่ได้แต่พวกเขาก็เป็นข้าบริพารของฝ่าบาทเช่นกัน หากฝ่าบาทไว้ชีวิตพวกเขาไป กระหม่อมก็จะไว้ชีวิตใต้เท้าสวี”
แขนของเซียวเฉวียนควบคุมความเอียงของขวดไว้ด้วยแรงเหลือเฟือ เกรงว่าหากไม่ระวังพิษจะทำลายสวีซูผิงจนตายได้ ใต้เท้าสวี ต้องขอโทษจริงๆ ใครให้เจ้าเป็นข้าบริพารคนเดียวที่อยู่ที่นี่ล่ะ เจ้าเป็นหมากให้ข้าชั่วคราวก่อนแล้วกัน
หากสวีซูผิงรู้ว่าเซียวเฉวียนคิดเช่นนี้ละก็จะต้องโกรธมากแน่ ข้าอยู่ที่นี่คนเดียวเสียที่ไหน ท่านอ๋องสิบหกเว่ยอวี๋ก็อยู่ด้วยมิใช่หรือ! เหอะ!
เป็นครั้งแรกที่ฮ่องเต้ถูกข้าบริพารคนหนึ่งข่มขู่
เซียวเฉวียนที่เอ่ยถึงนี้เป็นคนที่กินดีหมีหัวใจเสือคนหนึ่ง
ฮ่องเต้ผู้มีความคิดลึกซึ้ง ฉลาดร้ายเงียบ เซียวเฉวียนไม่มั่นใจว่าวิธีกระตุ้นนี้จะมีประโยชน์หรือไม่ ทว่าเพื่อชีวิตของคนนับหมื่น และเพื่อชื่อเสียงของฮ่องเต้ เขาก็จะต้องลองสู้เทหมดหน้าตัก
“เฮ้อ ฝ่าบาท มิต้องใช้สายตาเข้มงวดจริงจังเช่นนี้มาจ้องมองกระหม่อมหรอก” เซียวเฉวียนเห็นฮ่องเต้โมโหจนหน้าเริ่มแดงแล้ว เซียวเฉวียนก็แสร้งทำท่าทางไม่แยแสมากขึ้นกว่าเดิม “ถึงอย่างไรคนในตระกูลเซียวของกระหม่อมแทบจะตายหมดไร้ทายาทแล้ว วันนี้กระหม่อมล่วงเกินฝ่าบาทเช่นนี้ ก็ไม่คิดจะรอดกลับไป ดังนั้นกระหม่อมก็ต้องทุ่มหมดหน้าตัก”
“หากฝ่าบาทรู้สึกว่าข้าที่เป็นอาจารย์ทำตรงไหนมิถูกมิควร ก็ทรงใจกว้างอภัยให้หน่อย มิจำเป็นต้องโมโหไป ฝ่าบาทเป็นกษัตริย์เผด็จการโหดเหี้ยมขึ้นมา ข้าที่เป็นอาจารย์สังหารขุนนางผู้ภักดี พวกเราถึงจะนับว่าเป็นศิษย์อาจารย์ที่เหมาะสมคู่ควรกัน ใช่หรือไม่?”
เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นขุนนางผู้ภักดี……สวีซูผิงได้ยินคำพูดของเซียวเฉวียนแล้วไม่รู้สึกขำเลยสักนิด น้ำตาไหลลงมาทันที!
เจ้ารู้ว่าข้าเป็นขุนนางจงรักภักดีเจ้าก็ยังรังแกข้าเช่นนี้!
สวีซูผิงกำลังมองปากขวดที่บรรจุพิษร้ายแรงเชียนจีด้วยอาการสั่นเทา ยาพิษนั้นเหมือนจะใกล้เทลงมาแล้ว แงแงแง เจ้าขยะเซียวเฉวียน! วันนี้หากข้าตายขึ้นมาจริงๆแล้วละก็ ข้าเป็นผีก็จะไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!
“หยุด! ราชครู! หยุดมือ!”
สภาพการตายที่อนาถในตอนนั้นของฉินปาฟางปรากฏขึ้นต่อหน้าของฮ่องเต้ ฮ่องเต้บีบหมัดแน่น ชาไปทั่วร่างกาย “ตัวข้าไม่สังหารข้าหลวงหญิงและองครักษ์แล้ว! ตัวข้าจะทำตามวาจาของราชครู และลดสถานะของพวกมันเป็นทาสรับใช้! ไม่สังหารแล้ว! เจ้าถือขวดยาตั้งตรงให้ข้า!”
“เยี่ยงนั้นฝ่าบาทออกพระราชโองการกระหม่อมถึงจะเชื่อ” มือของเซียวเฉวียนที่ถือขวดยาชาไปหมดแล้ว กลับยังคงยืนหยัดจนถึงขั้นตอนสุดท้าย
“เจ้า!” ฮ่องเต้ใบหน้าแดงและเขียวปัด โมโหจนพูดไม่ออกขึ้นมาทันที
เซียวเฉวียนคาดไว้ไม่ผิด ตามคาดฮ่องเต้แค่เกลี้ยกล่อมเขา รอจนเขาปล่อยขวดยา ฮ่องเต้ก็จะกลับคำ
มือของเซียวเฉวียนเอียงอีก ในที่สุดสวีซูผิงก็ร้องไห้ออกมาแล้ว “อ๊ะอ๊ะอ๊ะ! ฝ่าบาทช่วยกระหม่อมด้วย!”
“ใครก็ได้! ร่างราชโองการ! ร่างราชโองการ!” ฮ่องเต้เห็นดังนั้นก็รีบตะคอกใส่เซียวเฉวียน “ข้าร่างราชโองการ! ได้แล้วสินะ! ตัวอักษรขาวดำ!ไม่กลับคำแน่!”
“อือ งั้นรอฝ่าบาทเขียนพระราชโองการเสร็จค่อยว่ากัน”
เห็นว่าเซียวเฉวียนดื้อรั้นเช่นนี้ ฮ่องเต้ก็รีบร่างราชโองการ ยุ่งกับการเขียนพระราชโองการและประทับตรา
ท้ายที่สุดแล้วฮ่องเต้ก็เป็นคนที่มีเมตตาใจดีผู้หนึ่ง เซียวเฉวียนจ้องมองเขาปลง ถึงอย่างไรก็ประสบการเปลี่ยนแปลงในวัง ฮ่องเต้ยังทนมองดูผู้บริสุทธิ์เช่นสวีซูผิงรับเคราะห์ไปด้วยไม่ได้
พระราชโองการหนึ่งฉบับออกอย่างรวดเร็ว ขันทีนำพระราชโองการนี้เดินทางไปยังสถานที่ลึกของพระราชวังทันที “ฝ่าบาทมีราชโองการ! แม่ทัพฉินสนองรับพระราชโองการ!”
“ฝ่าบาทมีคำสั่ง ในพระราชวัง องครักษ์ต้องโทษและคนที่ทำงานในตำหนักทั้งหมดลดฐานะเป็นทาสรับใช้ เนรเทศไปยังรัฐไป๋ลู่ ห้ามมิให้กลับเมืองหลวงตลอดกาล!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...