อะไรกัน?
เจ้าชายแห่งภูมิภาคตะวันตกมีความคิดที่บ้าบอเช่นนี้ หากเซียวเฉวียนรู้เข้า เขาจะไม่ถูกทุบตีให้ตายหรือ?
เจ้าชายแห่งภูมิภาคตะวันตกตระหนักดีถึงสันดานของเซียวเฉวียน แต่ตอนนี้ไม่มีใครอยู่รอบ ๆ ตัวเซียวเฉวียน ผู้อารักขาระดับเทพอย่างไป่ฉีและเหมิงเอ้าตายแล้ว ต่งจัวและเถาจี๋ก็มอดม้วย ตายกันเกลี้ยงรวมทั้งเจี้ยนเหล่าเย่าเหล่าพวกนี้
เซียวเฉวียนเหลือเพียงลูกสาวคนหนึ่งที่พอจะใช้การได้
เซียวเฉวียนจะเก่งกาจแค่ไหน เขาก็ได้แต่ลุยเดี่ยว ถึงองค์จักรพรรดิต้าเว่ยจะปกป้องเขาสักเพียงใด เซียวเฉวียนก็ยังต้องตาย
ยิ่งไปกว่านั้น สถานะของเจ้าชายแห่งภูมิภาคตะวันตกนี้มีประโยชน์มาก เขาเป็นพี่ชายคนโตขององค์หญิงต้าถง ตอนนี้เซียวเฉวียนถือได้ว่าเป็นน้องเขยของเขา เจ้าชายแห่งภูมิภาคตะวันตกอยากได้ความไว้วางใจจากเซียวเฉวียน มันค่อนข้างง่าย
หลังผ่านการวัดฝีมือมาหลายครั้ง เจ้าชายแห่งภูมิภาคตะวันตกก็ใช้กลอุบายมาครบทุกประเภทแล้ว
ไม่เพียงแต่จะใช้มาครบทุกประเภท ยังเป็นพวกกลอุบายพิสดารมากมาย แม้จะเป็นแมวที่มีเก้าชีวิต ก็ไม่พอที่จะให้ตาย แต่เซียวเฉวียนกลับรอดชีวิตมาได้
นั่นก็ยิ่งเป็นการยืนยันเพิ่มเติมถึงสิ่งที่นักปราชญ์กล่าวไว้ เซียวเฉวียนเป็นบุตรที่ฟ้าประทาน มิฉะนั้น ภูมิภาคตะวันตกคงไม่ตายด้วยน้ำมือของเซียวเฉวียนในวันข้างหน้า
ดังนั้นเจ้าชายแห่งภูมิภาคตะวันตกจึงเตรียมการไว้สองทางในครั้งนี้
เตรียมการทางแรกคือ บนเส้นทางที่เซียวเฉวียนไปทำลายตราจูเสิน ติดตั้งด่านไว้หลายๆ จุด โค่นเซียวเฉวียนให้ตายจนได้
เตรียมการทางที่สองคือ ถ้าเซียวเฉวียนยังไม่ตาย เจ้าชายแห่งภูมิภาคตะวันตกจะลงมือดำเนินการด้วยตนเอง
นักปราชญ์แนะเจ้าชายแห่งภูมิภาคตะวันตกว่า หากต้องการเอาชนะเซียวเฉวียน ไม่เพียงต้องมีดาบชีวันเท่านั้น ยังต้องเรียนรู้อีกสิ่งหนึ่งด้วย ซึ่งก็คือการกลั้นหายใจและมีสมาธิโดยไม่คิดอะไรในใจ
นักปราชญ์กล่าวว่า เซียวเฉวียนสามารถอ่านเสียงในใจคนได้ อยู่ต่อหน้าเซียวเฉวียน หากเขามีความคิดมากเซียวเฉวียนก็สามารถมองทะลุได้ทันที
ดังนั้นเจ้าชายแห่งภูมิภาคตะวันตกจึงใช้เวลาหลายปีในการฝึกฝน เพื่อที่ว่าเวลาพูดคุยกับผู้คนจะไม่มีกิจกรรมทางจิตอยู่ในใจและไม่มีความคิดใด ๆ ผุดขึ้น
ที่ภูเขาจงหนานซาน เจ้าชายแห่งภูมิภาคตะวันตกประกาศตัวเป็นเจ้าของภูเขา ชื่อก็ใช้คำว่า จงหนาน ยกเว้นคนกันเอง คนนอกต้องเรียกเขาว่าท่านจงหนาน
เมื่อเขาเข้าสู่ต้าเว่ย ก็จะใช้ชื่อจงหนานนี้ พบหน้ากับเซียวเฉวียน
“เจ้านาย ท่านเตรียมพร้อมแล้วจริงๆ หรือ ? ”
เวลานี้ เจ้าชายแห่งภูมิภาคตะวันตกนั่งอยู่บนหลังม้าแล้ว เขามองไปทางไกล หลังจากทำงานหนักมาหลายปี เขาไม่สามารถล้มเหลวได้ในวันนี้
ตอนนี้ไม่มีใครสามารถทำอะไรกับเซียวเฉวียนได้ หากเขาไม่ลงมือเอง จะเฝ้าดูภูมิภาคตะวันตกพินาศด้วยน้ำมือของเซียวเฉวียนในวันข้างหน้าหรือ ?
" ไป !"
เจ้าชายแห่งภูมิภาคตะวันตกตะโกนเสียงดัง คว้าบังเหียนม้า นำทีมทัพใหญ่ กระเหี้ยนกระหือรือเข้าไปในเขตแดนของต้าเว่ย
พวกเขาจะไปสมทบกับผู้ใต้บังคับบัญชาในต้าเว่ย ตอนนี้ ผู้ใต้บังคับบัญชาของเจ้าชายแห่งภูมิภาคตะวันตกกำลังอยู่ครึ่งทางแล้ว เตรียมที่จะซุ่มโจมตีเซียวเฉวียน
ผู้คนจากภูเขาจงหนานต้องการฆ่าเซียวเฉวียน
ชาวภูเขาคุนหลุนต้องการคุ้มครองเซียวเฉวียน
คนของต้าเว่ยต่างพากันคอยดูการแสดงอย่างโง่เขลา เป็นพวกสอดรู้สอดเห็นกันทั้งนั้น พวกเขาไม่รู้ว่าเซียวเฉวียนและองค์จักรพรรดิได้ไปทำลายตราจูเสินกัน ถึงจะรู้ว่าเซียวเฉวียนไปทำลายตราจูเสิน พวกเขาก็ไม่ใส่ใจ เพราะตราประทับศักดิ์สิทธิ์อันยิ่งใหญ่ที่มีมาแต่โบราณสามารถถูกทำลายโดยเซียวเฉวียนเพียงคนเดียวงั้นหรือ?
ผู้คนส่วนใหญ่ในต้าเว่ยจะอยู่เป็นกลาง ที่สนับสนุนเซียวเฉวียนถึงแม้จะมีหอคุนหวูและกองอารักขา แต่พวกเขาก็มีกำลังจำกัด ไม่สามารถช่วยอะไรได้มากนัก
จากเมืองหลวงไปเกาะจูเสิน ก็ต้องนั่งเรือ
เซียวเฉวียนมองดูทะเล มันแปลก ครั้งก่อนที่เขาถูกเนรเทศเขาไม่ได้ตื่นเต้นมากนัก แต่ทำไมครั้งนี้ขมับของเขาถึงเต้นแรงไม่หยุดอย่างนี้?
เซียวเฉวียนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ลางสังหรณ์และสัญชาตญาณของบุคคลนั้นมักจะแม่นยำเสมอ เขามองดูผิวทะเลเรียบ ๆ และจมปักอยู่ในความคิด "หรือว่าการเดินทางครั้งนี้จะไม่ราบรื่น?"
ขณะที่เขากำลังคิดเรื่องนี้ ความคิดของไป่ฉีก็เข้ามาหาเขา "เจ้านาย เขาจงหนานซานมีการเคลื่อนไหวแปลก ๆ "
”เคลื่อนไหวอะไร?” เซียวเฉวียนตกใจมาก ฮึ เขาแค่ฆ่าเด็กไม่กี่คนของจงหนานซาน จงหนานซานก็อยู่ไม่นิ่งแล้วมีการเคลื่อนไหวอีกงั้นหรือ?
เพียงแต่ไป่ฉีเป็นคนเก็บกดอยู่เสมอ จึงไม่ร้องห่มร้องไห้เป็นธรรมดา
คนที่ร้องไห้มากที่สุดคือเหมิงเอ้า แต่วันนี้เหมิงเอ้าเงียบมาก ไม่ได้คุยกับเซียวเฉวียน คิดว่าเซียวเฉวียนคงจะร้องไห้อยู่ตลอดจึงไม่กล้าคุยกับเซียวเฉวียนแค่นั้นแหละ
"อื่ม" ไป่ฉีที่อยู่อีกด้านหนึ่งตอบอย่างเคร่งขรึมแล้วก็ไปทำงานต่อ
เซียวเฉวียนกำหมัดแน่น แต่ก่อนเพื่อกำจัดแรงอาฆาตของไป่ฉี เขาได้ให้ไปฝึกเหมิงเอ้าและพวกของเจ้าหนึ่งโดยเฉพาะ เพื่อหันเหความสนใจของไป่ฉี ให้ไป่ฉีสร้างทีมกำลังพิเศษขึ้นให้เซียวเฉวียน
คิดไม่ถึง กลับได้ผลแย่ยิ่งกว่าเก่า
ในขณะนี้ แรงอาฆาตของไป่ฉีเกรงว่าจะเข้มข้นยิ่งกว่าแต่ก่อน
ถ้าไป่ฉียังเชื่อฟังเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนก็ควบคุมเขาได้ แต่ถ้าไป่ฉีไม่เชื่อฟัง งั้น......
เซียวเฉวียนไม่กล้าที่จะคิด กล่อมเกลาไป่ฉีมามากต่อมาก ถ้าถูกทำลายจากเหตุการณ์สังหารครั้งหนึ่ง เซียวเฉวียนก็ไม่อาจห้ามปรามไป่ฉีได้แล้ว
“ท่านราชครู ท่านกำลังคิดอะไรอยู่?”
เสียงขององค์จักรพรรดิดังมาจากข้างหลังเซียวเฉวียน วันนี้คลื่นในทะเลค่อนข้างใหญ่และเรือก็โยกเล็กน้อย องค์จักรพรรดินอนไม่หลับจึงออกมาสูดลมหายใจ
ทันทีที่พระองค์ออกมา ก็พบเซียวเฉวียนตัวสูงใหญ่เอามือไพล่หลังจ้องมองทะเลอย่างเหม่อลอย น้อยครั้งที่จะเห็นเซียวเฉวียนอยู่โดดเดี่ยวถึงขนาดนี้
แสงจันทร์ส่องลงบนผิวทะเลทำให้เกิดคลื่นเป็นประกาย ในแสงและเงาที่ไร้ขอบเขต ร่างของเซียวเฉวียนเพียงลำพังก็ยิ่งดูโดดเดี่ยวเดียวดาย
”ฝ่าบาท พระองค์ทรงรู้จักภูเขาจงหนานซานไหม ? “
คำพูดของเซียวเฉวียนทำให้องค์จักรพรรดิผงะ
เห็นได้ชัดว่า พระองค์ทรงรู้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...