ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 773

“ชายท่านนั้นมีนามว่าหมิงเจ๋อ องค์ชายแห่งเมืองซินเจียง แคว้นโหลวหลาน”

ฮ่องเต้มีท่าทีเหม่อลอย อันที่จริงเขากับท่านชายก็ถือว่าสนิทกัน หมิงเจ๋อไม่ได้แก่มากกว่าเขาสักเท่าไร ต้าเว่ยกับซินเจียงก็ถือว่าเป็นบ้านพี่เมืองน้อง เพราะฉะนั้น เขาและท่านชายในตอนเด็กก็เคยเรียนวิชาด้วยกันมาก่อน

ฮ่าๆๆๆๆๆๆ!

ฮ่าๆๆๆๆๆๆ?

สักครู่เซียวเฉวียนมีท่าทีโมโหขึ้นอย่างหนัก ตลกแทบบ้าเลย แถมเอ่ยปากถาม “ท่านบอกว่าเขาเป็นองค์ชายของแคว้นใด?”

“โหลวหลาน”

ฮ่องเต้จ้องมอง เมื่อสักครู่เซียวเฉวียนเป็นอะไรไป? หรือว่าถูกแหย่จนโกรธมาก?

โหลวหลาน!

ฮ่าๆๆๆๆๆ! โหลวหลาน!

จริงๆเลย!

ที่ฮวาเซี่ยก็มีเมืองโบราณโหลวหลาน เป็นเมืองที่ลึกลับมาตลอด ในประวัติศาสตร์ที่จมหายไปก็ไม่มีใครทราบเกี่ยวกับเมืองนี้

เซียวเฉวียนพูดแบบนี้ก็หมายความว่า เขา ท่าน และท่านหญิง เมืองโหลวหลานของท่านไม่ช้าก็เร็วก็ต้องหายไปแบบไร้ร่องรอย เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอะไรเซียวเฉวียน ไม่มีเลยสักนิด! ห๋า?

“อ๋า? ฮ่าๆๆๆๆๆๆ!” เซียวเฉวียนแหงนหน้าหัวเราะ ช่างน่าขันสิ้นดี!

ตลกชะมัด ถ้าหากไม่ได้พึ่งมันสมองของเซียวเฉวียน ก็จะไม่มีใครได้ทราบข้อมูลของโหลวหลานแม้แต่นิดเดียว

ซินเจียงที่เซียวเฉวียนเข้าใจ ก็คือเมืองซินเจียง และเป็นแคว้นด้วย! ซินเจียง ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของฮวาเซี่ย!

ฮ่าๆๆๆ! หากตอนนี้ข้าเอ่ยบอกเขา ซินเจียงแบ่งเป็นหลายแคว้นได้! อืม! ซินเจียงก็เป็นแค่ชื่อเรียกเท่านั้นแหละ!

เซียวเฉวียนแหงนหน้าหัวเราะดัง และตีไปที่เซียวติ้งอย่างแรง โมโห! โมโหมาก!

ท่าทางของเซียวเฉวียนทำให้ฮ่องเต้ตกใจสะดุ้งโหยง “ท่าน…. ท่านเป็นอะไรไปหรือ?”

หากฉินหนานอยู่ตรงนี้ คงแสดงออกกับท่าทางของเซียวเฉวียนไปอีกแบบ

ถึงแม้เซียวเฉวียนผู้ที่เก่งกาจเกินใคร ผู้ที่ถูกเรียกว่าอัจฉริยะ แต่ถึงคราววิชารากจิตอักษรหรือประชันกลอน ความรู้พื้นฐานพวกนี้ก็ยังไม่เข้าใจ

“ฝ่าบาท” เซียวเฉวียนบีบไหล่ฮ่องเต้ สีหน้าไม่สู้ดี นัยน์ตาแดงก่ำแต่ไม่มีน้ำตาออกมาสักหยด “ข้ามีคำจะพูดกับท่าน ข้าสามารถพูดได้หรือไม่?”

“ท่านว่ามาสิ” ฮ่องเต้คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องใหญ่มากนัก พลันมองเซียวเฉวียนด้วยสีหน้ากังวล

“ข้าจะบอกอะไรท่านนะ” เซียวเฉวียนส่ายหัว ตบบ่าฮ่องเต้เบาๆ “หากจะส่งคนไปต้าเว่ย เพิ่มภูมิศาสตร์เข้ามาอีกวิชานึงเถิด”

ภูมิศาสตร์? ฮ่องเต้มองอย่างไม่เข้าใจ “วิชานี้สอนเกี่ยวกับอะไร?”

“ความรู้ทั่วไป แผนที่ อากาศ ทำนองนั้น” เซียวเฉวียนกุมมือฮ่องเต้แน่น หยดน้ำตาแห้งเหือดไปหมด “ท่านก็รู้ ว่าตัวข้าโง่เขลาแค่ไหน? ห๊า?”

เซียวเฉวียนมีสีหน้าท่าทางเสียใจดั่งแทบแตกสลาย เขารู้สึกว่าตนเองโง่เขลาสิ้นดี พร้อมมองฮ่องเต้อย่างคับแค้นใจ “ให้โอกาสคนอย่างข้าได้รับความรู้มากกว่านี้สักนิดจะได้หรือไม่? ห๊ะ?”

“โอ้ๆๆๆ ราชครู ข้ารู้แล้ว เมื่อกลับมาจากทำลายผลึก ข้าจะเปิดวิชานี้ให้ท่านเอง”

“ขอบคุณท่านมาก”

เซียวเฉวียนส่ายหน้า เงยหน้ามองดวงจันทร์ทอแสงสว่างบนฟากฟ้า ดอกไม้ห่อเหี่ยวอันสวยงามเหล่านี้ ทีแรกเข้าใจว่าเว่ยเชียนชิวเป็นคนที่ยากจะทำความเข้าใจด้วยแล้ว แต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า!

“ราชครู ท่านเป็นอะไรไป? ไม่ต้องกลัวไปเสีย คิดเสียว่าเหวอันยวนเป็นองค์ชายแห่งซินเจียง ข้าจะปกป้องท่านให้ถึงที่สุด!”

ฮ่องเต้กอบกุมมือเซียวเฉวียน แต่เซียวเฉวียนดันสะบัดออก “ฝ่าบาท ขอข้าอยู่เงียบๆผู้เดียว ตรงนี้วุ่นวาย ข้าอยากสงบจิตสงบใจสักพัก”

ถูกต้องแล้ว ในสายตาของเซียวเฉวียน เจ้าชายหมิงเจ๋ออะไรนั่นบ้าไปแล้วล่ะมั้ง

ปัญหาจริงๆคือไม่ได้กังวลเรื่องที่จะเกิดขึ้น แต่กลัวว่าจะมีผู้มีอำนาจยื่นมือเข้ามายุ่ง

มีอำนาจก็ช่างเถอะ กังวลแต่เพียงภรรยาของท่านพี่

ตอนนี้เซียวเฉวียนรู้สึกว่าตัวองค์หญิงอยู่ซินเจียงก็ดูไม่ปลอดภัยสักเท่าไหร่

หากไล่ล่าเซียวเฉวียนไม่สำเร็จ องค์ชายหมิงเจ๋อไม่แน่อาจเบนเข็มเป้าหมายไปที่องค์หญิงต้าถงเป็นแน่

“ฝ่าบาท องค์ชายหมิงเจ๋อปฏิบัติตัวอย่างไรกับองค์หญิง”

“ในตำหนักมีผู้ฝึกอสูร ข้าเตรียมการไว้ว่าจะเอาผู้ฝึกอสูรทั้งหมดออกไปทีเดียวพร้อมกัน แบบนี้ท่านราชครูก็ไม่ต้องกังวลอันใด พวกเขาว่านอนสอนง่าย ทำตามคำสั่งได้แน่นอน”

แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่ทีแรก เซียวเฉวียนจ้องเขม็ง เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่ามีผู้ฝึกอสูร?

ช่างเถอะ แม้แต่โหลวหลานเขาก็ยังไม่รู้จัก ไม่รู้ว่ามีผู้ฝึกอสูรก็ไม่เห็นแปลก

“ท่านราชครูรอสักครู่ ข้าใช้ตราประทับเหวินอิ้นส่งต่อคำสั่งก่อน”

ได้ยินฮ่องเต้พูดแบบนี้แล้วเซียวเฉวียนก็หันกลับมองด้วยความรู้สึกผิด

ตอนที่มีการชิงดีชิงเด่นในวัง เซียนชิวได้ทำตราประทับเหวินอิ้นของฮ่องเต้แตกเป็นสองส่วน อย่าบอกนะว่าเรื่องนี้ฮ่องเต้ก็ไม่รู้น่ะ?

เซียวเฉวียนก่อเรื่องไม่เห็นเป็นอะไร ยังไงๆก็ชินแล้ว เขาจัดการด้วยตัวเองได้

ตอนนี้เซียวชิวดูท่าว่าอยากจะสร้างเรื่องวุ่นวายให้ได้ เซียวเฉวียนก็จนปัญญา แต่แรกเขาวานให้เซี่ยวเฟิงกัดตราประทับมู่อวิ๋นแบ่งเป็นสองซีกแล้ว โดนเหล่าขุนนางทั้งหลายวิจารณ์อย่างหนัก แต่นั่นเป็นแค่ตราประทับเหวินอิ้นของรัฐ ทว่าตอนนี้เซียนชิวดันเอาเหวินอิ้นของฮ่องเต้มาหั่นซะเละเลย

โอ้ย…..

ดูท่าไม่ดีสักเท่าไหร่นะเนี่ย?

ฮ่องเต้เห็นท่าทางรู้สึกผิดของเซียวเฉวียนก็หัวเราะเบาๆ หยิบเหวินอิ้นที่สะอาดเอี่ยมไร้ร่องรอยออกมาจากแขน

เอ่อ?

ฮ่องเต้ใส่พลังภายในเข้าไปยังเหวินอิ้นด้วยน้ำเสียงดุดันน่าเกรงขาม เพื่อส่งต่อคำสั่งเข้าไปยังจวนสวี

“สวีซูผิงรับราชโองการ”

สวีซูผิงที่กำลังกินข้าวตกใจตัวสั่น เพียงแค่เห็นเหวินอิ้นสีแดงห้อยอยู่บนฟ้า เขาก็ตกใจจนเขวี้ยงตะเกียบทิ้งแล้วรีบคุกเข่า “กระหม่อมน้อมรับราชโองการ!”

“นำคำพูดของข้าไปบอกต่อเสีย ข้าสั่งการเจ้าให้นำตัวเซี่ยวเฟิงกับกิเลนส่งไปยังซินเจียง ส่วนที่อยู่สักครู่จะมีคนมาบอกท่าน”

“น้อมรับพะย่ะค่ะ! ฝ่าบาท!” สวีซูผิงผงกหัว

ตราสีแดงที่ลอยอยู่บนฟ้าเลือนหายไป เหวินอิ้นถูกส่งกลับไปยังฮ่องเต้แล้ว เซียวเฉวียนฉงน “ผู้ฝึกอสูรที่ท่านบอกคือใต้เท้าสวีงั้นหรือ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย