ก็ไม่แปลกที่เซียวเฉวียนจะตกตะลึง หากเขาไม่ได้ยินคำตรัสของฮ่องเต้ด้วยหูตัวเอง จะอย่างไรเขาก็ไม่มีทางคาดคิดได้ว่าสวีซูผิงกับผู้ฝึกอสูรนั้นจะมีความเกี่ยวข้องกันเลยสักนิด
สิ่งนี้ยากจะคิดเชื่อมกันได้เลย ว่าบัณฑิตตัวอย่างอย่างสวีซูผิงผู้นี้ ผู้ซึ่งวันๆ นอกจากกินตำแหน่งว่างๆ ในกรมการคลัง ผู้ที่มากสุดก็ซุบซิบนินทาหาเรื่องสนุกไปทั่ว! จะทำหน้าที่ควบอย่างผู้ฝึกอสูรอาชีพที่ฟังดูลึกลับมีเวทย์มนตร์เช่นนี้ด้วย?
แล้วที่สำคัญก็คือ หมอนี่มันไม่มีความกล้าสักหน่อย!
นี่มิใช่หรือไร สวีซูผิงเพิ่งจะถูกเซียวเฉวียนทำเอาตกใจเข้า จนเกือบจะกลิ้งหนีปัสสาวะราดอยู่แล้ว! คนเช่นนี้เนี่ยนะเป็นผู้ฝึกอสูรเรอะ!
ไม่! ไม่! ไม่! นี่หูของเขาต้องฝาดไปเองแล้วแน่ๆ!
เซียวเฉวียนอดที่จะเกาศีรษะไม่ได้ ให้สมองของเขาโล่งขึ้นสักหน่อย
ฮ่องเต้ที่อยู่อีกด้านหนึ่ง มองเห็นราชครูที่แต่ไรมานิ่งสงบประดุจท่อนไม้คล้ายถูกสายฟ้าฟาดเข้า คล้ายเขาถูกเทพใช้ขวานเบิกสมอง ก็ทรงยกพระโอษฐ์ยิ้ม “ท่านราชครูฟังไม่ผิดหรอก ครูฝึกอสูรก็คือสวีซูผิง!”
พระเจ้า!
นี่สุดท้ายแล้วต้าเว่ยมีพื้นฐานความรู้ทั่วไปให้เรียนอีกมากน้อยเท่าใดกัน สมองของเซียวติ้วผู้นี้ถึงได้ไม่มีอะไรอยู่เลย! กระทั่งความรู้พื้นฐานประเภทนี้กลับไม่มีเหลืออยู่อีก?
เซียวเฉวียนเกือบจะล้มพับแล้ว เซียวติ้งอยู่ในสังคมได้อย่างไรกันนะ! หากว่าต้าเว่ยยังมีอาชีพแฟนตาซีแบบครูฝึกอสูรได้เช่นนี้ อย่างน้อยทุกคนก็ควรจะรู้เท่าๆ กันสิ แต่ตัวเขาเซียวติ้งกลับไม่รู้!
ต่อให้อาศัยภูมิความรู้แบบคนโบราณก็เถอะ แต่ก็เป็นความรู้ทั่วไปในยุคโบราณนี่! จนใจที่ดัน! เซียวติ้งดันไม่เห็นความสำคัญของความรู้รอบตัวเอาซะเลย!
พระเจ้า! หากว่าข้าทำเรื่องอะไรผิดไป ก็ใช้กฎหมายลงโทษข้าสิ! เหตุใดต้องมาโยนข้าเอาไว้ที่นี่ ให้ทรมานข้าเช่นนี้ด้วย!
มาต้าเว่ยเนิ่นนานปานนี้ เซียวเฉวียนก็ได้แต่ทอดถอนใจอย่างไร้หนทางจะแก้ไขอีกครั้งหนึ่ง
“ราชครู จริงๆ แล้วเรื่องนี้ก็ไม่อาจจะโทษเซียวติ้วได้” ฮ่องเต้เข้าใจสภาพจิตใจของเซียวเฉวียนในเวลานี้อย่างยิ่ง ทรงเอ่ยปลอบประโลม “มีครูฝึกอสูรในต้าเว่ยอยู่ตลอด แต่ว่าน้อยครั้งนักที่จะได้ใช้ประโยชน์พวกเขา”
เซียวเฉวียนกลอกตาครั้งหนึ่ง ไม่โทษเซียวติ้งแล้วจะโทษใคร! หากว่าเซียวติ้งได้ที่สองในการประกวดคนโง่ในชีวิตประจำวันละก็ ก็คงไม่มีใครกล้ารับที่หนึ่งแล้ว!
นับแต่ที่เซียวเฉวียนมาต้าเว่ยจนถึงตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าถูกความโง่ของหมอนี่ขุดหลุมไปกี่รอบแล้วกัน!
ฮ่องเต้เผยรอยยิ้มเล็กน้อย ทรงเอ่ยตา “ราชครู อสูรต่อสู้มีน้อยยิ่ง ครูฝึกอสูรรายหนึ่งย่อมไม่อาจสร้างคลื่นลมอะไรได้ และไม่อาจสร้างผลกระทบต่อสถานการณ์ปัจจุบันใดๆ ผู้อื่นไม่รู้นั้นเป็นเรื่องปรกติยิ่ง”
ในเมื่อถูกหลงลืมบนโลก แล้วจะไปอยู่ในขั้นที่ผู้คนรู้จักได้อย่างไร
ครูฝึกอสูรของต้าเว่ยที่เก่งกาจและมีพรสวรรค์ที่สุดก็คือบิดาของสวีซูผิง ในปีนั้นปีศาจกวีสยบอสูรศึกเซียวเฟิง ก็เป็นบิดาของสวีซูผิงที่ลงแรงไปไม่น้อย
“แล้วเช่นนั้นบิดาของใต้เท้าเว่ยตอนนี้อยู่ที่ใดขอรับ?” เซียวเฉวียนสอบถามอย่างสงสัย ในเมื่อครูฝึกอสูรสิ้นไร้อนาคตปานนั้น แล้วครูฝึกอสูรที่โดดเด่นถึงขั้นมาอยู่หน้าพระพัตร์ฮ่องเต้ได้ต้องเก่งปานใด
ฮ่องเต้กระแอมไอเสียงเบา ก่อนจะเอ่ยด้วยพระพักตร์จริงจัง “บิดาของสวีซูผองในปีนั้นเพราะฝึกอสูรได้เก่งกาจ เจี้ยนกั๋วคิดจะดึงเขาเป็นพวกจะได้ช่วงใช้เขาเพียงคนเดียว แต่ว่าบนโลกใบนี้ก็มีคนที่เห็นเงินทองมีค่าดังชีวิต และแน่นอนว่ามีคนที่เห็นเงินทองเป็นดังกองดินอยู่ด้วย ไม่ว่าเจี้ยนกั๋วจะออกเงินให้เขามากเพียงไร เขาก็ไม่ยอมทำตามสักนิด”
“อ้อ อาจารย์ฟังเข้าใจแล้ว ดูจากนิสัยของเว่ยเชียนชิว หากทำไม่สำเร็จก็ทำลายทิ้ง! ดังนั้น บิดาของใต้เท้าสวีจึงสิ้นชีพใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ?”
เซียวเฉวียนใช้เท้าแตะหน้าผากก็สามารถคิดได้แล้วว่า ผู้ที่เข้าตาเว่ยเชียนชิวนั้นมีผลลัพธ์อยู่แค่สองประการ หากมิใช่ตอบรับคำเชิญของเขา ชีวิตทะยานสู่ความรุ่งโรจน์ ก็ปฏิเสธเขา จากนั้นชีวิตก็สิ้นสุดลงนับแต่ตรงนั้น
ในเมื่อบิดาของสวีซูผิงปฏิเสธไป เช่นนั้นก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะสูญสิ้นไป ณ ที่นี้!
“ท่านราชครูกล่าวไว้ไม่ผิด บิดาของใต้เท้าสวีมีคุณสมบัติพรสวรรค์ปานนี้ ต้องมาตายในมือของเว่ยเชียนชิว น่าเสียดายเป็นที่สุด...” สีหน้าของฮ่องเต้ทรงเต็มไปด้วยความโกรธ “ดังนั้น ราชครูไม่จำเป็นต้องกังวลใจไป มีใต้เท้าสวีอยู่ เซียวเฟิงกับกิเลนจะปกป้ององค์หญิงไปพร้อมกัน องค์หญิงกับลูกของท่านจะปลอดภัยไร้กังวลแน่นอน”
เซียวเฉวียนพยักหน้า จิตใจอันรุ่มร้อนของเขาในที่สุดก็สงบลงมาหน่อย
เรือนั้นลอยละล่องไปในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ นับจากเมืองหลวงถึงเกาะจูเสิน เรือจำต้องใช้เวลาประมาณครึ่งเดือน ระยะเวลานานเกินไปสักนิด
หากชิงหลงอยู่ที่นี่ด้วยก็คงจะดี เซียวเฉวียนคิดเช่นนี้
เมื่อเป็นแบบนี้ เขาและฮ่องเต้ก็สามารถหายตัวไปยังเกาะจูเสินได้ทันที
จนใจที่ว่าเจ้าหมอนี่กลับคุนหลุนไปแล้ว...เซียวเฉวียนแอบกำผ้าเช็ดหน้าของจิ่นเซ่อเงียบๆ เขามองไปยังท้องทะเลอันเวิ้งว้างเบื้องหน้า เขามีสังหรณ์หนึ่ง งานใหญ่ขนาดทำลายผนึกจูเสินนี้ ชิงหลงจะต้องมาแน่นอน
...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...