สรุปตอน บทที่ 787 อนุภาพของตราเหวินอิ้น – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
ตอน บทที่ 787 อนุภาพของตราเหวินอิ้น ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เซียวเฉวียนท่องบทกวีบทหนึ่งของหลี่เฮ่อ "เพลงผู้ว่าเยี่ยนเหมิน"
เมฆดำกลบเมืองเมืองจวนล้ม เกราะหันตะวันเห็นเกล็ดทอง
เสียงแตรดังก้องวันสารท เลือดแดงชายแดนกลายสีม่วง
ครึ่งธงสีแดงถึงอี้สุ่ย น้ำค้างลงหนักกลองไม่ดัง
รบเพื่อประเทศทูนเหนือหัว ควบดาบสู้ตายเพื่อท่านเอย
"พู่กันเฉียนคุน! ลุย!" ท่องจบบทกวีแล้ว เซียวเฉวียนก็ตะโกนเสียงดัง!
ในเวลานี้ใช้กวีบทนี้เหมาะสมที่สุดแล้ว ตราจูเสินดุร้ายขนาดนี้ เซียวเฉวียนและพู่กันเฉียนคุนต้องแหวกวงล้อมออกไปถึงจะมีทางรอดได้ !
พู่กันเฉียนคุนเหมือนถูกฉีดด้วยเลือดไก่ ฟื้นคืนชีพขึ้นมาทันที กระเหี้ยนกระหือรือกระโจนไปที่ตราจูเสิน
น้ำทะเลกำลังแรง คลื่นกระหน่ำซัดเข้าหาฝั่ง!
เหนือฟ้าเก้าชั้นนั่น เหมือนมีเสียงฟ้าร้องเป็นหมื่นลำเสียง!
พลังแรงของพู่กันเฉียนคุนเปรียบเสมือนนักรบผู้กล้าหาญ!
เทียบได้สู่สีกับตราจูเสิน!
เซียวเฉวียนผู้เรียนรู้วิธีปราบโดยใช้คำพูด ได้กำลังเพิ่มขึ้น บวกกับบทกวีที่เซียวเฉวียนท่องนั้นพลุ่งพล่านทรงพลังมาก!
พู่กันเฉียนคุนตัวเองก็มีกำลังแรงกล้า เสริมด้วยความสามารถด้านบทกวีของเซียวเฉวียน พู่กันเฉียนคุนสามารถแข่งขันกับตราจูเสินได้จึงไม่น่าแปลก
องค์จักรพรรดิเคยเห็นกำลังของเซียวเฉวียนมาก่อน ดังนั้นพระองค์จึงไม่แปลกใจ
แต่ฉินหลังตกตะลึงมากจนกรามแทบจะแนบไว้ไม่อยู่!
เซียวเฉวียนยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า? มันสามารถสู้กับตราจูเสินได้จริงๆ!
แม้แต่เซียวเทียน พ่อเซียวเฉวียน และปีศาจกวีอาจารย์ของเขาที่มีพรสวรรค์ล้ำเลิศขนาดนั้น ก็คงยังทำไม่ได้!
ชิงหลงอีกคนที่รู้สึกประหลาดใจพอๆ กับฉินหลัง ชิงหลงไม่ได้คิดว่าเพียงไม่ได้เจอกันช่วงเวลาสั้นๆ เซียวเฉวียนก็แข็งแกร่งพอที่จะต่อสู้กับตราจูเสินได้ ด้วยกำลังตัวเขาเพียงลำพัง
ดูเหมือนว่าตราจูเสินจะถูกทำลาย เป็นเรื่องที่แน่นอนยิ่งกว่าแน่อีก
แต่เซียวเฉวียนไม่ได้มองโลกในแง่ดีเหมือนชิงหลง เซียวเฉวียนรู้สึกได้ว่าตราจูเสินกำลังรวบรวมกำลังในตอนนี้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการระเบิดครั้งใหญ่
พู่กันเฉียนคุนเริ่มแสดงอาการเหนื่อยล้า หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป พู่กันเฉียนคุนคงไม่อาจประคองได้อีกต่อไปอย่างแน่นอน
“เจ้านาย รีบคิดหาทางเร็วๆ ข้าจะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว!” เสียงร้องขอความช่วยเหลืออย่างเหนื่อยเพลียของพู่กันเฉียนคุนส่งไปถึงหูของเซียวเฉวียน
”ฝ่าบาท ถึงเวลาที่เหวินอิ้นของพระองค์ออกศึกแล้ว!” เซียวเฉวียนเริ่มรู้สึกกังวล เซียวเฉวียนไม่รีรอแล้ว มีอาวุธอะไรที่ใช้ได้ใช้ไปให้หมดก่อนค่อยว่ากัน ต้านได้ระยะหนึ่งก็เอาระยะหนึ่งก่อน !
องค์จักรพรรดิก็เคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว พอได้ยินคำพูดของเซียวเฉวียน พระองค์ก็กัดนิ้วทันทีและหยดเลือดลงในตราเหวินอิ้นที่เฝ้ารอคอยมานาน
ตราประทับเหวินอิ้นสามารถปราบปรามผู้รู้หนังสือ ตราประทับจูเสินสามารถปราบปรามชาวคุนหลุน
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ตราเหวินอิ้นและตราจูเสินเป็นอาวุธมาจากต้นตระกูลต้นกำเนิดเดียวกัน เพียงแต่ความสามารถไม่เหมือนกันเท่านั้น
เช่นเดียวกับศิษย์พี่น้องในสำนักเดียวกัน ศิษย์พี่มีฝีมือแข็งแกร่งกว่าศิษย์น้อง ตราจูเสินเป็นศิษย์พี่ ตราเหวินอิ้นเป็นศิษย์น้องเล็กๆ
ตราประทับที่หยดเลือดขององค์จักรพรรดินั้น เหมือนกับได้รับคำสั่งของเจ้านาย เปล่งแสงสีแดงลอยอยู่กลางอากาศ
ตอนนี้คือศิษย์พี่และศิษย์น้องสำนักเดียวกันฆ่าฟันกันเอง !
แสงสีแดงของตราเหวินอิ้นและแสงสีแดงของตราจูเสินตัดพันกัน ก่อตัวเป็นสายฟ้า ระเบิดกลางอากาศอย่างต่อเนื่อง
แสงไฟสีแดงตัดพันกัน ก็ดูไม่ค่อยจะแทงตา!
องค์จักรพรรดิและเซียวเฉวียนมองดูตราเหวินอิ้นด้วยความประหลาดใจ ผลที่ได้นั้นโดดเด่นมาก!
เซียวเฉวียนส่งเสียงถึงพู่กันเฉียนคุน "พู่กันเฉียนคุน! รุกไป! อย่าถอย!"
พู่กันเฉียนคุนรับคำสั่งออกไป "ขอรับ! เจ้านาย!"
พู่กันเฉียนคุนรวบรวมกำลังเต็มที่ บุกโจมตีไปที่ตราจูเสิน!
ถูกโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า ตราจูเสินคลั่งสุดๆ แล้ว!
จางจิ่นไม่พอใจในเซียวเฉวียนมานานแล้ว แต่เจียนกั๋วดูเหมือนจะชอบเซียวเฉวียนมาก ไม่ว่าเซียวเฉวียนจะทำอะไร ถึงจะกระทบกับผลประโยชน์ของเจียนกั๋วก็ตาม เจียนกั๋วก็ไม่ว่าไม่โกรธ
จางจิ่นไม่รู้ว่าเจียนกั๋วกำลังคิดอะไรอยู่ เจียนกั๋วอารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย จางจิ่นกลัวที่จะทำให้เจียนกั๋วขุ่นเคืองและไม่กล้าว่าร้ายเซียวเฉวียนต่อหน้าเจียนกั๋วโดยตรง
ดังนั้น จางจิ่นจึงใช้กลยุทธ์อย่างอ้อมค้อมแนบเนียน หาเรื่องให้เซียวเฉวียนลำบาก
จางจิ่นจิบชาไปเรื่อยๆ ช้าๆ แล้วแสร้งทำเป็นสอบถามเว่ยเชียนชิวอย่างไม่ตั้งใจ "เจียนกั๋ว ชาในจวนของท่านหอมดีน่าชิมมาก ไม่ทราบใต้เท้าเซียวก็ชอบเช่นกันหรือเปล่า?"
เว่ยเชียนชิวพูดอย่างเย็นชา "ไม่รู้ เซียวเฉวียนไม่เคยดื่มชาของข้าเจียนกั๋ว"
จางจิ่นแอบภูมิใจ ดูเหมือนว่าเซียวเฉวียนไม่ได้เป็นที่รักชอบของเจียนกั๋วมากนัก เขาไม่เคยดื่มแม้แต่ชาที่จวนเจียนกั๋วด้วยซ้ำ
จางจิ่นแสร้งทำหน้าสงบนิ่งและพูดว่า "นั่นสิ ถ้าใต้เท้าเซียวเคยดื่มชาของเจียนกั๋วที่นี่ ท่านก็คงชอบเหมือนผู้น้อย และมาขอชาดื่มที่เจียนกั๋วนี้เป็นประจำ"
“มิน่า ทุกครั้งที่ผู้น้อยมาเจียนกั๋วนี้ ไม่เคยได้เจอใต้เท้าเซียวสักครั้ง”
ความหมายที่จะบ่งบอกก็คือ เซียวเฉวียนไม่มองเจียนกั๋วอยู่ในสายตา
เซียวเฉวียนไม่มองเว่ยเชียนชิวอยู่ในสายตา ผู้คนทั่วแผ่นดินรู้กันหมดแล้วมิใช่หรือ ?
ประเด็นนี้ของจางจิ่นทำให้เว่ยเชียนชิวเดือด แต่ต่อหน้าจางจิ่น เว่ยเชียนชิวไม่อาจแสดงความโกรธของเขา เขาเจียนกั๋วแท้ๆ เขาไม่อาจให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขารู้ว่าเขาเสียหน้าถึงขนาดนี้ให้กับเซียวเฉวียน
สำหรับคนอย่างเว่ยเชียนชิวที่อยากได้อะไรก็ได้อะไร เซียวเฉวียนคนนี้ขัดลูกตาจริงๆ
เว่ยเชียนชิวยังนิ่งเงียบ
จางจิ่นอยู่ในตำแหน่งราชการมาหลายปีแล้ว พอจะมีไหวพริบดูออกบ้าง เจียนกั๋วคนนี้ไม่พอใจเซียวเฉวียนแน่นอน
จางจิ่นรีบคว้าโอกาส "เจียนกั๋ว ผู้น้อยได้ยินมาว่าใต้เท้าเซียวหมู่นี้งานยุ่งมาก ใต้เท้าเซียวกำลังทำลายตราจูเสิน!"
เซียวเฉวียนทำลายตราจูเสิน?
เว่ยเชียนชิวเบิกตากว้าง "อะไรนะ!"
ทันใดนั้นสายลับก็เข้ามาด้วยด้วยลมหายใจหืดหอบ "เจียนกั๋ว! เจียนกั๋ว! เกิดเรื่องใหญ่! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...