อ่านสรุป บทที่ 798 สี่ผู้อาวุโส จาก ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บทที่ บทที่ 798 สี่ผู้อาวุโส คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยายจีนโบราณ ซูเปอร์ลูกเขย ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
กองทัพตระกูลเซียวเป็นอะไร!
นั่นเป็นกองทัพที่ทรงพลังมากที่สุดในราชวงศ์ต้าเว่ย
บวกกับเซียวเทียนที่นำทัพดั่งเทพเจ้า กองทัพตระกูลเซียวจึงกล่าวได้ว่ารบเมื่อไรชนะเมื่อนั้น หามีคู่ต่อสู้ไม่!
เป็นกองทัพที่ประเทศศัตรูหวาดกลัวอย่างยิ่ง!
และผู้นำของกองทัพ เซียวเทียน เป็นบุคคลแรกในราชวงศ์ต้าเว่ยที่ได้สัมผัสทะเลกวีคุนหลุน!
เฉพาะดาบฉุนจวินของเขาเล่มนั้น ก็สามารถทำให้ผู้คนสยบอยู่ตรงหน้า
แม่ทัพผู้นำที่ทรงพลังและกองทัพที่แข็งแกร่งเช่นนี้ก็ยังพ่ายแพ้ให้กับนักรบแท้ของเขา! ดาวที่ส่องแสงร่วงหล่นตั้งแต่นั้นมา ไม่มีกองทัพตระกูลเซียวในโลกนี้อีกต่อไป!
ตระกูลเซียวก็ตกอับตั้งแต่นั้นมา!
ตอนนี้เซียวเฉวียนเพียงคนเดียว กล้าที่จะมาส่งเสียงเอะอะกับเว่ยเชียนชิว? เขาพิจารณาดูตัวเองแล้วหรือว่าจะเอาอะไรมาสู้!
เว่ยเชียนชิวสามารถใช้นิ้วบดขยี้เซียวเฉวียนแค่เบาๆ ก็ไม่เหลือซากได้!
ฮึ !
พอคิดได้เช่นนี้ ในที่สุดเว่ยเชียนชิวก็ปลอบใจตัวเองได้บ้าง และคลายความโกรธเคืองในใจไปเกือบครึ่ง
เขาขยี้คิ้วตาซึ่งปวดเมื่อยเนื่องจากความโมโห และเริ่มพักจิตใจ
เขาจะต้องฟื้นประสาทของเขาก่อนที่จะไปจัดการกับเด็กที่ยโสโอหัง ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำจากครอบครัวต่ำต้อยคนนั้น!
............
............
ที่เทือกเขาคุนหลุน
ชิงหลงกลับมาที่คุนหลุนพร้อมกับข่าวดีอันยิ่งใหญ่ ตราจูเสินถูกทำลายในที่สุด ทุกคนในคุนหลุนก็ตื่นเต้นอย่างเดือดพล่าน!
พวกเขารอนาทีนี้มานานมากเกินไปแล้ว!
เคยคิดว่าพวกเขาจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในดินแดนแห้งแล้งนี้ไปทุกชั่วโคตร ไม่มีวันที่จะเงยหัวได้
ไม่คิดว่า เป็นเซียวเฉวียนที่ให้ความหวังแก่พวกเขา ช่วยพวกเขากำจัดการกดบังคับของตราจูเสิน!
ในขณะที่ชาวคุนหลุนตื่นเต้นดีใจ และรู้สึกซาบซึ้งต่อเซียวเฉวียน
แต่พอพวกเขารู้ว่าคำสาบานของเจ้าชายเป็นไปตามคำขอของเซียวเฉวียน ความซาบซึ้งใจที่มีต่อเซียวเฉวียนก็จางหายไปทันที
ราชวงศ์ต้าเว่ยเป็นสถานที่ที่มีทรัพยากรอุดมที่สุดในโลก เนื้อชิ้นโตนี้พวกเขาจ้องไว้จะกินแน่แล้ว แต่ตอนนี้เซียวเฉวียนได้ก้าวเข้ามาขวางและเล่นให้เจ้าชายให้คำสาบานในนามของคุนหลุน จบกัน เนื้อชิ้นโตหมดกัน!
เห็นเนื้อชิ้นโตๆ ที่กำลังจะเข้าปากแต่กลืนไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ คงอึดอัดน่าดู!
ผลก็คือ ความปีติยินดีจากการที่ตราจูเสินถูกทำลายก็จางหายไปมาก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเนื้อชิ้นโตจะอดกิน แต่เนื้อชิ้นเล็ก และเศษเนื้อก็ยังดีกว่าไม่มีเลย ชาวคุนหลุนยังคงเตรียมพร้อมอย่างสนอกสนใจสำหรับกิจการใหญ่ของพวกเขา เริ่มหารือเรื่องราวเกี่ยวกับการขยายอาณาเขต
ภายในตำหนักประชุมของคุนหลุน
ชิงหลงนั่งอยู่บนที่นั่งหลัก ตั้งแต่กลับมาจากราชวงศ์ต้าเว่ย สีหน้าอารมณ์เบิกบานของเขายังไม่จางหาย ยังคงมีรอยยิ้มที่ไม่อาจซ่อนเร้นอยู่ทั้งสองข้างของปาก
แต่ที่ด้านล่างทางซ้าย ผู้อาวุโสอวิ๋นเฮ่อนั่งอยู่ ใบหน้าดูมืดมนไร้ความสุข โกรธพลางเป่าเคราและจ้องตามอง
ในตอนแรก เขากักขังชิงหลงไว้ในเขาคุนหลุนเพื่อป้องกันไม่ให้ชิงหลงลงไปย่ำในน้ำโคลนที่เซียวเฉวียนทำลายตราจูเสิน แต่ไม่คิดว่าชิงหลงก็ยังหลบหนีออกไปได้! ยังเชื่อคำโกหกของเซียวเฉวียนและให้คำสาบานในนามของคุนหลุนด้วย!
ประเด็นสำคัญก็คือเซียวเฉวียนประสบความสำเร็จในการทำลายตราจูเสินด้วย!
อวิ๋นเฮ่อหน้าแก่แตกสลาย!
ชาวคุนหลุนก็จะติดอยู่ในคุนหลุนซึ่งเป็นสถานที่ที่แม้นกก็ยังไม่อยากมาขี้ตลอดไป
แต่จากมุมมองของคุนหลุน คำพูดของผู้อาวุโสอวิ๋นเฮ่อนั้นก็ไม่ได้ไร้เหตุผล แต่เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว เป็นข้อยุติแล้ว ชิงหลงก็ไม่อยากจะทำร้ายจิตใจผู้อาวุโสคนนี้ที่ห่วงใยเกี่ยวกับคุนหลุน เขาพูดใจอ่อน "ผู้อาวุโสพูดถูก ข้าทำให้ท่านผิดหวังเพราะคิดไม่รอบคอบและกระทำไปอย่างประมาท”
เดิมทีผู้อาวุโสอวิ๋นเฮ่อคิดจะพูดต่อไม่เลิก แต่เมื่อเห็นว่าท่าทีของเจ้าชายจริงใจขนาดนี้ เขาจึงกลืนคำพูดทั้งหมดที่กำลังจะพูดออกมาจากปาก สุดท้ายเขาก็เอ่ยอย่างช่วยไม่ได้ "เรื่องมาถึงนี้แล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดมากกว่านี้ หวังว่าเจ้าชายจะระวังมากขึ้นในอนาคต อย่าไปหลงกลของเซียวเฉวียนอีกเป็นอันขาด!”
สำหรับเซียวเฉวียนคนนั้น เขาจะต้องฆ่าให้ตายไม่ช้าก็เร็ว! สำหรับราชวงศ์ต้าเว่ย แม้ไม่ใช้กองทัพ เขาก็มีหลายวิธีที่จะทำให้ต้าเว่ยล่มสลายได้ !
ตอนนี้ ผู้อาวุโสอีกสามคนที่เหลือเดินเข้ามาทีละคน ทั้งสามคนถือไม้ค้ำยันที่มีลวดลายตรงกับชื่อของพวกเขา
อย่างไม้ค้ำของผู้อาวุโสอวิ๋นเฮ่อ สลักด้วยนกกระเรียนสีขาวดูเหมือนมีชีวิต
ที่เดินอยู่ข้างหน้าสุดคือผู้อาวุโสฉางซง และไม้ค้ำก็สลักด้วยต้นสนเขียวชอุ่ม
ตรงกลางคือผู้อาวุโสเจี้ยนหลาน และสิ่งที่สลักไว้บนไม้ค้ำคือต้นใบดาบที่มีดอกไม้สีขาว
คนสุดท้ายที่เข้ามาคือผู้อาวุโสชีซิง ซึ่งบนไม้ค้ำมีผังกลดาวเจ็ดดวงสลักอยู่
ผู้อาวุโสทั้งสี่ทุกคนมีหนวดเคราสีขาวและผมสีขาว แต่พวกเขามีร่างลมญาณดีมาก ไม่เพียงแต่ดูไม่แก่ แต่ยังดูเหมือนเทวดานักบวช ทำให้ผู้พบเห็นเกิดความเคารพเกรงกลัว
สี่ผู้อาวุโสนั้น อวิ๋นเฮ่อและชีซิงสอนวิชาการต่อสู้และวิชาลับให้ชิงหลง ฉางซงและเจี้ยนหลานมีหน้าที่หลักในการสอนชิงหลงถึงวิถีของราชาและมนุษย์สัมพันธ์
ในทั้งสี่ผู้อาวุโส พวกเขาเคารพผู้อาวุโสอวิ๋นเฮ่อเป็นผู้นำ ไม่ใช่เพราะเขาอายุมากที่สุด แต่เพราะเขาแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาสี่คน
อาจารย์ทั้งสี่นั่งอยู่ด้วยกัน ความกดดันมหาศาลก็เกิดขึ้นในใจของชิงหลงทันที ชิงหลงแอบลุ้นจนเหงื่อออก
และในขณะนี้ เสียงของเซียวเฉวียนดังขึ้นอยู่ในหูของชิงหลง
“ชิงหลง ข้ามีบางสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งจะไหว้วานเจ้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...