ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 801

สรุปบท บทที่ 801 โดดเดี่ยวลำพัง: ซูเปอร์ลูกเขย

สรุปเนื้อหา บทที่ 801 โดดเดี่ยวลำพัง – ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

บท บทที่ 801 โดดเดี่ยวลำพัง ของ ซูเปอร์ลูกเขย ในหมวดนิยายนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เฮยหลังรู้ดีว่าตัวเองไม่อาจจะสู้กระบี่วิญญาณได้ กลยุทธ์สามสิบหกประการ การวิ่งหนีนับเป็นอย่างแรก!

ขณะที่เฮยหลังกำลังคิดจะหนีและเพิ่งจะหนีไปได้สองก้าวนั้น ก็ถูกเสี่ยวเซียนชิวเข้ามาขวางทางไว้ก่อน

เพียงเห็นร่างของนางลอยพริ้วดุจดังเทพเซียนก็ไม่ปานลอยขึ้นไปหยุดฝีเท้าอยู่บนยอดไม้สูงชะลูด จากนั้นก็มองลงมาที่เขาด้วยสายตาก้มต่ำ หว่างคิ้วนัยน์ตาของนางมีแต่ความไม่พอใจ “คิดหนี? ไม่ประมาณกำลังเอาเสียเลย!”

นี่...หนีไม่พ้น แถมยังสู้ไม่ได้อีก จะไปดีได้อย่างไร!

ทันใดนั้นอัศวินดำเฮยหลังก็พลันตระหนกตกใจขึ้นมา เขาติดตามเว่ยเชียนชิวมานานปีปานนี้ เขาเข้าใจนิสัยของเว่ยเชียนชิวเป็นอย่างดี หากว่าวันนี้เขาจัดการเรื่องนี้ไม่เรียบร้อย โทสะของเว่ยเชียนชิวคงได้ผลาญเหล่าคนรับใช้ในจวนเจี้ยนกั๋วจนตัวสั่นงันงกกันหมดแน่!

และในระหว่างนี้ เจี้ยนกั๋วเองก็จะสงสัยความสามารถในการจัดการปัญหาของเขาอย่างยิ่ง จะไม่เห็นค่าความสำคัญของเขาอีก!

แต่ไหนแต่ไรมาเว่ยเชียนชิวไม่คิดเลี้ยงคนไร้ประโยชน์ เช่นนั้นจุดจบของเขาคงไม่ต่างจากสุนัขข้างถนน!

ภายในใจของเฮยหลังกำลังตรึกตรอง สรรพสิ่งในใต้หล้าล้วนมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบต่อกัน เขาไม่กลัวหรอก กระบี่วิญญาณต้องมีจุดอ่อน!

กระบี่วิญญาณ กระบี่...

กระบี่วิญญาณก่อกำเนิดจากไฟ! บางทีมันอาจจะแพ้ไฟก็ได้! ภายในใจของเฮยหลังอดลิงโลดขึ้นมาไม่ได้!

เฮยหลังแอบเคลื่อนกำลังภายในเงียบๆ อาศัยจังหวะที่เสี่ยวเซียนชิวไม่ทันระวังทะยานร่างกายไปอย่างรวดเร็วในพริบตา เขาจุดเพลิงกลางฝ่ามือใช้มันโจมตีเสี่ยวเซียนชิว

เสี่ยวเซียนชิวพริ้วกายเพื่อหลบเพลิงกลางฝ่ามือของเฮยหลังให้ไว ทว่าเพลิงที่อยู่กลางฝ่ามือของเฮยหลังนั้นยิ่งมายิ่งแผดเผาลุกโชน กระแสเพลิงโหมทะยานไกล คล้ายกับงูยาวตัวหนึ่งที่กำลังพิโรธก็ไม่ปาน มันไล่เสี่ยวเซียนชิวอย่างไม่ลดละ!

เงาร่างของนางยิ่งมาก็ยิ่งต้องเร่งจังหวะหลับการรุกไล่โจมตีของเปลวเพลิง เปลวเพลิงเองก็ไล่ฟาดฟันกับนางอย่างเต็มพลังไม่ลดละ เปลวเพลิงส่งเสียง “ฉ่าๆ” อย่างตื่นเต้น เฮยหลังเห็นเสี่ยวเซียนชิวเอาแต่ป้องกันไม่รุกโจมตีอีก เขาก็อดดีใจขึ้นมาไม่ได้ ที่แท้นางก็กลัวไฟจริงๆ ด้วย!

นี่กลับเป็นการกำจัดโอกาสอันดีครั้งใหญ่ของนางไปเสียแล้ว!

เฮยหลังใช้พลังทั้งร่างเพื่อเคลื่อนกำลังภายในของตนเอง เปลวเพลิงยิ่งมาก็ยิ่งขยายใหญ่ ในเวลาเดียวกันก็เปลี่ยนเป็นกระแสเพลิงไม่รู้กี่สาย ประหนึ่งลูกธนูอันแหลมคมที่พุ่งแทงร่างของเสี่ยวเซียนชิว

เงาร่างของเสี่ยวเซียนชิวขยับหลบเร็วนี่ แต่กลับยังโดยหนึ่งในกระแสเพลิงปาดไหล่จนบาดเจ็บเข้า

เสี่ยวเซียนชิวเห็นท่าไม่ดี ไม่คิดจะต่อสู้อีก นางจึงรีบหายตัวหลบหนีเข้าจวนเซียวไป

...

...

จวนเซียว

หอบรรพชน

เหลือเพียงเซียวเฉวียนผู้เดียว

หลังจากที่จ้าวหลานมาแล้ว ไม่นานนัก หลี่มู่ก็มา

หลี่มู่เป็นคนดื้อรั้นดื้อดัง ไม่กลัวสิ่งใด

เขายังเป็นผู้อารักขาของเหวินฮั่น ส่วนเซียวเฉวียนเป็นศิษย์ก้นกุฏิของอีกฝ่าย

อีกทั้งเหวินฮั่นยังสั่งเสียให้หลี่มู่คอยปกป้องเซียวเฉวียนให้ดีก่อนจากไป

ดังนั้นแล้ว การที่หลี่มู่จะมานั้นกลับไม่ได้ทำให้เซียวเฉวียนประหลาดใจไปมากเท่าไหร่

หลี่มู่มองเซียวเฉวียนด้วยอารามปวดใจสุดขีด เขาคิดอยากพูดอะไรสักอย่างแต่กลับหยุดวาจาเอาไว้

เบื้องหน้าความตาย วาจาใดๆ ก็ดูไร้น้ำหนักไปเสียหมด

หลังจากที่จ้าวหลานกับหลี่มู่ทำพิธีคารวะเสร็จและครั้งก่อนหน้าหลี่มู่แสร้งเสียชีวิต บาดแผลยังไม่ทันได้หายดีสมบูรณ์ ด้วยความที่เซียวเฉวียนเกรงว่าเว่ยเชียนชิวจะกระทำเรื่องชั่วใส่ทั้งสอง จึงเรียกให้ไป๋ฉี่กับเหมิงเอ้าส่งพวกเขากลับไป

เขาถือโอกาสส่งไป๋ฉี่กับเหมิงเอ้าไปสำรวจสถานการณ์ในเมืองหลวง หากว่ามีความเคลื่อนไหวใดให้กลับมารายงานให้ตรงเวลาด้วย

ดังนั้นแล้ว ยามที่เสี่ยวเซียนชิวหอบหายใจ สีหน้าซีดขาวปรากฏตัวขึ้นในศาลบรรพชนนั้น ในศาลบรรพชนจึงเหลือเซียวเฉวียนเพียงคนเดียว

เสี่ยวเซียนชิวไปคุนหลุนมารอบหนึ่งแต่กลับมาก็บาดเจ็บปานนี้เลยหรือ? บนโลกใบนี้คนที่ทำร้ายเสี่ยวเซียนชิวได้นั้นมีจำนวนน้อยยิ่งกว่าน้อย! หว่างคิ้วเย็นชาของเซียวเฉวียนกลับเผยประกายเย็นชามากขึ้นไปอีก

“ท่านพ่อ ข้าเหนื่อยมาก ข้าอยากพักผ่อน” น้ำเสียงของเสี่ยวเซียนชิวนั้นไม่ได้มีชีวิตชีวาเหมือนวันก่อนๆ น้ำเสียงของนางอ่อนแรงคล้ายกับป่วยหนักก็ไม่ปาน

“เข้ามาในหว่างคิ้วข้าซิ”

พอได้รับอนุญาตจากบิดาแล้ว เสี่ยวเซียนชิวก็กลายร่างเป็นแสงดัง “ฟึ่บ” ม้วนเข้าไปในหว่างคิ้วของเซียวเฉวียน

เสี่ยวเซียนชิวด้านหนึ่งคิดพักผ่อน อีกด้านหนึ่งก็ใช้ดวงจิตสื่อสารกับเซียวเฉวียนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่

เซียวเฉวียนยิ่งฟังสีหน้าก็ยิ่งเย็นชา “พ่อรู้แล้ว เว่ยเชียนชิวคนหนึ่ง พ่อรับมือได้อยู่!”

นัยน์ตาทั้งสองข้างของเซียวเฉวียนทอประกายเย็นเยียบน่าหวาดหวั่น

กระบี่ชีวันเก่งกาจปานใด เขาล้วนไม่เคยกลัวมาก่อน!

แล้วชาวยุทธ์แท้เขาจะไปกลัวได้เช่นไร!

หลังจัดพิธีศพเสร็จ เรื่องใหญ่ที่แท้จริงก็สมควรจะเริ่มได้สักที!

ในเวลานี้ เพลิงโทสะลุกโชนขึ้นในหัวใจของเซียวเฉวียน สัญชาตญาณของเสี่ยวเซียนชิวสัมผัสได้ถึงความกลัว พลางรีบกระโจนออกจากหว่างคิ้วของเซียวเฉวียน

ภายในใจของนางสงสัยเป็นที่ยิ่ง ตอนนี้เหตุใดนางไม่สามารถอิงแอบอยู่ในหว่างคิ้วของบิดานางได้ล่ะ?

เพียงแต่มันตระหง่านอยู่ตรงนั้น ไม่แก่งแย่งผู้ใด แจ้งข่าวการผลิบาน

รอจนกระทั่งดอกไม้เบ่งบานกลางภูเขา แล้วมันค่อยแย้มสรวลท่ามกลางดอกใบ

พอท่องกลอนนี้จบ เซียวเฉวียนก็ตะโกนเสียงดัง “จู!”

สายลมพัดผ่านขึ้นมา ด้านบนจวนเซียวนั้นเมฆหมอกปกคลุมไปทั่ว เกล็ดหิมะขนาดใหญ่ร่วงลงมา พาให้เหล่าชาวบ้านตะลึงเหม่อมอง หิมะปีนี้ถึงกับหนักกว่าปีที่แล้วหรือ?

เซียวเฉวียนรู้สึกว่าตนเองอยู่ท่ามกลางแผ่นน้ำแข็งสูงร้อยจ้าง ทั้งร่างปลอดโปร่งสบายบอกไม่ถูก

“เซียวเฉวียน...” ผนึกจูเสินได้แต่ตะโกนใส่เซียวเฉวียนอย่างไม่ยอมแพ้ยิ่ง

เพลิงภายในร่างของเซียวเฉวียนนั้น พลันหายไปในพริบตาทั้งสิ้น เสียงไฟดับลง “ซู่” นั้นยังไม่ทันได้ดังขึ้นด้วยซ้ำ ตอนมามาอย่างกระหน่ำท่วมท้น ยามไปกลับไม่เห็นร่องรอย!

สีหน้าของเซียวเฉวียนกลับมาเป็นปรกติอีกครั้งได้สักที

ทว่า หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปก็ไร้หนทางแก้ เขาจำเป็นต้องหาวิธีในการกำรอบผนึกจูเสินให้หมดจด!

บางที หากรู้ว่าใครเป็นคนที่สร้างผนึกจูเสิน เขาก็คงหาวิธีการได้

“ผนึกจูเสิน อยากให้ข้าปล่อยเจ้าไปก็ได้ เจ้าบอกข้าสิว่าใครเป็นนายของเจ้า” เซียวเฉวียนใช้ดวงจิตอันเย็นชาเอ่ยขึ้น เขารออยู่ครึ่งครู่ ก็ยังไม่ได้ยินเสียงตอบกลับของผนึกจูเสิน

คิดแล้ว ผนึกจูเสินที่ดื้อดึงก็คงไม่ยอมบอกเขาเป็นแน่!

เรื่องนี้ วันข้างหน้าค่อยคิดหาวิธี

เซียวเฉวียนกุมหมัด เขานั่งพาดขาพักผ่อน

ด้านหลังของเขานั้น คือโลงศพไม้สิบแปดโลง

ผู้ที่ตายไป ไม่มีองค์หญิงต้าถงและเซียวจิง

ทว่าเซียวเฉวียนก็นับโลงไม้ให้พวกนางทั้งสองด้วย นับแต่วันนี้ ในสายตาของคนบนโลก พวกนางทั้งสองไม่อยู่แล้ว

เซียวเฉวียนกลายเป็นพ่อม่ายโดดเดี่ยวลำพังตามที่คนว่ากัน

สายตาของเซียวเฉวียนเป็นประกายเพลิงรุนแรง ภายใต้ธงนำวิญญาณสีขาวสะบัดไหว เพลิงในใจของเขานั้นพลันทะยานขึ้นมาอีกครั้ง!

ต่อแต่นี้ไป เขาเซียวเฉวียนไม่มีจุดอ่อนแล้ว!

นับแต่นี้ไป ตระกูลเซียวมีแต่ต้องรบโดยไม่หยุดพัก!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย