เฮยหลังรู้ดีว่าตัวเองไม่อาจจะสู้กระบี่วิญญาณได้ กลยุทธ์สามสิบหกประการ การวิ่งหนีนับเป็นอย่างแรก!
ขณะที่เฮยหลังกำลังคิดจะหนีและเพิ่งจะหนีไปได้สองก้าวนั้น ก็ถูกเสี่ยวเซียนชิวเข้ามาขวางทางไว้ก่อน
เพียงเห็นร่างของนางลอยพริ้วดุจดังเทพเซียนก็ไม่ปานลอยขึ้นไปหยุดฝีเท้าอยู่บนยอดไม้สูงชะลูด จากนั้นก็มองลงมาที่เขาด้วยสายตาก้มต่ำ หว่างคิ้วนัยน์ตาของนางมีแต่ความไม่พอใจ “คิดหนี? ไม่ประมาณกำลังเอาเสียเลย!”
นี่...หนีไม่พ้น แถมยังสู้ไม่ได้อีก จะไปดีได้อย่างไร!
ทันใดนั้นอัศวินดำเฮยหลังก็พลันตระหนกตกใจขึ้นมา เขาติดตามเว่ยเชียนชิวมานานปีปานนี้ เขาเข้าใจนิสัยของเว่ยเชียนชิวเป็นอย่างดี หากว่าวันนี้เขาจัดการเรื่องนี้ไม่เรียบร้อย โทสะของเว่ยเชียนชิวคงได้ผลาญเหล่าคนรับใช้ในจวนเจี้ยนกั๋วจนตัวสั่นงันงกกันหมดแน่!
และในระหว่างนี้ เจี้ยนกั๋วเองก็จะสงสัยความสามารถในการจัดการปัญหาของเขาอย่างยิ่ง จะไม่เห็นค่าความสำคัญของเขาอีก!
แต่ไหนแต่ไรมาเว่ยเชียนชิวไม่คิดเลี้ยงคนไร้ประโยชน์ เช่นนั้นจุดจบของเขาคงไม่ต่างจากสุนัขข้างถนน!
ภายในใจของเฮยหลังกำลังตรึกตรอง สรรพสิ่งในใต้หล้าล้วนมีข้อได้เปรียบเสียเปรียบต่อกัน เขาไม่กลัวหรอก กระบี่วิญญาณต้องมีจุดอ่อน!
กระบี่วิญญาณ กระบี่...
กระบี่วิญญาณก่อกำเนิดจากไฟ! บางทีมันอาจจะแพ้ไฟก็ได้! ภายในใจของเฮยหลังอดลิงโลดขึ้นมาไม่ได้!
เฮยหลังแอบเคลื่อนกำลังภายในเงียบๆ อาศัยจังหวะที่เสี่ยวเซียนชิวไม่ทันระวังทะยานร่างกายไปอย่างรวดเร็วในพริบตา เขาจุดเพลิงกลางฝ่ามือใช้มันโจมตีเสี่ยวเซียนชิว
เสี่ยวเซียนชิวพริ้วกายเพื่อหลบเพลิงกลางฝ่ามือของเฮยหลังให้ไว ทว่าเพลิงที่อยู่กลางฝ่ามือของเฮยหลังนั้นยิ่งมายิ่งแผดเผาลุกโชน กระแสเพลิงโหมทะยานไกล คล้ายกับงูยาวตัวหนึ่งที่กำลังพิโรธก็ไม่ปาน มันไล่เสี่ยวเซียนชิวอย่างไม่ลดละ!
เงาร่างของนางยิ่งมาก็ยิ่งต้องเร่งจังหวะหลับการรุกไล่โจมตีของเปลวเพลิง เปลวเพลิงเองก็ไล่ฟาดฟันกับนางอย่างเต็มพลังไม่ลดละ เปลวเพลิงส่งเสียง “ฉ่าๆ” อย่างตื่นเต้น เฮยหลังเห็นเสี่ยวเซียนชิวเอาแต่ป้องกันไม่รุกโจมตีอีก เขาก็อดดีใจขึ้นมาไม่ได้ ที่แท้นางก็กลัวไฟจริงๆ ด้วย!
นี่กลับเป็นการกำจัดโอกาสอันดีครั้งใหญ่ของนางไปเสียแล้ว!
เฮยหลังใช้พลังทั้งร่างเพื่อเคลื่อนกำลังภายในของตนเอง เปลวเพลิงยิ่งมาก็ยิ่งขยายใหญ่ ในเวลาเดียวกันก็เปลี่ยนเป็นกระแสเพลิงไม่รู้กี่สาย ประหนึ่งลูกธนูอันแหลมคมที่พุ่งแทงร่างของเสี่ยวเซียนชิว
เงาร่างของเสี่ยวเซียนชิวขยับหลบเร็วนี่ แต่กลับยังโดยหนึ่งในกระแสเพลิงปาดไหล่จนบาดเจ็บเข้า
เสี่ยวเซียนชิวเห็นท่าไม่ดี ไม่คิดจะต่อสู้อีก นางจึงรีบหายตัวหลบหนีเข้าจวนเซียวไป
...
...
จวนเซียว
หอบรรพชน
เหลือเพียงเซียวเฉวียนผู้เดียว
หลังจากที่จ้าวหลานมาแล้ว ไม่นานนัก หลี่มู่ก็มา
หลี่มู่เป็นคนดื้อรั้นดื้อดัง ไม่กลัวสิ่งใด
เขายังเป็นผู้อารักขาของเหวินฮั่น ส่วนเซียวเฉวียนเป็นศิษย์ก้นกุฏิของอีกฝ่าย
อีกทั้งเหวินฮั่นยังสั่งเสียให้หลี่มู่คอยปกป้องเซียวเฉวียนให้ดีก่อนจากไป
ดังนั้นแล้ว การที่หลี่มู่จะมานั้นกลับไม่ได้ทำให้เซียวเฉวียนประหลาดใจไปมากเท่าไหร่
หลี่มู่มองเซียวเฉวียนด้วยอารามปวดใจสุดขีด เขาคิดอยากพูดอะไรสักอย่างแต่กลับหยุดวาจาเอาไว้
เบื้องหน้าความตาย วาจาใดๆ ก็ดูไร้น้ำหนักไปเสียหมด
หลังจากที่จ้าวหลานกับหลี่มู่ทำพิธีคารวะเสร็จและครั้งก่อนหน้าหลี่มู่แสร้งเสียชีวิต บาดแผลยังไม่ทันได้หายดีสมบูรณ์ ด้วยความที่เซียวเฉวียนเกรงว่าเว่ยเชียนชิวจะกระทำเรื่องชั่วใส่ทั้งสอง จึงเรียกให้ไป๋ฉี่กับเหมิงเอ้าส่งพวกเขากลับไป
เขาถือโอกาสส่งไป๋ฉี่กับเหมิงเอ้าไปสำรวจสถานการณ์ในเมืองหลวง หากว่ามีความเคลื่อนไหวใดให้กลับมารายงานให้ตรงเวลาด้วย
ดังนั้นแล้ว ยามที่เสี่ยวเซียนชิวหอบหายใจ สีหน้าซีดขาวปรากฏตัวขึ้นในศาลบรรพชนนั้น ในศาลบรรพชนจึงเหลือเซียวเฉวียนเพียงคนเดียว
เสี่ยวเซียนชิวไปคุนหลุนมารอบหนึ่งแต่กลับมาก็บาดเจ็บปานนี้เลยหรือ? บนโลกใบนี้คนที่ทำร้ายเสี่ยวเซียนชิวได้นั้นมีจำนวนน้อยยิ่งกว่าน้อย! หว่างคิ้วเย็นชาของเซียวเฉวียนกลับเผยประกายเย็นชามากขึ้นไปอีก
“ท่านพ่อ ข้าเหนื่อยมาก ข้าอยากพักผ่อน” น้ำเสียงของเสี่ยวเซียนชิวนั้นไม่ได้มีชีวิตชีวาเหมือนวันก่อนๆ น้ำเสียงของนางอ่อนแรงคล้ายกับป่วยหนักก็ไม่ปาน
“เข้ามาในหว่างคิ้วข้าซิ”
พอได้รับอนุญาตจากบิดาแล้ว เสี่ยวเซียนชิวก็กลายร่างเป็นแสงดัง “ฟึ่บ” ม้วนเข้าไปในหว่างคิ้วของเซียวเฉวียน
เสี่ยวเซียนชิวด้านหนึ่งคิดพักผ่อน อีกด้านหนึ่งก็ใช้ดวงจิตสื่อสารกับเซียวเฉวียนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
เซียวเฉวียนยิ่งฟังสีหน้าก็ยิ่งเย็นชา “พ่อรู้แล้ว เว่ยเชียนชิวคนหนึ่ง พ่อรับมือได้อยู่!”
นัยน์ตาทั้งสองข้างของเซียวเฉวียนทอประกายเย็นเยียบน่าหวาดหวั่น
กระบี่ชีวันเก่งกาจปานใด เขาล้วนไม่เคยกลัวมาก่อน!
แล้วชาวยุทธ์แท้เขาจะไปกลัวได้เช่นไร!
หลังจัดพิธีศพเสร็จ เรื่องใหญ่ที่แท้จริงก็สมควรจะเริ่มได้สักที!
ในเวลานี้ เพลิงโทสะลุกโชนขึ้นในหัวใจของเซียวเฉวียน สัญชาตญาณของเสี่ยวเซียนชิวสัมผัสได้ถึงความกลัว พลางรีบกระโจนออกจากหว่างคิ้วของเซียวเฉวียน
ภายในใจของนางสงสัยเป็นที่ยิ่ง ตอนนี้เหตุใดนางไม่สามารถอิงแอบอยู่ในหว่างคิ้วของบิดานางได้ล่ะ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...