ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 807

ใบหน้าที่มีอายุของเว่ยเชียนชิวเต็มไปด้วยความเคียดแค้น พลางจ้องเซียวเฉวียนด้วยสายตาที่โหดเหี้ยม

น่าสมเพชที่สุด!

ภายในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงหนึ่งปี เซียวเฉวียนกลับเติบโตได้มากถึงเพียงนี้ ประมาทเขาไปแล้ว!

เว่ยเชียนชิวแกล้งทำเป็นว่าสบายดี แต่ไม่ว่าเขาจะปกปิดอย่างไร เซียวเฉวียนยังคงสังเกตุเห็นสายตาที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยของเขา และรู้ได้ว่าตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บแล้ว

เว่ยเชียนชิวสมกับเป็นผู้ที่เหี้ยมโหด แม้โดยปกติจะเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่เวลาอยู่ในสนามรบกลับเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งที่อดทนต่อความเจ็บปวด

ลูกธนูที่ยิงออกไปไม่มีทางย้อนกลับ วันนี้ได้เปิดสงครามกับเว่ยเชียนชิวแล้ว เซียวเฉวียนไม่มีย้อนกลับ

วันนี้หากเขาไม่ตาย เช่นนั้นข้าก็ต้องตาย!

เขาต้องการทำให้เว่ยเชียนชิวบ้าคลั่งขึ้นมา ทำให้เขาทำอะไรไม่ถูก!

มุมปากของเซียวเฉวียนกระตุกยิ้มขึ้นมาอย่างอำมหิต “ใต้เท้าเจียนกั๋ว ผู้อารักขาของข้าเป็นอย่างไรบ้างเล่า? ไป๋ฉี่ผู้เดียวก็ทำให้ท่านบาดเจ็บได้ ท่านคิดว่าหากเขาทั้งสองจู่โจมพร้อมกัน ท่านไม่ตายไปเลยงั้นหรือ?”

เซียวเฉวียนมองออกว่าเขาบาดเจ็บงั้นหรือ?

เจ้าเด็กนี่ร้ายกาจเสียจริง! เว่ยเชียนชิวหายใจเข้าลึก ๆ ใบหน้าของเขาข่มอารมณ์ไว้ไม่อยู่

เมื่อครู่ตอนที่เขาต่อสู้กับไป๋ฉี่นั้น เขาตกตะลึงกับความสามารถของไป๋ฉี่ ทว่าไป๋ฉี่เพียงผู้เดียว เว่ยเชียนชิวยังพอรับมือได้

แต่ตอนนี้เว่ยเชียนชิวได้รับบาดเจ็บภายใน ไม่รู้ว่าความสามารถของเหมิงเอ้าเป็นอย่างไร หากต่อสู้กันขึ้นมา เจ้าเด็กน้อยอย่างเซียวเฉวียนก็จะเล่นไม่ซื่ออีก โอกาสในการชนะก็มีไม่มาก

เพื่อความปลอดภัย ไม่ว่าเว่ยเชียนชิวจะโกรธเพียงใด ก็ต้องรอให้หมาป่าดำและอัศวินดำมาคิดบัญชีกับเซียวเฉวียนอีกรอบ!

เว่ยเชียนชิวอยู่ในเมืองหลวง ถูกผู้คนให้ฉายาว่าปีศาจสังหาร ทว่านี่เป็นครั้งแรกที่ปีศาจสังหารขี้ขลาดได้ถึงเพียงนี้!

ไฟในใจของเขาลุกไหม้อย่างโชติช่วง ดวงตาของเขาพ่นไฟที่ลุกโชติช่วงจ้องมองไปที่เซียวเฉวียน และแทบรอไม่ไหวที่จะเผาเขาให้เหี่ยวเฉา!

เซียวเฉวียนสามารถอ่านใจคนได้ เขารู้ว่าเว่ยเชียนชิวคิดจะทำสิ่งใด เมื่อเป็นเช่นนั้นเซียวเฉวียนจะให้เขารอหมาป่าดำได้อย่างไรกัน?

“ไป๋ฉี่ เหมิงเอ้า ถอย!” เพื่อให้เว่ยเชียนชิวตายใจ เซียวเฉวียนตะโกนเรียกไป๋ฉี่และเหมิงเอ้ากลับมา

นายท่านไม่ได้ออกคำสั่งให้โจมตีต่อ เหมิงเอ้าจึงเหลือบมองเว่ยเชียนชิวอย่างน่ากลัว และไม่ยอมถอยกลับด้วยความโกรธ เขามองไป๋ฉี่อย่างเป็นห่วงพลางถามขึ้น “ไป๋ฉี่ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ไม่เป็นไร” ไป๋ฉี่ตอบเบา ๆ การทำสงครามเป็นภาระหน้าที่ของผู้อารักขา อย่าว่าแต่บาดเจ็บเลย การตายก็ถือเป็นเรื่องอันน้อยนิด

กำลังภายในของเว่ยเชียนชิวไม่มีพิษสงอะไร ไป๋ฉี่จ้องคู่ต่อสู้ที่เข้มแข็งอย่างเอาเป็นเอาตาย เขาเป็นนักฆ่าโดยกำเนิดและไม่เกรงกลัวใครหรือสิ่งใด ๆ

เวลาที่อยู่ในสนามรบ ไป๋ฉี่ยิ่งแต่จะคิดว่าต้องทำให้บรรลุเป้าหมาย

เดิมทีเว่ยเชียนชิวคิดว่าอย่างน้อยไป๋ฉี่ควรจะกลัวตัวเขาบ้าง แต่ใครจักคิดว่าไป๋ฉี่จ้องเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย ร่างกายที่สูงใหญ่แข็งแกร่งนั้นกำยำมากเสียทีเดียว และไม่ปรากฏร่องรอยความหวาดกลัวเลย

เขาเป็นเหมือนนักรบที่แข็งแกร่ง ที่ไม่ยอมให้เว่ยเชียนชิวกระทำต่อเซียวเฉวียนอย่างละเมิดทำนองคลองธรรมแม้เพียงนิดเดียว!

เว่ยเชียนชิวจ้องไป๋ฉี่อย่างเดือดพล่านจนหายใจไม่ทัน และนี่ยังเป็นครั้งแรกที่เว่ยเชียนชิวเสียเปรียบในพื้นที่ของผู้อื่น ก็ไม่แปลกที่เขาโกรธแค้นถึงเพียงนี้ ทางด้านของเว่ยเชียนชิวที่กำลังโกรธ และทางด้านของเซียวเฉวียนที่กำลังตั้งใจแอบท่อง “ลำนำออกรบ” ของหวังชังหลิง

ผืนน้ำชิงไห่มืดสลัว มองทั่วด่านประตูดูห่างเหิน

ทหารชุดเกราะรบนานเนิ่น หมางเมินบ้านเกิดหากไร้ชัย!

ความหมายของบทกวีทรงพลังมีพลานุภาพดังนี้ : เมฆและหมอกที่ลอยขึ้นมาเหนือทะเลสาบชิงไห่ ภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะเป็นแนวยาวถูกปกคลุมไปด้วยความมืดสลัว เมืองชายแดนโบราณและด่านประตูหยกอยู่ห่างไกลกันนับพันลี้ และทำได้เพียงมองหน้ากันอยู่ไกล ๆ

ทะเลทรายสีเหลืองไกลหมื่นลี้ เกิดการสู้รบบ่อยครั้งและทำให้ชุดเกราะของทหารที่เฝ้าชายแดนสึกหรอ อย่างไรก็ตาม ความทะเยอทะยานของพวกเขาไม่อาจดับได้และพวกเขาสาบานว่าจะไม่กลับบ้านจนกว่าพวกเขาจะเอาชนะศัตรูที่บุกรุกเข้ามาได้

กวีบทนี้ คือกวีนิพนธ์ชายแดนที่มีชื่อเสียงของหวังชังหลิง การใช้ภาษาประณีตและแฝงไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง มีชื่อว่าเป็น “มหากวีเอก” และ “มือเทพแห่งกวีเจ็ดคำ”

ผู้คนบอกว่าบทกวีของเขาเป็นอัจฉริยะและคล่องแคล่ว ทว่าดนตรีและการร้องเพลงนั้นห่างเหิน ซึ่งเป็นตัวแทนของ “ท่วงทำนองอันมีชีวิตชีวา”

บทกวีไม่มีผลต่อเว่ยเชียนชิวและชาวยุทธ์แท้ พวกเขาเหล่านี้ไม่มีรากจิตอักษร ไม่รู้จักอักขระตัวหนังสือ ไร้ซึ่งหนทางการประชันบทกวีและไม่ถูกควบคุมจากบทกวีด้วย

ทว่าบทกวีมีผลต่อไป๋ฉี่และเหมิงเอ้า เซียวเฉวียนท่อง “ลำนำออกรบ” บทกวีที่เปี่ยมล้นไปด้วยท่วงทำนองอันมีชีวิตชีวา ทำให้ผู้อารักขาได้รับการอัดฉีดพลังที่มากจากนายท่าน

ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้ารู้สึกในทันทีว่าร่างกายเบาขึ้นไม่น้อย โดยเฉพาะไป๋ฉี่ที่เพิ่งได้รับบาดเจ็บภายในเมื่อครู่ ดูเหมือนว่าเขาจะหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว

ความอาฆาตในตัวของเขาทั้งสองทวีคูณมากขึ้น ราวกับเป็นยมบาลที่มาจากนรก!

เซียวเฉวียนทำเสียงฮึดฮัดออกมา พร้อมกับออกคำสั่ง “ไป๋ฉี่ เหมิงเอ้า! บุก!”

“ขอรับ! นายท่าน!”

เมื่อได้รับคำสั่ง ในมือของทั้งสองถือดาบดาบจิงหุนที่หนาวสะท้านและหายตัววับ พร้อมเปิดการโจมตีที่รุนแรงต่อเว่ยเชียนชิว

“หมาป่าดำ!”

เว่ยเชียนชิวเห็นดังนั้นก็รีบปรับลมหายใจครู่หนึ่ง และตะคอกออกมาเสียงกร้าว เขาหายวับว่องไวราวกับปีศาจร้าย

เขาไม่ได้ต่อสู้กับไป๋ฉี่และเหมิงเอ้า แต่อ้อมพวกเขาทั้งสองคนด้วยความเบาอย่างที่สุด ต้องการที่จะโจมตีเซียวเฉวียน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย