ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 809

ไม่ว่าผนึกจูเสินจะกำจัดเว่ยเชียนชิวได้หรือไม่ เซียวเฉวียนไม่เคยคิดยอมแพ้แก่ผนึกจูเสิน!

ทางเดียวที่จะยอมจำนนคือการตาย และถูกผนึกจูเสินบีบอัดเป็นแหลกเป็นชิ้น ๆ!

เซียวเฉวียนก็ไม่เชื่อว่า ผนึกจูเสินจะมีใจช่วยเหลือเขาอยู่ห่าง ๆ

ดังนั้นเซียวเฉวียนจึงวางแผนใช้บทกวีในการกำราบผนึกจูเสิน จัดการปัญหาภายในก่อนและค่อยแก้ไขปัญหาภายนอก

ตอนนี้หมาป่าดำได้มาถึงแล้ว อีกไม่นานชาวยุทธ์แท้ก็น่าจะมาถึง!

ชักช้าไม่ได้แม้แต่นาทีเดียวแล้ว เซียวเฉวียนกัดฟันและอดทนต่อความเจ็บปวดในร่างกายของเขา พลางท่องบทกวี “วันที่27เดือน6ร่ำสุราประพันธ์กวีห้าคำ ณ หอคอยวั่งหู” อย่างตั้งใจที่เขียนโดยซูซื่อ นักกวีสมัยราชวงศ์ซ่ง :

เมฆดำมืดมิได้บดบังหุบเขา หยาดฝนขาวกระเซ็นเต็มเรือใหญ่

พายุโหมกระหน่ำกระจายไป ผืนน้ำใสให้เห็นเต็มสองตา

บทกวีนี้กล่าวไว้ว่า เมฆดําพวยพุ่งขึ้นราวกับน้ำหมึกที่สาดกระเซ็น แต่กลับเผยให้เห็นภูเขาที่ขอบฟ้า หยาดฝนที่ตกลงมาอย่างหนักราวกับเศษหินสีขาวที่กระเด็นเข้าไปในเรือ

ทันใดนั้นลมพายุก็พัดมาและพัดเมฆดํากระจัดกระจายเต็มท้องฟ้า ผืนน้ำของทะเลสาบซีหูมีคลื่นสีฟ้าราวกับกระจกที่สดใสและอ่อนโยน

บทกวีทั้งบทใช้ถ้อยคำที่บางเบา แต่ยังเน้นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของท้องฟ้า แสดงให้เห็นถึงฝนที่ตกหนัก ความว่องไวของเม็ดฝนและพลังอันยิ่งใหญ่ของลม

สรุปได้ว่ากวีทั้งบทนี้เขียนถึงพายุฝนที่ใหญ่ เร่งรีบ และว่องไว!

พลังที่ทรงอานุภาพ!

เซียวเฉวียนตั้งใจท่องเสียงดัง “ฆ่า!”

ในทันใดนั้น ท้องฟ้าเหนือจวนเซียวก็เกิดพายุกระหน่ำ มีเมฆดำปกคลุมและท้องฟ้ากลายเป็นสีดำทะมึน ไม่นานนักก็มีฝนห่าใหญ่ตกมาทั่วฟ้า

เม็ดฝนที่กระหน่ำตกลงมา เซียวเฉวียนยืนท่ามกลางสายฝน ไฟของผนึกจูเสินลดลงมาก มันโกรธเสียจนคำรามออกมาเสียงกร้าว “มีอย่างที่ไหนกัน! เจ้ายังมีบทกวีอีกมากน้อย! เจ้าคิดว่าจะสำเร็จได้งั้นหรือ?”

สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน ทำให้ชาวบ้านหลบแทบไม่ทัน และต่างพากันหลบใต้หลังคาของบ้านเรือนที่อยู่ใกล้ ๆ

อากาศเปลี่ยนแปลงง่ายเช่นนี้เลยหรือ?

ช่างพิลึกเสียจริง!

แม้แต่เหมิงเอ้าที่กำลังต่อสู้อยู่กับหมาป่าดำ ต่างพากันนิ่งไปชั่วขณะ จากนั้นก็สู้กันต่อ

เพียงแค่ชั่วครา มีเปลวไฟลุกไหม้ที่ทรงพลังยิ่งกว่าในร่างกายของเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนทรมานจนร้องคำรามออกมา “อ้าก!”

ครั้งนี้ผนึกจูเสินกลับยิ่งใหญ่เสียจนบทกวีไม่อาจส่งผลกระทบได้อีกแล้ว!

พายุฝนมาได้ทันท่วงทีแต่ก็จากไปอย่างเร่งรีบ อากาศกลับคืนสู่ปกติ เซียวเฉวียนกลับรู้สึกเจ็บปวดและทุกข์ทรมานเสียยิ่งกว่าเดิม!

ให้ตายเถอะ!

ผนึกจูเสินสามารถต้านทานต่อบทกวีได้!

ในตอนนั้นเอง ผนึกจูเสินแค่นหัวเราะออกมา “เซียวเฉวียน หากเจ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ ก็ควรยอมแพ้เสียโดยดี!”

“มิเช่นนั้น อย่าเสียใจในตอนที่สายไป!”

ความหมายคือ ถ้าเจ้าไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในตอนนี้ เจ้าจะต้องเสียใจ!

เซียวเฉวียนถือเป็นคนกระดูกเหล็กจริง ๆ หากเป็นคนธรรมดาทั่วไป ป่านนี้คงคุกเข่าร้องของชีวิตเสียแล้ว!

ทว่าเซียวเฉวียนกลับยืนกรานที่จะไม่ยอมแพ้ สิ่งนี้ทำให้ผนึกจูเสินประหลาดใจเล็กน้อย!

อยากให้เขายอมแพ้งั้นรึ?

ไม่มีทาง!

แต่ว่า...

จู่ ๆ เซียวเฉวียนก็นึกได้ว่า หากมัวยืดเวลาต่อไป สู้สลับลำดับไม่ดีกว่าหรือ

“หากอยากให้ข้ายอมแพ้ก็มีความเป็นไปได้ เจ้าช่วยข้าจัดการเว่ยเชียนชิวก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”

หากว่าผนึกจูเสินสามารถจัดการเว่ยเชียนชิวได้ เซียวเฉวียนก็จะยอมแพ้ต่อผนึกจูเสิน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย