สรุปเนื้อหา บทที่ 811 ถึงขีดจำกัด – ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง
บท บทที่ 811 ถึงขีดจำกัด ของ ซูเปอร์ลูกเขย ในหมวดนิยายนิยายจีนโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ชิงเฉิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
พวกเขาจะดุร้ายอีกสักแค่ไหน สองหมัดที่มีก็สู้กับสี่มือได้! แต่ไหนแต่ไรที่นี่ก็มีคนหมัดหนักที่รับมือกับหมัดนับร้อยได้สบายๆ!
มือของชาวยุทธ์แท้เชียวนะ!
เหมิงเอ้าคำราม “บ้าเอ้ย! เกินไปแล้ว!”
เหมิงเอ้ากับไป๋ฉี่ฆ่ามาก็เยอะ แต่ชาวยุทธ์แม้แต่คนเดียวก็ยังฆ่าไม่ได้!
มันจะยากเย็นอะไรขนาดนี้วะ!
แม้แต่ไป๋ฉี่ก็ยังไม่เข้าใจ ว่าทำไมพวกชาวยุทธ์ถึงรับมือด้วยได้ยากขนาดนี้!
เมื่อสักครู่สองต่อหนึ่งเหมิงเอ้ายังต่อสู้ได้ง่ายๆไม่ต้องออกแรงมากนัก แต่ตอนนี้ไหลออกมาเหมือนผึ้งแตกรังขนาดนี้ ไม่ต้องพูดถึงฝีมือเหล่าชาวยุทธ์แต่ละคนหรอก พวกเขาทุกคนล้วนถูกฝึกมาอย่างหนักหน่วง เมื่อถึงคราวรบล้วนรวมพลังกันเป็นหนึ่ง ไป๋ฉี่กับเหมิงเอ้าหาช่องโหว่ของเหล่าชาวยุทธ์ไม่เจอเลยสักนิด!
ทำได้เพียงแค่โดนเหล่าชาวยุทธ์ล้อมไว้ตรงกลาง หลักๆคือต้องป้องกันตนไว้ก่อน เรี่ยวแรงที่เคยมีถูกสูบไปไม่น้อย การบุกสู้กลับถือว่าเป็นไปได้ยาก!
หากเป็นเช่นนี้ต่อไปต้องโดนฉีกเนื้อกินแล้วเหลือไว้แต่ร่างเป็นแน่!
ไป๋ฉี่กับเหมิงเอ้าไม่กลัวตาย!
แต่พวกเขาต้องปกป้องนายท่านเยี่ยงชีพ!
ถ้าหากเหล่าชาวยุทธ์บุกมาจับตัวไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าได้ เป้าหมายต่อไปของพวกเขาต้องเป็นเซียวเฉวียนอย่างแน่แท้ ถ้าเป็นอย่างที่คิด ความอันตรายก็เข้าใกล้นายท่านขึ้นอีกเท่าตัว!
ไม่ได้! ปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้!
ไป๋ฉี่กับเหมิงเอ้าต้องคิดวิธีสู้กลับเพื่อที่จะออกจากวงที่ชาวยุทธ์ล้อมตัวพวกเขาอยู่ให้ได้!
เหมิงเอ้าคิดวิธีหนึ่งออก เขาเรียนรู้กระบวนท่าของเฮยหลังที่พึ่งใช้ไปเมื่อครู่ เหมิงเอ้าย่อตัวลงอย่างปราดเปรียว มือกำทรายเต็มมือ ก่อนจะเรียกพลังภายในรวมถึงแรงทั้งหมดที่มีในร่างสาดทรายในมือออกไป!
สาดด้วยท่าทางพลิ้วไหวดังกระแสน้ำไหลรวดเดียวจนหมด!
ในชั่วพริบตาก็เต็มไปด้วยเสียงโอดครวญของเหล่าชาวยุทธ์ “โอ๊ะ! โอ๊ย! โอ๊ย!”
ทรายปลิวเข้าตาพวกเขาทั้งหมด แสบจนเจ็บปวดเกินทน เหล่าชาวยุทธ์ค่อยๆปล่อยดาบในมือทิ้งดิ่ง เอามือปิดตาโอดครวญด้วยความเจ็บปวด
ทันใดนั้น ก็มีที่ว่างเว้นให้ไป๋ฉี่กับเหมิงเอ้าประมาณหนึ่ง!
“ไป๋ฉี่! ดูเอาไว้ซะ!” เมื่อเหมิงเอ้าเห็นฝีมือของตนก็ได้ใจ ซ้ำยังบอกให้ไป๋ฉี่ใช้แระบวนท่าสาดทรายเช่นเขา
ไป๋ฉี่เป็นพวกหนักแน่นแถมยังหัวโบราณมาแต่ไหนแต่ไร เขาคือพี่ใหญ่ของผู้อารักขาเซียวเฉวียน เป็นผู้ที่มีความเป็นผู้ใหญ่เกินวัยอยู่ในตัว อย่างกระบวนท่าสาดทรายเมื่อสักครู่ ไป๋ฉี่เหยียดหยามแถมไม่คิดจะทำด้วย เขาเอ่ยเสียงเยือกเย็น “ท่านทำต่อเถิด!”
ไอ้เรื่องนอกกรอบเล็กๆน้อยอะไรเทือกนั้นให้เป็นหน้าที่ของเหมิงเอ้าไปเถอะ!
ไป๋ฉี่หยิบดาบจิงหุนขึ้นมา สลายตัวในฉับพลัน เงาตนกระพริบดั่งลมกรรโชกแรง ปลายมีดแหลมคมเสียบแทงร่างกายเหล่าชาวยุทธ์ที่กำลังปิดตาโอดครวญ แถมคว้านรูออกมาจากร่างกายพวกเขา!
ชาวยุทธ์ที่โดนเสียบแทงสิ้นลมจนล้มระเนระนาดลง!
กระบวนท่าสาดทรายนั้นใช้เพียงครั้งเดียวผลก็ออกมาเป็นอย่างที่เห็น!
เมื่อใช้กระบวนท่าสาดทรายเป็นครั้งที่สอง ชาวยุทธ์เริ่มไหวตัวทัน พวกเขารู้วิธีป้องกันไม่ให้ทรายปลิวเข้าตาอีกต่อไป แต่ไป๋ฉี่อาศัยช่วงที่พวกเขาสลายตัวหลบทราย ก็ได้สาดทรายเข้าไปอีกอย่างคล่องแคล่ว!
เหมิงเอ้าสาดทรายเป็นครั้งที่สาม แต่คราวนี้ไม่ได้ผลแล้ว! ชาวยุทธ์ถอยหลังห่างไปหลายเมตรพลางจัดเรียงแถวใหม่ ในขณะนั้นก็ส่งสัญญานเตือนไม่ให้เหมิงเอ้าสาดทรายมาอีก เขาไม่สามารถยอมให้กระบวนท่าเขาสิ้นผลอีกครั้งได้! ฝั่งเว่ยเชียนชิวสติก็ยังคงไม่กลับมา อย่างไรเสียสิ่งที่เซียวเฉวียนเอ่ยก็ทำให้เว่ยเชียนชิวใจสลายเล็กน้อยอยู่ดี
พวกชาวยุทธ์นี่นะ….
ถ้าหากยาเป็นอมตะหมายถึงเว่ยเชียนชิวโดนหลอก ถ้าอย่างนั้นพายุทมิฬก็โดนกระบวนท่าจนปางตาย นั่นก็หมายความว่าฐานอำนาจของเว่ยเชียนชิวกำลังโดนทำให้สั่นคลอน!
เว่ยนเชียนชิวยังคงเขวและไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ เป็นแค่ปัญญาชนตัวเล็กๆคนนึง ทำอย่างไรจึงเอาชาวยุทธ์อยู่ด้วยหมัดเดียวล่ะ
ที่บอกว่าเซียวเฉวียนน่าเกรงขาม ก็คงไม่เกินจริง
เซียวเฉวียนคิ้วขมวดปมแน่น เว่ยเชียนชิวตอนนี้ดูเหม่อลอย แตะตัวไปยังไม่กระดิกตัวสักนิด!
ความกล้าหาญเป็นเรื่องที่น่ายกย่องไม่ใช่หรือ!
เว่ยเชียนชิวเห็นท่าทีเซียวเฉวียนดั่งมีคำว่าเยาะเย้ยแปะอยู่บนหน้าผาก ก็รู้ตัวว่าที่สิ่งที่ตนทำนั้นมันเกินไป ตอนนี้เลยโดนพวกเขาเหน็บแหนมให้จนได้ เว่ยเชียนชิวก็ยังคงมีสีหน้าเจ็บปวดรวดร้าว กลั้นไว้ไม่ไหวแล้ว!
“เฮยหลัง! เรียกพวกเขามา! กลับไปกับข้า!”
“ลงมือซะ!”
“ฆ่าไอ้พวกสารเลวนี้ให้ตาย!” เพื่อที่จะอำพรางความอับอายที่ฉายเด่นชัดบนใบหน้าตน เว่ยเชียนชิวคำรามแผดเสียงก้อง
อับอายขายขี้หน้าชะมัด!
“ขอรับ!” ชาวยุทธ์ตัวชาวาบ ชักดาบขึ้นมาทันใด
กล้าก็เข้ามา! เซียวเฉวียนและพวกยืดอกพร้อมรบ!
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาสามท่านออกรบร่วมกัน!
นัยน์ตาเซียวเฉวียนเย็นเยือก ห้ามแพ้! แพ้ไม่ได้เด็ดขาด!
ชีวิตนึงมีลมหายใจเดียว! หากครั้งนี้แพ้ให้เหล่าชาวยุทธ์ หลังจากนี้ตัวเขาอยู่ในเมืองหลวงกับศาลเฉาก็กระดิกตัวไปไหนไม่ได้แล้ว!
เซียวเฉวียนต้องโดนชาวบ้านหัวเราะเยาะเป็นแน่แท้!
คนที่เยาะเย้ยเขาล้วนไม่มีฐานะใดๆ! ซ้ำยังไม่มีความสามารถ!
สมแล้วที่เป็นอาวุธที่ใช้ไปออกรบมานับพันปี!
เว่ยเชียนชิวได้สติกลับมาแล้วหนีตายแบบไม่คิดชีวิต!
แต่เซียวเฉวียนจะปล่อยให้หล่อนหนีไปง่ายๆอย่างนั้นหรือ! ความคับแค้นใจแต่ปางก่อนยันตอนนี้ยังไม่ได้สะสางสักนิด!
เมื่อตอนที่เซียวเฉวียนใช้สายตาคับแค้นจ้องมองเว่ยเชียนชิว ทันใดนั้นมีเสียงคมของขันทีทะลุออกมาจากประตูนอกจวนเซียว “เว่ยเจียนกั๋ว ท่านราชครูรับพระราชโองการ!”
พระราชโองการจากเบื้องบนส่งมาถึง อย่าว่าแต่จะได้ทะเลาะกันเลย แม้แต่หากจะคลอดลูกก็ยังต้องอั้นเอาไว้ก่อน ทันใดนั้นก็รีบรับพระราชโองการในทันที
เซียวเฉวียนสลัดแววตาที่ก่อนหน้านี้ใช้มองเว่ยเชียนชิวแบบเกลียดชังออกไป ก่อนจะเร่งรีบออกไปรับพระราชโองการในทันที “กระหม่อมรับราชโองการ!”
สองคนยังคงยืน ไม่มีผู้ใดคุกเข่าลง ขันทีรู้ดีว่าเซียวเฉวียนกับเว่ยเชียนชิวล้วนอยากจะได้สิทธิพิเศษทั้งคู่ จะไม่คุกเข่าลงก็ย่อมได้ อีกอย่างทั้งคู่ก็ไม่ได้ยึดถือมารยาทขนบธรรมเนียมเดิมกันสักเท่าไหร่
เขากล่าวพระราชโองการอย่างนอบน้อม จากนั้นนำพระราชโองการส่งต่อให้เซียวเฉวียนรับไว้ แล้วกลับไปยังพระราชวังเพื่อรายงานการปฏิบัติภารกิจตามเดิม
ที่แท้ฮ่องเต้ได้ข่าวว่าท่านราชครูกับเว่ยเจียนกั๋วกำลัง “ศึกษาและแลกเปลี่ยนความรู้ศิลปะการต่อสู้” กันอยู่ในจวนเซียว ตกใจเพราะนึกคิดว่าราชครูยอมแพ้และอยากสิ้นชีพด้วยน้ำมือของเจียนกั๋ว จึงเร่งรีบออกพระราชโองการ เนื้อหากล่าวว่าท่านราชครูกับเจียนกั๋วเป็นแขนซ้ายแขนขวาของฮ่องเต้ ไม่มีพวกท่านข้าก็เปรียบดั่งไม่มีอาวุธติดกาย หากมีท่านใดท่านนึงหายไป หรือทำร้ายอีกฝ่าย ล้วนเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่แห่งต้าเว่ยเป็นแน่!
ฮ่องเต้กำลังช่วยชีวิตเซียวเฉวียน
เซียวเฉวียนเข้าใจดี
หากเพียงแต่เว่ยเชียนชิวผู้หยิ่งยโสโอหังไม่อาจเข้าใจ เขามีนิสัยอ่อนแอดั่งแม่หญิง ฮ่องเต้น้อยกำลังหัวเราะเยาะที่เขาเอาชนะเซียวเฉวียนไม่ได้อยู่หรือ?
แต่ว่า ตอนนี้เสียหน้าไม่เสียหน้าไม่สำคัญ เรี่ยวแรงของเซียวเฉวียนในวันนี้แรงกว่าที่คิดไว้มาก ไม่ได้อยู่ในขอบเขตที่เว่ยเชียนชิวคาดการณ์ไว้ ฮ่องเต้จะเยาะเย้ยเขาก็ให้เยาะเย้ยเลยซะสิ!
แต่ไหนแต่ไร เว่ยเชียนชิวก็รักษาชะตาชีวิตตนไว้แล้ว
ช่วงที่ฮ่องเต้เผลอช่วยชีวิตของศัตรูไป
เซียวเฉวียนอยู่ไม่สุข หัวใจเต้นด้วยความกังวลคล้ายจะหลุดออกจากอก
เขาระงับอารมณ์คุกกรุ่นที่อยากจะฆ่าเว่ยเชียนชิวไว้ในใจ ไหนๆก็ทำให้ฮ่องเต้เข้าใจไปว่าเขาเอาชนะเว่ยเชียนชิวไม่ได้ก็สิ้นเรื่อง
แบบนี้ก็ปิดบังการมีอยู่ของผนึกจูเสินไว้ได้แล้ว
ข้อพิพาทที่น่าตื่นเต้นก็ได้บทสรุปแล้ว
ชาวบ้านไม่ให้ความสนใจกับเรื่องที่เซียวเฉวียนและเว่ยเชียนชิวแพ้ทั้งสองฝ่าย ผลที่ออกมาไม่เป็นที่น่าพึ่งพอใจสักเท่าไหร่
แต่ที่พวกเขาไม่รู้ คือฮ่องเต้แห่งต้าเว่ยได้นำพาแสงสว่างมาให้เมืองของตน
ชาวยุทธ์แท้ได้ศัตรูเพิ่มแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...