ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 827

สรุปบท บทที่ 827 ความโกรธเกรี้ยวของเหมิงเอ้า: ซูเปอร์ลูกเขย

สรุปตอน บทที่ 827 ความโกรธเกรี้ยวของเหมิงเอ้า – จากเรื่อง ซูเปอร์ลูกเขย โดย ชิงเฉิง

ตอน บทที่ 827 ความโกรธเกรี้ยวของเหมิงเอ้า ของนิยายนิยายจีนโบราณเรื่องดัง ซูเปอร์ลูกเขย โดยนักเขียน ชิงเฉิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

“ปัง!ปัง!ปัง!”

คำพูดของฮ่องเต้ราวกับฉนวนระเบิด ทำให้เกิดความโกลาหลในหมู่ขุนนางที่อยู่ ณ ที่นั้น!

อะไรกัน!

ผนึกจูเสินถูกทำลายแล้วอย่างนั้นหรือ?

เซียวเฉวียนทำลายหรือนี้?

เป็นไปได้อย่างไร!

นั่นคือผนึกศักดิ์สิทธิ์พันปี!

นั่นไม่ใช่ผนึกที่จะถูกทำลายได้จากการกัดของเซียวเฟิง!

ความสามารถของเซียวเฉวียนมีมากแค่ไหนกัน?

พวกเขาต้องการถามเวียวเฉวียนต่อหน้า: "เจ้ามาจากไหน?"

เซียวเฉวียน เจ้ายังเป็นมนุษย์แน่หรือ?

ใบหน้าของทุกคนล้วนมีสีสันแห่งความตื่นเต้นและตกใจปะปนอยู่

ฮ่องเต้ผู้อยู่เหนือบัลลังก์กำลังหัวเราะเยาะอยู่ภายในใจ

พระองค์กระพริบพระเนตรที่สดใสและถอนหายใจยาว

ทำท่าราวกับว่าพระองค์ใสซื่อไม่รู้ว่าภาพตรงหน้าคืออะไร

เหล่าขุนนางอยู่ด้านล่างเริ่มรู้สึกตัว และทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่าเรื่องราวเป็นเช่นนั้น!

ฮ่องเต้ได้เปลี่ยนไปแล้ว!

ราวกับว่ามีเสาแห่งเจตจำนงตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า และการปีนขึ้นไปถือเป็นความผิดใหญ่หลวง เหล่าขุนนางจำจึงต้องลงมาอย่างรวดเร็ว: "เมื่อฝ่าพระบาททรงให้คำมั่นกับราชครูแล้ว ฝ่าบาทก็ทรงรักษาคำพูดประทานบัตรผ่านให้แก่เขาเถิดพะย่ะค่ะ”

“นอกจากนี้ ราชครูยังเป็นผู้รู้ ฝ่าบาทมีตราประทับเหวินอิ้นเพื่อปราบปรามเหล่าผู้รู้ ไม่จำเป็นต้องเป็นกังวลว่าราชครูจะเป็นภัยต่อต้าเว่ย”

ฮ่องเต้พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ และพึมพำอยู่ในใจ ถ้าพวกเขารู้เรื่องนี้ก่อน คงจะนำไปหารือเพื่อหาวิธีคัดค้านเป็นแน่

แต่จางจิ่นนั้น ไม่รวมอยู่ในคนเหล่านี้

นับตั้งแต่การเสียชีวิตของอัครเสนาบดีจู ตำแหน่งอัครเสนาบดีก็มีจางจิ่นเป็นผู้แทนชั่วคราว เพราะด้วยการสนับสนุนของเว่ยเชียนชิว ไม่ว่าฝ่าบาทจะทำอะไร ก็ต้อวนึกถึงหน้าของเว่ยเชียนชิวไว้ให้มั่น

เมื่อเวลาผ่านไป ความโอหังของจางจิ่นก็มีมากขึ้น

บางครั้งจางจิ่นถึงกับกล้าพูดจาใส่ร้ายฮ่องเต้อย่างโจ่งแจ้ง

คงจะเป็นการโกหกถ้าจะบอกว่าเขาไม่กลัว แต่เพราะสนับสนุนเขา เพื่อประโยชน์ในการดำรงตำแหน่งอัครเสนาบดี จางจิ่นจึงกล้าต่อต้าน เขาคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมกับพูดอย่างหนักแน่น : "ฝ่าบาท พระองค์ต้องไม่มอบให้เขานะพะย่ะค่ะ! ห้ามมอบให้กับเซียวเฉวียน!"

ขุนนางคนอื่นเห็นชอบกับฮ่องเต้แล้ว จางจิ่นรู้ดีว่าเขาเหลือตัวคนเดียวและไม่สามารถหยุดฝ่าบาทได้ ดังนั้นเขาจึงโขกหัวลงพื้นแล้วพูดว่า: "ฝ่าบาท เรื่องนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นนะพะย่ะค่ะ!"

ภายในไม่กี่นาที หน้าผากของจางจิ่นก็ฟกช้ำ และมีเลือดไหลออกมาจากบาดแผล ซึ่งทำให้ขุนนางคนอื่นที่อยู่ตรงนั้นตกใจ จางจิ่นมักรู้จักวิธีการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ แต่ทำไมวันนี้เขาถึงได้ทำเรื่องเช่นนี้?

บ้าไปแล้วอย่างนั้นรึ?

แต่เหตุการณืตรงหน้านี้กลับไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้าไปยุ่ง ไม่เช่นนั้น หากฮ่องเต้ทรงกริ้ว พวกเขาจะประสบปัญหาใหญ่!

ฮ่องเต้มองจางจิ่นด้วยสายตาเย็นชาและพูดอย่างใจเย็น: "จางจิ่น เจ้าหมายความว่าอย่างไร? เจ้ากำลังจะบอกอะไรข้าอย่างนั้นรือ!"

คำพูดของฝ่าบาทนั้นชัดเจนเเล้วว่าเป็นคำสัตย์ที่ได้มอบให้เซียวเฉวียน หากพระองค์ผิดสัจจะ ความสง่างามและศักดิ์ศรีของฮ่องเต้จะหายไป!

แล้วทีนี้จะปกครองได้อย่างไร?

ทุกคนอ้าปากค้าง และฮ่องเต้ก้ไม่พอพระทัยเป็นอย่างมาก

แต่จางจิ่นก็เหมือนกับของเสียที่ส่งกลิ่นเหม็น เขาหลีกเลี่ยงที่จะตอบฝ่าบาท เขายังคงก้มหัวและพูดว่า: “ฝ่าบาท ทรงพิจารณาให้ถี่ถ้วนด้วยเถิด ข้านั้นไร้ความสามารถที่จะหยุดรั้งพระองค์ หากพระองค์ยืนยันที่จะมอบให้เซียวเฉวียน ข้าจะขอตายในท้องพระโรงแห่งนี้ ด้วยวิธีนี้ ข้าจะถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่ข้าได้ทำเพื่อประชาชนต้าเว่ย!”

หลังจากพูดจบ จางจิ่นก็กระแทกหัวลงพื้นแรงขึ้น และเลือดของเขาก็ทำให้พื้นท้องพระโรงกลายเป็นสีแดง

อย่างไรก็ตาม หากจางจิ่นไม่สามารถหยุดสิ่งนี้ได้ในวันนี้ เขาจะถูกเว่ยเชียนชิวทอดทิ้งและทุกสิ่งจะไม่จบลงด้วยดี!

เพราะฉะนั้น ต่อให้ตายก็ต้องทำ

ตั้งแต่สมัยโบราณคนไม่มีใครมีอำนาจ ก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ

ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าก็ได้ยินสิ่งที่ขันทีพูดเช่นกัน

สุดท้าย เว่ยเชียนชิวและคนของเขาก็คัดค้านฮ่องเต้อย่างออกนอกหน้าเพื่อไม่ให้ฮ่องเต้มอบบัตรผ่านซินเจียงให้กับราชครู!

ไป๋ฉี่นิ่งเฉย ไม่แสดงอะไรบนใบหน้า เพราะไป๋ฉี่ไม่เห็นความผิดปกติบนใบหน้าของเซียวเฉวียน และเขาคาดว่าเซียวเฉวียนเองก็ต้องมีความคิดอื่นไว้แล้ว

แต่เหมิงเอ้าไม่เป็นเช่นนั้น เขาโกรธเว่ยเชียนชิวจนไม่สามารถปกปิดมันได้!

ดังนั้น เมื่อขันทีออกจากจวนเซียวเฉวียนไปแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่จะตะคอกอย่างอารมณ์เสีย: "ฮึ่ม!"

เซียวเฉวียนได้ยิน ก็รู้ว่าเหมิงเอ้าโกรธเว่ยเชียนชิว เซียวเฉวียนจึงส่ายหัว: "อย่ากังวล ครั้งนี้ปล่อยเขาไปก่อน! เมื่อถึงเวลา เราจะไปจัดการเขา!"

หากเซียวเฉวียนไม่พูด เขาก้ไม่ได้ว่าอะไร เขาแค่อารมณ์ แต่เดี๋ยวก้กลับมาปกติดังเดิม

เพราะท้ายที่สุดแล้ว เซียวเฉวียนเป็นเจ้านายชองพวกเขา หากเจ้านายไม่ออกคำสั่ง ผู้อารักขาอย่างเขาจะกล้าทำโดยพละการได้อย่างไร

แต่เมื่อเซียวเฉวียนพูดเช่นนี้ เหมิงเอ้ากลับยิ่งโกรธ เข้าไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้เว่ยเชียนชิวบาดเจ็บสาหัส ทำไมเจ้านายถึงไม่ใช้โอกาสนี้จัดการให้สิ้นซาก?

เหมิงเริ่มโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และอดไม่ได้ที่จะถาม: "นายท่าน ทำไมท่านถึงไม่ฆ่าเว่ยเชียนชิวซะตอนนี้ ตอนนี้คือเวลาที่ดีที่สุดแล้ว! ฆ่าเขาในขณะที่เขาบาดเจ็บ!"

“ถ้าเขาตาย ต้าเว่ยก็จะสงบสุข!”

“เหมิงเอ้า!” ก่อนที่เซียวเฉวียนจะพูดอะไร ไป๋ฉี่ก็ตะโกนด้วยความโกรธ

แม้ว่าไป๋ฉี่เองก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าทำไมเจ้านายของเขาถึงยังไม่ลงมือฆ่าเว่ยเชียนชิว แต่นี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้อารักขาอย่างเขาจะมาตั้งคำถาม!

เหมิงเอ้าปากพล่อยเสียจริง!

ทันใดนั้น เหมิงเอ้าก็โกรธไป๋ฉี่ทันที: "ข้าพูดผิดหรืออย่างไรเล่า?"

ในอดีตไม่ว่าใครยั่วยุนายท่าน นายท่านก็จะแก้แค้นทันที!

แค่สั่งให้จัดการ!

ทำไมนายท่านถึงได้ผัดวันประกันพรุ่งเช่นนี้ นายท่านสามารถฆ่าเว่ยเชียนชิวได้ แต่กลับปฏิเสธที่จะทำ!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย