ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 839

เซียวเฉวียนรีบดึงกำลังภายในกลับทันที และเมื่อเริ่มดึงพลังภายในกลับมานั้น ความรู้สึกปวดตุบ ๆ ก็เริ่มเบาลงเรื่อย ๆ จนหายไปในที่สุด

โจวหลี่ที่หนีจากความตาย ท่ามกลางความตื่นตระหนก เขาได้วิ่งออกไประยะหนึ่งแล้ว ในขณะที่เขาหันหลังกลับไปมองว่าเซียวเฉวียนตามมาหรือไม่นั้น ก็เห็นว่าเซียวเฉวียนมีสีหน้าที่เจ็บปวด คิดว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะเอาชีวิตเขาในขณะที่เซียวเฉวียนกำลังเจ็บอยู่

ดังนั้น โจวหลี่จึงวิ่งกลับมาด้วยใบหน้าที่ชื่นมื่น

และเมื่อใกล้ถึงตัวของเซียวเฉวียน โจวหลี่จึงนึกได้ว่าเซียวเฉวียนผู้นี้ที่มีเล่ห์เหลี่ยมมากมาย เขากังวลว่าจะมีแผนลวง

ดังนั้น โจวหลี่จึงยกมีดสั้นขึ้นและชะลอความเร็วลง จากนั้นก็เดินเข้าไปอย่างเบา ๆ ด้วยความไม่แน่ใจ เขากังวลมากจนได้ยินเสียงเต้นตึกตักของหัวใจได้ชัดเจน

ด้วยความคิดเช่นนี้แล้ว โจวหลี่ยังกล้าสังหารผู้ที่หันกลับมาโจมตีข้าศึกอย่างฉับพลันอีกหรือ?

เซียวเฉวียนเผยความรู้สึกเยาะเย้ยอย่างรุนแรงในดวงตาของเขา รอให้เจ้าสุนัขอย่างโจวหลี่เข้ามาใกล้อีกหน่อย เขาจะซัดให้ลงนรกไปเลย!

โจวหลี่เข้ามาใกล้มากขึ้น ในขณะที่ห่างจากเซียวเฉวียนเพียงสองก้าว และในตอนที่เขาคิดจะลงมือนั้น เซียวเฉวียนก็ใช้กำลังภายในโดยทันทีและตะคอกออกมาเสียงดัง “เจ้าผู้ฝ่าฝืนกฎหมาย! ตายเสียเถอะ!!”

เสียงตะคอกนี้ ทำให้โจวหลี่หวาดกลัวเสียจนโยนมีดสั้นออกมาโดยไม่รู้ตัว และนั่งลงบนพื้นดังปึง พลางมองเซียวเฉวียนราวกับว่าเขาเห็นยมทูต

“ข้า... ข้า...”

โจวหลี่ตกใจจนอ้าปากค้าง อยากจะคำที่กล้าหาญแต่ก็พูดไม่ได้

อาวุธก็ไม่มีแล้ว จักใช้อะไรต่อสู้?

จบกัน!

รอบนี้ไม่อาจหนีได้อีกแล้ว!

โจวหลี่ตบหน้าตัวเองอย่างแรง และเสียใจอย่างมากที่ย้อนกลับมาเมื่อครู่ ข้าคงบ้าไปแล้วแน่ ๆ!

“อาจารย์เซียว ข้าสำนึกผิดแล้วขอรับ ท่านปล่อยข้าไปเถอะ”

เมื่อเห็นว่าฝ่ามือของเซียวเฉวียนกำลังจะซัดเข้ามา โจวหลี่กลัวจนปิดตาร้องขอชีวิต...

โจวหลี่ฆ่านักเรียนสองคน เขารู้ดีว่าไม่มีประโยชน์ที่จะร้องขอชีวิต แต่เขาก็ยังอยากลองดูก่อน หากว่าเขาลองขอร้องดู ไม่แน่ว่าเซียวเฉวียนอาจจะปล่อยเขาไปจริง ๆ

“เหอะ!”

เซียวเฉวียนทำเสียงฮึดฮัด

สำนึกผิดรึ?

โจวหลี่ทำให้นักเรียนสองคนนั้นฟื้นขึ้นมาได้หรือไม่?

เซียวเฉวียนขี้เกียจพูดมากกับโจวหลี่ สีหน้าของเขาเคร่งขรึม และฝ่ามือจ่อไปยังโจวหลี่!

ทว่าฝ่ามือยังไม่ทันโดนตัวโจวหลี่ หัวใจของเซียวเฉวียนก็เริ่มปวดตุบ ๆ อย่างแรงขึ้นมาอีกครั้ง

เซียวเฉวียนที่มีประสบการณ์ก็อดกลั้นไว้ ไม่ยอมดึงพลังภายในกลับไป และต้องการเอาชีวิตของโจวหลี่ให้ได้

ทว่าฝ่ามือของเซียวเฉวียนค้างกลางอากาศ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจเพิ่มพลังภายในได้ ฝ่ามือของเขากลับหนักอึ้งดั่งหินผา และขยับไม่ได้แม้แต่น้อย!

ตำแหน่งของหัวใจก็เจ็บมากขึ้นทวีคูณ เจ็บปวดไปทั่วร่างกาย เจ็บเสียจนสีหน้าของเซียวเฉวียนขาวซีด ราวกับไปเยี่ยมชมยมโลกมาแล้วหนึ่งรอบ

เซียวเฉวียนดึงมือกลับอย่างไร้เรี่ยวแรง ขณะนั้น ความเจ็บปวดในร่างกายของเขาก็ค่อย ๆ หายไป ไม่นานนัก เซียวเฉวียนก็กลับมาเป็นปกติดังเดิม

เหตุใดจึงแปลกประหลาดเช่นนี้?

เซียวเฉวียนยกมือขึ้นอย่างฉงนในใจ และลองกระตุ้นกำลังภายในอีกครั้ง ครั้งนี้ในใจของเขาไม่ได้คิดอยากฆ่าผู้ใด ฝ่ามือก็กลับมาเป็นอิสระดังเดิม

นี่มัน...

เซียวเฉวียนอ้ำอึ้งอยู่ในใจ

หรือว่าจิตแห่งอักษรเป็นผู้ทำสิ่งนี้?

หรือว่ามันไม่ยอมให้เซียวเฉวียนฆ่าปัญญาชนด้วยมือของตัวเอง?

เพื่อตรวจสอบการคาดเดานี้ เซียวเฉวียนคิดอยู่ในใจและตัดสินใจที่จะลองชกโจวหลี่ดูสักครั้ง

เมื่อคิดได้เช่นนั้น เซียวเฉวียนก็หยิบหินขึ้นมาก้อนหนึ่ง กระตุ้นกำลังภายใน และเล็งไปยังทิศทางของโจวหลี่พร้อมกับโยนออกไป...

เกิดเสียงดังปิ้ว ก้อนหินโดนหน้าแข้งของโจวหลี่อย่างแม่นยำ ขาโจวหลี่อ่อนแรงลง พลางคุกเข่าลงพื้นดังตุบ

เมื่อครู่โจวหลี่จะหนีเอาตัวรอดอีกครั้ง เขาไม่มีอาวุธอยู่ในมือจึงไม่อยากยั่วโมโหเซียวเฉวียนอีก ดังนั้นจึงคลานอย่างฮึดฮัดและวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอด!

นึกไม่ถึงว่า ยังไม่ทันได้วิ่งไปไกลก็ถูกก้อนหินโยนเข้าใส่ ความเสียใจและความอึดอัดใจที่มากมายก็ถาโถมเข้ามาในใจของโจวหลี่!

ให้ตายเถอะ!

เซียวเฉวียนถามด้วยความสงสัยเล็กน้อย “เจ้า?”

ฉินซูโหรวเก็บดาบเข้าไปในฝักอย่างคล่องแคล่ว แววตาที่สุกสว่างมองไปยังเซียวเฉวียนและตอบว่า “ข้าอยู่ในกลุ่มคนมาตลอด”

ฉินซูโหรวพูดเพียงไม่กี่คำ ทว่าเปี่ยมไปด้วยข้อมูลที่มากมาย

“เจ้าเห็นทุกอย่างแล้วใช่หรือไม่?”

เซียวเฉวียนลองถามดูว่า เรื่องที่เขาไม่อาจฆ่าปัญญาชนได้ ฉินซูโหรวมองออกหรือไม่?

ฉินซูโหรวพยักหน้าและพูดขึ้น “เห็นแล้ว ท่านต่อสู้กับปัญญาชนได้ แต่ฆ่าไม่ได้”

“ราชครู วางใจได้ เรื่องนี้มีเพียงข้าและท่านที่รู้”

ซึ่งหมายความว่า นอกจากเซียวเฉวียน ฉินซูโหรวและโจวหลี่ที่เพิ่งตายไป ตรงนี้ก็ไม่มีผู้ใดแล้ว

โชคดีที่หมิงเจ๋อหนีไปตอนที่กำลังชุลมุน หากหมิงเจ๋อรู้เรื่องนี้เข้า ปัญหาจักต้องใหญ่มากแน่!

ส่วนเรื่องที่หมิงเจ๋อไปที่ใด ฉินซูโหรวไม่อาจรู้ได้ นางไม่รู้ความเก่งกาจของหมิงเจ๋อ จึงไม่กล้าผลีผลามตามไปเพียงลำพัง หากถูกเขาพบเข้าจะเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น และจะได้ไม่คุ้มเสีย

เพื่อให้เซียวเฉวียนสบายใจอย่างที่สุด ฉินซูโหรวจึงชูมือขึ้นฟ้าและกล่าวว่า “ข้าฉินซูโหรว ขอสาบานต่อฟ้าสวรรค์ว่าเรื่องของราชครู ข้าไม่มีทางพูดออกไปแน่นอน! หากข้าตระบัดสัตย์...”

“ผู้แอบแฝงฉินซูโหรวมาแล้ว เจ้ารีบกลับศาลาคุนหวู่เสียเถอะ”

ฉินซูโหรวที่ยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกเซียวเฉวียนพูดขัดขึ้นมา

เมื่อมองจากมุมของเซียวเฉวียน สามารถเห็นว่าผู้แอบแฝงฉินซูโหรวกำลังเดินมาทางนี้อยู่ไกล ๆ

ฉินซูโหรวสองคนไม่อาจพบกันได้ หากเจอกันแล้ว ก็อาจถูกผู้แอบแฝงฉินซูโหรวค้นพบเบาะแส และอาจเล่นละครต่อไปไม่ได้อีก

“แต่ว่า…” ฉินซูโหรวพูดอย่างลังเล “ข้ายังมีเรื่องสำคัญที่ยังไม่ได้บอกท่าน”

“มีเรื่องใดที่สำคัญกว่าชีวิตของเจ้าอีกหรือ?”

หากฉินซูโหรวถูกเปิดเผย ผู้แอบแฝงฉินซูโหรวจักต้องทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดนาง!

“เจ้ารีบกลับไป มีเรื่องอะไรค่อยว่ากันคราวหลัง”

เมื่อเห็นว่าผู้แอบแฝงฉินซูโหรวเข้ามาใกล้มากขึ้น เซียวเฉวียนจึงพูดอย่างเร่งรัด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย