ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 841

คนในเฉาไม่มีคนใดสามารถแก้ไขได้หรือ?

นี่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงว่าเซียวเฉวียนตั้งคำถามแบบมั่วสั่ว เพื่อสับขาหลอกผู้ที่เข้าร่วมทดสอบงั้นหรือ?

ดูเหมือนว่าคำแนะนำที่เซียวเฉวียนให้เมื่อสักครู่นั้นเพื่อหลอกลวงงั้นรึ?

เซียวเฉวียนยังมีหน้ากล้าทำแสร้งเหมือนจริงใจได้อีก!

บ้าเอ้ย!

พวกเขาถูกเซียวเฉวียนเล่นลิ้นไปมาอย่างน่าตลก!

โชคดีที่พวกเขาเชื่อในคำพูดของเซียวเฉวียน เพราะว่าหลังจากที่รู้สึกอับอายแล้ว พวกเขายังขอบคุณเซียวเฉวียนด้วย!

เซียวเฉวียนก็ไม่ได้พูดอย่างเปิดเผย ว่าเหล่านักเรียนโง่เขลาและหลอกง่าย?

นักเรียนมีความรู้สึกว่าศักดิ์ศรีของพวกเขาเหมือนถูกเซียวเฉวียนเหยียบย่ำ!

มันน่าอับอายมากเลย!

ทนไม่ได้แล้ว!

ความโกรธทำให้พวกเขามีทั้งพลังขึ้นมา ทั้งความตื่นตระหนกและความเหนื่อยล้าของพวกเขาก็หายไป!

ในตอนนี้พวกเขาเหมือนเสือที่ถูกกระตุ้นขึ้นด้วยความโกรธและต้องการจัดการเซียวเฉวียนไปให้สิ้นซาก!

ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มเดินทางไปที่จวนเซียวด้วยความพิโรธ!

แต่ฉินซูโหรวตัวปลอมต้องการเล่นบทบาทสาวสวยที่มาช่วยชาติ เขาจึงต้องการจัดเตรียมเหตุการณ์ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยที่สุด

ฉินซูโหรวตัวปลอมรู้ว่านางเองนั้นเดินช้า ถ้ากลุ่มนักเรียนไปที่จวนเซียวก่อน จวนเซียวจะไม่เละเป็นโจ๊กหรือ?

สถานการณ์ที่วุ่นวายนั้น สาวน้อยที่อ่อนโยนแบบนี้จะสามารถควบคุมได้?

เพื่อช่วยเซียวเฉวียน ฉินซูโหรวตัวปลอมจึงต้องทำข้อตกลงกับเซียวเฉวียนก่อนที่กลุ่มนักเรียนจะก่อความวุ่นวาย ไม่งั้นทุกอย่างที่ทำมาจะเป็นการเสียเวลาทั้งหมด

ดังนั้นฉินซูโหรวตัวปลอมในฐานะลูกสาวของตระกูลฉินได้ใช้กลอุบายต่อกลุ่มนักเรียน: "ถ้าพวกเจ้าต้องการไปที่จวนเซียว รออีกครึ่งชั่วโมงก่อน แล้วค่อยเดินทางต่อน่าจะเป็นการดีกว่า!

อะไร? ครึ่งชั่วโมงเหรอ?

พวกเขาไม่อยากรอสักวินาที!

พวกเขาต้องการไปไปที่จวนเซียวทันที!

พวกเขาที่เต็มไปด้วยความโกรธอยากที่จะประท้วง แต่ต้องใจเย็นลงเพราะด้วยตัวตนของฉินซูโหรวตัวปลอมที่เป็นสาวสุภาพ จึงไม่อยากทำให้นางขวัญเสีย จึงต้องเก็บความโกรธนั้นลง และทำได้เพียงมองตามหลังนางด้วยความโกรธ

แต่ที่เห็นคือนางคนนี้เดินออกไปอย่างช้าๆไม่ได้ต่างอะไรกับเต่าที่ว่ายอยู่

ว่ายน้ำเหรอ...

ว่ายน้ำอยู่งั้นหรือ...

ความเร็วนี้...

กลุ่มนักเรียนยกมือขึ้นปิดตาด้วยความโกรธและความท้อแท้ แทบไม่อยากจะมองนางอีก

……

……

ณ สถานศึกษาพระราชวัง

กลุ่มเสนาบดีที่ต้องการทำลายและฟ้องเซียวเฉวียน เริ่มได้รับการลงโทษจากฮ่องเต้

เขาได้พูดไว้ว่า หากเซียวเฉวียนไม่ได้รับโทษ จะไม่ยอมลุกขึ้นไปไหน? งั้นก็ตั้งใจคุกเข่าต่อไปให้ดี!

เหล่าขุนนางคุกเข้าอยู่บนพื้น มีความรู้สึกเจ็บใจ และมองมองตามฮ่องเต้ที่นั่งอยู่บนที่นั่งอย่างทำอะไรไม่ได้

เมื่อฮ่องเต้ปรับแก้จดหมายเสร็จแล้ว ค่อยๆปิดหนังสือลง แล้วเก็บปากกาเข้าที่อย่างช้าๆและขมวดคิ้ว

หลังจากนั้นไม่นาน ฮ่องเต้เงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ มองไปทางที่มีขุนนางอยู่...

โอ้พระเจ้า!

ในที่สุดฮ่องเต้ก็หันมามองมาแล้ว!

เร็วเข้า เร็วเข้า เรียกพวกเขาลุกขึ้น

เหล่าขุนนางมองไปที่ฮ่องเต้ สายตาแสดงถึงความหวัง

ขยับแล้ว!

พระโอษฐ์ของฝ่าบาททรงขยับแล้ว!

เอ๋?

เหตุใดฝ่าบาทจึงทรงปิดพระโอษฐ์โดยไม่ตรัสอะไรสักคำเลย?

ฝ่าบาทกำลังคิดอะไรอยู่หรือ?

ฝ่าบาท…ไม่ว่าท่านจะคิดอะไรอยู่ ขอให้พวกข้ายืนขึ้นก่อนเถิดขอรับ แล้วท่านค่อยทรงคิดต่อจะได้หรือไม่!

กลุ่มเสนาบดีหัวใจของพวกเขากำลังสับสน เพราะฮ่องเต้ทรงเมินเฉยต่อคำร้องของพวกเขา

จ้าวหลานยืนอยู่หน้าพวกเขา เฝ้ามองดูสถาการณ์อยู่เงียบๆและได้เห็นท่าทีของกลุ่มเสนาบดีค่อยๆเปลี่ยนไป จึงเผลอหัวเราะออกมา “ฮึ!”

ฮ่องเต้อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยในใจ

ถ้าไม่ต้องคำนึงถึงพวกเรื่องหน้าที่ของพวกเขา ฮ่องเต้คงให้แค่แผ่นไม้หนึ่งแผ่น แล้วสั่งทหารองครักษ์ในพระราชวังโยนพวกเขาออกจากวังไป!

สิ่งนี้จึงเป็นสิ่งที่เหมือนล้อเล่นที่ฮ่องเต้ให้แก่เหล่าขุนนาง เพื่อเตือนใจพวกเขา และเตือนความจำตลอดไป ว่าควรต้องใช้เหตุผล ไม่ควรเริ่มใช้การคุกเข่ามาเป็นสิ่งที่ขู่เข็ญฮ่องเต้ให้ยอม!

เรื่องของวังได้รับการแก้ไขแล้ว และไม่มีอะไรผิดปกติกับจ้าวหลาน ดังนั้นจ้าวหลานจึงถอนตัวและรีบออกจากวังไป

เมื่อจ้าวหลานก้าวออกจากประตูวังไม่กี่ก้าว ชายหนุ่มคนนึงก็รีบวิ่งเข้ามา ชายหนุ่มรีบวิ่งเกินไปและไม่สามารถหยุดได้จน เขาชนกับจ้าวหลาน

จ้าวหลานหันหน้ากลับพร้อมกับขมวดคิ้วและพูดว่า "เจ้ากำลังจะไปทำอะไร ทำไมดูวุ่นวายขนาดนี้?"

หลังจากที่เด็กรับใช้คนนี้ออกจากที่จวนเซียวมา เขาคิดว่าจ้าวหลานยังอยู่ที่สำนักจึงไปที่สำนัก เมื่อเขาไปถึงที่สำนัก เขาพบว่าจ้าวหลานได้เข้าไปในวังแล้ว เด็กรับใช้จึงต้องรอที่ประตูวัง รอที่จะได้พบจ้าวหลานออกมาเพื่อรายงานเหตุการณ์ที่จวนเซียว

เด็กรับใช้พูดอย่างกังวลว่า : “ท่านครับ เมื่อกระผมไปที่จวนเซียว พบว่าพวกกลุ่มนักเรียนกำลังสร้างปัญหาที่จวนเซียวแล้วขอรับ…”

มันเริ่มเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?

ไม่ได้รอให้เด็กรับใช้พูดจบ จ้าวหลานก็ได้รีบมุ่งไปจวนเซียวแล้ว

……

……

ณ จวนเซียว

ในที่สุดฉินซูโหรวตัวปลอมก็มาถึงประตูจวนเซียว นางเคาะประตูสองสามครั้งและไม่ได้รับการตอบกลับเลย

และตอนนั้นนางก็หันไปหาผู้ชายที่กำลังผ่านทางหน้าจวนเซียวคนหนึ่งแล้วตะโกนออกไป : “พี่ชาย ท่านช่วยเคาะประตูให้ข้าหน่อยได้ไหม?”

ชายที่แข็งแกร่งหยุดเมื่อเขาได้ยินคําพูดนั้น

หือ? นี่ไม่ใช่เจ้าหญิงแห่งตระกูลฉินเหรอ?

ชายที่แข็งแรงผู้นี้ ขมวดคิ้วขึ้นอย่างสงสัยแล้วมองไปที่นาง

นางหย่ากับเซียวเฉวียนไปแล้วไม่ใช่เหรอ?

ทําไมเจ้าถึงมาเคาะประตูจวนเซียวอีก?

ในเวลานั้นเรื่องระหว่างฉินซูโหรวและเซียวเฉวียนได้แพร่กระจายอย่างกว้างขวาง และเป็นเรื่องที่หลายคนยังไม่รู้

เมื่อฉินซูโหรวตัวปลอมเห็นชายที่แข็งแกร่งมองมาที่นางแบบนี้ นางจึงใช้อารมณ์และพูดอย่างไม่พอใจว่า "ข้าคือเจ้าหญิง! ข้าบอกให้เจ้าเคาะประตู? เจ้าก็แค่เพียงเคาะ เคาะแค่นั้นไง!"

เสียงของนางดังไปทั่วจวนเซียว และเซียวเฉวียนซึ่งนั่งอยู่ในสนาม ตะคอกอย่างเย็นชา "หึ่ม!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย