คนในเฉาไม่มีคนใดสามารถแก้ไขได้หรือ?
นี่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงว่าเซียวเฉวียนตั้งคำถามแบบมั่วสั่ว เพื่อสับขาหลอกผู้ที่เข้าร่วมทดสอบงั้นหรือ?
ดูเหมือนว่าคำแนะนำที่เซียวเฉวียนให้เมื่อสักครู่นั้นเพื่อหลอกลวงงั้นรึ?
เซียวเฉวียนยังมีหน้ากล้าทำแสร้งเหมือนจริงใจได้อีก!
บ้าเอ้ย!
พวกเขาถูกเซียวเฉวียนเล่นลิ้นไปมาอย่างน่าตลก!
โชคดีที่พวกเขาเชื่อในคำพูดของเซียวเฉวียน เพราะว่าหลังจากที่รู้สึกอับอายแล้ว พวกเขายังขอบคุณเซียวเฉวียนด้วย!
เซียวเฉวียนก็ไม่ได้พูดอย่างเปิดเผย ว่าเหล่านักเรียนโง่เขลาและหลอกง่าย?
นักเรียนมีความรู้สึกว่าศักดิ์ศรีของพวกเขาเหมือนถูกเซียวเฉวียนเหยียบย่ำ!
มันน่าอับอายมากเลย!
ทนไม่ได้แล้ว!
ความโกรธทำให้พวกเขามีทั้งพลังขึ้นมา ทั้งความตื่นตระหนกและความเหนื่อยล้าของพวกเขาก็หายไป!
ในตอนนี้พวกเขาเหมือนเสือที่ถูกกระตุ้นขึ้นด้วยความโกรธและต้องการจัดการเซียวเฉวียนไปให้สิ้นซาก!
ดังนั้นพวกเขาจึงเริ่มเดินทางไปที่จวนเซียวด้วยความพิโรธ!
แต่ฉินซูโหรวตัวปลอมต้องการเล่นบทบาทสาวสวยที่มาช่วยชาติ เขาจึงต้องการจัดเตรียมเหตุการณ์ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยที่สุด
ฉินซูโหรวตัวปลอมรู้ว่านางเองนั้นเดินช้า ถ้ากลุ่มนักเรียนไปที่จวนเซียวก่อน จวนเซียวจะไม่เละเป็นโจ๊กหรือ?
สถานการณ์ที่วุ่นวายนั้น สาวน้อยที่อ่อนโยนแบบนี้จะสามารถควบคุมได้?
เพื่อช่วยเซียวเฉวียน ฉินซูโหรวตัวปลอมจึงต้องทำข้อตกลงกับเซียวเฉวียนก่อนที่กลุ่มนักเรียนจะก่อความวุ่นวาย ไม่งั้นทุกอย่างที่ทำมาจะเป็นการเสียเวลาทั้งหมด
ดังนั้นฉินซูโหรวตัวปลอมในฐานะลูกสาวของตระกูลฉินได้ใช้กลอุบายต่อกลุ่มนักเรียน: "ถ้าพวกเจ้าต้องการไปที่จวนเซียว รออีกครึ่งชั่วโมงก่อน แล้วค่อยเดินทางต่อน่าจะเป็นการดีกว่า!
อะไร? ครึ่งชั่วโมงเหรอ?
พวกเขาไม่อยากรอสักวินาที!
พวกเขาต้องการไปไปที่จวนเซียวทันที!
พวกเขาที่เต็มไปด้วยความโกรธอยากที่จะประท้วง แต่ต้องใจเย็นลงเพราะด้วยตัวตนของฉินซูโหรวตัวปลอมที่เป็นสาวสุภาพ จึงไม่อยากทำให้นางขวัญเสีย จึงต้องเก็บความโกรธนั้นลง และทำได้เพียงมองตามหลังนางด้วยความโกรธ
แต่ที่เห็นคือนางคนนี้เดินออกไปอย่างช้าๆไม่ได้ต่างอะไรกับเต่าที่ว่ายอยู่
ว่ายน้ำเหรอ...
ว่ายน้ำอยู่งั้นหรือ...
ความเร็วนี้...
กลุ่มนักเรียนยกมือขึ้นปิดตาด้วยความโกรธและความท้อแท้ แทบไม่อยากจะมองนางอีก
……
……
ณ สถานศึกษาพระราชวัง
กลุ่มเสนาบดีที่ต้องการทำลายและฟ้องเซียวเฉวียน เริ่มได้รับการลงโทษจากฮ่องเต้
เขาได้พูดไว้ว่า หากเซียวเฉวียนไม่ได้รับโทษ จะไม่ยอมลุกขึ้นไปไหน? งั้นก็ตั้งใจคุกเข่าต่อไปให้ดี!
เหล่าขุนนางคุกเข้าอยู่บนพื้น มีความรู้สึกเจ็บใจ และมองมองตามฮ่องเต้ที่นั่งอยู่บนที่นั่งอย่างทำอะไรไม่ได้
เมื่อฮ่องเต้ปรับแก้จดหมายเสร็จแล้ว ค่อยๆปิดหนังสือลง แล้วเก็บปากกาเข้าที่อย่างช้าๆและขมวดคิ้ว
หลังจากนั้นไม่นาน ฮ่องเต้เงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ มองไปทางที่มีขุนนางอยู่...
โอ้พระเจ้า!
ในที่สุดฮ่องเต้ก็หันมามองมาแล้ว!
เร็วเข้า เร็วเข้า เรียกพวกเขาลุกขึ้น
เหล่าขุนนางมองไปที่ฮ่องเต้ สายตาแสดงถึงความหวัง
ขยับแล้ว!
พระโอษฐ์ของฝ่าบาททรงขยับแล้ว!
เอ๋?
เหตุใดฝ่าบาทจึงทรงปิดพระโอษฐ์โดยไม่ตรัสอะไรสักคำเลย?
ฝ่าบาทกำลังคิดอะไรอยู่หรือ?
ฝ่าบาท…ไม่ว่าท่านจะคิดอะไรอยู่ ขอให้พวกข้ายืนขึ้นก่อนเถิดขอรับ แล้วท่านค่อยทรงคิดต่อจะได้หรือไม่!
กลุ่มเสนาบดีหัวใจของพวกเขากำลังสับสน เพราะฮ่องเต้ทรงเมินเฉยต่อคำร้องของพวกเขา
จ้าวหลานยืนอยู่หน้าพวกเขา เฝ้ามองดูสถาการณ์อยู่เงียบๆและได้เห็นท่าทีของกลุ่มเสนาบดีค่อยๆเปลี่ยนไป จึงเผลอหัวเราะออกมา “ฮึ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...