ไม่......
องค์ชายเช่นข้าจักต้องมีคุณธรรมและจิตใจที่แน่วแน่!
แม้ว่าคนในสมัยยุคโบราณมักจะแต่งงานกันเร็วก็ตาม แต่อายุอานามของอาจื่อก็นับว่ายังเด็กอยู่มากนัก
หมิงเจ๋อที่มีความคิดมากพอ พลันส่ายหัวไล่ความคิดออกไปในทันที เพื่อกลับมาดึงสติของตนเองเอาไว้ ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า "เจ้าฝึกคัดลอกแบบอักษรในตำราเล่มนี้เสีย อย่าได้ผิดแม้แต่ตัวเดียวเชียว!"
หลังจากที่หมิงเจ๋อโยนตำราบันทึกให้กับอาจื่อแล้วนั้น เขาพลันเดินหันหลังกลับเข้าไปในห้องในทันที
เช่นนี้ หลังจากที่ได้รับคำสั่งจากหมิงเจ๋อมานั้น อาจื่อก็สุ่มเอาแต่นั่งฝึกคัดลายมือวันแล้ววันเล่า พร้อมทั้งเริ่มเรียนรู้รู้บทกวี บทเพลง ดนตรี หมากล้อม ตัวอักษรและภาพวาดจากหมิงเจ๋อ
จนกระทั่งห้าปีที่แล้ว เมื่ออาจื่อได้ร่ำเรียนจนแตกฉานแล้วนั้น รวมไปถึงกิริยาท่าทาง แม้แต่กลิ่นอายบรรยากาศจนมีความคล้ายคลึงกับฉินซูโหรวแล้วนั้น จวบจนสามารถที่ทำให้ผู้คนสามารถเข้าใจผิดได้แล้ว
หมิงเจ๋อจึงพานางไปที่ตระกูลฉินในทันที เพื่อให้นางใช้นามแทนฉินซูโหรว ทั้งยังใช้ชีวิตในจวนตระกูลฉินแทนฉินซูโหรวอีกด้วย
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อาจื่อก็ได้ใช้ชีวิตดี ๆ ทั้งยังได้สวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์ตัวงาม ทุกอย่างล้วนได้แต่ในสิ่งที่นางต้องการ!
อาจื่อมิเคยคิดมิเคยฝันว่าตนเองจะสามารถเข้ามาใช้ชีวิตเช่นนี้ได้! นางชื่นชอบชีวิตเช่นนี้มากนัก! จนกระทั่งนางค่อย ๆ หลงลืมตัวตนของตนเองไป...
จวบจนเซียวเฉวียนเอ่ยเตือนนางในวันนี้
หากอาจื่อสูญเสียสถานะและตัวตนของนางในฐานะคุณหญิงคนโตของตระกูลฉินไปแล้วไซร้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่นางลงแรงไป นางก็จักสูญเสียฐานะคุณหญิงแห่งต้าเว่ยไปด้วย!
เมื่อแสงไฟเหล่านี้ได้ห่างหายไปแล้วนั้น ย่อมทำให้นางรู้สึกว่าตนเองที่สามารถบินขึ้นไปบนที่สูงกลับต้องมาตกอับจมอยู่ในโคลนตมเช่นเดิม นางที่คุ้นชินกับการใช้ชีวิตเป็นคุณหนูเสียสบายแล้วนั้น จักอยากสูญเสียทุกอย่างไปได้อย่างไรกัน?
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อตัวตนของอาจื่อถูกเปิดเผยโดนโทษฐานหลอกลวงเบื้องสูงด้วยก็เป็นได้!
โทษทัณฑ์ย่อมถึงแก่ความตายโดยไม่ต้องสงสัย!
ไม่!
ข้ามิใช่อาจื่อ!
ข้าคือฉินชูโหรวตัวจริง!
เมื่ออาจื่อคิดเช่นนี้ พร้อมทั้งหันมาจ้องตามองเซียวเฉวียนด้วยความเย็นชา
ความรักของสามีและภรรยาย่อมมีความลึกซึ้ง!
ทว่า เซียวเฉวียนกลับต้องการผลักนางเข้าไปอยู่ในกองไฟด้วยมือของเขาเอง เขานับว่าโหดร้ายยิ่งนัก!
เซียวเฉวียนที่อ่านความคิดการอ่านภายในใจของอาจื่อได้นั้น ได้แต่ยกยิ้มเยาะเย้ยออกมาที่มุมปาก "อาจื่อ..."
เมื่อได้ฟังคำพูดขี้เล่นของเซียวเฉวียนเอ่ยขึ้นมานั้น หัวใจของอาจื่อพลันสั่นสะท้านไปในทันที เขารู้จริง ๆ ว่านางมีนามว่าอาจื่อหรือ?
เขาตรวจสอบนางละเอียดยิ่งนัก!
ราวกับเซียวเฉวียนต้องเปิดโปงอาจื่อเข้าแล้ว!
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อาจื่อก็คงไม่มีเหตุผลที่จะต้องเสแสร้งอีกต่อไป
ในขณะเดียวกัน เพียงชั่วพริบตาเดียวนางก็พุ่งจิตสังหารเข้าหาเซียวเฉวียนในทันที!
การฆ่าปิดปากเซียวเฉวียน เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้อาจื่อมีชีวิตรอดต่อไปได้!
ไม่นานนัก อาจื่อพลันร้องตะโกนออกมาว่า "เว่ยอู๋จี้!"
เว่ยอู๋จี้เป็นองครักษ์ที่ไทเฮามอบใ้กับนาง นัว่ามีพละกำลังแข็งแกร่งยิ่งนัก ขอเพียงแค่เว่ยอู๋จี้ปรากฎตัวออกมา เซียวเฉวียนก็มิมีทางหนีรอดไปได้!
ความมั่นใจที่ล้นฟ้าเช่นนี้ เซียวเฉวียนนึกอยากปรบมือชื่นชมนางยิ่งนัก
จนถึงตอนนี้ ภายในใจของอาจื่อยังคงมีความหวังว่า ตราบใดที่เซียวเฉวียนร้องขอความเมตตาจากนาง และกลับมายืนอยู่ข้างกายของนางอีกครั้ง นางจะไว้ชีวิตเซียวเฉวียนไป
อาจื่อยังคงวางท่ากล่าวออกมาด้วยท่าทีสูงส่ง "เซียวเฉวียน ตราบใดที่เจ้าคิดจะสมานฉันท์กับข้า อะไรที่ผ่านไปแล้วข้าจักปล่อยผ่านมันไปเอง"
“ถึงอย่างไร องค์หญิงต้าถงของเจ้าก็ตกตายไปแล้วมิใช่หรือ ช้าเร็วเจ้าก็จะต้องตบแต่งกับผู้อื่นอยู่ดี เหตุใดเจ้าถึงไม่กลับมาหาข้าเล่า? หากเจ้ากลับมารักใคร่ปรองดองกับข้าเช่นในวันวานอีกครั้ง ตระกูลฉินของข้าย่อมต้องช่วยปกป้องเจ้าอย่างแน่นอน"
“ในยามนี้ มีเพียงตระกูลฉินเท่านั้นที่จะสามารถปกป้องเจ้าได้”
อาจื่อจ้องมองไปที่เซียวเฉวียนด้วยสีหน้าหยิ่งผยอง พลางกล่าวถึงข้อดีและข้อเสียออกมาให้เซียวเฉวียนฟังจนหมด นางมิเชื่อว่าเซียวเฉวียนยังคิดที่จะปฏิเสธนางไปอีก!
ในครานี้ หากว่าเซียวเฉวียนยอมเห็นด้วยละก็นับว่าดียิ่งนัก หากว่าเขายังไม่เห็นด้วยอีกก็มีแต่ต้องทำให้เขายอมรับในข้อเสนอของนางเท่านั้นแล้ว!
มิคาดคิดเลยว่า เซียวเฉวียนจักไม่เห็นด้วยทั้งยังส่งเสียงฮึดฮัดออกมาอย่างเย็นชาว่า "เหอะ!"
"ขอบคุณสุนัขเช่นเจ้าที่คิดถึงคนแซ่เซียวเช่นข้า!"
คำพูดเหล่านี้ทำเอาอาจื่อสั่นสะท้านไปด้วยความโกรธ นางเป็นองค์หญิงผู้สง่างามและเป็นถึงเชื้อสายราชวงศ์ขององค์จักรพรรดิ!
เซียวเฉวียนกล้าดีอย่างไรมาเรียกนางว่าสุนัขกัน?
เบื่อชีวิตตนเองแล้วหรืออย่างไร!
มิเห็นโลงศพมิหลั่งน้ำตาเสียจริง!
“เว่ยอู๋จี้!”
เซียวเฉวียนผู้ที่สามารถอ่านจิตใจของผู้คนได้นั้น อดมิได้ที่จะยอมรับว่า ความอดทนภายในใจจิตใจของหุ่นจำลองพวกนี้น่าทึ่งยิ่งนัก
หากเป็นผู้อื่น เขาคงหวาดกลัวกลางเอ่ยเล่าความจริงทุกอย่างออกมา ก่อนจะคุกเข่าลงเพื่อร้องขอความเมตตาไปแล้ว!
ทว่า คนเช่นอาจื่อนั้นยังคงคนหน้าซื่อใจคด ทั้งยังยึดติดกับความเชื่อที่ว่าจักโกหกทั้งทีต้องทำไปให้จนถึงที่สุด และจะมิมีวันเปลี่ยนคำพูดเป็นอันขาด!
ในเมื่อนางชอบแสดงมากถึงเพียงนี้ เช่นนั้นเซียวเฉวียนก็จะแสดงร่วมกับนางเอง
เซียวเฉวียนกล่าวออกมาด้วยท่าทีหนักแน่น "เชื่อ!"
ใบหน้าของอาจื่อพลันฉายแววโล่งใจออกมาในทันที ก่อนที่จะแย้มยิ้มออกมาด้วยความเบิกบาน
"ผลัก!"
เซียวเฉวียนหันไปตบโต๊ะข้าง ๆ ในทันใด พร้อมกับโต๊ะตัวนั้นที่แตกสลายกลายเป็นผุยผงในทันที ในใจของอาจื่อรู้สึกหวาดกลัวมากนัก หากแต่ใบหน้าของนางยังคงแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง ก่อนจะเหม่อมองเซียวเฉวียนด้วยความสับสน
"ไสหัวออกไปจากตระกูลเซียวเสีย!"
เสียงของเซียวเฉวียนราวกับสายฟ้าฟาดที่ดังสนั่นไปทั่วจวนตระกูลเซียว
ตัวปลอมเช่นนาง จนถึงตอนนี้ยังมิรู้จักเปลี่ยนแปลงตนเอง! ทั้งยังกล้าที่จะคิดสังหารเซียวเฉวียนเสียอีก
หากเซียวเฉวียนไม่สังหารนางด้วยมือของตนเองละก็ เมันคงมิอาจลบล้างความเกลียดชังที่เกิดขึ้นภายในใจของเขาไปได้แน่!
หากแต่อาจื่อเองก้เป็นหนึ่งในปัญญาชน เซียวเฉวียนในยามนี้ยังไม่สามารถสังหารนางโดยตรงได้ ในยามนี้ เขาคงได้แต่ไว้ชีวิตนางเป็นการชั่วคราวลงเท่านั้น!
อาจื่อนึกสับสนในการกระทำของเซียวเฉวียนยิ่งนัก แต่นางมิกล้าเอ่ยถามอันใดให้มากความ พลางพึมพำอยู่แต่ในใจเอาไว้ว่า "มิใช่ว่าเขาเชื่อแล้วหรือ... เหตุใด จู่ ๆ ถึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาได้เล่า?"
หรือว่า...
เซียวเฉวียนกำลังวางแผนที่จะกำจัดนาง?
เขามิได้อยากคืนดีกับนาง จึงคิดที่จะรื้อสะพานทิ้งงั้นหรือ?
เมื่อคิดได้เช่นนี้ อาจื่อพลันรู้สึกว่าตนเองกำลังถูกหลอกขึ้น ความโกรธภายในใจจึงเพิ่มทวีคุณขึ้นมาเป็นเท่าตัว "ท่านมันคนใจร้าย เลือดเย็น! ไปตายเสีย!"
พูดจบ อาจื่อพลันเคลื่อนกายไปด้วยความเร็วไว ราวกับนกนางแอ่นที่กำลังโบยบินก็ไม่ปาน พร้อมทั้งดึงกริชออกมาพุ่งตรงไปหาเซียวเฉวียนในทันที
เซียวเฉวียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจออกมา ตัวปลอมเช่นนางมิใช่คนไร้ความสามารถหรือ?
เหตุใดจึงลงมือว่องไวเช่นนี้เล่า?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...