ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 877

ฉินซูโหรวอยู่ในตำหนักเย็นเป็นเวลาห้าปีเต็ม นางพบเจอกับความยากลำบากตลอดห้าปีนี้ นางคิดที่จะไปจากตำหนักเย็นตลอดเวลา ความแค้นที่นางมีต่อหมิงเจ๋อมากเพิ่มขึ้นทุกวัน แค้นเสียจนอยากชักกระดูกออกมาฉีกให้เป็นชิ้น ๆ!

นางสาบานว่าหากนางออกจากตำหนักเย็นได้ จักต้องเอาคืนหมิงเจ๋อให้สาสม!

นางถึงขั้นที่เกิดความแค้นต่อคนตระกูลฉินด้วย นางคิดว่าเมื่อก่อนคนตระกูลฉินเสแสร้งทำดีกับนาง มิเช่นนั้นการที่นางหายตัวไปในพระราชวังเนิ่นนานเช่นนี้ ขุดดินในวังสามศอกก็น่าจะหานางเจอตั้งนานแล้ว

จนกระทั่งฉินซูโหรวถูกเซียวเฉวียนช่วยออกมา จึงรู้ว่าหมิงเจ๋อบงการอาจื่อให้มาแทนฉินซูโหรว และเสพสุขทุกสิ่งทุกอย่างในจวนฉินที่ควรเป็นของฉินซูโหรว

แท้จริงแล้วมีคนคนหนึ่งที่คล้ายกับนางอย่างมากแอบอ้างเป็นนาง!

นางยอมรับได้ที่คนตระกูลฉินแยกไม่ออกว่าอาจื่อเป็นตัวปลอม

คนตระกูลฉินก็ตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงด้วยเช่นกัน

ความแค้นที่นางมีต่อคนตระกูลฉินหายไปชั่วพริบตา เพราะมันแทบไม่มีเหตุผลเลย

และยังเกิดการเปลี่ยนแปลงที่โกลาหลอลหม่านในตระกูลฉิน เดิมทีตระกูลฉินเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ ระยะเวลาสั้น ๆ เพียงปีเดียวก็พังพินาศเป็นเสี่ยง ๆ และไม่อาจฟื้นคืนความรุ่งโรจน์ในอดีต

อีกทั้งผู้ที่ผู้ที่ริเริ่มกระทำเช่นนี้ก็คือหมิงเจ๋อ หากหมิงเจ๋อไม่ได้สร้างผู้แอบแฝงขึ้นมาในจวนฉินและหาเหาใส่หัวต่อ เว่ยเชียนชิวก็คงไม่ได้ใช้โอกาสนี้ในการกัดเซาะอำนาจของจวนฉิน

หากไม่ใช่หมิงเจ๋อ ทุกสิ่งก็คงไม่เป็นเช่นนี้!

ดังนั้น ฉินซูโหรวจึงเกลียดแค้นหมิงเจ๋ออย่างมาก และนางรู้อีกว่าในมือของเซียวเฉวียนมีใบเบิกทางไปยังซินเจียง นางมีลางสังหรณ์ ในเวลาเซียวเฉวียนเสนอให้พานักเรียนออกไปฝึกฝน และมีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะไปยังซินเจียง

ในเมื่อไปซินเจียง จักขาดฉินซูโหรวไปได้อย่างไร?

และในตอนนี้ก็ไม่มีคนนอก ฉินซูโหรวจึงถามอย่างตรงประเด็นว่า “ราชครู ท่านนำนักเรียนไปฝึกฝนครั้งนี้ ท่านไปยังซินเจียงใช่หรือไม่?”

คำถามนี้ทำให้ทุกคนที่ได้ยินต่างตกใจ

ผู้ที่ตกใจมากที่สุดก็คือเว่ยเป้ย

เว่ยเป้ยก็คือผู้ที่ถูกเลือกให้ไปฝึกฝนในครั้งนี้

อะไรกัน?

เขาเพิ่งได้เป็นจอหงวน ก็ถูกส่งไปยังชายแดนเลยหรือ?

มิน่าเล่าเซียวเฉวียนที่เพิ่งรู้จักกับเขาจึงยินดีปรีดาเช่นนี้... ที่แท้ก็วางแผนไว้แล้วนี่เอง

คนบ้านเดียวกัน กลับแทงข้างหลังตอนเผลอ!

เซียวเฉวียนคนนี้ช่างไม่มีความเกรงใจกันเลยสักนิด!

เว่ยเป้ยเป็นผู้ที่มาจากฮว๋าเซี่ย เขารู้แน่นอนว่าซินเจียงค่อนข้างคล้ายกับพื้นที่ตะวันตกเฉียงเหนือในยุคใหม่

พื้นที่แถบนี้สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งปี อาณาเขตกว้างใหญ่ ประชากรไม่แน่นหนา ตั้งอยู่บริเวณชายแดนฮว๋าเซี่ย กล่าวคือ หากเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านก็จะเรียกว่าชายแดน

ชายแดนมีระดับความสูงเหนือน้ำทะเลอยู่มาก แห้งแล้งยาวนานหลายปี พื้นดินไม่อุดมสมบูรณ์ พายุทรายรุนแรง และสภาพความเป็นอยู่เลวร้าย ผู้คนที่มาจากที่อื่นมีแนวโน้มที่จะป่วยจากความสูงเช่นกัน

ชายแดนฮว๋าเซี่ยในยุคปัจจุบันก็เป็นเช่นนี้ ซินเจียงแห่งต้าเว่ยทุรกันดารเสียยิ่งกว่า

การไปยังสถานที่แม้แต่นกยังไม่บินผ่าน หากเป็นการท่องเที่ยวในยุคปัจจุบันเรียกได้ว่าได้สัมผัสกับธรรมชาติที่สวยงาม

ทว่าไปยังซินเจียงแห่งต้าเว่ย นั่นคือการแกว่งเท้าหาเสี้ยน หากต้องเดินทางไปยังสถานที่ที่ไร้อารยธรรม ยังไม่ต้องพูดถึงว่าจะมีชีวิตกลับต้าเว่ยหรือไม่ เว่ยเป้ยเพียงคิดก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเทิ้มไปทั้งตัว มองเซียวเฉวียนด้วยใบหน้าที่สงสัย และรอเซียวเฉวียนตอบคำถามของฉินซูโหรว

เว่ยเป้ยพึมพำในใจ “เจ้าแม่กวนอิมและพระยูไลผู้มีเมตตาและยิ่งใหญ่ ขอให้พวกท่านอย่าให้เซียวเฉวียนบอกว่าไปซินเจียงเลย”

“ใช่”

คำพูดสั้น ๆ ที่ออกมาจากปากของเซียวเฉวียน ได้ทำลายความฝันของเว่ยเป้ยอย่างไร้ความปราณี เว่ยเป้ยคิดอยากจะตบเซียวเฉวียนให้ทิ่ม!

ต่อให้เซียวเฉวียนโกหกเว่ยเป้ยว่าไม่ใช่ เพื่อให้เว่ยเป้ยดีใจสักสองสามวันก็ยังดี

เซียวเฉวียนคนใจจืดใจดำ!

เว่ยเป้ยมองเซียวเฉวียนอย่างคับแค้นใจและถามขึ้นว่า “ไปซินเจียงทำไม?”

“ฝึกฝนในต้าเว่ยมีดินแดนอันสวยงาม เหตุใดต้องไปถึงซินเจียง?”

เขากำลังจะบอกเซียวเฉวียนว่า เจ้าอย่าคิดเอาการฝึกฝนมาหลอกข้า!

ข้าไม่เชื่อ!

“หามันเทศ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย