นักสืบกอดทองคำไว้ในอ้อมอกอย่างเบา ๆ และพูดอย่างนอบน้อมวว่า “ท่านเจียนกั๋ว ฉินซูได้อันดับที่สองขอรับ”
ดีจริงเชียว!
ช่วงนี้จวนเจียนกั๋วมีสิ่งดี ๆ เกิดขึ้นติดต่อกัน เว่ยเชียนชิวดีใจเสียจนยิ้มแทบปากฉีก
สมแล้วที่เป็นคนที่เว่ยเชียนชิวถูกใจ ผลลัพธ์ก็ทำได้อย่างสวยงาม
ลูกชายสอบได้จอหงวน ผู้ที่ความสามารถที่ถูกใจก็สอบได้อันดับตามมา เว่ยเชียนชิวอดไม่ได้ที่จะรู้สึกดี
ในขณะนั้นเอง นักสืบอีกคนเดินเข้ามาทำความเคารพอย่างรวดเร็ว “รายงานท่านเจียนกั๋ว ผลการสอบหน้าพระที่นั่งออกมาแล้วขอรับ เลื่อนขั้นทุกคนขอรับ!”
วันนี้เป็นการสอบหน้าพระที่นั่ง เว่ยเชียนชิวส่งนักสืบสองคนไปติดตามสถานการณ์การสอบหน้าพระที่นั่ง เขายังบอกให้ติดตามฉินซูโหรวโดยเฉพาะ
หลักจากการสอบหน้าพระที่นั่งสิ้นสุดลง หนึ่งในนักสืบได้ยินประกาศการสอบหน้าพระที่นั่งสามอันดับแรก และรู้ว่าท่านชายของตนพร้อมกับฉินซู สอบได้จอหงวนและอันดับที่สอง จึงรีบกลับไปที่จวนเจียนกั๋วเพื่อรายงานเรื่องนี้ต่อเว่ยเชียนชิว เหลือเพียงนักสืบผู้นี้ที่ยังคงคอยติดตามเหตุการณ์ในพระราชวัง จนกระทั่งการสอบหน้าพระที่นั่งสิ้นสุดลงจึงกลับจวนเจียนกั๋ว
“เลื่อนขั้นทุกคนงั้นรึ?” ใบหน้าแก่ชราของเว่ยเชียนชิวที่เพิ่งเบิกบานก็อึมครึมลงในพริบตาเดียว
ความจริงแล้ว การสอบหน้าพระที่นั่งเมื่อปีก่อนก็ได้เลื่อนขั้นทุกคน ทว่าการทดสอบประชันกลอนระดับมณฑลปีนี้สอบผ่านทุกคน ถือเป็นเรื่องน่าแปลก เว่ยเชียนชิวเห็นว่าความสามารถของพวกเขาช่างน้อยนิด จึงไม่ได้ใส่ใจพวกเขา
เดิมทีคิดว่าการสอบหน้าพระที่นั่งจะสลัดพวกเขาทิ้งได้ กลับนึกไม่ถึงว่าจะได้เลื่อนขั้นทุกคน!
สีหน้าของเว่ยเชียนชิวราวกับคนอมทุกข์ นักเรียนมากมายขนาดนั้นได้เลื่อนขั้นทุกคน เพียงแต่อันดับต่างกัน เว่ยเชียนชิวจักฆ่าใครได้?
ห๋า?
คงฆ่าทั้งหมดไม่ได้หรอก
ให้ตายเถอะ!
ไม่ต้องคิดก็รู้แน่ว่าเป็นความคิดของเซียวเฉวียน ไอ้เด็กเวรนั่นอีกแล้ว!
สรุปว่าเจ้าเด็กนี่ออกข้อสอบเทพแบบใดกัน ที่ทำให้นักเรียนทุกคนได้เลื่อนขั้น?
เว่ยเชียนชิวแปลกใจเสียจริง เขาถามนักสืบคนนั้นด้วยน้ำโห “ข้อสอบการสอบหน้าพระที่นั่งครั้งนี้ เจ้าจำได้หรือไม่?”
นักสืบคิดอยู่ครู่หนึ่ง “หนึ่งบวกหนึ่งเป็นเท่าใด ใครตอบได้ก่อนผู้นั้นก็จะได้อันดับต้น ๆ ขอรับ”
เว่ยเชียนชิวตกใจ อะไรนะ!
ทั้งที่เป็นการสอบหน้าพระที่นั่ง เซียวเฉวียนกำลังเล่นขายของหรืออย่างไร?
เว่ยเชียนชิวจะฆ่านักเรียนชื่อติดอันดับที่ไม่ยอมสวามิภักดิ์ต่อเขา และเซียวเฉวียนเป็นเพียงแค่ลูกเขยแต่งเข้า กลับเห็นการสอบขุนนางเป็นเรื่องเล่นครั้งแล้วครั้งเล่า เล่นสนุกเสียยิ่งกว่าเว่ยเชียนชิว!
เว่ยเชียนชิวจึงโยนหมอนสีขาวเหลืองที่อยู่ขว้างเตียง และหมอนสีขาวเหลืองก็ขาดกระจุยร่วงลงบนพื้น!
ตอนที่ฟังนักสืบรายงานเรื่องเว่ยเป้ยสอบได้จอหงวนเมื่อครู่ เว่ยเชียนชิวก็มีความสับสนในใจอยู่ชั่วครู่
เว่ยเชียนชิวรู้จักลูกชายของเขาดี เขาสามารถสอบได้อันดับหนึ่งในการสอบหน้าพระที่นั่ง ถือเป็นเรื่องที่เกิดความคาดคิดของเว่ยเชียนชิว
แต่เมื่อเขาย้อนคิดดูใหม่ เว่ยเป้ยแสดงความสามารถเหนือชั้นก็อาจเป็นไปได้
ผู้ใดจะรู้ว่าสอบหนึ่งบวกหนึ่ง ลูกชายของเขาหัวอ่อน จิตใจบริสุทธิ์ ไม่ต้องคิดมากก็ได้อันดับหนึ่งโดยไม่คาดคิด!
ถือเป็นความสำเร็จที่ได้มาเพราะความบังเอิญโดยแท้!
ได้ตำแหน่งจอหงวนมาอย่างชุบมือเปิบ!
ปล่อยให้เว่ยเชียนชิวดีใจอยู่เมื่อครู่ และยังตบทองคำเป็นรางวัลให้นักสืบด้วย...
ช่างขายหน้าแก่ ๆ ของเขาเสียจริง!
เว่ยเชียนชิวโมโหกราดเกรียวด้วยความอับอาย ดวงตาของเขาก็ลุกโชนด้วยไฟ!
เมื่อสถานการณ์บีบบังคับ เซียวเฉวียนไม่สามารถรอให้เหล่าบัณฑิตชั้นสูงเรียนรู้ได้อย่างเชื่องช้า เขาต้องสอนพวกเขาเกี่ยวกับทางลัดในการเขียนบทกวีให้ดี ควบคู่ไปกับพื้นฐานของพวกเขา เซียวเฉวียนเชื่อว่าใช้เวลาไม่นาน ความสามารถด้านบทกวีของเหล่าบัณฑิตชั้นสูงจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และผู้อารักขาของพวกเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นเช่นกัน
ท่ามกลางบรรยากาศการเรียนที่ตึงเครียด เวลาสามวันจึงผ่านไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากผ่านการฝึกซ้อมพิเศษเป็นเวลา 3 วัน เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ ความสามารถด้านบทกวีของเหล่าบัณฑิตชั้นสูงพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด!
ในที่สุดเหล่าบัณฑิตชั้นสูงก็ประสบความสําเร็จตามที่เซียวเฉวียนต้องการ นอกจากบัณฑิตชั้นสูงกลุ่มแรก บัณฑิตชั้นสูงที่เหลือต่างก็แยกย้ายกันไป
เซียวเฉวียนให้บัณฑิตชั้นสูงกลุ่มแรกอยู่ต่อ เพื่อจัดกลุ่มพวกเขาที่นั่น
ขณะนั้น นอกจากบัณฑิตชั้นสูงกลุ่มแรกในสถานศึกษาชิงหยวนแล้ว ยังมีเสี่ยวเซียนชิว ไป๋ฉี่ เหมิงเอ้าและโย่วควน
นับตั้งแต่โย่วควนถูกฆ่าที่จวนเซียว นี่เป็นครั้งแรกที่เขาปรากฏตัวท่ามกลางสายตาผู้คน ก่อนหน้านี้เขาพักฟื้นอยู่ในศาลาคุนหวู่มาโดยตลอด หลังจากรักษาตัวดีแล้ว เขาได้ทำตามคำสั่งของเซียวเฉวียน เพื่อช่วยอี้กุยดูแลฉินซูโหรวในศาลาคุนหวู่
โย่วควนไม่เพียงมีรูปงาม ความคิดละเอียดอ่อน และยังสามารถร้องงิ้วได้อีกด้วย การพาเขาเดินทางไปยังซินเจียงด้วย ในยามที่เบื่อหน่ายก็ฟังเขาร้องงิ้ว ไม่เพียงเจริญหูเจริญตาและแก้เบื่อ แต่ยังช่วยให้ใส่ใจในเรื่องที่ละเอียด ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ โย่วควนมีความสามารถ และเซียวเฉวียนก็หวงแหนผู้มีความสามารถ จึงไม่วางใจให้โย่วควนอยู่ที่เมืองหลวง ดังนั้นการเดินทางไปยังซินเจียง เซียวเฉวียนจึงต้องพาเขาไปด้วย
ส่วนเสี่ยวเซียนชิว ปลิงที่เกาะตูดเซียวเฉวียน!
แม้ว่าเซียวเฉวียนไปพานางไป แต่นางก็จะคอยติดตามเขาไปด้วยอย่างแน่นอน
อีกทั้งเสี่ยวเซียนชิวมีความสามารถเช่นนี้ การเดินทางไปซินเจียงเป็นเรื่องที่คึกคัก เหตุใดเซียวเฉวียนจะไม่พาเสี่ยวเซียนชิวไปร่วมสนุกด้วยเล่า?
ประจวบเหมาะกับการให้เด็กคนนี้ที่ยังไม่มีประสบการณ์ได้ฝึกฝน ให้นางได้เปิดโลกเพิ่มพูนความรู้ ได้เห็นมนุษยสัมพันธ์ในโลก
ไป๋ฉี่ เหมิงเอ้า เสี่ยวเซียนชิวและโย่วควนแบ่งกันยืนสองข้างของเซียวเฉวียน สายตาของพวกเขาเปล่งประกาย ราวกับว่าการอยู่คู่กับเซียวเฉวียน คือความพึงพอใจที่สุดของพวกเขา
ในขณะเดียวกันนั้น บัณฑิตชั้นสูงกลุ่มแรกต่างนั่งประจำที่อย่างเป็นระเบียบ และมองเซียวเฉวียนที่อยู่บนเวทีด้วยความตั้งตารอ พวกเขาต่างสงสัยว่าเซียวเฉวียนเลือกที่ใดเป็นสถานที่ฝึกฝน
นอกจากสีหน้าราบเรียบของเว่ยเป้ยที่รู้เรื่องเป็นอย่างดี ยังมีอีกคนหนึ่งที่กระตุกยิ้มมุมปากอย่างอำมหิต คนนี้คือคนที่ถูกเว่ยเชียนชิวซื้อตัวไว้หลังจากการทดสอบระดับมณฑลครั้งแรก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...