บัณฑิตชั้นสูงคนนี้มีชื่อว่าหวังหลิน
หลังจากการทดสอบระดับมณฑลครั้งแรก ตอนที่เหล่านักเรียนยกโขยงไปก่อเรื่องที่จวนเซียว เขาและโจวหลี่พากันเอะอะโวยวาย เพื่อทำให้เซียวเฉวียนลำบากใจ
ครั้งนี้ หวังหลินได้รับการชี้แนะจากเว่ยเชียนชิว พยายามอย่างเต็มที่เพื่อก่อความวุ่นวาย ไม่ว่าอย่างไรก็ตามต้องทำลายการเดินทางไปฝึกฝนของเซียวเฉวียน
ดังนั้น หวังหลินจึงเสแสร้งทำท่าทีประหลาดใจอย่างมาก และพูดขึ้นเสียงดัง “อาจารย์เซียว ศิษย์ขอละลาบละล้วงถามบางสิ่ง พวกเราจักไปฝึกฝนกันที่ใดขอรับ?”
นี่คือการเริ่มปลุกปั่นปัญหาของหวังหลิน ไม่ว่าเซียวเฉวียนบอกว่าไปที่ใด เขาก็จะหาเหตุผลไปคัดค้าน ขอเพียงเขาหยิบยกประเด็นขึ้นมา เขาเชื่อว่าต้องมีคนที่ไม่ยินยอมไปฝึกเช่นเดียวกับเขา
เพียงแต่ความคิดชั่วร้ายในใจของเขา เซียวเฉวียนเพียงได้ยินก็รู้
ทว่า เซียวเฉวียนกลับอยากเห็นว่าพวกเขาจะก่อเรื่องได้มากน้อยเพียงใด เขาเหลือบมองหวังหลินเบา ๆ และพูดขึ้นเบา ๆ ว่า “นี่ก็คือเรื่องที่อาจารย์กำลังจะพูด”
“การฝึกฝนครั้งนี้ พวกเราจะไปที่ซินเจียง พวกเจ้าคิดเห็นอย่างไรบ้าง?”
“ซินเจียง?”
เหล่าบัณฑิตชั้นสูงมองหน้าเซียวเฉวียนด้วยความตกใจ พวกเขาไม่ได้ฟังผิดใช่หรือไม่?
“ใช่”
เซียวเฉวียนพูดอย่างแน่วแน่ สายตาแอบเหลือบมองเหล่าบัณฑิตชั้นสูง มีเพียงความตกใจในดวงตาของพวกเขา และพวกเขายังไม่มีการปฏิเสธคัดค้านใด ๆ
ในเวลานั้นเอง เสียงที่ตื่นเต้นของหวังหลินถามขึ้นด้วยความสงสัย “เหตุใดต้องไปที่ซินเจียง?”
“อาจารย์รู้หรือไม่? ซินเจียงอยู่ในพื้นที่ห่างไกล คนบ้านป่าเมืองเถื่อนมากมาย พวกข้าเป็นเพียงปัญญาชนผู้ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง หากพบเจอกับอันตราย จักทำอย่างไรขอรับ?”
“ศิษย์รู้ว่าความสามารถของผู้อารักขาท่านอาจารย์โดดเด่นกว่าใคร และกล้าหาญเป็นอย่างมาก ทว่าอย่างไรสองหมัดยากจะสู้สี่มือ หากต่อสู้กับคนป่าจริง ๆ จักแน่ใจได้อย่างไรว่าชีวิตของเราปลอดภัย?”
“ท่านอาจารย์กำลังเอาชีวิตของข้ามาล้อเล่น”
เซียวเฉวียนยิ้มเยาะในใจ โยนความผิดให้คนอื่น!
อีกทั้งคำพูดของหวังหลินก็เข้าท่าเลยทีเดียว สีหน้าของเหล่าบัณฑิตชั้นสูงเริ่มแสดงถึงความลังเล เมื่อต้องเผชิญกับชีวิต ความศรัทธาก็น้อยลงทันตาเห็น มีบัณฑิตชั้นสูงอีกคนเอ่ยปากถามว่า “ท่านอาจารย์เซียว พวกเราไม่ไปฝึกฝนได้หรือไม่?”
“ใช่ พวกเราไม่ไปได้หรือไม่ขอรับ?”
“ข้าก็ไม่อยากไป!”
เมื่อนับรวมหวังหลินแล้ว ตอนนี้มีสี่คนเริ่มที่เปลี่ยนใจขึ้นมา แม้บัณฑิตชั้นสูงที่เหลือจะมีความลังเลอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีเสียงคัดค้านใด ยังคงอยู่ในท่าทีเฝ้าสังเกตุเท่านั้น พวกเขาอยากฟังว่าเซียวเฉวียนจะพูดอย่างไร
เซียวเฉวียนทำสีหน้าสุขุมเยือกเย็น “ความกังวลถึงชีวิต พวกเจ้าคิดมากไปแล้ว”
“ตอนนี้ผนึกจูเสินถูกทำลายแล้ว ความแข็งแกร่งของผู้อารักขาเองก็ได้รับการปลดปล่อยแล้ว และอาจารย์ก็ได้เสริมสร้างความสามารถในการแต่งบทกวีของพวกเจ้าแล้ว ผู้อารักขาของพวกเจ้าก็จะปกป้องชีวิตของพวกเจ้าด้วย”
“อีกทั้งอาจารย์ก็อยู่ด้วย แน่นอนว่าจะไม่ให้มีอันตรายเกิดกับพวกเจ้า”
“ถึงตอนนี้ พวกเจ้ายังมีความกังวลใดหรือไม่?”
วาทะดีเลยทีเดียว!
หวังหลินมองเห็นสีหน้าที่ลังเลจากการถูกยุยงของบัณฑิตชั้นสูงสามคนนั้น ราวกับถูกเซียวเฉวียนพูดโน้มน้าวใจได้ เขาจึงพูดขึ้นอย่างร้อนใจ “ท่านพูดเช่นนั้นก็ย่อมได้ แต่ข้าคิดว่าเรื่องนี้ไม่เหมาะสม”
“การฝึกฝนมีประโยชน์อันใดขอรับ?”
“เป็นดั่งที่ท่านอาจารย์กล่าวไว้ ในเมื่อพวกเรามีผู้อารักขาคอยคุ้มกัน อีกทั้งพวกเรายังเป็นปัญญาชน ไม่จำเป็นต้องขึ้นสนามรบ และไม่จำเป็นต้องไปฝึกฝนร่างกาย ส่วนเรื่องการเพิ่มพูนความรู้ ข้าเชื่อว่าเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ประสบการณ์ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย”
“เหตุใดต้องทรมานเช่นนี้ด้วย ทั้งเสี่ยงอันตราย เสียพลังงานและเวลา”
“พวกข้าใช้พลังงานและเวลากับการเรียน เสริมสร้างพื้นฐานของตัวเองไม่ดีกว่าหรือ”
คำพูดของหวังหลิน มีเหตุผลดีทีเดียว!
บัณฑิตชั้นสูงสามคนนั้นราวกับต้นหญ้า เมื่อครู่คิดจะเอนเอียงไปทางเซียวเฉวียน เมื่อถูกหวังหลินเป่าลมใส่เพียงเล็กน้อย ก็เอนเอียงไปทางหวังหลินอย่างไร้ยางอาย ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “จริงด้วย ท่านพูดถูกต้องอย่างที่สุด!”
“ท่านอาจารย์เซียว ข้าก็รู้สึกว่าการฝึกฝนไม่มีประโยชน์อันใด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...