วิญญาณดาบมีธรรมชาติที่บริสุทธิ์ และจริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเอาใจ
มิฉะนั้น หนังสือโบราณของคุนหลุนจะไม่บันทึกว่าวิญญาณดาบนั้นโหดร้ายและน่าพรั่นพรึงเพียงใด
หากวิญญาณดาบตกอยู่ในสภาวะวิตกกังวลและรุนแรง พลังแห่งการทำร้ายของมันไม่น้อยไปกว่าอาวุธสมัยใหม่
ถึงอย่างไรเซียวเฉวียนก็ประโลมใจของเซียนชิวน้อยจนได้
“พ่อ ถ้าอย่างนั้น หนูกับโย่วควนจะไปจักสานจิ้งหรีดให้น้องสาว !” เซียนชิวน้อยลุกขึ้นยืน ทั้งร่างของเธอตกอยู่ในอาการร่าเริงตื่นเต้น แต่เธอก็ฉลาดมากเช่นกัน "แล้ว กำเนิดของน้อง ให้โย่วควนรู้ได้ไหม”
“ได้ เขาเป็นเพื่อนของพ่อ ไว้ใจได้”
”ตกลง! เดี๋ยวหนูจะบอกเขา !”
เซียนชิวน้อยปัดมือแล้วไปที่ห้องหลังบ้าน
วันนี้เซียนชิวน้อยและโย่วควนไปถอนใบหญ้ากองหนึ่งกลับมา ไหนๆ ก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว พวกเขาอยากเล่นจักสานจิ้งหรีดและตั๊กแตนตำข้าวมานานแล้ว
เซียนชิวน้อยกำลังมองหาใบไม้ที่สวยที่สุดและอ่อนนุ่มที่สุดเพื่อสร้างจิ้งหรีดที่เท่ที่สุดในโลกให้กับน้องสาว !
ส่งผลให้ทุกคนต้องตะลึงเมื่อเห็นครอบครัวสี่คนนี้ ร้องไห้ หัวเราะ และสนุกสนาน
ในเมื่อพวกเขาไม่ได้ยินการแลกเปลี่ยนเสียงในใจระหว่างเซียวเฉวียนกับพวกด้วยกัน
โลกของผู้ยอดฝีมือ พวกเขาไม่รับรู้อะไรเลย
พวกเขาเป็นผู้รู้หนือสือ ปกติก็ท่องจำแต่หนังสือที่ตายตัว ท่องจำตัวอักษรที่มิอาจดิ้น จะไปรู้อะไรว่ายังมีวิชามากมายนอกเหนือไปจากนั้น ?
ในทางกลับกัน ฉินซูโหรวมาจากตระกูลแม่ทัพ รู้ว่าทุกคนในครอบครัวนี้กำลังแอบคุยกัน
แต่ว่า เธอแสร้งทำเป็นไม่รู้และหลับตาเพื่อพักผ่อน
อีกไม่นานก็จะค่ำแล้ว ลมแปลกๆ นั้นจะกลับมาพัดอีกครั้ง
วันนี้ฝนตกมาทั้งวันเต็มๆ บ้านของชาวนาหลังนี้สภาพไม่สู้ดี เม็ดฝนรั่วเป็นแห่งๆ
เซียวเฉวียนให้ไป่ฉีสองคนซ่อมแซมหลังคาให้เสร็จ ตอนนี้ฝนไม่รั่วแล้ว แต่ในบ้านมีแต่กลิ่นดินโคลนที่อับชื้น
อากาศในหมู่บ้านซิ่วสุ่ยเปียกชื้นมาก ผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นี่เป็นเวลานานอาจเป็นโรคไขข้ออักเสบได้
“ฟู ๆ ๆ ๆ !”
"วิว ๆ ๆ !"
"ซู่ซ่า ๆ "
หลังจากแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์อัสดงหายไป ลมนั้นก็เริ่มพัดขึ้นมาอีกแล้ว
ฝนที่ตกลงมาถูกลมพัดปลิวเอนไปด้านข้าง เซียวเฉวียนกับคนอื่น ๆ กำลังรอข่าวของหมิงเจ๋อและพู่กันเฉียนคุน
”ปัง ปัง ปัง !”
ทันใดนั้น ประตูก็ดังขึ้นมาอย่างแรง
เว่ยเป้ยและพวกตกใจมาก "ใคร ! ใครเคาะประตูอยู่นั่น !"
”เปิดประตู! เปิดประตู! ข้าเอง !”
นอกบ้าน หมิงเจ๋อตะโกนด้วยความหวาดกลัวอย่างยิ่ง เป็นเจ้าชายแท้ๆ หวาดกลัวถึงขนาดนี้หรือ ?
เซียวเฉวียนส่งสายตา ไป่ฉีก็เปิดประตู แผงกั้นก็คลายออกตามด้วย พู่กันเฉียนคุนชิงหน้าหมิงเจ๋อไปหนึ่งก้าวเข้ามาก่อนและรายงาน
“เจ้านาย” เสียงของเฉาเชาดังขึ้นในพู่กันเฉียนคุน มีเพียงเซียวเฉวียนเท่านั้นที่ได้ยิน "มีบางอย่างแปลก ๆ ในบ่อปลาจริงๆ"
ปรากฏว่ายามกลางวัน บ่อปลาก็เป็นบ่อปลา
พอตกกลางคืนน้ำในบ่อปลาจะกลายเป็นลมที่พัดวนทั้งหมู่บ้าน
บ่อปลากลายเป็นว่างเปล่า มองปุ๊บก็จะเห็นโคลนแห้งที่อยู่ก้นบ่อ
โคลนแห้ง ?
ไม่นา ฝนตกตลอดทั้งปีในหมู่บ้านซิ่วสุ่ย บ่อปลาจะแห้งได้อย่างไร ?
“เจ้านาย ข้าเกรงว่าน้ำในบ่อปลานี้ ไม่ใช่น้ำจริงๆ “
”มันน่าจะเป็นแรงอาฆาตลำหนึ่ง”
เสียงของเฉาเชาค่อยแต่นิ่ง "ฝนที่ตกต่อเนื่องมานี้ น่ากลัวก็ไม่ใช่ฝน"
”นอกจากนี้แล้ว ข้าน้อยก็มองไม่เห็นมีอะไรอื่น”
"ดีล่ะ เอ่าเก็บ !"
เซียวเฉวียนออกคำสั่ง และพู่กันเฉียนคุนก็กลับเข้ามาในแขนเสื้อของเขา
คนไม่น้อยหาว่าคนในหมู่บ้านซิ่วสุ่ยเห็นแก่ตัว ให้แต่คนในหมู่บ้านของตนเองเก็บเกี่ยว แต่หมู่บ้านซิ่วสุ่ยก็ไม่มีอะไรผิด ป่าบนภูเขาแห่งนี้ได้รับการดูแลรักษาโดยบรรพบุรุษของหมู่บ้านซิ่วสุ่ยมาหลายชั่วอายุคน สิ่งต่าง ๆ บนภูเขาจึงเป็นของพวกเขาโดยธรรมชาติ
ดังนั้นจึงมีคนจำนวนมากที่ไม่พอใจกับหมู่บ้านซิ่วสุ่ย ต่อมาได้กลายเป็นหมู่บ้านหมื่นผี คนที่เยาะเย้ยหมู่บ้านซิ่งสุ่ยจึงมีมากทีเดียว
“แล้วหมู่บ้านซิ่วสุ่ยกับหมู่บ้านข้างนอกเคยมีเรื่องถึงตายเกิดขึ้นไหม ?”
พอชายชราได้ยิน เขารีบปัดมือให้เซียวเฉวียน "นั่นไม่มีอย่างแน่นอน ! แม้ว่าพวกเขาจะอิจฉา แต่พวกเขาก็แค่กล้าพูดที่ปากเท่านั้น หมู่บ้านซิ่วสุ่ยของเรายืนยันความสงบสุขมาก่อน โดยปกติ ผู้คนจากหมู่บ้านอื่น ๆ มาขอยา เราก็เพียงขอเงินเป็นสัญลักษณ์เท่านั้น หากมีความลำบาก เราจะให้เปล่าๆ เลย”
“ฉะนั้น คนจากหมู่บ้านอื่นคงไม่ถึงกับมาเอาชีวิตของพวกเรา”
นั่นก็แปลกละสิ
เซียวเฉวียนเงยหน้าขึ้น มองดูสายฝนที่ตกลงมา งั้นแรงอาฆาตอันท่วมท้นนี้ มาจากไหน ?
ความแค้นหรือความคับข้องใจอะไร มาทำให้แรงอาฆาตนี้เกาะติดกับหมู่บ้านซิ่วสุ่ยไม่ยอมเลิก ?
ถ้าบ่อปลาแห่งนี้มีแรงอาฆาต งั้นลูกชายทั้งสามของคุณยายชราก็คงไม่ใช่จมน้ำตาย
แต่ตายเพราะการกระทำของแรงอาฆาตนี้หรือ ?
”ไป่ฉีเหมิงเอ้า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ระวังตัวให้ดี”
เซียวเฉวียนหยิบพู่กันเฉียนคุนออกมา "คืนนี้ เราคงต้องรบกับมันสักหน่อยแล้ว"
"ขอรับ" ไป่ฉีและเหมิงเอ้าพยักหน้า ชักดาบจิงหุนออกมา
"แล้วพวกเราล่ะ !"
เว่ยเป้ยเห็นว่าเซียวเฉวียนพวกสามคนมีการเคลื่อนไหว ก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว "พวกเราช่วยอะไรได้ไหม ?"
"อยู่เฉย ๆ "
เซียวเฉวียนสามคนพูดออกมาพร้อมกัน ผู้เรียนหนังสือเหล่านี้แค่ไม่หาเรื่อง ก็ถือว่าช่วยแล้ว
เห็นเซียวเฉวียนสามคนแวบหายตัวไปในบ้าน
”ปล่อยพวกเขาไปเถิด ถ้าพวกเจ้าไป อาจตายฟรีก็ได้”
หมิงเจ๋อโบกมือ เซียวเฉวียนตายได้ก็ดี เขาก็จะได้บรรลุเป้าหมายของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...