“เหอะ คนหลอกลวงจอมปลอมอย่างเจ้า ข้าเห็นมาเยอะแล้ว ไม่รู้เรื่องอะไร ไม่เคยเห็นอะไร แต่กลับพูดว่าตัวเองเคยเห็นเคยใช้มาแล้ว”
มู่เวยพูดใส่ร้ายเซียวเฉวียน ไม่มีความเกรงใจแม้แต่น้อย
เซียวเฉวียนก็ยังคงไม่เห็นด้วย:“ที่บ้านเกิดของข้า ของสิ่งนี้ไม่ได้เป็นสิ่งที่แปลกใหม่หายากแต่อย่างไร ทุกคนเคยเห็นกันหมด”
“เจ้าพูดเหลวไหล!”
ไม่รู้ว่าทำไม มู่เวยถึงได้โกรธมาก :“เจ้าแค่หลอกข้า!เจ้าจะเคยเห็นได้อย่างไร!นี้เป็นสิ่งที่ศิษย์พี่ของข้าเป็นคนคิดค้นขึ้นมา ในโลกนี้มีเพียงอันเดียวเท่านั้น!”
ในที่สุดเซียวเฉวียนก็สามารถถามข้อมูลเกี่ยวกับปืนได้บางเล็กน้อย
ศิษย์พี่?
ปืนนี้ศิษย์พี่ของมู่เวยเป็นคนคิดค้น กลัวว่าจะไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปแล้ว
มู่เวยยิ่งโกรธ เซียวเฉวียนก็ยิ่งนิ่งสงบ ไม่ใส่ใจ:“เจ้าจะเชื่อหรือไม่ก็ตามใจ เจ้าคิดว่าบนโลกนี้ มีเพียงแค่ศิษย์พี่ของเจ้าที่เก่งกาจคนเดียว?ที่บ้านเกิดของข้า มีคนมากมายที่เก่งยอดเยี่ยม เก่งยอดเยี่ยมกว่าศิษย์พี่ของเจ้าอีก เช่นระเบิดปรมาณู......อ่าอ่าอ่าอ่าอ่าอ่า!”
เซียวเฉวียนยังไม่ทันได้โอ้อวดจบ มู่เวยที่โมโหอย่างมาก ก็เตะเซียวเฉวียนลงไปจากต้นไม้!
“เจ้าไปเป็นอาหารของหมูซะเถอะ!กล้ามาว่าศิษย์พี่ของข้า!”
มู่เว่ยพูดจบ โกรธเตะออกไป
เซียวเฉวียนไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้มาก่อน!ถึงจะดื้อด้านอย่างอาจื่อ ก็ยังไม่เอาแต่ใจไม่มีเหตุผลอย่างนางคนนี้!
หมูป่าตัวนั่นเมื่อได้ยินเสียงของเซียวเฉวียน ก็หันหัวในทันที!โย่โฮ!อยู่นี่!หมูป่าตัวนั่นมุ่งตรงเข้าไปในทันที!
ในตอนนั้นผนึกจูเสินส่งเสียงหัวเราะเยาะเสียงดัง:“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!คิดไม่ถึง ในโลกนี้ยังมีผู้หญิงอย่างนี้ ทำให้เจ้าลำบากได้!”
“หุบปาก!” เซียวเฉวียนโดนเยาะเย้ย ตอบกลับผนึกจูเสินไปอย่างไม่เต็มใจ
กำลังภายในของเซียวเฉวียนลึกล้ำมาก ถูกเตะลงมาตอน แรกคิดว่าไม่เป็นอะไร แต่มู่เวยเตะอย่างกระทันหัน ถึงเซียวเฉวียนจะตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ก็ยังไม่เร็วไปกว่าพลังเร่งของแรงโน้มถ่วง!
เซียวเฉวียนตกลงเสียงดัง “พลัก” ตกลงบนพื้นอย่างแรง!
มู่เวยตกใจ วิชาตัวเบาของเซียวเฉวียนยอดเยี่ยมมากไม่ใช่หรือ?ทำไมถึงตกลงกระแทกพื้น?แย่แล้วแย่แล้ว ไม่เป็นไรไม่เป็นไร ข้าเก่งเรื่องการรักษา ถึงตอนนั้นค่อยรักษาเซียวเฉวียนก็แล้วกัน
“หื้อ!”
เสียงคำรามโมโหสัตว์ร้ายดังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
เซียวเฉวียนที่ตกลงมามึนงงตาพร่ามัว รู้สึกสมองมึนงงไปหมด
ถ้าเป็นคนธรรมดาตกลงมาอย่างนี้ ไม่ตายก็คงพิการ โชคดีที่เซียวเฉวียนกระดูกแข็งแรง ตอนแรกเซียวเฉวียนสามารถรับมือกับพลังสะท้อนของผนึกจูเสินได้ ความเจ็บปวดแค่นี้เล็กน้อยมาก ก็แค่มึนงงตาพร่ามัวเท่านั้น
“เอ๊ะเอ๊ะเอ๊ะ!หมูมาแล้ว!หมู!”
ด้านบนหัว มู่เวยรีบเร่งเตือน นางแค่ต้องการสั่งสอนเซียวเฉวียนเท่านั้น ไม่ได้อยากให้เขาโดนหมูป่ากินตาย:“รีบลุกขึ้นเร็ว!รีบลุกขึ้นเร็ว!”
เซียวเฉวียนหันหน้ากลับไปอย่างรวดเร็ว ปากที่เปื้อนเลือดของหมูตัวนั้นใกล้เข้ามาแล้ว!
“หื้อ!”
“อ่า!”
ในป่า เสียงร้องตกใจของมู่เวยดังขึ้น
ตามมาด้วยเสียงของสัตว์ป่าที่ถูกกลืนกิน เสียงร้องดังของหมูป่าก็ค่อยจางหายไป
“ฮึกฮือฮือ!” เสียงร้องไห้ของมู่เวย ดังขึ้นกลางป่า
......
......
บ้านไม้ขององค์หญิง
องค์หญิงยกมือขึ้น ส่ายหน้า :“ไม่ใช่เรื่องที่เจ้าพูดถึงไม่ใช่ เรื่องนี้ถึงเจ้าจะไม่พูด ข้าก็คิดมาตลอด”
พระนางหันหน้าออกไปมองดูต้นไม้ในสวน:“โหดร้ายเกินไปแล้ว...........จิ่นเซ่อเป็นผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง อาจารย์เจียน เย่าเหล่า คนเป็นสิบ อาสิบหก ต่งจัว เถ๋าจี๋ พวกเขาเป็นคนของตระกูลเซียว เพียงกระบี่ชีวันได้ฆ่าพวกเขาจนหมดสิ้น......”
“ใครกันที่จิตใจโหดร้ายถึงเพียงนี้?” ใช้โอกาสตอนที่เซียวเฉวียนไม่อยู่ องค์หญิงอยากจะถามโย่วควน:“สามีของข้าเคยพูดกับเจ้าหรือไม่ ว่าใครเป็นคนทำ?”
โย่วควนตกตะลึง ลังเลเล็กน้อย:“ได้ยินว่า เป็นเว่ยเป่า”
“เว่ยเป่า?” องค์หญิงได้ยินดังนั้น ก็หัวเราะเยาะออกมา:“เขาเพิ่งอายุเท่าไร?อายุยังไม่เกินสิบห้าสิบหกปี......ถึงแม้ว่าเป็นเพราะว่ารัฐไป๋ลู่โกรธแค้นตระกูลเซียว แต่เขาจะมีกระบี่ชีวันหลายเล่มได้อย่างไร?”
“ที่ต้าเว่ย กระบี่ชีวันเป็นสิ่งของต้องห้าม เว่ยเป่ายังเด็ก คงไม่กล้าทำเรื่องอย่างนี้ได้”
องค์หญิงกัดฟัน มองดูโย่วควน:“เจ้าบอกความจริงกับข้ามาดีกว่า หรือว่า......เป็นการกระทำของคนซินเจียงใช่หรือไม่?”
โย่วควนตกใจมาก :“ทำไมองค์หญิงทรงตรัสเช่นนี้?”
เรื่องของหมิงเจ๋อ โย่วควนไม่รู้ ดังนั้นองค์หญิงเดาได้ถูดจุดแล้ว โย่วควนไม่ตอบและตกตะลึงอย่างมาก :“จะเป็นคนซินเจียงได้อย่างไร?”
องค์หญิงถอนหายใจยาวหนึ่งครั้ง :“คุณชายโย่วควน คำพูดในวันนี้ที่พูดกับข้า ห้ามบอกต่อสามีของข้า ได้หรือไม่?”
“ข้า......” โย่วควนลังเลเล็กน้อย และพยักหน้า:“น้อมรับคำสั่งขอรับ”
“ข้าเชื่อใจเจ้า” องค์หญิงมองออกไปยังลานสวนที่รกร้าง บนต้นไม้แขวนห้อยโคมแดงดอกไม้ห้าสีที่เป็นเอกลักษณ์ของซินเจียง พระนางจมอยู่กับความหลังที่ผ่านมา :“ข้ามีท่านพี่อยู่คนหนึ่ง ตั้งแต่เด็กรักเอ็นดูข้าอย่างมาก”
“เข้าฉลาด ขยันเรียน เป็นลูกที่เก่งโดนเด่นมากที่สุดในบรรดาลูกของเสด็จพ่อทั้งหมด”
“เป็นองค์ชายใช่ไหมพ่ะย่ะค่ะ?” โย่วควนพูดตอบ
องค์หญิงพยักหน้า:“เขาชื่อหมิงเจ๋อ เป็นพี่ชายแท้ๆของข้า เกิดจากพ่อแม่เดียวกัน มีสายเลือดเดียวกัน”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ ดวงตาขององค์หญิงแดง
จริงด้วย พระนางกับหมิงเจ๋อเป็นพี่น้องกันแท้ๆ ถ้าพี่ชายทำเรื่องที่ผิดไป พระนางจะเอาตัวรอดคนเดียวโดยไม่สนใจคนอื่นได้อย่างไร ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...