ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 952

สีหน้าองค์หญิงเผยให้เห็นความเจ็บปวดเล็กน้อย โย่วควนไม่กล้าเอ่ยปาก เขาทำได้แค่ฟังเงียบๆ

“พี่ชายใหญ่ของข้าผู้นั้น เพราะว่าฉลาดเฉลียวตั้งแต่เด็กจึงทำเรื่องต่างๆ ได้มากมาย เขาก็เลยถูกพระบิดาเลือกเป็นรัชทายาท”

องค์หญิงต้าถงย้อนระลึกถึงวันที่พี่ชายใหญ่ได้เป็นรัชทายาทวันนั้น ธงหลากสีสะบัดเต็มท้องฟ้า ประชาชนทั้งหลายกำลังฉลองให้ว่าที่อ๋องคนใหม่แห่งซินเจียง ตัวนางในวันนั้นเองก็ยินดีนัก ดีใจไปกับพี่ชายของตนเองด้วยอย่างมากทีเดียว

“เดิมทีพี่ชายใหญ่เป็นผู้ที่ได้รับความโปรดปรานจากทั่วหล้า หลังจากทรงเป็นรัชทายาทแล้ว ก็ทรงได้รับการปฏิบัติดียิ่งขึ้น พี่ชายใหญ่กลับเริ่มทระนงตนเล็กน้อย”

ครั้นองค์หญิงต้าถงพูดถึงเรื่องพวกนี้ขึ้นมาก็ทรงยิ้มพลางส่ายหน้า “เขาทระนงตนสักหน่อยก็ไม่มีปัญหา แต่ว่ามาตอนหลัง กลับมีคนผู้หนึ่งมา”

“ใครกันหรือ?” โย่วควนขมวดคิ้ว พูดถึงคนผู้นั้นขึ้นมา น้ำเสียงขององค์หญิงก็ดูตึงเครียดหลายส่วน

“นักปราชญ์”

องค์หญิงพูดสองคำนี้ไปหัวใจก็สั่นไหว นี่คือเรื่องที่นางไม่ยินดีจะพูดมาตลอดเรื่องหนึ่ง และเป็นสิ่งที่ราชวงศ์แคว้นซินเจียงไม่ยินดีจะบอกกล่าวให้ผู้ใดฟัง

องค์หญิงยังจำภาพฉากครั้งแรกที่ได้พบหน้านักปราชญ์ได้อยู่เลย

นั่นคือเรื่องราวเมื่อหลายปีก่อนหน้า เวลานั้นค่อนข้างห่างไกลออกไปจนจำได้ไม่ชัดเจนเท่าไหร่แล้ว ทว่านี่ก็เป็นเรื่องหลังจากที่พี่ชายใหญ่ได้กลายเป็นรัชทายาทไปแล้ว

ในวันนั้น เมฆหมอกหนาหนัก ในเวลานั้นองค์หญิงยังไม่ทันได้ไปแคว้นต้าเว่ย ในซินเจียงนั้น นางมักจะชอบไปยืนดูพระอาทิตย์ขึ้นตรงกำแพงเมือง

ตามกฎของซินเจียงแล้ว ต่อให้เป็นเชื้อพระวงศ์ก็ไม่อาจเข้าใกล้กำแพงเมืองได้ตามใจ ทว่านับแต่เล็กองค์หญิงก็ชอบพระอาทิตย์ขึ้นนัก นางชอบมองทะเลดวงดาว ดังนั้นแล้วก็เลยมีสิทธิพิเศษนี้ที่จะสามารถเข้าออกหอสูงบนกำแพงเมืองเมื่อใดก็ได้

เหล่าทหารเห็นองค์หญิงมาตั้งแต่เล็กๆ ดังนั้นแล้วนางกับกลุ่มทหารพวกนี้จึงคบหากันเป็นอย่างดีเสมอมา

นั่นคือเช้าธรรมดาที่ไม่มีอะไรพิสดารวันหนึ่ง องค์หญิงกำลังง่วงงุนอยากจะหลับอยู่บนหอสูง นางต้องการรออรุณเบิกฟ้าที่กำลังมาเยี่ยมเยือน และเพราะวันนี้คือวันพระราชสมภพของพระมารดา ตามธรรมเนียมหนึ่งของแคว้นซินเจียงแล้ว ในวันอันเป็นวันเกิด ให้ขอพรจากแสงแรกของดวงตะวันยามขึ้นสู่ขอบฟ้า แล้วเทพสวรรค์จะทรงรับฟังพร้อมทั้งปกป้องคุ้มครองคนผู้นั้นให้ปลอดภัย

องค์หญิงเติบโตในราชวงศ์ ไม่ว่าจะเป็นพระบิดาหรือมารดา หรือว่าพี่ชายน้องสาว ไม่ว่าวันเกิดคนใด นางก็จะอธิษฐานขอพรแทให้กับทุกคนอย่างไม่ลำเอียง

ดังนั้นแล้ว ยามที่เหล่าทหารบนกำแพงเมืองมองเห็นว่าองค์หญิงมาอธิษฐานขอพรพระอาทิตย์ขึ้นนั้น พวกเขาก็รู้ว่าวันนี้ต้องเป็นวันเกิดใครแน่ๆ

ทว่าในวันนั้น ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด พระอาทิตย์แม้จะขึ้นแล้วแต่เมฆหมอกกลับหนาหนักนัก มันทำเพียงเปล่งลำแสงอ่อนจางสีเหลืองผ่านหมู่เมฆหนาหนักมาเท่านั้น

และเพราะเหตุนี้องค์หญิงจึงสิ้นยินดี ทว่าแสงตะวันเช่นนี้ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย ดังนั้นแล้วนางก็ยังคงทำตามขั้นตอนในวันปรกติ เริ่มอธิษฐานแทนพระมารดาของตนเอง

ก็เป็นในเวลานี้เอง มีคนผู้หนึ่งค่อยๆ เดินออกจากหมอกมาหานางอย่างช้าๆ

พูดให้ชัดเจนนั้นก็คือ เป็นคนสองคน

หนึ่งชรา หนึ่งเยาว์วัย

ในเวลานั้นเหล่าประชาชนที่ต้องการเข้าประตูเมืองนั้นจริงๆ ก็มีจำนวนไม่น้อย และทุกปีที่เป็นวันฉลองสมภพของพระชายาอ๋องนั้น จะต้องมีราษฎีไม่น้อยมาเยี่ยมเยือนเมืองหลวงเพื่อมาฉลองวันเกิดให้พระชายา

แต่ก็ไม่รู้เพราะเหตุใด คนมากมายเพียงนั้น องค์หญิงจึงได้สังเกตเห็นหนึ่งชราหนึ่งผู้เยาว์วัยท่ามกลางคนมากมายหลังอธิษฐานเสร็จ

ชายชราผู้นั้นผมสีดอกเลาทั้งศีรษะ เขาถือไม้เท้าช่วยเดินหัวมังกร ยามเดินก็สั่นเทาเล็กน้อยแต่ก็คล้ายทรงพลังยิ่ง

ชายชราคนนั้นยังพาเด็กน้อยคนหนึ่งมาด้วย อายุอานามประมาณสี่ห้าขวบ หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูยิ่ง ดวงตาทั้งสองดูฉลาดเฉลียวเป็นที่สุด

ผู้ชราหนึ่งและผู้เยาว์หนึ่งนี้ เดินเข้ามาจากระยะไกล องค์หญิงได้แต่จับตามองพวกเขาเงียบๆ

นั่นคือครั้งแรกที่องค์หญิงได้พบหน้านักปราชญ์

ในเวลานั้น องค์หญิงยังไม่รู้ว่าเขาเป็นนักปราชญ์ ยิ่งหนึ่งผู้เฒ่าหนึ่งเด็กน้อยดูไปแล้วธรรมดาไม่มีอะไรพิเศษ ไม่แตกต่างจากประชาชนทั่วไปเลย

องค์หญิงเพียงมองครั้งหนึ่ง ทว่านางกลับไม่ได้ใส่ใจ มาตอนหลังในงานเลี้ยงพระราชสมภพของพระมารดานางนั้น นักปราชญ์กับทารกผู้นี้กลับปรากฏตัวขึ้นกลางงานพิธี

ประชาชนธรรมดาผู้หนึ่ง เหตุใดจึงสามารถปรากฏตัวอยู่ในงานเลี้ยงของพระชายาได้กัน?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย