ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 957

“ศิษย์พี่ ท่านไม่เคยพบคนแปลกหน้าหรือ?”

มู่เวยถามด้วยึวามประหลาดใจ มู่จิ่นอาศัยอยู่เพียงลำพัง และอยากให้มู่จิ่นออกจากภูเขา แต่นั้นก็เป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์เสียอีก

อย่าว่าแต่ให้มู่จิ่นไปเจอคนแปลกหน้าอะไรนั้นเลย

“เจ้าบอกว่าคุณชายโย่วควนดูดีไม่ใช่หรือ ช้ายิ่งต้องไปพบเขา”

มู่จิ่นเอ่ยเช่นนี้ ในฐานะที่เซียวเฉวียนเป็นผู้ชายย่อมรู้ความหมาย ที่แท้ศิษย์พี่ผู้นี้ก็สนใจศิษย์น้องนี่เอง

โชคดีที่โย่วควนไม่ได้คิดอะไรกับมู่เวย ไม่อย่างนั้นทันทีที่ศิษย์พี่ผู้นี้ปรากฏตัว คาดว่าโย่วควนคงได้รับผิดชอบผลที่ตามมาแน่

“เอาสมุนไพรนั้นไปด้วย” มู่จิ่นชี้ มู่เวยรีบนำสมุนไพรที่ไม่รู้จักใส่กระเป๋าทันทีอย่างเชื่อฟัง

เซียวเฉวียนคลี่ยิ้ม “แม่นางมู่เวยคือหมอเทวดาทองพันชั่ง ทักษะทางการแพทย์ของมู่จิ่นไม่เลวเช่นกัน ยังต้องนำสมุนไพรชนิดนี้ติดตัวไปด้วยอีกหรือ?

มู่เวยและมู่จิ่นไม่ใช่คนที่จะลืมอะไรง่าย ๆ ไม่จำเป็นต้องนำสมุนไพรกองนี้ไปด้วย

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร? เจ้ากำลังจะบอกว่าเราไม่ทำไม่ได้หรือ?” ทันทีที่มู่เวยได้ยินคนพูดถึงศิษย์พี่ของเขา ก็เหมือนกันกินดินปืนเข้าไปทีเดียว

“ไม่ใช่เช่นนั้น แค่บอกว่าพวกเจ้าเชี่ยวชาญ แม้แต่สมุนไพรกองเดียวก็ยังสำคัญ” เซียวเฉวียนยิ้มอ่อน

มู่จิ่นตอบเซียวเฉวียนโดยไม่ได้สะทกสะท้าน “ต้องนำไปทดลองยา ถึงจะรู้ว่าสมุนไรชนิดนี้มีพิษหรือไม่ หากมีพิษ ก็ต้องกำจัดทิ้ง”

“นั่นนะสิ เจ้าจะไปรู้อะไร” มู่เวยเชิดหน้าชูคออย่างลำพองใจ “ศิษย์พี่ของข้ามีความรู้เช่นนี้ ก็รับผิดชอบไปคนเดียวก็แล้วกัน”

มู่เวยชื่นชมเช่นนี้ มู่จิ่นรู้สึกเกรงใจ “ศิษย์น้องก็ชมเกินไป”

ดูจากสีหน้าและท่าทีของมู่จิ่นแล้ว คงไม่มีเหตุผลอะไรนอกจากชอบมู่เวย

“เอาล่ะ ไหน ๆ ที่นี่ก็มีม้าแล้ว เจ้านั่งเถอะ” มู่จิ่นชี้ไปยังม้าที่อยู่ด้านข้าง เซียวเฉวียนชำเลืองปราดหนึ่ง ม้าดีเสียด้วย

“แล้วเจ้ากับแม่นางมู่เวยล่ะ?”

“มีม้าตัวเดียว อีกอย่างตัวเจ้าก็ทายาชาอยู่แล้วด้วย เดินเหินไม่สะดวกหรอก ข้าและมู่เวยเดินได้”

แม้ว่ามู่จิ่นจะเต็มไปด้วยความระแวดระวังและไม่เชื่อใจในตัวเซียวเฉวียน แต่ในใจกับซื่อตรง เซียวเฉวียนส่ายหน้า “ข้าดีขึ้นมากแล้ว ให้แม่นางขี่ม้าเถอะ ข้าเดินได้ไม่มีปัญหา”

เซียวเฉวียนพูดอย่างไม่ได้เกรงใจนัก ตอนนี้เขาดีขึ้นมากแล้ว เดินเหินได้สบาย ต่อให้ยังมีอาการชาอยู่เล็กน้อย แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง

“เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจล่ะนะ”

หากเป็นแม่นางที่อยู่ข้างกาย จะต้องอ้างเหตุผลแน่นอน ปรากฏว่าทันทีที่มู่เวยได้ยิน ก็กระโดดขึ้นหลังม้าอย่างไม่เกรงใจ “ไปกันเถอะ!”

“ศิษย์น้อง...” มู่จิ่นกลืนไม่เข้าคายไม่ออก น้ำเสียกลับไม่ได้ตำหนิแต่อย่างใด

“ไม่เป็นไร ไปกันเถอะ”

เซียวเฉวียนยิ้มตาม ทั้งสามคนเริ่มออกจากภูเขา

บ้านไม้หลังเล็กที่เซียวเฉวียนไว้พักรักษาตัวนั้นเป็นเพียงบ้านที่ผุพังไม่มีเจ้าของหลังหนึ่ง เมื่อวานหลังจากที่เซียวเฉวียนล้มลง มู่จิ่นและเซียวเฉวียนก็พาเขามาที่นี่

แม้ว่าบ้านจผุพังไปบ้าง แต่ก็มีทุกอย่าง ดังนั้นศิษย์พี่และศิษย์น้องคู่นี้จะจัดที่จัดทางให้เซียวเฉวียนอย่างดี

สำหรับมู่จิ่น เซียวเฉวียนเป็นคนแปลกหน้าที่พบกันโดยบังเอิญ แต่กลับดูแลดีเช่นนี้ เซียวเฉวียนรู้สึกซาบซึ้งอยู่ในใจ

ดวงอาทิตย์ไต่ระดับขึ้น ตอนนี้เป็นเวลาเช้าตรู่ แต่ในใจของเซียวเฉวียนรู้สึกเคร่งขรึมอยู่เล็กน้อย เขามักจะรู้สึกไม่สบายตัว

แต่ก็น่าจะเป็นเพราะยาชายังไม่หมดฤทธิ์ เซียวเฉวียนคิดเช่นนี้

พวกเขาทั้งสามคนกำลังเดินอยู่กลางภูเขาที่สูงชันโดยการนำพาของแสงอาทิตย์สาดส่อง

ผู้คนทั้งในและนอกตำหนักใต้หล้าเดียวกัน หมิงเจ๋อเดินอย่างหอบหืด “น้องข้า ไม่สู้เราหาม้าสักตัวเถอะ”

“ดี”

องค์หญิงตอบเสียงเบา ๆ

“ท่านพ่อกำลังรอข้าอยู่ที่หลิงซานจริง ๆ หรือ?”

หมิงเจ๋อเช็ดเหงื่อบนหน้า พลางเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เจาไม่อยู่เมืองหลวง จะไปหลิวซานด้วยเหตุใด?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย