ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 961

เหมิงเอ้าลนลานแล้ว

นายท่านอย่างเซียวเฉวียนผู้นี้ ถือได้ว่าเป็นแบบอย่างขั้นสุดยอดของเขา

บุคคลตัวอย่างระดับสูงสุดเช่นนี้ย่อมไม่อาจมีใครบนโลกหล้าสู้เขาได้ ใครก็ไม่อาจเทียบเคียงทั้งนั้น ในใจของเหมิงเอ้า ใต้หล้าทั้งแผ่นดินนี้นายท่านของเขานี่ละที่เก่งกาจที่สุด สุดยอดที่สุด ใครก็ไม่อาจจะเทียบแม้ปลายเล็บของเซียวเฉวียน

ยามนี้ตุ๊กตาตัวน้อยนี้กำลังสู้รบพัวพันกับพู่กันเฉียนคุน และถึงกับสามารถบีบพู่กันเฉียนคุนไว้ในมืออย่างง่ายดาย

จิตของพู่กันเฉียนคุนก็คือจิตของโจโฉ และเป็นของที่ไม่ต่างอะไรกับกระบี่ชีวันมากนัก โจโฉอยู่ในพู่กันเฉียนคุน ยามนี้เขาไม่กล้าแม้จะเอ่ยสิ่งใด ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้วนั้น พู่กันเฉียนคุนก็เป็นเพียงพู่กันด้ามหนึ่งเท่านั้น

เคราะห์ดีที่ทารกผู้นี้เองก็ไม่สังเกตเห็นว่าพู่กันเฉียนคุนมีความผิดปรกติอะไร และยิ่งไม่รู้ด้วยว่าข้างในนั้นมีโจโฉอยู่ด้วย ดังนั้นแล้วทารกผู้นี้จึงนึกว่าพู่กันเฉียนคุนก็เป็นอาวุธที่ค่อนข้างมีความสามารถอยู่หน่อยก็เท่านั้น

เด็กน้อยผู้นี้อายุไม่น่าจะเกินสี่ห้าขวบ เขากำพู่กันเฉียนคุนเอาไว้ในมือแน่น ทำให้มุมมองต่อโลกของเหมิงเอ้าพังทลายลงไป

“ไป๋ฉี่ นี่มันเป็นของอะไรกันแน่? พวกเราต้องสู้หรือไม่?”

เหมิงเอ้าขมวดคิ้ว นี่จะให้เขาสู้อย่างไรได้อีก ต่อให้เหมิงเอ้าจะมุทะลุดุดันก็รู้ว่าไม่อาจจะแหย่คนผู้นี้ได้ง่ายๆ

เซียวเฉวียนทางด้านนั้นไม่ได้คิดเลยว่า พู่กันเฉียนคุนถึงกับพ่ายแพ้เช่นนี้

เด็กทารกผู้นี้สามารถทำร้ายเสี่ยวเซียนชิวได้จากระยะไกล และทำให้พู่กันเฉียนคุนสยบได้ ไม่อาจจะมองเบาได้เลย

“ไป๋ฉี่เหมิงเอ้า ให้คอยสังเกตไว้เป็นสำคัญ อย่าได้บุกเข้าไป ให้เด็กผู้นี้เอาพู่กันเฉียนคุนไปก่อนเลย”

“ไม่ใช่ขอรับนายท่าน จะไม่แย่งพู่กันเฉียนคุนกลับมาหรือขอรับ!” เหมิงเอ้าไม่ยอมแพ้อย่างยิ่ง ต่อให้ตุ๊กตาน้อยนี่จะเก่งกาจแค่ไหน แต่พวกเขาก็ไม่เคยคิดจะยอมแพ้

พวกเขาเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง ยังจะต้องกลัวเด็กรายหนึ่งหรืออย่างไร?

“เหมิงเอ้า ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน อย่าได้พุ่งเข้าไปข้างในละ”

เสียงของเซียวเฉวียนเอ่ยทุ้มต่ำ ตัวไป๋ฉี่คว้าจับเหมิงเอ้าที่คิดจะลงมืออย่างโง่ๆ “ฟังนายท่านเสีย ข้ารู้สึกว่ามันมีอะไรไม่ค่อยปรกติ”

“ก็ได้...” ภายในใจของเหมิงเอ้าก็เริ่มละอายเล็กน้อย พู่กันเฉียนคุนคืออาวุธเทพที่ใต้เท้าปีศาจกวีทิ้งเอาไว้ให้ เด็กน้อยถือมันเอาไว้ในมือ ความสามารถที่แท้จริงของเด็กคนนี้กลับทำให้คนตกตะลึงจนน่าหวาดหวั่น

“สำรวจไปเงียบๆ เสีย ระวังความปลอดภัยของตนเอง”

หลังจากเซียวเฉวียนออกคำสั่งนี้จบแล้ว เขาก็ไม่ได้เอ่ยสิ่งใดอีก ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าได้แต่ฟังคำสั่ง ทว่านี่คือจวนเซียว พวกเขาเป็นผู้อารักขาของจวนเซียว พวกเขากลับบ้านตัวเองย่อมไม่สมควรจะต้องหลบซ่อนอะไรแล้ว

พวกเขาเดินอาดๆ เข้าออกจวนเซียวไปมา ควรทำสิ่งใดก็กระทำสิ่งนั้น ควรกินข้าวควรนอนก็สมควรกระทำ คล้ายกับว่าที่นี่ไม่เหลือใครให้พวกเขาคุ้มครองก็ไม่ปาน

เด็กน้อยผู้นี้มองดูคนทั้งสองเดินไปๆ มาๆ กลับอยู่ร่วมกันกับไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าอย่างไร้พิษภัย

หากพูดให้มันตรงและชัดเจนกว่านี้ เป้าหมายของเด็กน้อยผู้นี้กลับไม่ใช่ไป๋ฉี่และเหมิงเอ้า

พวกไป๋ฉี่ทั้งสองคนไม่แน่ใจอย่างมาก นายท่านกำลังยุ่งวุ่นวายเพื่อเถาวัลย์ต้นมันฝรั่งกับปืนอยู่ที่ซินเจียง พวกเขาจะอย่างไรควรช่วยนายท่านทำธุระเสียหน่อย

ดังนั้นแล้ว พวกเขาจึงพากันวิ่งพล่านไปทั่ว จะอย่างไรก็ต้องสืบหาความเป็นมาของเด็กน้อยผู้นี้ให้กระจ่างให้ได้

วันที่หนึ่ง

วันที่สอง

วันที่สาม

...

...

องค์หญิงหายตัวไปห้าวันแล้ว

มู่เวยกับมู่จิ่นติดตามเซียวเฉวียนคอยหาตัวคนมาตลอด ส่วนทางเซียวเฟิงก็ไม่ได้ข่าวแม้แต่น้อย

เดิมทีเซียวเฉวียนที่ยังสงบนิ่งอยู่ได้ค่อยๆ เสียความนิ่งสงบไป

หลายวันที่ผ่านมานี้ ความสัมพันธ์ของเขากับมู่จิ่นคล้ายชิดใกล้ขึ้นเล็กน้อย ประเด็นมาจากที่มู่จิ่นเห็นเซียวเฉวียนปฏิบัติตัวดีกับโย่วควนผู้เป็นคนรับใช้ ดังนั้นแล้วมู่จิ่นจึงค่อนข้างประทับใจกับภาพลักษณ์เป็นมิตรใจกว้างของเซียวเฉวียน

มู่จิ่นเองก็ปิดปากสนิทนัก หลายวันที่ผ่านมา ถามเรื่องเกี่ยวกับปืนจากเขาไม่ได้สักครึ่งคำ

คล้ายกับว่าเขาจงใจไม่เอ่ยถึง ไม่ว่าเซียวเฉวียนจะแสดงออกทั้งทางนัยและโดยอ้อม มู่จิ่นก็จะจงใจหลบหลีกหัวข้อสนทนานี้ คล้ายกับว่าเขาระมัดระวังป้องกันเซียวเฉวียน

เซียวเฉวียนไม่คุ้นเคยสภาพแวดล้อมและผู้คนของซินเจียง คิดจะสืบหาข่าวอะไรก็ไม่ได้ง่ายเหมือนแต่ก่อน

เขากับนางเป็นสามีภรรยากัน หากว่านางต้องการขอร้องแทนหมิงเจ๋อ เห็นแก่สายสัมพันธ์ของหมิงเจ๋อ เซียวเฉวียนยังพอจะเข้าใจได้

แต่ไหนแต่ไรมาองค์หญิงเป็นผู้มีจิตใจงดงาม ทว่าตอนนี้นางกลับพาตัวหมิงเจ๋อไปตามอำเภอใจ เซียวเฉวียนรู้สึกเหมือนถูกหักหลัง

ไม่ ที่องค์หญิงพาหมิงเจ๋อไปนั้นบางทีอาจจะมีเหตุผลอื่นๆ อยู่

หลายวันที่ผ่านมานี้ เซียวเฉวียนนำคำพูดขององค์หญิงกลับมาย้อนคิดไปย้อนคิดมาหลายครั้ง น้ำเสียงของนางเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง ความรู้สึกผิด แล้วยังมีน้ำเสียงแห่งการจากลาอย่างลึกซึ้ง

หรือว่า องค์หญิงกำลังจะทำเรื่องโง่ๆ กัน?

องค์หญิงคงจะไม่รู้สึกว่าหมิงเจ๋อทำเรื่องชั่วช้านี้ขึ้นมาแล้ว นางก็ยากจะเลี่ยงการถูกวิจารณ์และไม่อาจหลีกพ้นข้อเกี่ยวข้อง ดังนั้นเลยวางแผนไปฆ่าตัวตายกับหมิงเจ๋อหรอกนะ?

ความคิดนี้ทำเอาเซียวเฉวียนหัวใจเหน็บหนาวเล็กน้อย

องค์หญิงแม้จะอบอุ่นอ่อนโยน แต่ว่าตัดสินใจกระทำสิ่งใดล้วนแน่วแน่ นางเป็นสตรีตามประเภณีนิยมประเภทหนึ่ง ทั้งร่างล้วนแต่เผยนิสัยยอมเป็นหยกแหลกสลาย ไม่ยอมเป็นกระเบื้องไม่สมบูรณ์

จิตใจของเซียวเฉวียนนั้นพลันบีบรัดขึ้น สังหรณ์บอกกับเขาว่า เขาอาจจะเดาถูกดแล้ว

“เฮ้อ เจ้าไม่รู้ใช่ไหม ในดินแดนซินเจียงของพวกเรา ผู้หญิงทุกคนล้วนอิจฉาองค์หญิงห้าของท่านอ๋องนัก หรือก็คือองค์หญิงต้าถงที่พวกเจ้าต้าเว่ยเรียกนั่นละ”

ในยามนี้ น้ำเสียงเหนื่อยหน่ายของมู่เวยชวนสนทนาขึ้นมา เขาพูดไปเรื่อยทุกสิ่ง พูดไปพูดมาก็พูดถึงเรื่องขององค์หญิง

“เจ้าจะต้องไม่เคยพบองค์หญิงแน่” มู่เวยแหงนศีรษะอย่างภูมิใจ “ได้ยินมาว่าองค์หญิงเกิดมางดงามนัก นิสัยก็อ่อนโยน เป็นสตรีที่ดีงามที่สุดในใต้หล้า และเป็นแบบอย่างของสตรีชาวซินเจียงของพวกเรา”

“แต่ว่า ข้าก็ไม่เคยพบนางเช่นกัน” มู่เวยถอนหายใจเสียงเบา “องค์หญิงแต่งงานไปต้าเว่ยของพวกเจ้า ไม่รู้ไปถูกคางคกต่ำช้าที่ไหนเอาเปรียบเข้าจนได้ ข้าก็เลยไม่ได้พบนางแล้ว”

“...” เซียวเฉวียนไม่รู้จะเอ่ยสิ่งใด คางคกชั้นต่ำที่นางเอ่ยถึงนั่นก็อยู่ตรงหน้านางนี่ละ

โย่วควนที่อยู่ข้างๆ เองก็ไม่กล้าเอ่ยปาก เขาได้แต่ไอเสียงเบา

“แต่ว่าศิษย์พี่ของข้าเคยพบองค์หญิง! เฮอะ! ศิษย์พี่ ท่านว่าใช่หรือไม่!” มู่เวยเอ่ยด้วยน้ำเสียงภูมิใจ คล้ายกับว่านางได้เห็นด้วยตาตนเองนั่นละ

ทันใดนั้นหัวใจของเซียวเฉวียนกับโย่วควนก็หนักอึ้ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย