มู่จิ่นคนผู้นี้เป็นทั้งเพื่อนและศัตรู ตอนนี้เซียวเฉวียนกับโย่วควนก็ไม่ทราบ ส่วนมู่จิ่นเองก็เคยพบองค์หญิง การพาเขาไปหาองค์หญิงด้วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเรื่องอันตราย
มู่จิ่นส่งสายตาคาดโทษให้มู่เวยครั้งหนึ่ง มู่เว่ยพลันเข้าใจขึ้นมา เขารีบพยักหน้า “ใช่ๆๆๆ ข้ารู้แล้ว ต้องทำตัวไม่โดดเด่น”
มู่เวยเพิ่งจะรับผิด เขาหันศีรษะทว่ากลับไม่ยอมแพ้ “การได้พบองค์หญิงเป็นเรื่องที่มีเกียรติเพียงไร แล้วเรื่องนี้มีอะไรต้องทำตัวไม่โดดเด่นกัน”
“นั่นน่ะเป็นเรื่องเมื่อหลายปีก่อนหน้านี้ ศิษย์น้องหญิงอย่าได้หยิบออกมาโอ้อวดอีกเลย” มู่จิ่นส่ายหน้าพลางยิ้ม
“เฮ้อ ข้าขอบอกเจ้า” มู่เวยใช้น้ำเสียงที่เหยียดหยามพูดกับเซียวเฉวียน “เจ้ามาซินเจียงก็ภูกแล้ว องค์หญิงองค์ชายของชาวซินเจียงพวกเราทั้งสูงส่งและจิตใจงดงาม พวกพระองค์ดีกับราษฎรอย่างพวกเรามาก ดีกว่าพวกเจ้าชาวต้าเว่ยตั้งมากทีเดียว”
จิตใจมีคุณธรรม กลับเป็นสิ่งที่เซียวเฉวียนได้พบบนตัวองค์หญิง
ในส่วนความสูงส่งนั้น...
เส้นผมสีเทาใบหน้าเปื้อนดินของหมิงเจ๋อนั้นคล้ายเขาเป็นทาสก็ไม่ปาน ทำเอาเซียวเฉวียนหัวเราะเสียงเย็น
“เฮ้อ นี่เจ้าหัวเราะอะไร!” มู่เว่ยไม่พอใจอย่างมาก “เจ้ามาตั้งรกรากที่ซินเจียงแล้ว หรือว่าเจ้าม่ยอมรับราชวงศ์ซินเจียงของพวกเรา?”
“ยอมรับ ยอมรับสิ” เซียวเฉวียนพยักหน้า สายตาของเขาทอดมองไปห่างไกลและไม่ได้ตอบคำถามของพวกเขา
กลุ่มของพวกเขาล้วนโดยสารม้า พากันค้นหาตรงเมืองแถบชายแดนรอบหนึ่ง วันนี้ก็ค้นหาไปตามเส้นทางอีกครั้งหนึ่ง เมื่อครู่ตอนที่เซียวเฉวียนได้รับจดหมายจากอาจิ่น เขาก็รู้แล้วว่าองค์หญิงไม่ได้อยู่ในเขตแดนนี้ตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นที่ออกเดินทางมาวันนี้นั้นเป็นเพียงแค่ออกมาอยู่กับมู่จิ่นสองศิษย์พี่น้องเท่านั้น กันไม่ให้พวกเขามีข้อสงสัย
“พี่ใหญ่มู่จิ่น แม่นางมู่เวย พวกท่านตามข้าค้นหามาแล้วกว่าห้าวัน ภายในใจของข้ารู้สึกขอบพระคุณยิ่งนัก” เซียวเฉวียนฉวยโอกาสหาข้ออ้างบอกลา “ทว่าหาคนนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะทำสำเร็จในชั่วเวลาสั้นๆ ข้าไม่สะดวกทำให้พวกท่านเสียเวลาแล้ว”
เซียวเฉวียนหยิบเอาตั๋วเงินมาด้วยใบหนึ่ง มอบให้มู่เวย “นี่คือเงินหนึ่งพันเหรียญทองที่สัญญาเอาไว้แล้ว ขอบคุณแม่นางที่รักษาอาการภรรยาข้าจนหายดี”
“ไม่ใช่สิ นี่มันหมายความว่าอะไร?” มู่เวยจะอย่างไรก็คาดไม่ถึงเลยว่าเซียวเฉวียนจู่ๆ จะไล่คนขึ้นมาเช่นนี้
จริงๆ แล้วมู่จิ่นกับมู่เวยนั้นสมควรจะจากไปแต่แรก พวกเขาเป็นเพียงแค่หมอ และมู่เวยก็มาที่นี่เพื่อรักษาองค์หญิงก็เท่านั้น ยามนี้องค์หญิงไม่อยู่ ภารกิจของมู่เวยนั้นย่อมจะนับว่าเสร็จสิ้น
“แม่นางมู่เวย ท่านคือคุณหนูมือเทวะ” เซียวเฉวียนที่ขี่อยู่บนหลังม้าเอ่ยขอบคุณ “ท่านได้ทำเรื่องมามากพอแล้ว ข้าหาตัวฮูหยินยังไม่พบ เช่นนั้นก็ให้ข้ากับโย่วควนหาตัวต่อไปก็พอ”
มู่จิ่นขมวดคิ้วพลางพยักหน้า “ก็ดี ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็...” “ดีอะไรเช่นนี้!”
มู่เวยพลันตัดตอนคำพูดของมู่จิ่น “ข้า...ข้าเป็นหมอ ยามนี้หาตัวคนป่วยไม่พบ ตัวข้าเป็นหมอจะอย่างไรก็ต้องมีความรับผิดชอบ! ข้าไม่ไป!”
เซียวเฉวียนกับโย่วควนสบสายตากัน เขาไม่รู้ว่าเหตุที่มู่เวยไม่ยอมจากไปนั้นเป็นเพราะองค์หญิงหรือเป็นเพราะโย่วควน
“แม่นาง...”
เซียวเฉวียนยังคิดพูดอะไรอยู่ ส่วนมู่เว่ยกลับเอ่ยปากตีทะลุปล้องขึ้นมา “ฮูหยินของพวกเจ้ายังไม่ได้กินยาอีกสามชุด ข้าไม่อาจจะจากไปได้ หากการรักษานี้ไม่สำเร็จ ข้านั้นก็นับว่าผิดต่อหน้าที่”
มู่จิ่นจับจ้องศิษย์น้องสาวที่ดื้อดึงพลางถอนหายใจครั้งหนึ่ง เขาเคยเห็นตำรับยาของศิษย์น้องหญิง ฮูหยินของเซียวเฉวียนผู้นั้นไม่ได้กินยาสามมื้อสุดท้ายก็ไม่เป็นอะไรหรอก
ศิษย์น้องหญิงฝีมือทางการแพทย์ดี นางรักษาจนฮูหยินรายนั้นร่างกายดีเกือบจะหายแล้ว
ศิษย์น้องหญิงดื้อรั้นไม่ยอมจากไป เกรงว่าก็เพื่อโย่วควนที่อยู่เบื้องหน้ารายนี้เสียมากกว่า
พอคิดได้เช่นนี้แล้ว มู่จิ่นก็กวาดตามองโย่วควนเย็นชา
หลังจากที่มู่จิ่นมาถึงแล้ว เขาก็พูดจากับโย่วควนน้อยยิ่งนัก กระแสความเป็นศัตรูเต็มเปี่ยม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...