ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 968

“ขอบพระทัยพระราชา” เซียวเฉวียนรับจดหมายมาด้วยรอยยิ้มเล็ก ๆ “ไม่ทราบว่าผู้ใดพูดจารู้เรื่องที่สุดในสำนักหมิงเซียนพ่ะย่ะค่ะ?”

“นางเป็นอาจารย์ของศิษย์พี่ศิษย์น้องมู่เวย ทุกคนเรียกนางว่าย่าเหยียน นางเป็นเจ้าสำนักแห่งสำนักหมิงเซียน” พระราชาไม่ได้พบหน้านางมาเป็นเวลานานแล้ว เมื่อเห็นว่าเซียวเฉวียนอยากไป จึงรีบกล่าวเตือนเขา “ย่าเหยียนมีนิสัยที่ค่อนข้างแปลก เจ้าอย่าทำให้นางขุ่นเคืองใจง่าย ๆ ล่ะ”

ที่แท้ย่าเหยียนคือผู้ที่เลื่องชื่อในความเด็ดขาดของสำนักหมิงเซียน เรียกได้ว่าอาจารย์ที่เก่งถึงจะมีลูกศิษย์ที่เก่ง ซึ่งหมายถึงคนอย่างย่าเหยียนนี่เอง

เพียงแต่เด็ดขาดมากเพียงใด ก็มีคนอย่างมู่เวยที่ถือเป็นข้อยกเว้น

ย่าเหยียนเข้มงวดต่อลูกศิษย์ทุกคนอย่างมาก มีเพียงผู้มีพรสวรรค์อย่างมู่เวยที่ไม่อาจสั่งสอนอะไรได้

มู่เวยเฉลียวฉลาด มีความจำเป็นเลิศ คนอื่นอาจต้องใช้เวลามากกว่าสิบปีในการเล่าเรียนตำราทางการแพทย์ แต่นางเรียนจบภายในห้าหกปีตั้งแต่อายุยังน้อย

ย่าเหยียนทั้งรักทั้งอยากตีลูกศิษย์ที่ฉลาดแต่ไม่เชื่อฟังคนนี้

พระราชาเตือนเซียวเฉวียน นอกจากย่าเหยียนที่ไม่ควรหาเรื่องแล้ว แม่นางมู่เวยก็เป็นคนต้องห้ามเช่นกัน มิเช่นนั้นจะถือเป็นการล่วงเกินขอบเขตของสำนักหมิงเซียน

โว้ว

เซียวเฉวียนไม่เพียงกวนโทสะมู่เวย แต่ยังทำให้นางร้องไห้จนหนีไป เขาผิดใจกับนางมานานแล้ว

พระราชาตรัสเช่นนี้ เซียวเฉวียนก็รับปากไปตามน้ำ เขารู้อยู่แก่ใจดี

เมื่อฝากฝังลูกสาวให้กับพ่อตาแม่ยายแล้ว เซียวเฉวียนและโย่วควนก็ไปจากพระราชวังด้วยความสบายใจ

พระราชาและราชินีจะนำลูกสาวของเซียวเฉวียนให้แม่นมผู้ซื่อสัตย์เป็นคนเลี้ยงก่อน เมื่อถึงเวลาที่เซียวเฉวียนมารับลูกสาวกลับ ค่อยคืนให้แก่เซียวเฉวียน

เซียวเฉวียนรู้สึกว่าพ่อตาแม่ยายเป็นผู้ที่อัธยาศัยดี ตัวเขายังเป็นผู้มีบุญคุณต่อราชินี ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวว่าต่อจากนี้ซินเจียงจะกุมตัวลูกสาวของเขา

เซียวเฉวียนมาเหยียบสำนักหมิงเซียนก็เพื่อปืน

เขาและโย่วควนเปลี่ยนไปสวมชุดของซินเจียง และมายังหน้าประตูของสำนักหมิงเซียน

“ก่อนที่เจ้าจะเข้าไป จะไม่ทำความเข้าใจก่อนหรือ?”

ผนึกจูเสินที่ไม่ได้เอ่ยปากพูดมาเนิ่นนาน จู่ ๆ ก็ถามเซียวเฉวียนอย่างเคร่งขรึม

“ที่นี่อันตรายงั้นหรือ?”

เซียวเฉวียนไม่เข้าใจ ผู้คนในสำนักหมิงเซียนประกอบอาชีพแพทย์ ไม่น่าเป็นคนไม่ดี

“หาโรงเหล้ากินข้าวก่อนดีกว่า ข้าหิวแล้ว”

ผนึกจูเสินพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าไม่ได้กินอาหารดี ๆ มาหลายวันแล้ว เจ้าไม่รู้สึกหิวหรืออย่างไร?”

“จ๊อก ๆ...”

ขณะนั้น ท้องของเซียวเฉวียนก็ร้องเสียงดังขึ้นมา ช่วงนี้เขายุ่งมากเสียจนไม่มีเวลากินอาหารดี ๆ

นับตั้งแต่ผนึกจูเสินอยู่ในร่างของเขา ความอยากอาหารของเขาเพิ่มมากขึ้น เมื่อไม่ได้กินอาหารดี ๆ ตอนนี้ท้องจึงแบนแล้ว

“นายท่าน เช่นนั้นไปกินข้าวก่อนดีกว่า”

โย่วควนชี้ไปยังโรงเหล้าแห่งหนึ่ง การตกแต่งดูดีทีเดียว

ณ หอเทียนเซียง

ชื่อนี้ ตั้งราวกับเป็นสถานที่ตกอับเสียอย่างนั้น

หากไม่ใช่เพราะกลิ่นหอมของอาหารที่ฟุ้งออกมา เซียวเฉวียนคิดว่าเป็นสถานที่มั่วสุมของบุรุษเสียอีก

“ที่นี่แหละ”

เซียวเฉวียนสะบัดชายแขนเสื้อ และก้าวเท้ายาวเดินเข้าไปกับโย่วควน

ไม่คิดว่าทันทีที่เดินเข้ามาในร้าน เซียวเฉวียนและโย่วควนก็ถูกเหล่าลูกจ้างรุมล้อมอย่างอบอุ่น

“ยินดีต้อนรับ ๆ ขอรับ คุณลูกค้ามาทั้งหมดกี่ท่านขอรับ?”

เซียวเฉวียนขมวดคิ้ว พลางพึมพำขึ้น “รู้สึกเหมือนมาร้านไหตี่เลา*เลยนะ”

“อะไรเลานะขอรับ?” โย่วควนถามด้วยความสงสัย

“อ้อ ร้านอาหารที่บ้านเกิดของข้าน่ะ ต้อนรับอย่างอบอุ่นเช่นนี้เลย” เซียวเฉวียนหัวเราะ เมื่อเห็นลูกจ้างเข้ามารุมล้อม “คุณลูกค้ามาสองท่านใช่ไหมขอรับ? มาขอรับ เชิญด้านใน ระวังแท่นบันไดด้วยนะขอรับ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย