“เจ้านายของเราคือท่านหญิงฉือหลิ่ว” เจ้าของร้านพูดด้วยรอยยิ้ม “ไอ๊หยา ท่านหญิงฉือหลิ่วของเรา ความงดงามของนางเป็นที่เลื่องลือ”
"ตอนนี้นางอยู่ที่ไหน?"
เซียวเฉวียนรู้สึกตื่นเต้น ผู้หญิงคนนี้อาจเป็นหญิงในยุคปัจจุบัน นางคงข้ามเวลามาเช่นเดียวกับเขา คงจะดีหากได้พบเจอกัน
เซียวเฉวียนคิดอย่างมีความสุข แต่เว่ยหยู้และเว่ยเป่ยคงไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น: “ให้ตายสิ ข้าก็เป็นเพื่อนร่วมโลกเช่นกัน ข้ามาจากที่เดียวกับท่านไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงไม่เคยตื่นเต้นเช่นนี้เล่า? หรือเพราะว่านางเป็นผู้หญิงกัน!”
"ท่านหญิงฉือหิ่วของเรา อาศัยอยู่ที่สุดถนนสายนี้" เจ้าของร้านดูมีความสุขมาก เซียวเฉวียนเป็นลูกค้าที่ใจดีที่สุดที่เขาพบเจอตั้งแต่เปิดร้านมา หากเขาสามารถวิจารณ์ลูกค้าได้ ท่านหญิงฉือหลิ่วคงจะมอบรางวัลอะไรสักอย่างให้เขาเป็นแน่
เซียวเฉวียนและโย่วควนจากไปด้วยความเร่งรีบ หากสำนักหมิงเซียนเป็นไปตามที่ตราประทับจูเสินกล่าวไว้ เซียวเฉวียนไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้และต้องวางแผนให้รัดกุมเท่านั้น
เนื่องจากเราต้องเตรียมพร้อม ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการพบกับแม่นางฉือหลิ่ว
เซียวเฉวียนยุ่งอยู่กับการซื้ออาวุธ จนเว่ยหยู้แทบจะร้องไห้ออกมา
......
......
ณ สถานศึกษาชิงหยวนแห่งต้าเว่ย
เซียวเฉวียนไม่ได้อยู่ที่แห่งนี้ ดังนั้นเว่ยหยู้จึงใช้เวลาทั้งวันเพื่อจัดการสิ่งต่างๆ และฝึกฝนวิชาดาบของเขา
ครั้งสุดท้ายที่เขาไปหาอี้กยข เขาได้เลือกดาบที่ดีและสะดวกสายที่สุดในศาลาคุนหวู่ และตอนนี้เขาก็ฝึกฝนมันทุกวัน
เมื่อเซียวเฉวียนกลับมาพบเขาจัดระเบียบสถานศึกษาชิงหยวน และฝึกวิชาดาบได้อย่างดี เซียวเฉวียนจะมีความสุขอย่างแน่นอน
ใครจะรู้ แทนที่จะเป็นเซียวเฉวียน กลับเป็นชิงหลงซะอย่างนั้น
จู่ๆ ชิงหลงก็เข้ามา เว่ยหยู้รู้ดีว่าชิงหลงไม่ใช่คนเลว ทันทีที่ชิงหลงมา เขาก็เข้าคว้าตัวเว่ยหยู้ แล้วตะโกนเสียงดัง “มารวมกันเถอะ”
รวมหาน้องแกหรอ!
รวมหาปู่แกหรอ!
รวมหาย่าแกหรอ!
ผู้ชายสองคนจะรวมกันได้อย่างไร?
เว่ยหยู้ตะโกน: "อย่าดูถูกความชอบของข้า! ข้าชอบผู้หญิง! ข้าไม่ชอบผู้ชาย!"
แต่ดูเหมือนว่าชิงหลงจะถูกบางอย่างครอบงำและติดตามเขาไปทุกหนแห่ง
เว่ยหยู้เหมือนจะร้องไห้ มันเกิดอะไรขึ้นกับชิงหลง?
ชิงหลงเคยเป็นคนที่น่าเชื่อถือ
จริงจัง
และน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก
ทำไมชิงหลงถึงดื้อรั้นขนาดนี้?
"มารวมกัน"
"มาเร็วเข้า"
"มารวมกัน"
เว่ยหยู้ทนไม่ได้กับคำพูดของชิงหลง ดังนั้นเขาจึงสั่งให้คนจับตัวชิงหลงไปขังไว้ในเพิงไม้และนำผ้ามัดปากเขาไว้
แต่ไม่ว่าเขาจะผูก มัด หรือทำอย่างไร ทุกๆเช้าเว่ยหยู้ก็จะเห็นชิงหลงยืนอยู่ตรงประตูและมองมายังเขาและยิ้มกรุ่มกริ่มให้: “มารวมกันเถอะ”
“อ๊ากกกกกกกกกกก!”
"ข้าอยากจะบ้าตาย!"
เสียงร้องอันบ้าคลั่งของเว่ยหยู้ทำให้นกบนต้นไม้ตกใจจนบินหนีไป
เว่ยหยู้คุกเข่าลงต่อหน้าชิงหลง เสียงดัง “ปัก” ไม่เพียงแต่คุกเข่าเขายังกอดขาชิงหลงไว้อีกด้วย: “พี่ พี่ใหญ่ ข้าขอร้อง ปล่อยข้าไปเถอะ ได้ไหม?”
“ผู้หญิงสวยๆ หรือสาวคนไหนที่ท่านต้องการ ข้าจะหามาให้ท่าน ปล่อยข้าไปได้หรือไม่”
ดวงตาของเว่ยหยู้เต็มไปด้วยความอ้อนวอน ความหวัง และน่าสงสาร
แต่เพื่อให้จิตวิญญาณและตัวรวมเป็นหนึ่งเดียว ทั้งสองฝ่ายจะต้องเต็มใจที่จะทำเช่นนั้น ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถรวมเข้ากันได้ ดังนั้นนี่คือสาเหตุที่จิตวิญญาณดาบไม่ได้บังคับเว่ยหยู้
เหตุผลที่เว่ยหยู้มีตัวดาบถือได้ว่าเป็นโชคชะตา
ตัวดาบคือร่างกายที่ได้รับการหล่อเลี้ยงจากทุกสิ่ง และมีสายเลือดคุนหลุนที่บริสุทธิ์ที่สุด
พ่อแม่ของตัวดาบ ต้องเป็นพ่อแม่ที่มาจากคุนหลุน และจะต้องเป็นคนที่มีสถานะค่อนข้างสูง
คนของต้าเว่ยและคนของคุนหลุนต่างเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน บิดาของเว่ยหยู้คือฮ่องเต้ผู้ล่วงลับของต้าเว่ย และมารดาของเขาเป็นไทเฮา ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของคุนหลุน ราชวงศ์ที่อยู่ท่ามกลางสวรรค์และโลก เป็นราชวงศ์ที่มีทรัพยากรมากที่สุด ทั้งอัญมณี ผืนแผ่นดิน และของหายที่มีมากกว่าปกติ
สมบัติล้ำค่าเหล่านี้ล้วนมาจากการกำเนิดของหมื่นดาบจือจง ดังนั้นราชวงศ์จึงได้รับพลังทางจิตวิญญาณมากที่สุดจนถูกพลังทางจิตวิญญาณแทรกซึม พวกเขาจึงสามารถให้กำเนิดตัวดาบได้
ตัวดาบดูเหมือนคน คนที่มีเนื้อและเลือด ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือรากของตัวดาบจะต้องลึกมากจนไม่สามารถมองเห็นได้
คนอย่างเซียวเฉวียนจำเป็นต้องศึกษา ด้วยความรู้เท่านั้นที่จะสามารถปลูกฝังรากเหง้าฝึกตน และมีเพียงความรู้เท่านั้นที่จะทำให้รากเหง้าฝึกตนเจริญรุ่งเรืองได้
ตัวดาบเองก็มีรากเหง้าฝึกตน
เหตุผลที่เว่ยหยู้ดูโง่ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีรากเหง้าฝึกตนหรือรากเหง้าฝึกตนอ่อนแอ แต่เป็นเพราะเขาขาดจิตวิญญาณของดาบ ดังนั้นเขาจึงดูโง่เขลาและดูเหมือนเป็นคนที่สับสนอยู่ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม เว่ยหยู้ที่สนุกกับชีวิตและความรุ่งโรจน์ เขาไม่ได้มีเป้าหมายที่ยิ่งใหย่ในชีวิต ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คำนึงถึงการมีอยู่ของรากเหง้าฝึกตน
ตอนนี้ เว่ยหยู้ต้องการช่วยเซียวเฉวียน แต่พบว่าตัวเขาไม่สามารถทำอะไรได้ ซึ่งทำให้เขาหงุดหงิดอยู่พอควร
ดังนั้นเมื่อชิงหลงมารบกวน และยังมาพูดจาบ้าบอใส่เว่ยหยู้ เขาจึงรู้สึกหงุดหงิดและรำคาญเป็นอย่างมาก
เว่ยเชียนชิวและคนของเขากำลังยุ่งอยู่กับการติดตามเซียวเฉวียน จนไม่มีใครสังเกตความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับเว่ยหยู้
แต่อี้กุยกลับศึกษาว่าทำไมดาบทุกเล่มถึงตอบสนองเว่ยหยู้ แต่เขาก็ยังหาสาเหตุไม่ได้
สิ่งนี้ทำให้อี้กุยสงสัย แต่หากคนอย่างเว่ยหยู้เป็นคนดีก็คงไม่ต้องมีอะไรน่าเป็นกังวล
แต่จะเกิดอะไรขึ้น หากในอนาคตเว่ยหยู้กลายเป็นคนไม่ดี?
แค่นึก อี้กุยก็ตัวสั่นระรัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
อ่านแรกๆก็สนุกนะแต่อ่านไปสักพักก็งงกับตรรกะของนักเขียน..นักเขียนจีนนี่โนทัศน์แปลกๆรื่องราวไล่เรียงไปเหมือนมีเหตุผลอยู่ก็กลับไร้เหตุผลดื้อๆซะงั้นคงอ่านไปต่อไม่ได้แล้วมันช่างทำร้ายจิตใจคนอ่านเป็นระยะอ่านไปรู้สึกหนืดๆไม่ไหลลื่นเลย...
ถึงตอน139 อ่านต่อไม่ได้ต้องทำอย่างไรครับ...
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...