เหมิงเอ้าขอความช่วยเหลือจากเซียวเฉวียนทันที แบบนี้เขาไม่เคยเจอมาก่อน
เหมิงเอ้าสื่อสารทางไกล บอกกล่าวสถานการณ์ให้กับเซียวเฉวียน
เซียวเฉวียนกำลังงีบหลับกลางวันอยู่ ถูกเหมิงเอ้าปลุกให้ตื่น หลังจากทราบเหตุการณ์แล้วเอ่ยอย่างเย็นชา "ให้พวกเขากิน ต้อนรับให้ดี แล้วรายงานสถานการณ์ให้ข้าทราบตลอดเวลา"
“ขอรับ” เหมิงเอ้าเก็บดาบจิงหุนขึ้น แต่ความระมัดระวังของเขาไม่ได้ลดลง
เมื่อเสวียนอวี๋เห็นว่าไม่มีใครเคลื่อนไหว เขาก็พูดด้วยสำเนียงเด็กอมนิ้วอีก "จะสั่งอาหารแล้ว ไม่ได้ยินหรือ ? ตีนไก่สามที่"
ไป่ฉีเอาตาส่งสัญญาณ สั่งให้เด็กเสิร์ฟคนหนึ่งไปเอามันมาเร็วๆ เด็กเสิร์ฟทำท่าเหมือนเห็นผี รีบไปที่ห้องครัวด้างหลังเพื่อยกอาหาร
เสวียนอวี๋มีความสุขมากที่ได้นั่งบนเก้าอี้ ห้อยน่องสองข้างพลางแกว่งไปมา เขาได้ยินมานานแล้วว่าฝีมือการทำอาหารของเซียวเฉวียนยอดเยี่ยม จัดการร้านอาหารหอปี้เซิ่งจนเจริญรุ่งเรือง คิดอยากจะมาลองนานแล้ว
เสวียนอวี๋มีความสุข แต่เว่ยเชียนชิวกลับกระสับกระส่ายมาก ให้ตายเถอะ เขาไม่เคยคิดเลยว่าในชีวิตของเขาจะมากินอาหารของตระกูลเซียวเฉวียน
“คุณชายน้อย อาจารย์ของเจ้าเกลียดชังเซียวเฉวียนมากขนาดนี้ แต่เจ้ามากินข้าวในหอปี้เซิ่ง มันไม่เหมาะกระมัง ?”
เว่ยเชียนชิวพูดอย่างใจเย็น บางทีเสวียนอวี๋อายุน้อย อาจไม่รู้ข้อได้ข้อเสียในเรื่องนี้
”ศัตรูก็ต้องสู้ แต่นั่นมันไม่เป็นอุปสรรคที่ข้าจะกินข้าวบ้านของศัตรูนี่ !”เสวียนอวี๋พูดจบทั้งอมยิ้มแสนหวาน
”ระวังเขาวางยาพิษฆ่าเจ้าตาย” เว่ยเชียนชิวพูดด้วยความโมโห
“มาเทียบกับข้า ข้าว่าเจ้าต้องกังวลว่าพวกเขาจะวางยาพิษเจ้ามากกว่า” เสวียนอวี๋พูดด้วยน้ำเสียงเด็กๆ มันชวนโมโหจริงๆ
“เจ้า......” เว่ยเชียนชิวโกรธจนพูดไม่ออก เขาเหลือบมองไป่ฉีที่กำลังจ้องมองเขาอยู่ จะปล่อยให้ไป่ฉีและคนอื่น ๆ รู้ว่าเขาถูกไอ้สารเลวตัวน้อยบีบคออยู่ไม่ได้ " งั้นเจ้าก็รอกินให้เต็มที่ก็แล้วกัน”
“แน่นอน” เสวียนอวี๋ถือตะเกียบและพยักหน้าอย่างสำราญใจ
เว่ยเชียนชิวหายใจเข้าลึกๆ อดทน ข้าต้องอดทน
เว่ยเชียนชิวและเสวียนอวี๋นั่งอยู่ในหอปี้เซิ่ง ด้านนอกมีพวกเฮยหลางเฝ้าอยู่เต็มไปหมด ท่าทางที่ห้อมล้อมอยู่นั้น เหมือนจะโค่นล้มหอปี้เซิ่งให้พังทลายลงให้ได้
เมืองหลวงไม่เคยขาดแคลนชาวมุง ชาวบ้านไม่น้อยรวมตัวกันล้อมวงอยู่ด้านนอกเพื่อดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น เว่ยเชียนชิวเดือดเนื้อร้อนใจมาก ให้คนมากมายขนาดนี้มาคอยดูเรื่องตลกของเขาหรือไง ?
“เฮยหลาง ไล่พวกมันออกไปให้พ้น !”
เฮยหลางไม่ทันจะตอบ เสวียนอวี๋ก็ขมวดคิ้ว "ทำไมถึงจะไล่ชาวบ้านออกไป ? เจ้าไม่ได้บอกว่าเจ้ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับชาวบ้านหรือ เจ้าไม่ได้บอกว่าเจ้าไม่ใช่นักเลงหรือ ?"
ขอร้องหยุดพร่ำเถอะ พ่อคุณทูนหัว ท่าทางที่เย่อหยิ่งและยโสโอหังของเว่ยเชียนชิวถูกทำลายโดยเสวียนอวี๋จนแหลกลาญ เว่ยเชียนชิวฝืนยิ้ม "หรือ ข้าไม่ได้เป็นนักเลงอย่างแน่นอน แต่มีคนมากมายล้อมอยู่อย่างนั้น ข้ากลัวว่าจะรบกวนการทานข้าวของคุณชายน้อยละสิ"
"ไม่หรอก" เสวียนอวี๋ยิ้มหวานๆ "ถ้าจะทำเพื่อข้า ก็ไม่ต้องไปไล่เขาแล้ว"
"......ก็ได้" เว่ยเชียนชิวฝืนยิ้มทำหน้าเหมือนคนใจดี
"ท่านเจียนกั๋ว ยังจะไล่หรือไม่ไล่......" เฮยหลางเพิ่งมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้เป็นครั้งแรก เว่ยเชียนชิวหันกลับมาและตะโกน "เจ้าไม่ได้ฟังที่คุณชายน้อยพูดหรือ ! ไม่ไล่ ไม่ไล่แล้ว !"
“หรือ ๆ ๆ ได้ขอรับ งั้นผู้น้อยขอตัว” เฮยหลางถอยหลังออกไปอย่างตระหนกตกใจ
ในอีกด้านหนึ่ง เซียวเฉวียนที่เห็นเหตุการณ์นี้ผ่านไป่ฉีเหมิงเอ้า เอามือจับท้องหัวเราะ "ฮ่าๆๆ น่าสน ๆ "
ดูท่า ต้นกำเนิดของเด็กน้อยคนนี้ไม่ง่ายซะแล้ว
เซียวเฉวียนตัดสินใจทันทีและให้ไป่ฉีเหมิงเอ้าหาโอกาสติดตามตัวเด็กน้อย แล้วไปดูว่าอาจารย์ของเด็กน้อยที่เว่ยเชียนชิวว่านั้นเป็นใคร
แต่ตอนนี้สิ่งที่ไป่ฉีและเหมิงเอ้าต้องทำคือปล่อยให้แขกพิเศษสองคนนี้ได้กินและดื่มอย่างดี
เหมิงเอ้าจิตใจไม่จำยอมนัก รู้อยู่ว่าพวกเขาเป็นศัตรูแต่ก็ยังต้องไปรับใช้พวกเขา เขาไม่ยินดีจริงๆ
เด็กเสิร์ฟยกตีนไก่ขึ้นมาสามหม้อ "ท่านทั้งสอง...... เชิญขอรับ"
เสิร์ฟตีนไก่เสร็จ เด็กเสิร์ฟก็ถอยออกไปทันที ดวงตาโตของเสวียนอวี๋สว่างขึ้นทันที กระดูกถูกถอดออกจากตีนไก่ มีสีสันสดใสและแช่ในซุปรสเผ็ดสีแดง เรียกน้ำย่อยเป็นอย่างยิ่ง
”มากินกันเลย !” เสวียนอวี๋หยิบตะเกียบขึ้นด้วยความดีใจและกินอย่างเอร็ดอร่อย
มีเพียงเว่ยเชียนชิวเท่านั้นที่ไม่ขยับ เขาต้องรักษาศักดิ์ศรีอันสูงส่งของท่านเจียนกั๋ว
คนข้างนอกอยู่ไม่สุขแล้ว พวกเขาดูยังไงก็ไม่เข้าใจ "เฮ้ ๆ ๆ แปลกเฮ้ ทำไมมากินกันล่ะวา ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...