เสียงตะโกนของคนสำนักหมิงเซียนดังก้องไปทั่วฟ้า สะเทือนจนเหล่านักที่อยู่ในมุมมืดของป่าพากันขยับปีกสะบัดบินนแล้วตกใจบินพล่านไปทั่วทั้งสี่ทิศ มนุษย์นี่ก็จริงๆ เลย พวกเขาต้องการต่อสู้ยังทำให้พวกผู้บริสุทธิ์ต้องลำบาก
เหล่าสกุณารู้สึกไม่เป็นธรรมยิ่งนัก!
สถานที่ตั้งมากมายพวกเขาดันไม่เลือก แต่กลับมาเลือกตรงประตูบ้านของพวกนก พวกเขารำคาญใจยิ่ง!
เสียงตะโกนฆ่าฟันยิ่งมายิ่งดังเข้ามาใกล้ เวลาของเซียวเฉวียนไม่มากแล้ว เขาจำต้องรีบก่อนที่คนของสำนักหมิงเซียนจะเข้ามาถึง เขารีบดับเชื้อไฟหรือไม่ก็หิ้วมันเอาไว้ในมือเสีย เขาไม่อยากให้คนของสำนักหมิงเซียนทราบว่าคนที่รู้เรื่องนั้นคือตนเอง เพื่อลดปัญหาที่ไม่จำเป็นให้น้อยลง
หากไม่มีคนเห็นว่าผู้ที่มานั้นเป็นเซียวเฉวียน นักปราชญ์ต่อให้สงสัยว่าเป็นการกระทำของเซียวเฉวียน ก็ทำได้แค่สงสัยเท่านั้น ยิ่งในตอนนี้ไม่มีหลักฐานใด นักปราชญ์เองก็ไม่กล้าที่จะชี้หน้าถือสาหาความผิดอะไรกับเซียวเฉวียนได้ง่ายๆ
ต่อให้นักปราชญ์มั่นใจว่าเป็นเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนก็ไม่กลัว เพียงแต่ว่าเวลานี้ เซียวเฉวียนไม่อยากจะหาเรื่องทะเลาะกับพวกสำนักหมิงเซียนเลยจริงๆ ทั้งสิ้นเปลืองเวลาและเรี่ยวแรง
ยังมีอีกจุดหนึ่ง พวกมู่เวยศิษย์พี่น้องเคยช่วยเซียวเฉวียนมาก่อน ยามนี้หากว่าศิษย์พี่น้องหญิงคู่นี้มาอยู่กลางฝูงชนก็คงจะกระอักกระอ่วนน่าดู!
ทำอะไรต้องรีบคว้าโอกาสเอาไว้ให้ง่าย ดีกว่าเป็นตาบอดคลำทาง เซียวเฉวียนมีคนดีๆ คอยช่วยเหลือ เหตุใดจึงไม่ใช้กันล่ะ?
“ผนึกจูเสิน บอกข้าทีว่าเพลิงชุ้ยเจี้ยนนั้นอยู่ที่ใด?”
ในความมืด เซียวเฉวียนคว้าคบเพลิงขึ้นมาก่อนที่จะกวาดมันไปทางถ้ำอย่างหยาบๆ
ปากถ้ำนั้นไม่ใหญ่และไม่เล็ก ขนาดจุคนได้ประมาณห้าคน รอบด้านและบริเวณพื้นของตัวถ้ำนั้นใช้กองหินมากองถมสร้างเอาไว้ ในยุคโบราณคงจะตกแต่งประดับประดาโอฬารพอควร
นี่ก็หมายความว่า ชาวสำนักหมิงเซียนให้ความสำคัญกับเพลิงชุ้ยเจี้ยนเป็นอย่างมาก!
แต่ว่าเมื่อครู่ตอนที่เซียวเฉวียนเพิ่งใช้สายฟ้าระเบิดถ้ำนั้น พลังทำลายล้างของสายฟ้ายิ่งใหญ่เกินไป ตรงปากถ้ำถูกทำลายจนเละเทะ ปากถ้ำแม้ว่าจะไม่พังทลายลงมา แต่ว่าตรงเพดานถ้ำนั้นดินและโคลนก็ถล่มลงมาเยอะมาก ทำเอาทั้งถ้ำเละเทะไปหมด
ทว่า ต่อให้เป็นเช่นนี้ พวกกระถางเพลิงทั้งหลายบริเวณปากถ้ำกลับไม่ได้พลิกคว่ำ
ดูไปแล้ว กระถางไฟทุกกระถางนั้นมีปราการป้องกันตนเองเฉพาะ การทำเช่นนี้ ก็ถือว่ามีระบบกันขโมย แม้จะป้องกันไม่สำเร็จ แต่อย่างน้อยก็ประวิงเวลาได้ ต่อให้ไม่มีขโมยก็สามารถกันภัยธรรมชาติได้ เหมือนที่ภูเขาถล่มจนทำให้กระถางไฟหกคว่ำเป็นต้น
พวกคนของสำนักหมิงเซียนกลับมีความคิดรอบคอบเป็นที่ยิ่ง!
เซียวเฉวียนมองไปครู่หนึ่ง ทั้งถ้ำนี้ วางกระถางเพลิงเอาไว้สิบหกกระถาง แม้ว่าจะพังเสียหายไปหมด แต่เซียวเฉวียนสามารถมองเห็นการจัดวางของกระถางเพลิงโดยเดิมได้ รอบด้านทั้งสิบหกกระถางนั้นรวมกันเป็นวงวงหนึ่ง และในกลางวงนั้นก็คือกระถางใบที่สิบหก
หมายถึงเดือนในหมู่ดาว!
การจัดวางเช่นนี้ ว่ากันตามปรกติแล้ว กระถางชุ้ยเจี้ยนที่อยู่ตรงกลางนั้นก็คือกระถางที่มีคุณค่าอันแท้จริง
ทว่าคนของสำนักหมิงเซียนแม้ว่าจะหลบซ่อนเพลิงชุ้ยเจี้ยนแล้วแอบเลี้ยงผีปีศาจอยู่ที่นี่ ในสำนักก็ยังมีของน่าตื่นตะลึงผิดแปลกจากโกลอยู่ ความคิดของพวกเขานั้นไม่อาจจะใช้ความคิดของคนธรรมดามาวัดเอาได้!
เซียวเฉวียนตัดสินใจได้ชัด ที่อยู่ตรงกลางนั้นไม่ใช่เพลิงชุ้ยเจี้ยนแน่นอน อีกทั้งยังเป็นไปได้ว่าจะเป็นกลไกกับดัก!
ขอเพียงไปแตะเข้า ก็จะแตะโดนกับดัก และพาให้ตัวเองเข้าไปอยู่ในอันตรายได้!
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของเซียวเฉวียนนั้นไม่ได้ผิด ผนึกจูเสินพลันส่งเสียงแหบต่ำติดด้วยอารามโกรธเคืองว่า “พวกคนชั่วช้าของสำนักหมิงเซียน! กล้าแตะต้องข้า นับว่าเป็นคราวซวยของพวกแกแล้ว!”
“เซียวเฉวียน ใช้ฝ่ามือหนึ่งแยกเพดานออกมาเสีย หลังจากนั้นก็หยิบเอากระถางเพลิงแรกที่อยู่ตรงข้ามกับประตูทางเข้าออกมา!”
ผนึกจูเสินอยู่ในร่างกายของเซียวเฉวียนมาเนิ่นนาน โดยไม่รู้ตัวก็ผสานเข้ากับนิสัยเสียของเซียวเฉวียนไปแล้วหลายส่วน นี่คือสิ่งที่คนมักพูดกันว่าสิ่งของมักมีลักษณะตามนาย ผนึกจูเสินเอ่ยวาจาเช่นนี้ ไม่เหมือนกับวิธีพูดตรงไปตรงมาแบบที่เคยเป็นมาแต่เดิมเลย
และก็เพราะเหตุนี้ เซียวเฉวียนจึงยังไม่ทันทำความเข้าใจกับสไตล์การทำงานของผนึกจูเสินนี้ เขาเอ่ยอย่างสงสัยเป็นที่ยิ่ง “เจ้าบอกข้ามาตามตรงว่าก็พอว่ากระถางเพลิงแรกที่อยู่ตรงข้ามทางเข้าก็พอแล้วนี่ เหตุใดจึงต้องให้ข้าทำลายเพดานถ้ำด้วย?”
“ไว้ให้เจ้าหลบหนีน่ะสิ!” น้ำเสียงของผนึกจูเสินฟังดูรังเกียจเล็กน้อย ตอนที่เซียวเฉวียนรับผนึกจูเสินเข้ามาเขายังฉลาดกว่านี้นิดหน่อยมิใช่หรือ? ในตอนนี้ผนึกจูเสินรู้สึกว่าสมองของเซียวเฉวียนนั้นใช้การไม่ค่อยได้อย่างไรชอบกล
หากว่าเซียวเฉวียนรู้ว่าถูกผนึกจูเสินวางบทเช่นนี้ให้ เซียวเฉวียนจะต้องถลึงตาเคืองใส่ผนึกจูเสินแน่นอน ผนึกจูเสินเป็นผนึกอายุอานามกว่าหนึ่งพันปี ความรู้รอบตัวกว้างขวางมากมาย เป็นพวกมีความรู้ประสบการณ์สูง ใช่คนที่เซียวเฉวียนสามารถเทียบได้ด้วยหรือ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...