ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 992

เสียงตะโกนของคนสำนักหมิงเซียนดังก้องไปทั่วฟ้า สะเทือนจนเหล่านักที่อยู่ในมุมมืดของป่าพากันขยับปีกสะบัดบินนแล้วตกใจบินพล่านไปทั่วทั้งสี่ทิศ มนุษย์นี่ก็จริงๆ เลย พวกเขาต้องการต่อสู้ยังทำให้พวกผู้บริสุทธิ์ต้องลำบาก

เหล่าสกุณารู้สึกไม่เป็นธรรมยิ่งนัก!

สถานที่ตั้งมากมายพวกเขาดันไม่เลือก แต่กลับมาเลือกตรงประตูบ้านของพวกนก พวกเขารำคาญใจยิ่ง!

เสียงตะโกนฆ่าฟันยิ่งมายิ่งดังเข้ามาใกล้ เวลาของเซียวเฉวียนไม่มากแล้ว เขาจำต้องรีบก่อนที่คนของสำนักหมิงเซียนจะเข้ามาถึง เขารีบดับเชื้อไฟหรือไม่ก็หิ้วมันเอาไว้ในมือเสีย เขาไม่อยากให้คนของสำนักหมิงเซียนทราบว่าคนที่รู้เรื่องนั้นคือตนเอง เพื่อลดปัญหาที่ไม่จำเป็นให้น้อยลง

หากไม่มีคนเห็นว่าผู้ที่มานั้นเป็นเซียวเฉวียน นักปราชญ์ต่อให้สงสัยว่าเป็นการกระทำของเซียวเฉวียน ก็ทำได้แค่สงสัยเท่านั้น ยิ่งในตอนนี้ไม่มีหลักฐานใด นักปราชญ์เองก็ไม่กล้าที่จะชี้หน้าถือสาหาความผิดอะไรกับเซียวเฉวียนได้ง่ายๆ

ต่อให้นักปราชญ์มั่นใจว่าเป็นเซียวเฉวียน เซียวเฉวียนก็ไม่กลัว เพียงแต่ว่าเวลานี้ เซียวเฉวียนไม่อยากจะหาเรื่องทะเลาะกับพวกสำนักหมิงเซียนเลยจริงๆ ทั้งสิ้นเปลืองเวลาและเรี่ยวแรง

ยังมีอีกจุดหนึ่ง พวกมู่เวยศิษย์พี่น้องเคยช่วยเซียวเฉวียนมาก่อน ยามนี้หากว่าศิษย์พี่น้องหญิงคู่นี้มาอยู่กลางฝูงชนก็คงจะกระอักกระอ่วนน่าดู!

ทำอะไรต้องรีบคว้าโอกาสเอาไว้ให้ง่าย ดีกว่าเป็นตาบอดคลำทาง เซียวเฉวียนมีคนดีๆ คอยช่วยเหลือ เหตุใดจึงไม่ใช้กันล่ะ?

“ผนึกจูเสิน บอกข้าทีว่าเพลิงชุ้ยเจี้ยนนั้นอยู่ที่ใด?”

ในความมืด เซียวเฉวียนคว้าคบเพลิงขึ้นมาก่อนที่จะกวาดมันไปทางถ้ำอย่างหยาบๆ

ปากถ้ำนั้นไม่ใหญ่และไม่เล็ก ขนาดจุคนได้ประมาณห้าคน รอบด้านและบริเวณพื้นของตัวถ้ำนั้นใช้กองหินมากองถมสร้างเอาไว้ ในยุคโบราณคงจะตกแต่งประดับประดาโอฬารพอควร

นี่ก็หมายความว่า ชาวสำนักหมิงเซียนให้ความสำคัญกับเพลิงชุ้ยเจี้ยนเป็นอย่างมาก!

แต่ว่าเมื่อครู่ตอนที่เซียวเฉวียนเพิ่งใช้สายฟ้าระเบิดถ้ำนั้น พลังทำลายล้างของสายฟ้ายิ่งใหญ่เกินไป ตรงปากถ้ำถูกทำลายจนเละเทะ ปากถ้ำแม้ว่าจะไม่พังทลายลงมา แต่ว่าตรงเพดานถ้ำนั้นดินและโคลนก็ถล่มลงมาเยอะมาก ทำเอาทั้งถ้ำเละเทะไปหมด

ทว่า ต่อให้เป็นเช่นนี้ พวกกระถางเพลิงทั้งหลายบริเวณปากถ้ำกลับไม่ได้พลิกคว่ำ

ดูไปแล้ว กระถางไฟทุกกระถางนั้นมีปราการป้องกันตนเองเฉพาะ การทำเช่นนี้ ก็ถือว่ามีระบบกันขโมย แม้จะป้องกันไม่สำเร็จ แต่อย่างน้อยก็ประวิงเวลาได้ ต่อให้ไม่มีขโมยก็สามารถกันภัยธรรมชาติได้ เหมือนที่ภูเขาถล่มจนทำให้กระถางไฟหกคว่ำเป็นต้น

พวกคนของสำนักหมิงเซียนกลับมีความคิดรอบคอบเป็นที่ยิ่ง!

เซียวเฉวียนมองไปครู่หนึ่ง ทั้งถ้ำนี้ วางกระถางเพลิงเอาไว้สิบหกกระถาง แม้ว่าจะพังเสียหายไปหมด แต่เซียวเฉวียนสามารถมองเห็นการจัดวางของกระถางเพลิงโดยเดิมได้ รอบด้านทั้งสิบหกกระถางนั้นรวมกันเป็นวงวงหนึ่ง และในกลางวงนั้นก็คือกระถางใบที่สิบหก

หมายถึงเดือนในหมู่ดาว!

การจัดวางเช่นนี้ ว่ากันตามปรกติแล้ว กระถางชุ้ยเจี้ยนที่อยู่ตรงกลางนั้นก็คือกระถางที่มีคุณค่าอันแท้จริง

ทว่าคนของสำนักหมิงเซียนแม้ว่าจะหลบซ่อนเพลิงชุ้ยเจี้ยนแล้วแอบเลี้ยงผีปีศาจอยู่ที่นี่ ในสำนักก็ยังมีของน่าตื่นตะลึงผิดแปลกจากโกลอยู่ ความคิดของพวกเขานั้นไม่อาจจะใช้ความคิดของคนธรรมดามาวัดเอาได้!

เซียวเฉวียนตัดสินใจได้ชัด ที่อยู่ตรงกลางนั้นไม่ใช่เพลิงชุ้ยเจี้ยนแน่นอน อีกทั้งยังเป็นไปได้ว่าจะเป็นกลไกกับดัก!

ขอเพียงไปแตะเข้า ก็จะแตะโดนกับดัก และพาให้ตัวเองเข้าไปอยู่ในอันตรายได้!

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของเซียวเฉวียนนั้นไม่ได้ผิด ผนึกจูเสินพลันส่งเสียงแหบต่ำติดด้วยอารามโกรธเคืองว่า “พวกคนชั่วช้าของสำนักหมิงเซียน! กล้าแตะต้องข้า นับว่าเป็นคราวซวยของพวกแกแล้ว!”

“เซียวเฉวียน ใช้ฝ่ามือหนึ่งแยกเพดานออกมาเสีย หลังจากนั้นก็หยิบเอากระถางเพลิงแรกที่อยู่ตรงข้ามกับประตูทางเข้าออกมา!”

ผนึกจูเสินอยู่ในร่างกายของเซียวเฉวียนมาเนิ่นนาน โดยไม่รู้ตัวก็ผสานเข้ากับนิสัยเสียของเซียวเฉวียนไปแล้วหลายส่วน นี่คือสิ่งที่คนมักพูดกันว่าสิ่งของมักมีลักษณะตามนาย ผนึกจูเสินเอ่ยวาจาเช่นนี้ ไม่เหมือนกับวิธีพูดตรงไปตรงมาแบบที่เคยเป็นมาแต่เดิมเลย

และก็เพราะเหตุนี้ เซียวเฉวียนจึงยังไม่ทันทำความเข้าใจกับสไตล์การทำงานของผนึกจูเสินนี้ เขาเอ่ยอย่างสงสัยเป็นที่ยิ่ง “เจ้าบอกข้ามาตามตรงว่าก็พอว่ากระถางเพลิงแรกที่อยู่ตรงข้ามทางเข้าก็พอแล้วนี่ เหตุใดจึงต้องให้ข้าทำลายเพดานถ้ำด้วย?”

“ไว้ให้เจ้าหลบหนีน่ะสิ!” น้ำเสียงของผนึกจูเสินฟังดูรังเกียจเล็กน้อย ตอนที่เซียวเฉวียนรับผนึกจูเสินเข้ามาเขายังฉลาดกว่านี้นิดหน่อยมิใช่หรือ? ในตอนนี้ผนึกจูเสินรู้สึกว่าสมองของเซียวเฉวียนนั้นใช้การไม่ค่อยได้อย่างไรชอบกล

หากว่าเซียวเฉวียนรู้ว่าถูกผนึกจูเสินวางบทเช่นนี้ให้ เซียวเฉวียนจะต้องถลึงตาเคืองใส่ผนึกจูเสินแน่นอน ผนึกจูเสินเป็นผนึกอายุอานามกว่าหนึ่งพันปี ความรู้รอบตัวกว้างขวางมากมาย เป็นพวกมีความรู้ประสบการณ์สูง ใช่คนที่เซียวเฉวียนสามารถเทียบได้ด้วยหรือ!

แต่กลับต้องทำเรื่องเอิกเกริกครึกโครมเช่นนี้ เหมือนรู้ว่าผู้อื่นจะไม่รู้หรือไร โง่งมนัก!

บนโลกใบนี้ยังมีคนยืนอยู่กับที่อย่างโง่ๆ รอให้คนมาต่อยตีฆ่าฟันหรืออย่างไรกัน?

น่าหัวเราะสิ้นดี!

รีบชิงลงมือจะดีกว่า เซียวเฉวียนสะบัดชายเสื้อ “ภาพวาดอรุณรุ่ง ออกมา!”

ภาพวาดอรุณรุ่งรับคำสั่ง มันพลันปรากฏตัวขึ้นในพริบตา จากนั้นอาศัยความเร็วดุจสายฟ้าชนิดปิดใบหูไม่ทัน มันแสดงศักยภาพกล่องไฟฉายพกพาออกมา ส่องสว่างไปทั่วทั้งถ้ำ

“ภาพวาดอรุณร่ง เก็บมันเสีย!” เซียวเฉวียนชี้ไปยังกระถางไฟที่อยู่ตรงข้ามทางเข้าพลางเอ่ยเสียงเย็น

ไม่ว่าจะสามารถดับเพลิงกระบี่ชุ้ยเจี้ยนหรือไม่ เรื่องราวเร่งรัดจนเกินไป เก็บมันก่อนค่อยว่ากัน!

คำสั่งของนายท่าน ย่อมต้องทำให้สำเร็จ!

ภาพวาดอรุณรุ่งใช้ทักษะเก่าอีกครั้งหนึ่ง มันปล่อยพลังสายฟ้าขนาดยักษณ์ หมายมาดจะฟาดปราการให้พัง หาได้รู้ไม่ ปราการนี้ยังคงจะเก่งกาจกว่าปากถ้ำอันเก่ามาก ครั้นพลังสายฟ้าขนาดใหญ่ประทับลงไป ก็เหมือนดังกำหมัดต่อยลงไปบนปุยนุ่น...

เซียวเฉวียนเพ่งตามอง ภาพวาดอรุณรุ่งลงมือไปตั้งหลายครั้งแต่กลับไม่มีอะไรคืบหน้าเอาเลย!

เสียงดาบเสียงกระบี่นั้นดังสะเทือนเลือนลั่น เสียงฝีเท้าด้านนอกยิ่งเข้ามาใกล้ทุกๆ ที ไม่ทันแล้ว!

ในสถานการณ์อันคับขันนั้น เซียวเฉวียนทำได้แค่รักษาม้าตายดังม้าเป็น เขาผลักใช้พลังภายใน ฝ่ามือหมุนขยับ จากนั้นใช้พลังดันเอาศิลาของกระถางไฟที่อยู่ใต้กระถางไฟอีกทีขึ้นมา ภายใต้การใช้พลังยกของเซียวเฉวียน ปราการนั้นก็ลอยตัวขึ้นมาด้วยพร้อมกัน....

ภายใต้กำลังภายในอันแกร่งกล้ามหาศาลของเซียวเฉวียน มันลอยขึ้นมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย