นักปราชญ์เป็นผู้สูงส่ง แม้แต่เซียวเฉวียนก็ถูกเขาจูงจมูกเหมือนคนโง่
หลายปีที่ผ่านมา ระดับจักรพรรดิเป็นเพื่อนของนักปราชญ์ ราชวงศ์เหล่านั้นเชื่อฟังคำพูดของเขา เขาให้พวกราชวงศ์ไปทางทิศตะวันออก พวกเขาก็ต้องไปทางทิศตะวันออก เมื่อนักปราชญ์เขาต้องการไปทางตะวันออก เขาก็ไปทางตะวันออก ซึ่งคนอื่นๆจะไม่กล้าพูดอะไรสักคำ
ตอนนี้ชิงหลงซึ่งเป็นคนราชวงศ์คุนหลุนที่ตกอับ กล้าดียังไงมาห้ามเขา?
มาห้ามเขาก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ในสายตาของเขายังเต็มไปด้วยความดูถูก อย่างกับว่าทุกการเคลื่อนไหวของนักปราชญ์อยู่ภายใต้การควบคุมของชิงหลง
“แม้แต่นายท่านของเจ้ายังไม่กล้าพูดแบบนี้กับข้า”นักปราชญ์เหลือบมองชิงหลงอย่างเย็นชาและยืนนิ่ง
นี่คือการข่มขู่
ใครๆก็ฟังออกว่ามันคือการข่มขู่
แต่ชิงหลงจริงจัง: "โอ้?เจ้ารู้ได้ไงว่าเซียวเฉวียนไม่กล้า?เท่าที่ข้ารู้มา เจ้าต่างหากที่ไม่มีความกล้าที่จะพบท่านด้วยซ้ำ หลายปีมานี้เจ้าต้องหลบๆซ่อนๆอยู่ในที่มืดเหมือนหนู”
“คนแบบเจ้า เจ้าแน่ใจเหรอว่าเซียวเฉวียนไม่กล้าพูดคุยกับเจ้า?”
เว่ยเชียนชิวที่ไม่เข้าใจสับสนกับการกระทำของชิงหลงที่นำพัดออกมาพัด ทำไมท่านเซียนชราคนนี้จึงถูกเรียกว่านักปราชญ์?ที่สำคัญนักปราชญ์รู้จักเซียวเฉวียน?
จางจิ่นไม่ใช่บอกว่า ท่านเซียนชรามาต้าเว่ยเป้นครั้งแรก และเขาไม่คุ้นเคยกับสถานที่นั้นและไม่รู้จักใครเลย ดังนั้นเขาจึงพักอาศัยอยู่ในบ้านของจางจิ่น
ทำไมตอนนี้เขาถึงมีความบาดหมางกับเซียวเฉวียนล่ะ?จากสิ่งที่ชิงหลงพูดมานั้น ดูเหมือนว่าท่านเซียนชราคนนี้จะทำให้เซียวเฉวียนขุ่นเคืองมาอย่างน้อยสามถึงห้าปี
“เด็กน้อย เจ้าปรึกษากับคนชั่วเพื่อขอให้ยอมสละผลประโยชน์ที่เขามี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้ ระวังเจ้าจะไม่ตายดี”ในเวลานี้ พัดของชิงหลงก็ชี้ไปที่เว่ยเชียนชิว
เด็ก...เด็กน้อย?เด็กน้อยบ้าบออะไรของเจ้า!
ทันใดนั้นสีหน้าของเว่ยเชียนชิวก็ดูน่าเกลียดมาก ยังปรึกษากับคนชั่วเพื่อขอให้ยอมสละผลประโยชน์ที่เขามี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้ พูดอย่างกับว่าเว่ยเชียนชิวจะต้องเพิ่งพาท่านเซียนชราคนนี้เพื่อบรรลุผลสำเร็จ!เขาเว่ยเชียนชิวคือเสือต่างหาก! เป็นเสือผู้กล้าหาญในต้าเว่ย!
“ส่ายหัวไป!”
เว่ยเชียนชิวทนไม่ไหวแล้ว ชิงหลงอายูยังน้อย กล้ามาเรียกเขาว่าเด็กน้อย เป็นคนไม่รู้จัดที่ต่ำที่สูงจริงๆ!
“ท่านเซียนชรา!บุคคลนี้ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้อีกต่อไป!จัดการมันซะ!”
เว่ยเชียนชิวพูดด้วยความโกรธ เขาและนักปราชญ์แค่มองหน้ากัน พวกเขาสองคนก็บรรลุข้อตกลงกัน
ชิงหลงพัวพันกับนักปราชญ์และเสวียนอวี๋ได้สำเร็จ โดยยื้อเวลาให้เว่ยอวี๋และอันเอ๋อร์
ชิงหลงส่งสายตาให้เหมิงเอ้า ให้ไป๋ฉี่อยู่ต่อ และสั่งให้เขาไปช่วยเหลือเว่ยอวี๋
ว่าไปมันก็หน้าแปลกมาก โดยปกติแล้วไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าจะเชื่อมโยงกับนายท่านของพวกเขาได้เท่านั้น เพราะพวกเขาได้เชื่อมต่อกันอยู่แล้ว แต่พวกเขาก็สามารถเชื่อมต่อกับชิงหลงได้เช่นกัน
ชิงหลงแค่ส่งสายตาเพียงครั้งเดียว พวกเขาก็สามารถเข้าใจสิ่งที่เขาหมายถึง
และชิงหลงก็รู้ทุกอย่างว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่
ความเข้าใจโดยปริยายและการสื่อสารนี้ ทำให้ไป๋ฉี่พวกเขาและชิงหลงรู้สึกใกล้ชิดและไว้วางใจโดยธรรมชาติ ดังนั้นไม่ว่าชิงหลงขอให้เหมิงเอ้าทำอะไร เหมิงเอ้าก็จะไปทำเช่นนั้นโดยธรรมชาติ เพราะนายท่านเคยกล่าวไว้แล้วว่าควรร่วมมือกับชิงหลง
ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ว่าไป๋ฉี่พวกเขาสองคนกับชิงหลงมีความเข้าใจโดยปริยาย ในความเป็นจริงแล้วตราบใดที่หัวใจดาบเต็มใจ เขาสามารถทำให้ใครก็ตามไว้วางใจและพึ่งพาเขา เพราะมันเป็นครึ่งหนึ่งของเพลิงชุ้ยเจี้ยน เป็นแหล่งหนึ่งที่ให้กำเนิดโลกนี้ ธรรมชาติและทุกสิ่งในโลกเชื่อมโยงกันและชักจูงกัน
ผนึกจูเสินก็มีทักษะนี้เช่นกัน แต่ผนึกจูเสินไม่เคยใช้มัน
ผนึกจูเสินนั้นหยิ่งผยองมากกว่าหัวใจดาบ อาจเป็นเพราะผนึกจูเสินอยู่โดดเดี่ยวมานานมากเกินไป จึงไม่อยากติดต่อกับใครเลย
ในช่วงผนึกจูเสินอดกลั้นคุนหลุนมาเป็นหนึ่งพันปี สำหรับมนุษย์แล้ว หนึ่งพันปีนั้นยาวนานมาก สำหรับผนึกจูเสิน เวลานี้ก็ไม่สั้นเช่นกัน
แม้ว่าเวลาจะไม่นานนัก แต่โลกมนุษย์ที่ผนึกจูเสินมองเห็นนั้นก็เหมือนกับโลกมนุษย์ที่ผู้คนเห็น แต่จากมุมมองของผนึกจูเสินแล้วราวกับว่ากดปุ่มกรอไปข้างหน้า มีฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว แต่มันก็เป็นช่วงเวลาอันสั้น
เวลานั้นสั้น แต่ปริมาณข้อมูลก็มีมากพอๆกัน ซึ่งทำให้หยิ่งผยองผนึกจูเสินกลายเป็นเงียบงันอย่างยิ่ง
หากไม่ได้พบเซียวเฉวียน ผนึกจูเสินก็จะไม่ได้พูดเยอะแยะมากมายนัก
ภูเขาหมิงเซียน
เซียวเฉวียนอาศัยผนึกจูเสินและทักษะพิเศษของเขาในการนำเมล็ดพันธุ์แห่งเพลิงออกมา แต่ปัญหาก็เกิดขึ้น
ไฟแบบนี้ ไม่สามารถดับได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย
ถ้าแต่งเรื่องแบบนี้ไม่ต้องแต่งเลยจะดีกว่าไม่มีความคิดสมัยใหม่เลยถ้าตัวเอกแบบนี้ก็สมที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ทัพพาลูกน้องทั้งกองทัพไปตาย...
มีเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นเหมือนขยะสังคมทั้งที่ทลุมิติมากเกิด...
ไอ้คนแต่งมันปัญญาอ่อนหารือเปล่า...
มันสมควจไหมที่เอาเลือดเขามาติดต่อวิณยาณไม่มีเหตัผลที่จะทำอย่างนี้เหมือนมันไม่มีอะไรทำทำไมไม่คิดเอาวิธีช่วยลูกเมียมันจะมีประโยชน์กว่า...
เรื่องนี้ตัวเอกเหมือนควายเหมือนหมาหมามาก...
ไม่สมควรเป็นชุปเปอร์ลูกเขยน่าเป็นลูกเขยะจริงๆ...
เป็นคนที่ไม่มีสำมาคาระวะเหมือนไพร่น่ารังเกลียดไม่น่าเอามาเป็นตัวเอก...
บางครั้งเชียวเฉวียนเล่นเหมือนเด็กไม่มีความน่านับถือไม่น่าเอามาเป็นตัวเอกน่าให้เป็นคนชั้นตำ่มาก็กว่า...
แล้วมันสั่งให้ลูกน้องตอบโต้คนที่เข้ามาหาเรื่องเอาไว้ล่วงหน้าไม่ได้เหรอ กฎของนิยายเรื่องนี้มันบ้าๆ อยู่นะ แบบนี้ให้ผู้อารักขาเฝ้าบ้าน ถ้าเจ้านายไม่อยู่ โจรก็เดินเข้าไปเอาของได้สบายเลยสิ เพราะผู้อารักขาไม่มีนาย ทำอะไรโจรก็ไม่ได้...
ไหนบอกรักลูกน้องหนักหนา เด็กมันอยากจะเข้าไปเป็นสนมก็จะปล่อยให้เข้าไปงั้นเหรอ ตัวเอกเรื่องนี้มันยังไง พิมพ์ด่านะ แต่ก็อ่าน 55555...