ซูเปอร์ลูกเขย นิยาย บท 994

นักปราชญ์เป็นผู้สูงส่ง แม้แต่เซียวเฉวียนก็ถูกเขาจูงจมูกเหมือนคนโง่

หลายปีที่ผ่านมา ระดับจักรพรรดิเป็นเพื่อนของนักปราชญ์ ราชวงศ์เหล่านั้นเชื่อฟังคำพูดของเขา เขาให้พวกราชวงศ์ไปทางทิศตะวันออก พวกเขาก็ต้องไปทางทิศตะวันออก เมื่อนักปราชญ์เขาต้องการไปทางตะวันออก เขาก็ไปทางตะวันออก ซึ่งคนอื่นๆจะไม่กล้าพูดอะไรสักคำ

ตอนนี้ชิงหลงซึ่งเป็นคนราชวงศ์คุนหลุนที่ตกอับ กล้าดียังไงมาห้ามเขา?

มาห้ามเขาก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ในสายตาของเขายังเต็มไปด้วยความดูถูก อย่างกับว่าทุกการเคลื่อนไหวของนักปราชญ์อยู่ภายใต้การควบคุมของชิงหลง

“แม้แต่นายท่านของเจ้ายังไม่กล้าพูดแบบนี้กับข้า”นักปราชญ์เหลือบมองชิงหลงอย่างเย็นชาและยืนนิ่ง

นี่คือการข่มขู่

ใครๆก็ฟังออกว่ามันคือการข่มขู่

แต่ชิงหลงจริงจัง: "โอ้?เจ้ารู้ได้ไงว่าเซียวเฉวียนไม่กล้า?เท่าที่ข้ารู้มา เจ้าต่างหากที่ไม่มีความกล้าที่จะพบท่านด้วยซ้ำ หลายปีมานี้เจ้าต้องหลบๆซ่อนๆอยู่ในที่มืดเหมือนหนู”

“คนแบบเจ้า เจ้าแน่ใจเหรอว่าเซียวเฉวียนไม่กล้าพูดคุยกับเจ้า?”

เว่ยเชียนชิวที่ไม่เข้าใจสับสนกับการกระทำของชิงหลงที่นำพัดออกมาพัด ทำไมท่านเซียนชราคนนี้จึงถูกเรียกว่านักปราชญ์?ที่สำคัญนักปราชญ์รู้จักเซียวเฉวียน?

จางจิ่นไม่ใช่บอกว่า ท่านเซียนชรามาต้าเว่ยเป้นครั้งแรก และเขาไม่คุ้นเคยกับสถานที่นั้นและไม่รู้จักใครเลย ดังนั้นเขาจึงพักอาศัยอยู่ในบ้านของจางจิ่น

ทำไมตอนนี้เขาถึงมีความบาดหมางกับเซียวเฉวียนล่ะ?จากสิ่งที่ชิงหลงพูดมานั้น ดูเหมือนว่าท่านเซียนชราคนนี้จะทำให้เซียวเฉวียนขุ่นเคืองมาอย่างน้อยสามถึงห้าปี

“เด็กน้อย เจ้าปรึกษากับคนชั่วเพื่อขอให้ยอมสละผลประโยชน์ที่เขามี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้ ระวังเจ้าจะไม่ตายดี”ในเวลานี้ พัดของชิงหลงก็ชี้ไปที่เว่ยเชียนชิว

เด็ก...เด็กน้อย?เด็กน้อยบ้าบออะไรของเจ้า!

ทันใดนั้นสีหน้าของเว่ยเชียนชิวก็ดูน่าเกลียดมาก ยังปรึกษากับคนชั่วเพื่อขอให้ยอมสละผลประโยชน์ที่เขามี ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้ พูดอย่างกับว่าเว่ยเชียนชิวจะต้องเพิ่งพาท่านเซียนชราคนนี้เพื่อบรรลุผลสำเร็จ!เขาเว่ยเชียนชิวคือเสือต่างหาก! เป็นเสือผู้กล้าหาญในต้าเว่ย!

“ส่ายหัวไป!”

เว่ยเชียนชิวทนไม่ไหวแล้ว ชิงหลงอายูยังน้อย กล้ามาเรียกเขาว่าเด็กน้อย เป็นคนไม่รู้จัดที่ต่ำที่สูงจริงๆ!

“ท่านเซียนชรา!บุคคลนี้ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้อีกต่อไป!จัดการมันซะ!”

เว่ยเชียนชิวพูดด้วยความโกรธ เขาและนักปราชญ์แค่มองหน้ากัน พวกเขาสองคนก็บรรลุข้อตกลงกัน

ชิงหลงพัวพันกับนักปราชญ์และเสวียนอวี๋ได้สำเร็จ โดยยื้อเวลาให้เว่ยอวี๋และอันเอ๋อร์

ชิงหลงส่งสายตาให้เหมิงเอ้า ให้ไป๋ฉี่อยู่ต่อ และสั่งให้เขาไปช่วยเหลือเว่ยอวี๋

ว่าไปมันก็หน้าแปลกมาก โดยปกติแล้วไป๋ฉี่และเหมิงเอ้าจะเชื่อมโยงกับนายท่านของพวกเขาได้เท่านั้น เพราะพวกเขาได้เชื่อมต่อกันอยู่แล้ว แต่พวกเขาก็สามารถเชื่อมต่อกับชิงหลงได้เช่นกัน

ชิงหลงแค่ส่งสายตาเพียงครั้งเดียว พวกเขาก็สามารถเข้าใจสิ่งที่เขาหมายถึง

และชิงหลงก็รู้ทุกอย่างว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่

ความเข้าใจโดยปริยายและการสื่อสารนี้ ทำให้ไป๋ฉี่พวกเขาและชิงหลงรู้สึกใกล้ชิดและไว้วางใจโดยธรรมชาติ ดังนั้นไม่ว่าชิงหลงขอให้เหมิงเอ้าทำอะไร เหมิงเอ้าก็จะไปทำเช่นนั้นโดยธรรมชาติ เพราะนายท่านเคยกล่าวไว้แล้วว่าควรร่วมมือกับชิงหลง

ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ว่าไป๋ฉี่พวกเขาสองคนกับชิงหลงมีความเข้าใจโดยปริยาย ในความเป็นจริงแล้วตราบใดที่หัวใจดาบเต็มใจ เขาสามารถทำให้ใครก็ตามไว้วางใจและพึ่งพาเขา เพราะมันเป็นครึ่งหนึ่งของเพลิงชุ้ยเจี้ยน เป็นแหล่งหนึ่งที่ให้กำเนิดโลกนี้ ธรรมชาติและทุกสิ่งในโลกเชื่อมโยงกันและชักจูงกัน

ผนึกจูเสินก็มีทักษะนี้เช่นกัน แต่ผนึกจูเสินไม่เคยใช้มัน

ผนึกจูเสินนั้นหยิ่งผยองมากกว่าหัวใจดาบ อาจเป็นเพราะผนึกจูเสินอยู่โดดเดี่ยวมานานมากเกินไป จึงไม่อยากติดต่อกับใครเลย

ในช่วงผนึกจูเสินอดกลั้นคุนหลุนมาเป็นหนึ่งพันปี สำหรับมนุษย์แล้ว หนึ่งพันปีนั้นยาวนานมาก สำหรับผนึกจูเสิน เวลานี้ก็ไม่สั้นเช่นกัน

แม้ว่าเวลาจะไม่นานนัก แต่โลกมนุษย์ที่ผนึกจูเสินมองเห็นนั้นก็เหมือนกับโลกมนุษย์ที่ผู้คนเห็น แต่จากมุมมองของผนึกจูเสินแล้วราวกับว่ากดปุ่มกรอไปข้างหน้า มีฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว แต่มันก็เป็นช่วงเวลาอันสั้น

เวลานั้นสั้น แต่ปริมาณข้อมูลก็มีมากพอๆกัน ซึ่งทำให้หยิ่งผยองผนึกจูเสินกลายเป็นเงียบงันอย่างยิ่ง

หากไม่ได้พบเซียวเฉวียน ผนึกจูเสินก็จะไม่ได้พูดเยอะแยะมากมายนัก

ภูเขาหมิงเซียน

เซียวเฉวียนอาศัยผนึกจูเสินและทักษะพิเศษของเขาในการนำเมล็ดพันธุ์แห่งเพลิงออกมา แต่ปัญหาก็เกิดขึ้น

ไฟแบบนี้ ไม่สามารถดับได้

เซียวเฉวียนถามอย่างกังวล ทางองค์หญิงก็ยิ้มเบาๆ:"อย่ากังวล ข้าสบายดี"

เดิมทีองค์หญิงไม่ตั้งใจที่จะติดต่อกับเซียวเฉวียน แต่หยกป้องกันตัวเองที่เธอมอบให้เซียวเฉวียนนั้นกังวลมาก เธอสัมผัสมันได้และอดไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงรีบติดต่อเซียวเฉวียน:"เจ้าอยู่ในสถานที่อันตรายใช่หรือไม่? "

มันค่อนข้างอันตราย หูของเซียวเฉวียนเต็มไปด้วยเสียงของภูเขาหมิงเซียนต่อสู้และฆ่ากัน ในช่วงเวลาสั้นๆ คนเหล่านี้ก็จะหาเธอเจอ

“ข้าอยู่ที่สำนักหมิงเซียน”

“เจ้าไปทำอะไรอยู่ที่นั่น?”องค์หญิงสับสนมาก เซียวเฉวียนพูดอย่างกระตือรือร้น:“ท่านไม่ต้องมาสนใจข้า!ท่านอยู่ที่ไหนกันแน่!”

องค์หญิงต้าถงไม่ได้พูดอะไร ตอนนี้เธออยู่ที่หลิงซาน

หลิงซาน สถานที่ที่ซินเจียงคือที่ราชวงศ์ลงโทษ

หมิงเจ๋อถูกขังไว้ที่นี่

องค์หญิงต้าถงล็อคมันด้วยมือของเธอเอง

หมิงเจ่อคาดไม่ถึง น้องสาวของเขาบอกว่าจะพาเขาไปพบเสด็จพ่อของเขา แต่เธอหลอกเขาไปที่หลิงซาน และขังเขาไว้ในคุกน้ำแข็งที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ

ไม่เพียงเท่านั้น แถมองค์หญิงยังยึดหยกและถุงปักดิ้นของเขาไปด้วย เขาไม่สามารถขอความช่วยเหลือได้

“น้องสาว!ข้าคือพี่ชายแท้ๆของเจ้า!เจ้าทำกับข้าแบบนี้ได้อย่างไร!”

หมิงเจ๋อโกรธมาก แต่องค์หญิงเพิกเฉยต่อเขา

หมิงเจ๋ออยู่ในคุก องค์หญิงก็เฝ้าอยู่ข้างนอก

ในตำนานของซินเจียง ราชวงศ์ของซินเจียงมาที่ทุ่งน้ำแข็งและหิมะ ผิวเนียนบริสุทธิผุดผ่อง และดวงตาของพวกเขาเป็นเหมือนน้ำแข็งที่ใสที่สุดในโลก ดังนั้นผู้คนในซินเจียงมีรูปร่างที่หล่อเหลาอย่างยิ่งและมีคิ้วที่ลึกและน่าดึงดูด

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงตำนาน ทุกประเทศและทุกชาติมีเรื่องราวตำนานของตัวเองทั้งนั้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นการแสดงถึงวัฒนธรรมด้วย

เป็นเพราะตำนานนี้นี่เอง ที่ทำให้ราชวงศ์แห่งซินเจียงการลงโทษผู้คนด้วยการขังพวกเขาไว้ในคุกน้ำแข็ง ซึ่งหมายถึงการกลับคืนสู่น้ำแข็งและหิมะ และไตร่ตรองถึงความตั้งใจเดิมของพวกเขา

เห็นได้ชัดว่าองค์หญิงสัมผัสได้ว่าเซียวเฉวียนกำลังตกอยู่ในอันตรายที่ร้ายแรง:"เร็วเข้า!ออกไปจากสถานที่นั้นซะ!ไปเร็วๆ!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ซูเปอร์ลูกเขย