ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P นิยาย บท 20

ผ่านมาสามวันหนานอิงก็ไม่ได้พบหน้าบุรุษทั้งสองอีกเลย ในขณะที่นางเองก็ล้มป่วยลงโดยมีท่านตานายพรานผู้นั้นคอยดูแลให้นางอยู่ในโรงเก็บฟืนของเขา

แม้โรงเก็บฟืนนี้จะคับแคบแต่ก็นับว่าอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง ในแต่ละวันหนานอิงจะได้รับยาต้มเป็นเวลาพร้อมน้ำข้าวต้มอันไร้รสชาติ หนานอิงล้มป่วยครานี้นางยังสามารถขยับกายได้บ้างดังนั้นท่านตาเพียงแต่วางยาและน้ำข้าวเอาไว้ให้นางช่วยเหลือตนเอง

ที่นอนของหนานอิงเป็นฟางหนามีผ้าเก่า ๆ ที่เหม็นอับปูทับเอาไว้ในขณะที่ผ้าห่มของนางก็ทั้งขาดทั้งมีกลิ่นเหม็นอับเช่นกันแต่มันกลับสามารถกันความหนาวได้เป็นอย่างดี

วันต่อมานางก็ฟื้นขึ้นท่านตานำยาทาสมานแผลมาให้แล้วออกไป หนานอิงในยามนี้คิดอย่างเดียวคือต้องพยายามเอาชีวิตรอดให้จงได้ แม้ร่างกายจะเจ็บปวดเพียงใดนางก็ฝืนทนทายาให้ตนเองและกินยาและน้ำข้าวที่พรานป่าผู้นั้นนำมาให้จนหมด

ในตอนนี้หนานอิงแข็งแรงขึ้นมาก นางรู้สึกว่าช่วงเวลาหนักหนาสาหัสของชีวิตคงผ่านมาแล้ว ต่อไปหนานอิงต้องคิดให้รอบคอบเพื่อพามารดาและสาวใช้ของนางออกจากจวนสกุลหนานให้ได้ 

เสียงเปิดประตูดังขึ้นหนานอิงเงยหน้า นางรู้สึกคุ้นเคยกับชายชราผู้นี้แล้ว เขาเองก็เหมือนบุรุษทั้งสองคนนั้น คำพูดของเขายิ่งกว่าทองคำกว่าจะเอ่ยออกมาสักประโยคช่างยากเย็นแสนเข็ญยิ่งนัก

เขาวางยาและอาหารให้นางเช่นเคย มื้อนี้หนานอิงพบว่าตนเองไม่ได้กินน้ำข้าวเหมือนเช่นทุกมื้อแล้ว แต่เป็นข้าวต้มและปลาแห้งย่างตัวหนึ่ง

"ขอบคุณเจ้าค่ะ"

นางกล่าวเสียงเบา ผู้ชราเพียงแต่พยักหน้าและเก็บชามยาพร้อมชามข้าวจากมื้อที่ผ่านมาอย่างเงียบเชียบ 

"ท่านตาเจ้าคะ คนผู้นั้นเป็นอย่างไรบ้าง"

ชายชราเพียงแต่ถอนหายใจ เขาไม่ตอบคำถามหนานอิงและถือชามเปล่าออกไปเงียบ ๆ หนานอิงได้แต่มองตามคิดในใจว่าไม่ใช่ว่าเขาผู้นั้นสิ้นชีพแล้วหรอกนะ

ท่าทางของเขาในวันนั้นก็ดูเหมือนจะไม่รอด 

จู่ ๆ หนานอิงก็รู้สึกจุกที่คอหอย อย่างไรเสียก็เพราะคนผู้นั้นพยายามช่วยนางจึงได้รับบาดเจ็บ นางรู้สึกแย่เป็นอย่างยิ่ง หากเขาตายนางจะทำเช่นไร

ที่เขาตกที่นั่งลำบากก็เป็นเพราะช่วยนาง ความรู้สึกผิดบาปก่อขึ้นในใจนางไม่อยากเป็นต้นเหตุให้ผู้ใดตาย อย่างไรเสียเขาก็เป็นผู้มีพระคุณอีกคนหนึ่งของนาง

หนานอิงสลัดความคิดแย่ ๆ ออกไป พยายามมองโลกในแง่ดีเข้าไว้ พี่ชายของเขาคงไม่ปล่อยให้เขาเป็นอะไร หรือหากว่าเขาตายแล้ว บุรุษท่าทางน่ากลัวนั่นคงได้ถือกระบี่มาฟันคอนางด้วยบันดาลโทสะแล้วกระมัง

เอาล่ะนางต้องหายเสียก่อน ในเมื่อท่านตาผู้นั้นไม่ยอมพูดนางก็ต้องไปดูด้วยตาของตัวเองว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง

หนานอิงหยิบชามข้าวขึ้นมา คงเป็นเพราะอากาศที่เย็นจัดเช่นนี้ความร้อนที่ยังมีอยู่เมื่อสักครู่หายไปแล้ว ดีที่ยังคงอุ่นอยู่บ้าง นางตักเข้าปากคำแรกก็รู้สึกจืดชืดยิ่งนัก กระทั่งปลาแห้งที่ย่างมาก็ไร้รสชาติโดยสิ้นเชิง

หนานอิงในยามนี้ไม่คิดมากแล้ว แม้ที่ผ่านมานางจะเป็นคนพิถีพิถันเรื่องอาหารการกินเพียงใด แต่ในยามนี้กลับสามารถกินได้ทุกอย่างที่ขวางหน้าขอเพียงมันช่วยทำให้ท้องอิ่มได้

หลังกินข้าวเสร็จนางก็ดื่มยาขมแล้วบ้วนปาก หนานอิงถอดเสื้อผ้าของตนเองออก เปิดกระปุกไม้ที่บรรจุยาทาแผลออกแล้วค่อย ๆ แตะยาทาไปที่ร่างของตนที่ถลอกปอกเปิกจนครบทุกจุด

เมื่อเรียบร้อยแล้วนางจึงใส่เสื้อผ้าอีกครั้ง เสื้อผ้าของนางก็เป็นเสื้อผ้าของชาวบ้านชุดหนึ่งที่ท่านตานำมาให้เปลี่ยน ถึงมันจะเป็นเพียงผ้าต่วนสีมืดแต่ก็อบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง 

หนานอิงมองเสื้อผ้าของตนเองที่นางพับอย่างเรียบร้อยอยู่บนกองฟืน หวนนึกถึงชีวิตของตนเองในสกุลหนาน และคิดถึงท่านแม่รวมทั้งอาโจ

นางถูกช่วยมาแล้วแต่ยังนับไม่ได้ว่าจะปลอดภัยหรือไม่ เพราะนางไม่รู้เลยว่าสองคนนั้นจะทำกับนางอย่างไร ความจริงในคราแรกหนานอิงคิดว่าหากตนเองดีขึ้นแล้วก็คิดจะหนีไปด้วยไม่รู้ชะตาชีวิตของตนเอง

แต่เท้าของนางกลับยังได้รับบาดเจ็บตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้ นางคิดใคร่ครวญไปมาคงเป็นในตอนที่น้องชายของคนผู้นั้นโยนนางลงจากหลังม้าเป็นแน่

ผ่านมาราวหนึ่งสัปดาห์หนานอิงก็หายดีจนเกือบเป็นปกติ หนานอิงเองก็โล่งอกแล้วเมื่อรู้เห็นสีหน้าของท่านตาดีขึ้นมาก

"เขาไม่ตายใช่หรือเปล่าเจ้าคะ"

ท่านตาส่งยิ้มแล้วพยักหน้าเบา ๆ ในเมื่อเขาไม่ตายจึงทำให้หนานอิงแทบกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ ความลำบากใจสำนึกผิดตลอดหลายวันที่ผ่านมลายหายไปอย่างสิ้นเชิง

หนานอิงคิดว่าตนเองก็หายดีคนผู้นั้นก็หายแล้ว บัดนี้นางจึงไม่จำเป็นต้องห่วงสิ่งใด  ความหวาดกลัวในใจของนางยังมีหนานอิงจึงคิดที่จะหนี แต่ท่านตาผู้นั้นกลับเอ่ยว่า

"นายใหญ่ไม่อยู่อีกสองสามวันถึงจะกลับในตอนนี้แม่นางช่วยข้าดูแลนายน้อยจะได้หรือไม่ ข้าวสารกำลังจะหมด ข้าต้องลงเขาไปซื้อ จู่ ๆ พวกเจ้าโผล่มาไม่ทันได้เตรียมการ"

หนานอิงยังมีมโนธรรมในใจ ในกระท่อมนั้นมีคนเจ็บผู้หนึ่งอยู่และเขายังเจ็บเพราะนาง ส่วนชายชราผู้นี้ก็คือผู้ที่คอยดูแลนางในยามนางเจ็บป่วยนางจึงไม่อาจเห็นแก่ตัวได้

"ข้าอย่างไรก็ต้องตอบแทนบุญคุณพวกเขาอยู่แล้ว ข้ายินดีเจ้าค่ะ ท่านตาสบายใจเถิด"

"งานของเจ้าแค่ทำอาหารให้เขาตามเวลา และเคี่ยวยาไปส่งเขารวมทั้งในตอนเช้าช่วยเขาเช็ดตัวให้สะอาดเปลี่ยนผ้าพันแผลและใส่ยาก็พอ"

หนานอิงเข้าใจแล้ว อย่างไรนางก็เป็นสตรีเรื่องดูแลคนป่วยนางย่อมคล่องแคล่ว อีกทั้งฝีมือการทำอาหารของนางก็นับว่าดีเยี่ยม ยังถูกท่านพ่อชมอยู่บ่อยครั้ง

เมื่อคิดถึงท่านหนานใบหน้าของหนานอิงพลันเศร้าสลด แผลที่มือของนางอันเกิดจากมีดที่นางกรีดเลือดตัดขาดจากเขาพลันรู้สึกเจ็บขึ้นมาแม้ว่ามันจะเริ่มหายแล้ว

บัดนี้เขาไม่ใช่บิดาของนางอีกต่อไป

นางอยากให้คนผู้นั้นหายในเร็ววัน นางอยากรีบไปช่วยท่านแม่หากพวกเขาสองคนไม่ช่วยหนานอิงคิดว่าจะหาวิธีพาท่านแม่และอาโจวออกมาด้วยตนเอง อย่างน้อยน้องสาวของนางหนานหงก็ยังอยู่ที่นั่น การพาคนที่ท่านพ่อไม่สนใจออกมาย่อมมีหนทาง

หลังจากสอนหนานอิงต้มยาแล้วพรานชราก็ขึ้นม้าของเขาแล้วลงเขาไปทันใด หนานอิงได้ยินเสียงไอดังออกมาจากกระท่อมหลังเล็ก นางจึงลังเลเล็กน้อยว่าจะเข้าไปดีหรือไม่ แต่เสียงไอนั้นยังดังไม่หยุด

หนานอิงรู้สึกเป็นห่วงเขา อย่างไรเสียก็เป็นเพราะนางเขาจึงได้รับบาดเจ็บ นางจึงตัดสินใจที่จะเข้าไปดูเขาในทันที เมื่อเปิดประตูกระท่อมเข้าไปสายตาของนางพลันปะทะเข้ากับร่างของบุรุษผู้หนึ่ง

ใบหน้าหล่อเหลาของเขายังคงซีดและมีหนวดเคราขึ้นมารอบปากเพราะไม่ได้ดูแลตนเอง เดิมทีหนานอิงคุ้นเคยกับคุณชายหน้าขาวเกลี้ยงเกลา แต่เมื่อพบบุรุษหน้าคมที่มีไรหนวดเช่นนี้ก็รู้สึกแปลกประหลาด

เขากึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียงร่างกายส่วนบนงดงามเปลือยเปล่าดูแข็งแกร่งกำยำเป็นอย่างยิ่ง ดูเหมือนเขาจะมีเพียงผ้าห่มผืนเดียวที่คลุมร่างกายส่วนล่างอยู่

หนานอิงรีบเบือนสายตาหนีภาพนั้น ใบหน้านางแดงเล็กน้อยไม่คิดว่าจะเข้ามาพบเขาในสภาพกึ่งเปลือยเช่นนี้ ไม่รู้ว่าภายใต้ผ้าห่มสีตุ่นเขาจะใส่กางเกงหรือไม่ 

หานเซียวไอออกมาอีกครั้ง เขาเห็นนางแล้วกลับมองนางด้วยสายตาว่างเปล่า หนานอิงข่มความอายพิจารณาดูเขาอย่างรวดเร็ว 

นางพบว่าร่างส่วนบนของเขาบาดเจ็บไปทั้งร่าง มีผ้าพันแผลพันอยู่รอบกาย ยังมีที่แขนของเขาอีก ท่านตาบอกว่าเขาถูกธนูยิงที่แขนและยังมีที่หลังของเขาที่ถูกคมดาบฟันเป็นแผลฉกรรจ์

เมื่อเห็นกับตาเช่นนี้หนานอิงอดนับถือไม่ได้ที่เขาสามารถผ่านความตายมาได้

เขาจ้องนางอย่างไม่ไว้ใจ เห็นชัดว่าเขาไม่พอใจเพียงใดที่นางเข้ามาในยามนี้

หนานอิงเห็นว่าริมฝีปากของเขาแห้งผาก เขาใช้สายตาขับไล่นางก่อนจะล้มตัวลงนอนแล้วหันหลังโดยไม่สนใจนางอีก 

"ข้าแค่รินน้ำเท่านั้นเอง เหตุใดเขาจึงโกรธข้าเช่นนั้น"

"เขาไม่ชอบให้คนทำมากกว่าคำสั่ง สั่งอย่างไรเจ้าก็ทำเท่านั้นก็พอ ต่อไปหากเขาไม่เรียกห้ามเข้าไปใกล้เด็ดขาด เขาเป็นคนเช่นนี้และลู่หนิงหวังก็เช่นกัน"

หนานอิงเข้าใจแล้ว คิดว่าคนผู้นั้นเหตุใดเอาใจยากเสียเหลือเกิน นางเสียอีกที่เห็นคุณหนูในห้องหอยังสมควรที่จะเอาแต่ใจมากกว่าเขาที่เป็นบุรุษ นางเดินกลับกระท่อมตามท่านตาช้า ๆ ลืมเรื่องที่จะหนีเสียสนิท ครานี้นางไม่คิดจะเข้าใกล้กระท่อมของท่านตาอีก

ท่านตากลับเข้าไปในกระท่อมหนานอิงได้ยินเสียงพูดคุยกันเล็กน้อย นางรอกระทั่งท่านตากลับออกมา ท่านตาย้ำกับนางอีกครั้งก่อนจากไป

"เจ้าทำตามที่สั่ง หนึ่งส่งยาและอาหารตามเวลา สองเปลี่ยนผ้าพันแผลและเช็ดตัวในยามเช้า อย่างไรนายน้อยก็รักสะอาดยิ่งเรื่องนี้ก็ให้ระวัง ในยามเช็ดตัวให้เขาก็ทำให้ดี"

"เจ้าค่ะ"

หนานอิงรับคำ ในยามที่อยู่สกุลหนานเรื่องภายในบ้านล้วนเป็นนางที่ได้รับความไว้วางใจให้จัดการ สกุลหนานใหญ่โตเพียงนั้นนางยังรู้สึกว่าจัดการได้ง่ายกว่าหานเซียวผู้นี้ 

บัดนี้ใกล้ยามเซินแล้วหนานอิงจึงตรงเข้าไปยังห้องครัวเล็ก ๆ ของท่านตาพบว่าในนี้มีปลาตากแห้งและเนื้อแห้งอยู่จำนวนหนึ่ง ในขณะที่ข้าวสารเหลือเพียงก้นถัง

"ข้าวสารกำลังจะหมดจริง ๆ ด้วย"

หนานอิงพึมพำเบา ๆ นางเริ่มต้นก่อไฟตั้งน้ำ มีปลาแห้งอยู่มากนางจึงคิดทำโจ๊กปลาแห้งให้เขาอย่างตั้งใจ หนานอิงใช้เวลาเคี่ยวโจ๊กราวหนึ่งชั่วยาม ก็ได้โจ๊กหอมกรุ่นที่นางชิมแล้วถึงกับน้ำตาไหลด้วยความอร่อยที่ตัวเองทำขึ้นมา

ใช่เพราะนางเองก็โหยหารสชาติอาหารเช่นนี้มานานแล้ว หนานอิงอุ่นโจ๊กเอาไว้แล้วเริ่มต้นเคี่ยวยาตามที่ท่านตาสอน จนกระทั่งได้ที่จึงยกไปให้เขาพร้อมกับโจ๊กปลาแห้งที่นางตั้งใจทำ

ครานี้นางรู้แล้วว่าต้องทำตัวเช่นไร นางนำอาหารและยาเข้าไปให้เขาวางไว้บนโต๊ะทั้งแบบนั้น หนานอิงไม่กล้าแม้แต่จะมองเขาด้วยซ้ำก่อนจะวิ่งออกมาอย่างขลาดเขลา

หานเซียวมองสตรีผู้นั้นด้วยความรู้สึกรำคาญใจ กว่านางจะวางอาหารลงบนโต๊ะได้เกือบจะทำชามโจ๊กนั่นคว่ำไม่รู้กี่ครั้ง เขาเองก็ไม่เข้าใจว่านางจะกลัวอะไรหนักหนา

เมื่อนางออกไปแล้วเขาจึงขยับร่างกายอย่างลำบาก พิษที่เขาโดนในครานี้หนักหนา แต่หานเซียวเองก็อดทนยิ่ง ยาที่เขากินในตอนนี้เพียงแต่สามารถช่วยระงับพิษได้ แต่ไม่อาจถอนมันออกจากร่างกาย

 ในตอนนี้อ้ายเจิงส่งข่าวมาแล้วว่าผู้ใดที่มียาถอนพิษ และคนผู้นั้นต้องการให้ลู่หนิงหวังไปพบเขาด้วยตนเองเท่านั้นจึงจะยอมมอบยาถอนพิษให้ ลู่หนิงหวังจึงจำเป็นต้องไปด้วยตนเองโดยมีอ้ายเจิงรออยู่ที่นั่น

หานเซียวเองก็รู้ว่าเป็นผู้ใด และเหตุใดจึงต้องเป็นลู่หนิงหวังด้วยที่ต้องไปเอาด้วยตนเอง สตรีผู้นั้นยังผูกใจกับพี่ชายเขาแม้ว่าลู่หนิงหวังจะปฏิเสธไม่รับเยื่อใยของนาง

กลิ่นโจ๊กของหนานอิงนับว่ายั่วน้ำลายยิ่ง หานเซียวดมดูเล็กน้อยแล้วใช้เข็มเงินตรวจยาพิษด้วยความเคยชินเมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้ว เขาจึงตักชิมไปคำหนึ่ง

รสชาติของโจ๊กปลาแห้งของหนานอิงคล้ายกำลังเปิดประตูสวรรค์ให้หานเซียว เขาไม่ได้ลิ้มรสความรู้สึกว่าได้กินอาหารตั้งแต่ถูกลอบสังหาร

อาหารที่นางทำไม่น่าเชื่อว่าทำให้หานเซียวถึงกับนิ่งอึ้ง นางผู้นี้อย่างน้อยก็ยังมีดีอยู่บ้าง ดูเหมือนว่าอารมณ์อันขุ่นมัวของหานเซียวจะดีขึ้น เขาตั้งใจกินอย่างอร่อย นับเป็นครั้งแรกที่เขากินข้าวจนหมดชามและยังอยากจะร้องขอเพิ่มอีก

เมื่อหนานอิงเข้ามา หานเซียวกำลังจะเอ่ยปากบอกนางว่าให้นำมาให้เขาอีกสักชาม แต่สตรีที่เงอะงะผู้นั้นเหตุใดในยามนี้จึงว่องไวราวกับหายตัวได้ พริบตานางก็ออกไปพร้อมกับชามเปล่าแล้ว

นางผู้นั้นไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาด้วยซ้ำ ด้วยเหตุใด เขามันน่ารังเกียจในสายตาของนางนักหรือ

เหตุใดรู้สึกหงุดหงิดใจเช่นนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P