เสียงเคาะกระทะอันเกิดจากตะหลิวอันใหญ่ดังขึ้นเป็นระยะแต่ดูเหมือนว่าเสียงนั้นจะไม่คล่องแคล่วนัก หนานอิงบัดนี้รู้สึกรำคาญและไม่สบายเนื้อสบายตัวเป็นอย่างมากเมื่อคนมีมือของคนผู้หนึ่งเอาแต่โอบเอวของนางจากด้านหลังเอาไว้แน่นแล้วยังโน้มตัวถ่ายน้ำหนักมาที่ร่างของนางจนแทบจะล้มอยู่แล้ว
ยังดีที่ขาของนางบัดนี้แข็งแรงยิ่งจึงสามารถทานน้ำหนักของเขาเอาไว้ได้ หากเป็นเมื่อก่อนคงได้ล้มหน้าคว่ำลงบนกองไฟไปแล้ว
เขากอดนางเช่นเช่นนี้ตั้งแต่นางตื่นขึ้นแล้วเข้าครัวตั้งเตาไฟ หุงข้าว ล้างผัก หั่นหมู กระทั่งกำลังผัดของในกระทะหานเซียวก็ยังไม่ยอมออกห่าง เขาเอาแต่โอบกอดนางแนบตัวจนแทบไม่เหลือช่องว่างคางเกยอยู่ที่ไหล่ของนางตามติดเป็นตังเมยิ่งกว่าบุตรชายที่หวาดกลัวว่ามารดาจะทอดทิ้งเสียอีก
อดทนอยู่นานสุดท้ายแล้วหนานอิงเคาะตะหลิวลงบนกระทะอย่างแรงจนเกิดเสียงดังสนั่น นางวางตะหลิวลงแล้วใช้สะโพกดันตัวเขาออกห่าง ดันไปดันมาแท่งหยกของหานเซียวที่แข็งค้ำอยู่ใต้ร่มผ้ากลับแทงแก้มก้นของนางจนแทบจะเป็นรูอยู่แล้ว
หนานอิงข่มโทสะ ใบหน้าเริ่มแดงก่ำ ราตรีที่ผ่านมาย่อมหนักหนาสาหัสสำหรับนาง แต่คนผู้นี้กลับสามารถฮึกเหิมได้อย่างไร
"นายน้อยท่านได้โปรดไปนั่งที่เดิมเถิด ตรงนั้นที่ของท่านข้าทำสิ่งใดไม่สะดวกยิ่ง"
หนานอิงชี้นิ้วไปที่มุมหนึ่งอันเป็นที่นั่งประจำของเขา แต่หานเซียวกลับส่ายหน้า
"ไม่เอาข้าเวียนหัวนัก ต้องการกลิ่นของเจ้าช่วยบรรเทา หากข้าห่างเจ้าแล้วเกิดศีรษะระเบิดขึ้นมาจะทำเช่นไร เพียงแค่นี้ก็รู้สึกว่ามันโตยิ่งกว่าแตงโมเสียอีก"
นี่คือข้ออ้างของเขาที่หนานอิงฟังแล้วอยากจะใช้ค้อนทุบให้ศีรษะนั่นแตกกระจายนัก เขายังคงพูดด้วยน้ำเสียงน่าสงสารอีกว่า
"เจ้าทำอาหารไปเถิด ข้าสัญญาแล้วว่าจะไม่รบกวนเจ้าแม้แต่น้อย หลายเดือนไม่ได้เจอน้ำใจของเจ้าคงไม่หดหายไปหมดแล้วกระมัง"
หนานอิงส่ายหน้าด้วยความกลัดกลุ้ม ทุกสิ่งล้วนเสแสร้งคนผู้นี้ตั้งแต่กลับมาก็มีอาการแปลกประหลาดยิ่ง กิริยาที่เขาทำอยู่ในตอนนี้มันเลวร้ายยิ่งกว่าคำว่ารบกวนมากนัก แต่นางไล่เขาเช่นไรเขาก็ไม่ยินยอม ข้าวก็ต้องกิน ไหนจะละเลยจนปวดท้องได้นางจึงจำเป็นต้องแบกบุรุษร่างยักษ์ผู้นี้เดินวนไปเวียนมาในครัวจนกระทั่งอาหารเสร็จสิ้น
เมื่ออาหารเสร็จนางกับเขาหาได้นั่งเผชิญหน้ากัน เขากลับจับนางให้นั่งบนตักยังคีบอาหารป้อนนางอีกหลายคำ กระทั่งท่านตามาพบหนานอิงรู้สึกอับอายยิ่ง ในขณะที่ท่านตาเพียงแต่แบ่งอาหารและแยกออกไปกินเพียงลำพังปล่อยให้นางเผชิญหน้ากับหานเซียวผู้นี้โดยลำพัง
หานเซียวยังคงกินอาหารอย่างอร่อย มือข้างหนึ่งจับตะเกียบคีบด้วยความคล่องแคล่ว ส่วนมืออีกข้างก็เอาแต่ลูบไล้ร่างกายของนางทั้งยังกัดลำคอของนางเป็นระยะประดุจเป็นของหวาน ทั้งชมนางไม่ขาดปาก
"เห็ดผัดคลุกมันกุ้งของเจ้าอร่อยยิ่ง เพราะเจ้าคนเดียวทำข้าอยากตัดมือพ่อครัวที่จวนทิ้งวันละหลายรอบ ต่อไปเข้าจวนแล้วก็ขยันทำอาหารให้ข้าเสียหน่อย"
หนานอิงคิดเรื่องบางอย่างอยู่นาน จิตใจจึงไม่อยู่กับตัวนักถ้าจะถามว่าเรื่องใดก็คงหนีไม่พ้นเรื่องแก้แค้น นางย่อมไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอันใดกับคนสกุลหนาน หนานหงเด็กคนนั้นจึงกลายเป็นพระชายาไปได้
อันที่จริงถึงหนานหงกับนางจะสนิทกันแต่ที่ผ่านมาเพราะนางมัวแต่วุ่นวายกับเรื่องเครื่องหอมและการสั่งสอนเพื่อให้นางเป็นผู้ช่วยจึงไม่ค่อยได้พูดคุยกันถึงเรื่องส่วนตัวนัก
มารดาของหนานหงก็เป็นอนุที่ไร้ค่าคนหนึ่งของท่านหนาน แต่หากคิดดูให้ดีแล้วมารดาของหนานหงก็คือคนที่ฮูหยินใหญ่เสาะหามาเพื่อท่านพ่อของนาง ในคราที่ต้องการแย่งความรักจากมารดาของหนานอิง และท่านหนานเองก็ให้ความเมตตาต่อสตรีผู้นั้นเพียงไม่นานจนกระทั่งนางตั้งครรภ์หนานหง นับตั้งแต่คลอดบุตรสาวสตรีผู้นั้นก็ไม่ได้รับการเหลียวแลอีก
หากไม่ใช่เพราะหนานหงเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย และยังมีพรสวรรค์เรื่องเครื่องหอมหนานอิงก็คงไม่ได้รั้งไว้ให้ใช้งาน นางก็คงเป็นบุตรสาวในจวนผู้หนึ่งในจำนวนคนมากมายที่ท่านหนานลืมไปแล้ว
ความจริงหนานหงเองก็เป็นคนงามผู้หนึ่ง แต่เมื่อเปรียบเทียบกับหนานอิงแล้วแน่นอนว่าย่อมดูด้อยกว่ามาก แต่หากไม่มีหนานอิงอยู่ด้วยความงดงามของนางก็เปล่งประกายมิใช่น้อย
หนานอิงเองรู้ดีว่าหนานหงงดงามเพียงใด ผิวพรรณและรูปหน้าล้วนถูกสวรรค์สร้างสรรค์อย่างพอดี นางยังเอ่ยชมหนานหงอยู่บ่อยครั้ง เพียงแต่น้องของนางผู้นี้ขี้อายและไม่ใช่คนชอบแต่งกายนักจึงถูกพี่น้องผู้อื่นข่มความงามด้วยเครื่องสำอางและเสื้อผ้าที่งดงามกว่า
เมื่อฮูหยินใหญ่รับหนานหงเข้าเป็นบุตรสาวบุญธรรมและนางกลายเป็นพระชายา ฮูหยินใหญ่ศัตรูหมายเลขหนึ่งของนางก็ย่อมมีตำแหน่งเป็นถึงมารดาพระชายารัชทายาท เช่นนั้นหนานอิงจะทำเช่นไรที่จะเข้าใกล้นางได้
ยากยิ่งนัก
หนานอิงจิตใจล่องลอยไปไกล ไม่รู้ว่าบัดนี้ปากของตนเองเต็มไปด้วยอาหารที่แทบจะเคี้ยวไม่ได้อยู่แล้ว ทั้งหมดเป็นเพราะหานเซียวที่เห็นนางเหม่อลอย เขาจึงหยิบสิ่งนั้นสิ่งนี้ป้อนนาง หนานอิงเองก็เอาแต่อ้าปาก กินไปกินมาอาหารก็ล้นปากเสียแล้ว
กระทั่งหนานอิงได้ยินเสียงหานเซียวหัวเราะ นางจึงรู้สึกตัว
"ทะท่านแกล้งข้า"
น้ำเสียงของนางอู้อี้ยิ่ง หานเซียวบีบปากของนางช้า ๆ แล้วก้มลงมาพร้อมกับจ้องมองดวงตากลมโตหวานซึ้ง
"ต้องโทษเจ้าที่เอาแต่เหม่อลอย ทั้ง ๆ ที่ข้าอยู่ตรงนี้ ดูสิเจ้าในตอนนี้เหมือนปลาทองเป็นอย่างยิ่งแก้มป่องน่าเกลียดที่สุด"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P
ไม่นะ หานเซียวจะตายแยบรี้ไม่ได้ ฮื่อออออๆๆ...