ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P นิยาย บท 49

ความดุดันผ่านพ้นไปแล้วความอ่อนโยนหวานล้ำกล้ำกลายมาแทนที่ เสียงแหบเครือบางเบาคล้ายสายลมพัดผ่านดังละเมียดละไมอยู่ข้างหู

"คิดถึงข้าใช่หรือไม่?"

ใบหน้ารวมทั้งร่างกายของหนานอิงแดงฉานริมฝีปากของเขาบดเบียดแนบชิดกับริมฝีปากอันอ่อนนุ่ม นางอยู่ในอ้อมกอดของเขาคล้ายว่าร่างเล็กของนางจะจมหายเข้าไปในร่างของลู่หนิงหวังเสียอย่างงั้น

"ว่าอย่างไรคำคิดถึงของเจ้าข้ายังรอฟัง"

หนานอิงบัดนี้กล้าหาญยิ่ง นางยกมือขึ้นกล้าที่จะสัมผัสใบหน้าของเขามือเล็กที่ยังคงใส่ถุงมือที่หานเซียวให้ไว้อยู่อย่างนั้นประคองใบหน้าของลู่หนิงหวังเอาไว้ 

"แล้วท่านเล่าคิดถึงข้าหรือไม่?"

นางย้อนถามเขาอย่างไม่เกรงกลัว

ลู่หนิงหวังจับมือของนางเอาไว้ริมฝีปากเบียดชิดลงมาอีกครา ลมหายใจเป่ารดกันไปมาด้วยความอบอุ่นและไร้สิ่งกีดกั้น ในดวงตาของเขายามนี้คล้ายทะเลเพลิงที่กำลังเดือดพลุ่งพล่านกระนั้นน้ำเสียงของเขาก็ยังคงเย็นเยียบเป็นอย่างยิ่ง

"ไม่เลย ไม่คิดถึงแม้แต่น้อย"

คนที่บอกว่าไม่คิดถึงกลับกอดนางแนบแน่น ริมฝีปากที่บดเบียดลงมาครานี้กลับรุกล้ำรุนแรง เขาขบกัดกลีบปากของนางไปทั่วทุกอณู จูบบดคลึงเคล้าอยู่เช่นนั้นเนิ่นนานจวบจนเรียวลิ้นเข้ามาภายในทั้งยังดูดเลียลิ้นอ่อนนุ่มของนางอย่างไม่รีบร้อน

จุมพิตของเขาช่างคล้ายเปลวเพลิงที่แผดเผา เขาบอกว่าไม่คิดถึงนางแต่กลับแสดงออกด้วยความโหยหาเช่นนี้ การกระทำกับคำพูดของลู่หนิงหวังช่างตรงกันข้ามเป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่นางเดินเข้ามาในเรือนหลังนี้ลู่หนิงหวังยังไม่ปล่อยให้นางห่างจากตัวแม้แต่ปลายนิ้ว

หนานอิงคิดเข้าข้างตนเองว่าเขาเองก็คงคิดถึงนางเช่นกัน บุรุษปากแข็งผู้นี้ยังพกถุงหอมของนางติดกาย แม้ว่ากลิ่นสมุนไพรจะจางหายไปแล้วแต่หนานอิงกลับสัมผัสด้วยหัวใจได้อย่างลึกซึ้ง แน่นอนว่าสิ่งแรกที่นางสังเกตในยามที่พบหน้าเขาก็คือถุงหอมของนางเอง เมื่อเห็นว่ามันยังคงห้อยอยู่ที่เอวดังที่นางเคยเห็นอยู่เสมอก็อดที่จะซาบซึ้งใจไม่ได้

ไม่รู้ว่าเขาห้อยด้วยความเคยชินหรือเพราะเหตุใดแต่การกระทำของเขาทำให้นางหวั่นไหวเป็นอย่างยิ่ง

ปลายลิ้นของเขายังวนเวียนดูดคลึงไปมาอย่างรุ่มร้อน มือข้างหนึ่งจับใบหน้าของนางเอาไว้ในขณะที่อีกข้างลูบไล้ร่างกายหนานอิงอย่างอ่อนโยน 

เขายังไม่ขยับออกจากกายนาง แท่งหยกล้ำค่าของเขายังคงอยู่ในร่างกายของหนานอิง ขาข้างหนึ่งของนางพาดทับที่สะโพกของลู่หนิงหวังอยู่เช่นนั้น

ลู่หนิงหวังตวัดปลายลิ้นอย่างชำนาญค่อย ๆ จุดไฟในกายนางให้ลุกขึ้นมาอย่างไม่เร่งร้อน ทั้ง ๆ ที่คิดว่าเขาจะให้เวลากับนางไม่นานแต่ร่างกายนุ่มนิ่มนี้เพียงได้สัมผัสเขากลับรู้สึกโหยหาและยากจะตัดใจผละออก

ลู่หนิงหวังปล่อยริมฝีปากของนางแล้ว ปลายลิ้นของเขาบัดนี้กำลังไล้เลียลำคอของนาง หนานอิงแหงนเงยใบหน้าเอ่ยคำหนึ่งที่ทำให้คนเจียนคลั่งออกมา

"นายท่านข้าคิดถึงท่านมาก แม้ว่าท่านจะไม่คิดถึงข้าก็ตาม"

เพราะหนานอิงอยากรู้ว่าหากนางสารภาพออกมาแล้วเขาจะรู้สึกเช่นไร นางจึงลองเปิดเผยความรู้สึกสักครั้ง คาดไม่ถึงว่าลู่หนิงหวังครานี้ถึงกับนิ่งงัน

หนานอิงที่กำลังรอประเมินเขาอยู่กลับรู้สึกว่าเขาเงียบมาก เงียบจนไม่สามารถเดาทางเขาได้ถูก คนผู้นี้เป็นคนบังคับให้นางพูดแท้ ๆ เหตุใดตอนนี้ถึงได้เงียบไปเล่า

กระทั่งร่างกายยังไม่ขยับ

เวลาผ่านไปชั่วครู่ ลู่หนิงหวังจึงเอ่ยขึ้น

"อีกครั้ง ข้า ต้องการอีกครั้ง"

เขาจ้องที่ริมฝีปากของนาง ดวงตาดำสนิทงดงามที่จับจ้องยิ่งมองยิ่งทำให้คล้ายถูกดูดเข้าไป ริมฝีปากของเขาที่เพิ่งผละจากบัดนี้ได้ประกบเข้ากับปากของนางอีก จุมพิตนั้นทั้งดุดันทั้งอ่อนหวาน เขายกขาของนางขึ้นขยับร่างกายกระแทกนางอย่างช้า ๆ ยั่วเย้าหนานอิงด้วยสะโพกสอบที่บดเบียดลงมาจนนางครางผะแผ่ว

ความคิดถึงหรือ สำหรับลู่หนิงหวังบัดนี้ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อนางได้อยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้ว

ในยามที่หานเซียวกลับเข้ามาที่เรือนพักของท่านแม่ทัพเวลาก็ล่วงมาถึงยามจื่อแล้ว[1] หนานอิงบัดนี้นอนหลับสนิทอยู่ในอ้อมกอดของลู่หนิงหวัง ด้านข้างนั้นของนางยังว่างอันเป็นที่ประจำของเขา หานเซียวถอดเสื้อผ้าตัวนอกออกแล้วเคลื่อนไหวกายอย่างช้า ๆ สอดกายเข้าไปในผ้าห่มผืนบางแล้วนอนลงข้าง ๆ หนานอิง

ร่างกายอบอุ่นของนางปราศจากเสื้อผ้า คงถูกลู่หนิงหวังปลดเปลื้องเป็นแน่ หานเซียวเพียงแต่พาดมือของตนไว้ที่เอวคอดของนางแผ่วเบาหาได้ทำมากกว่านี้แม้ว่าตนเองบัดนี้ก็เกิดความต้องการนางเช่นกัน

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใดที่เขาห่วงใยความรู้สึกของนางเช่นนี้

เกรงว่านางจะอ่อนล้าจนระงับอารมณ์ของตนเองเอาไว้เพื่อนาง

บัดนี้บุรุษทั้งสองต่างโอบกอดหนานอิงเอาไว้ด้วยอาการทะนุถนอม มีนางอยู่ตรงนี้ทำให้พวกเขาสามารถหลับตาได้อย่างมีความสุข

วันต่อมาหนานอิงกลับถูกโยนเข้าไปในสถานที่แห่งหนึ่ง ที่หานเซียวบอกนางว่านี่คือสถานที่สุดท้ายก่อนที่นางจะกลายเป็นมือสังหารอย่างสมบูรณ์

ในวังบัดนี้ยุ่งเหยิงยิ่ง อาการประชวรของฝ่าบาทนับวันจะแย่ลง เรื่องหลายเรื่องไม่อาจรอช้าได้อีกต่อไป ต่อให้ลู่หนิงหวังและหานเซียวไม่อยากกระโดดเข้าร่วมวงของการแก่งแย่งราชสมบัติ แต่เพราะความหวาดระแวงอันเกิดจากแรงยุแหย่ของขุนนาง รัชทายาทบัดนี้ก็วางพวกเขาเป็นศัตรูเสียแล้ว

อย่างไรเสียพวกเขาก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงวังวนแห่งนี้ไปได้

"อีกไม่กี่วันจะมีการประลองฝีมือหากเจ้าเอาชนะได้ ข้าจะให้เจ้าทำงานแรกหากเจ้าทำงานสำเร็จหลังจากนั้นหากอยากไปสังหารผู้ใดข้าก็ไม่ห้ามเจ้าแล้ว"

ลู่หนิงหวังรับปากนางเช่นนี้ หนานอิงที่กำลังมองคนของเขาในสถานที่ฝึกแห่งนี้ด้วยความหวาดหวั่นในตอนแรกกลับฮึกเหิมขึ้น เวลาของนางมาถึงแล้วหนานอิงย่อมไม่ยอมแพ้เป็นแน่

สถานที่แห่งนี้ล้วนเต็มไปด้วยบุรุษร่างกำยำ ทั้งแต่ละคนยังมองนางด้วยสายตาดูถูกอีกทั้งเหยียดหยาม ถึงนางจะอยู่ในอาภรณ์ของบุรุษผู้ใดก็ดูรู้ว่านางคือสตรี

นางถูกพวกเขาปล่อยเอาไว้ที่นี่เพื่อฝึกฝน เมื่อพ้นสายตาของลู่หนิงหวังและหานเซียวแล้ว นางซึ่งเป็นสตรีเพียงคนเดียวย่อมได้รับคำดูหมิ่นเหยียดหยามอย่างเปิดเผย

"คนงามเช่นเจ้าเหตุใดมาที่ค่ายฝึกแห่งนี้ ค่ายฝึกมือสังหารของสตรีอยู่ที่ชายแดนใต้ไม่ใช่หรือ หรือว่านายท่านคิดให้เจ้ามาบำเรอรักให้พวกข้าผ่อนคลาย"

"ดูรูปร่างเจ้าเสียสิ งดงามน่าลิ้มลองยิ่ง มามะคนงามมานวดให้พี่ชายเสียดีกว่า ล้มเลิกความตั้งใจที่จะเป็นมือสังหารเถิด"

หนานอิงย่อมไม่โต้ตอบ นางไม่สงสัยว่าเหตุใดคนพวกนี้จึงได้ปากสุนัขเช่นนี้ เพราะนายของพวกเขานั้นก็ใช่ว่าจะเป็นสุภาพชนดั่งเช่นคุณชายหน้าขาวที่นางเคยพบในเมืองใหญ่

เอาเถิด ในเมื่อหานเซียวเตือนนางไว้แล้วว่าหากนางก้าวเข้าสู่เส้นทางนี้จะเจอสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นคนหรือผีหนานอิงในยามนี้ก็ไม่อาจกลัวและก้าวถอยหลังได้อีกต่อไป

หนานอิงทำใจปล่อยวางไม่สนใจพวกเขา ตั้งใจฝึกฝนตนเองอย่างเต็มที่กระทั่งมีบุรุษหลายคนเข้ามาลองดี หนานอิงจึงได้แสดงฝีมือซัดคนเจ็บไปหลายคน

เมื่อเห็นบุรุษร่างโตลงไปนอนโอดโอยบนพื้น หลังจากนั้นดูเหมือนว่าพวกเขาจะสงบปากสงบคำลงได้ และหลังจากนั้นก็มีคนเข้ามาท้านางไม่ขาดสาย

หนานอิงประลองฝีมือกับคนพวกนั้นจวบจนเย็นย่ำ นางเหนื่อยจนหอบกระทั่งรู้ตัวอีกคราก็พบว่าหานเซียวกำลังยืนจดจ้องนางอยู่ ไม่รู้ว่าเขาดูอยู่เช่นนั้นมานานเท่าใดแล้ว

เขาเดินเข้ามาหานางช้า ๆ แล้วโจมตีหนานอิงโดยที่นางไม่ทันตั้งตัว สุดท้ายแล้วหนานอิงผู้เหน็ดเหนื่อยก็พ่ายแพ้ต่อเขาอย่างง่ายดาย

หานเซียวยกมุมปาก จับมือของนางแล้วร่ายรำวิชามวยพร้อมกับสอนอย่างช้า ๆ 

"เจ้าจะอาศัยแรงอย่างเดียวย่อมเสียเปรียบ จงใช้สมองของเจ้าจ้องที่จุดตาย ดึงความสนใจคู่ต่อสู้ใช้เล่ห์เหลี่ยมของเจ้าให้คู่ต่อสู้ตายใจ ในช่วงเวลานั้นจงเล็งที่จุดตายและลงมือให้ว่องไวถึงจะมีโอกาสชนะคนที่เหนือกว่า"

หนานอิงตั้งใจฟังและจดจำให้แม่นยำ หานเซียวชี้จุดตายแต่ละจุดและสอนให้นางใช้เล่ห์เหลี่ยมเล็กน้อย ก่อนจะเล็งข้อมือแล้วซัดไปที่จุดตายของคู่ต่อสู้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P