ความดุดันผ่านพ้นไปแล้วความอ่อนโยนหวานล้ำกล้ำกลายมาแทนที่ เสียงแหบเครือบางเบาคล้ายสายลมพัดผ่านดังละเมียดละไมอยู่ข้างหู
"คิดถึงข้าใช่หรือไม่?"
ใบหน้ารวมทั้งร่างกายของหนานอิงแดงฉานริมฝีปากของเขาบดเบียดแนบชิดกับริมฝีปากอันอ่อนนุ่ม นางอยู่ในอ้อมกอดของเขาคล้ายว่าร่างเล็กของนางจะจมหายเข้าไปในร่างของลู่หนิงหวังเสียอย่างงั้น
"ว่าอย่างไรคำคิดถึงของเจ้าข้ายังรอฟัง"
หนานอิงบัดนี้กล้าหาญยิ่ง นางยกมือขึ้นกล้าที่จะสัมผัสใบหน้าของเขามือเล็กที่ยังคงใส่ถุงมือที่หานเซียวให้ไว้อยู่อย่างนั้นประคองใบหน้าของลู่หนิงหวังเอาไว้
"แล้วท่านเล่าคิดถึงข้าหรือไม่?"
นางย้อนถามเขาอย่างไม่เกรงกลัว
ลู่หนิงหวังจับมือของนางเอาไว้ริมฝีปากเบียดชิดลงมาอีกครา ลมหายใจเป่ารดกันไปมาด้วยความอบอุ่นและไร้สิ่งกีดกั้น ในดวงตาของเขายามนี้คล้ายทะเลเพลิงที่กำลังเดือดพลุ่งพล่านกระนั้นน้ำเสียงของเขาก็ยังคงเย็นเยียบเป็นอย่างยิ่ง
"ไม่เลย ไม่คิดถึงแม้แต่น้อย"
คนที่บอกว่าไม่คิดถึงกลับกอดนางแนบแน่น ริมฝีปากที่บดเบียดลงมาครานี้กลับรุกล้ำรุนแรง เขาขบกัดกลีบปากของนางไปทั่วทุกอณู จูบบดคลึงเคล้าอยู่เช่นนั้นเนิ่นนานจวบจนเรียวลิ้นเข้ามาภายในทั้งยังดูดเลียลิ้นอ่อนนุ่มของนางอย่างไม่รีบร้อน
จุมพิตของเขาช่างคล้ายเปลวเพลิงที่แผดเผา เขาบอกว่าไม่คิดถึงนางแต่กลับแสดงออกด้วยความโหยหาเช่นนี้ การกระทำกับคำพูดของลู่หนิงหวังช่างตรงกันข้ามเป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่นางเดินเข้ามาในเรือนหลังนี้ลู่หนิงหวังยังไม่ปล่อยให้นางห่างจากตัวแม้แต่ปลายนิ้ว
หนานอิงคิดเข้าข้างตนเองว่าเขาเองก็คงคิดถึงนางเช่นกัน บุรุษปากแข็งผู้นี้ยังพกถุงหอมของนางติดกาย แม้ว่ากลิ่นสมุนไพรจะจางหายไปแล้วแต่หนานอิงกลับสัมผัสด้วยหัวใจได้อย่างลึกซึ้ง แน่นอนว่าสิ่งแรกที่นางสังเกตในยามที่พบหน้าเขาก็คือถุงหอมของนางเอง เมื่อเห็นว่ามันยังคงห้อยอยู่ที่เอวดังที่นางเคยเห็นอยู่เสมอก็อดที่จะซาบซึ้งใจไม่ได้
ไม่รู้ว่าเขาห้อยด้วยความเคยชินหรือเพราะเหตุใดแต่การกระทำของเขาทำให้นางหวั่นไหวเป็นอย่างยิ่ง
ปลายลิ้นของเขายังวนเวียนดูดคลึงไปมาอย่างรุ่มร้อน มือข้างหนึ่งจับใบหน้าของนางเอาไว้ในขณะที่อีกข้างลูบไล้ร่างกายหนานอิงอย่างอ่อนโยน
เขายังไม่ขยับออกจากกายนาง แท่งหยกล้ำค่าของเขายังคงอยู่ในร่างกายของหนานอิง ขาข้างหนึ่งของนางพาดทับที่สะโพกของลู่หนิงหวังอยู่เช่นนั้น
ลู่หนิงหวังตวัดปลายลิ้นอย่างชำนาญค่อย ๆ จุดไฟในกายนางให้ลุกขึ้นมาอย่างไม่เร่งร้อน ทั้ง ๆ ที่คิดว่าเขาจะให้เวลากับนางไม่นานแต่ร่างกายนุ่มนิ่มนี้เพียงได้สัมผัสเขากลับรู้สึกโหยหาและยากจะตัดใจผละออก
ลู่หนิงหวังปล่อยริมฝีปากของนางแล้ว ปลายลิ้นของเขาบัดนี้กำลังไล้เลียลำคอของนาง หนานอิงแหงนเงยใบหน้าเอ่ยคำหนึ่งที่ทำให้คนเจียนคลั่งออกมา
"นายท่านข้าคิดถึงท่านมาก แม้ว่าท่านจะไม่คิดถึงข้าก็ตาม"
เพราะหนานอิงอยากรู้ว่าหากนางสารภาพออกมาแล้วเขาจะรู้สึกเช่นไร นางจึงลองเปิดเผยความรู้สึกสักครั้ง คาดไม่ถึงว่าลู่หนิงหวังครานี้ถึงกับนิ่งงัน
หนานอิงที่กำลังรอประเมินเขาอยู่กลับรู้สึกว่าเขาเงียบมาก เงียบจนไม่สามารถเดาทางเขาได้ถูก คนผู้นี้เป็นคนบังคับให้นางพูดแท้ ๆ เหตุใดตอนนี้ถึงได้เงียบไปเล่า
กระทั่งร่างกายยังไม่ขยับ
เวลาผ่านไปชั่วครู่ ลู่หนิงหวังจึงเอ่ยขึ้น
"อีกครั้ง ข้า ต้องการอีกครั้ง"
เขาจ้องที่ริมฝีปากของนาง ดวงตาดำสนิทงดงามที่จับจ้องยิ่งมองยิ่งทำให้คล้ายถูกดูดเข้าไป ริมฝีปากของเขาที่เพิ่งผละจากบัดนี้ได้ประกบเข้ากับปากของนางอีก จุมพิตนั้นทั้งดุดันทั้งอ่อนหวาน เขายกขาของนางขึ้นขยับร่างกายกระแทกนางอย่างช้า ๆ ยั่วเย้าหนานอิงด้วยสะโพกสอบที่บดเบียดลงมาจนนางครางผะแผ่ว
ความคิดถึงหรือ สำหรับลู่หนิงหวังบัดนี้ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อนางได้อยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้ว
ในยามที่หานเซียวกลับเข้ามาที่เรือนพักของท่านแม่ทัพเวลาก็ล่วงมาถึงยามจื่อแล้ว[1] หนานอิงบัดนี้นอนหลับสนิทอยู่ในอ้อมกอดของลู่หนิงหวัง ด้านข้างนั้นของนางยังว่างอันเป็นที่ประจำของเขา หานเซียวถอดเสื้อผ้าตัวนอกออกแล้วเคลื่อนไหวกายอย่างช้า ๆ สอดกายเข้าไปในผ้าห่มผืนบางแล้วนอนลงข้าง ๆ หนานอิง
ร่างกายอบอุ่นของนางปราศจากเสื้อผ้า คงถูกลู่หนิงหวังปลดเปลื้องเป็นแน่ หานเซียวเพียงแต่พาดมือของตนไว้ที่เอวคอดของนางแผ่วเบาหาได้ทำมากกว่านี้แม้ว่าตนเองบัดนี้ก็เกิดความต้องการนางเช่นกัน
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใดที่เขาห่วงใยความรู้สึกของนางเช่นนี้
เกรงว่านางจะอ่อนล้าจนระงับอารมณ์ของตนเองเอาไว้เพื่อนาง
บัดนี้บุรุษทั้งสองต่างโอบกอดหนานอิงเอาไว้ด้วยอาการทะนุถนอม มีนางอยู่ตรงนี้ทำให้พวกเขาสามารถหลับตาได้อย่างมีความสุข
วันต่อมาหนานอิงกลับถูกโยนเข้าไปในสถานที่แห่งหนึ่ง ที่หานเซียวบอกนางว่านี่คือสถานที่สุดท้ายก่อนที่นางจะกลายเป็นมือสังหารอย่างสมบูรณ์
ในวังบัดนี้ยุ่งเหยิงยิ่ง อาการประชวรของฝ่าบาทนับวันจะแย่ลง เรื่องหลายเรื่องไม่อาจรอช้าได้อีกต่อไป ต่อให้ลู่หนิงหวังและหานเซียวไม่อยากกระโดดเข้าร่วมวงของการแก่งแย่งราชสมบัติ แต่เพราะความหวาดระแวงอันเกิดจากแรงยุแหย่ของขุนนาง รัชทายาทบัดนี้ก็วางพวกเขาเป็นศัตรูเสียแล้ว
อย่างไรเสียพวกเขาก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงวังวนแห่งนี้ไปได้
"อีกไม่กี่วันจะมีการประลองฝีมือหากเจ้าเอาชนะได้ ข้าจะให้เจ้าทำงานแรกหากเจ้าทำงานสำเร็จหลังจากนั้นหากอยากไปสังหารผู้ใดข้าก็ไม่ห้ามเจ้าแล้ว"
ลู่หนิงหวังรับปากนางเช่นนี้ หนานอิงที่กำลังมองคนของเขาในสถานที่ฝึกแห่งนี้ด้วยความหวาดหวั่นในตอนแรกกลับฮึกเหิมขึ้น เวลาของนางมาถึงแล้วหนานอิงย่อมไม่ยอมแพ้เป็นแน่
สถานที่แห่งนี้ล้วนเต็มไปด้วยบุรุษร่างกำยำ ทั้งแต่ละคนยังมองนางด้วยสายตาดูถูกอีกทั้งเหยียดหยาม ถึงนางจะอยู่ในอาภรณ์ของบุรุษผู้ใดก็ดูรู้ว่านางคือสตรี
นางถูกพวกเขาปล่อยเอาไว้ที่นี่เพื่อฝึกฝน เมื่อพ้นสายตาของลู่หนิงหวังและหานเซียวแล้ว นางซึ่งเป็นสตรีเพียงคนเดียวย่อมได้รับคำดูหมิ่นเหยียดหยามอย่างเปิดเผย
"คนงามเช่นเจ้าเหตุใดมาที่ค่ายฝึกแห่งนี้ ค่ายฝึกมือสังหารของสตรีอยู่ที่ชายแดนใต้ไม่ใช่หรือ หรือว่านายท่านคิดให้เจ้ามาบำเรอรักให้พวกข้าผ่อนคลาย"
"ดูรูปร่างเจ้าเสียสิ งดงามน่าลิ้มลองยิ่ง มามะคนงามมานวดให้พี่ชายเสียดีกว่า ล้มเลิกความตั้งใจที่จะเป็นมือสังหารเถิด"
หนานอิงย่อมไม่โต้ตอบ นางไม่สงสัยว่าเหตุใดคนพวกนี้จึงได้ปากสุนัขเช่นนี้ เพราะนายของพวกเขานั้นก็ใช่ว่าจะเป็นสุภาพชนดั่งเช่นคุณชายหน้าขาวที่นางเคยพบในเมืองใหญ่
เอาเถิด ในเมื่อหานเซียวเตือนนางไว้แล้วว่าหากนางก้าวเข้าสู่เส้นทางนี้จะเจอสิ่งใด ไม่ว่าจะเป็นคนหรือผีหนานอิงในยามนี้ก็ไม่อาจกลัวและก้าวถอยหลังได้อีกต่อไป
หนานอิงทำใจปล่อยวางไม่สนใจพวกเขา ตั้งใจฝึกฝนตนเองอย่างเต็มที่กระทั่งมีบุรุษหลายคนเข้ามาลองดี หนานอิงจึงได้แสดงฝีมือซัดคนเจ็บไปหลายคน
เมื่อเห็นบุรุษร่างโตลงไปนอนโอดโอยบนพื้น หลังจากนั้นดูเหมือนว่าพวกเขาจะสงบปากสงบคำลงได้ และหลังจากนั้นก็มีคนเข้ามาท้านางไม่ขาดสาย
หนานอิงประลองฝีมือกับคนพวกนั้นจวบจนเย็นย่ำ นางเหนื่อยจนหอบกระทั่งรู้ตัวอีกคราก็พบว่าหานเซียวกำลังยืนจดจ้องนางอยู่ ไม่รู้ว่าเขาดูอยู่เช่นนั้นมานานเท่าใดแล้ว
เขาเดินเข้ามาหานางช้า ๆ แล้วโจมตีหนานอิงโดยที่นางไม่ทันตั้งตัว สุดท้ายแล้วหนานอิงผู้เหน็ดเหนื่อยก็พ่ายแพ้ต่อเขาอย่างง่ายดาย
หานเซียวยกมุมปาก จับมือของนางแล้วร่ายรำวิชามวยพร้อมกับสอนอย่างช้า ๆ
"เจ้าจะอาศัยแรงอย่างเดียวย่อมเสียเปรียบ จงใช้สมองของเจ้าจ้องที่จุดตาย ดึงความสนใจคู่ต่อสู้ใช้เล่ห์เหลี่ยมของเจ้าให้คู่ต่อสู้ตายใจ ในช่วงเวลานั้นจงเล็งที่จุดตายและลงมือให้ว่องไวถึงจะมีโอกาสชนะคนที่เหนือกว่า"
หนานอิงตั้งใจฟังและจดจำให้แม่นยำ หานเซียวชี้จุดตายแต่ละจุดและสอนให้นางใช้เล่ห์เหลี่ยมเล็กน้อย ก่อนจะเล็งข้อมือแล้วซัดไปที่จุดตายของคู่ต่อสู้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P
ไม่นะ หานเซียวจะตายแยบรี้ไม่ได้ ฮื่อออออๆๆ...