ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P นิยาย บท 52

กฎย่อมเป็นกฎที่ผ่านมาลู่หนิงหวังดูแลกองทัพราวกับบุตรชายของตนเอง แม้พวกเขาจะเคยทำผิด สิ่งใดที่เขาพอจะหลับตาข้างหนึ่งลืมตาข้างหนึ่งได้เขาไม่เคยต่อว่า

คนพวกนี้ล้วนเป็นคนที่เขาพากลับจากชายแดนใช้ชีวิตเดนตายเยี่ยงตกอยู่ในนรกมากับเขานับสิบปี บ้านเดิมของพวกเขาทั้งพ่อแม่พี่น้องต่างได้รับการปูนบำเหน็จจนสุขสบาย

เขาเลี้ยงคนในกองทัพดุจญาติมิตรถึงเวลาตอบแทนเขาไม่เคยที่จะลังเล

หลายปีมานี้หากฝ่าบาทจะพระราชทานรางวัลทั้งลู่หนิงหวังและหานเซียวมักจะคิดถึงทหารใต้บังคับบัญชาก่อนเสมอ ทุกคนต่างได้ส่วนแบ่งอย่างยุติธรรมไม่ขาดตกบกพร่อง

เพราะมีแม่ทัพและรองแม่ทัพผู้ใจกว้างเช่นนี้แม้กองทัพของเขาจะขึ้นชื่อว่าโหดและเป็นกองทัพเดนตาย หากเข้าร่วมสงครามกับพวกเขาย่อมเท่ากับยื่นขาข้างหนึ่งสู่ยมโลกแล้ว

กระนั้นผู้คนมากมายก็ยังต้องการเข้าร่วมเพื่อหวังให้ครอบครัวที่ยากจนพลิกฟื้นจากความยากลำบาก

ถึงพวกเขาจะป่าเถื่อนทั้งยังเกเรกับชาวบ้านในบางครั้ง เมื่อถูกร้องเรียนทั้งหานเซียวและลู่หนิงหวังมักปกป้องยังยอมรับความผิดแทนทหารเหล่านั้นที่ตนเองปกครองไม่ดีอยู่บ่อยครั้ง

ปกป้องคนของตนเองจนถูกขุนนางผู้อื่นร้องเรียนและไม่พอใจอยู่เสมอ คนพวกนี้ยังหาได้สำนึกอีก

การกระทำของพวกเขาในครานี้นอกจากจะละเว้นหน้าที่ยังเห็นคำสั่งและกฎเกณฑ์เป็นของเล่น

หากตัดเรื่องส่วนตัวและคิดเป็นเรื่องส่วนรวม ในฐานะที่เป็นผู้นำทัพของทหารกล้าเขาไม่อาจละเว้นผู้ที่ละเลยกฏและคิดชั่วในกองทัพได้

การเรียกรวมพลครานี้เพื่อต้องการให้ผู้อื่นเห็นว่าคนที่บังอาจขัดคำสั่งจะลงเอยเช่นไร

หนานอิงมองลู่หนิงหวังตาไม่กะพริบ วิธีการลงโทษคนของเขาคือสิ่งใด นางตื่นเต้นที่จะได้เห็นจนกำเสื้อของหานเซียวแน่น

หานเซียวจับมือของนางเอาไว้แล้วคลายออก เขาค่อย ๆ ประสานนิ้วเข้ากับนิ้วของนางทีละนิ้วสุดท้ายก็สอดนิ้วประสานส่งผ่านความอบอุ่นให้นางได้ในที่สุด แม้หนานอิงยังใส่ถุงมือของเขาอยู่กระนั้นก็ยังรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นจากนิ้วมือของเขาที่ส่งผ่านออกมา

หานเซียวเอ่ยกับนางเบา ๆ

"เจ้าคอยดู หากเมื่อถึงเวลาที่ต้องตัดสินคนก็อย่าได้ใจอ่อนเด็ดขาด"

หนานอิงเห็นลู่หนิงหวังถีบคนทั้งสองจนตกลงไปด้านล่าง พื้นพิธีการยกสูงนักเพื่อให้ทหารห้าหมื่นนายมองเห็นพวกเขาได้เด่นชัดคนพวกนั้นที่ตกลงไปหนานอิงกลัวว่าจะคอหักตายเสียแล้ว

 ท่ามกลางคบเพลิงที่ถูกจุดจนสว่างจ้าไม่น้อยไปกว่าเวลากลางวัน พลันเสียงของกลองดังรัวขึ้นคล้ายเป็นสัญญาณบางอย่าง

หานเซียวอธิบายให้นางเข้าใจ

"เสียงกลองนี้เป็นสัญญาณถึงการตัดสินโทษทหารที่ละเลยหน้าที่ โดยวิธีที่ในอดีตทหารเหล่านั้นร่วมกันคิดขึ้นมา"

"อย่างไรเจ้าคะ"

หนานอิงสงสัยยิ่ง จะลงโทษกันอย่างไรนะ

"ประเดี๋ยวเจ้าจะได้เห็น ถึงจะเป็นการลงโทษทั้งนี้ก็ยุติธรรมยังให้โอกาสคนในการต่อสู้เป็นครั้งสุดท้าย หากเอาชนะได้ก็รอดตายแต่หากแพ้ก็ต้องยอมแลกชีวิต"

ท่ามกลางความสนใจของทหารทั้งหมด ทหารสองคนที่ถูกถีบจนตกลงไปเบื้องล่างกระเสือกกระสนลุกขึ้น แต่พวกเขาถูกจับเอาไว้แล้วพาไปยังลานกว้างอีกด้านที่ล้อมรอบด้วยรั้วไม้แน่นหนาและหนานอิงยังสามารถมองเห็นได้ชัดเจน

เสียงโห่ร้องพลันดังขึ้น คนสองคนนั้นกระเสือกกระสนพยายามที่จะหนีแต่พวกเขามีหรือจะหนีพ้น ทั้งสองคนถูกจับเข้าไปในลานกว้างประตูถูกปิดแน่นหนา ทำให้พวกเขาไม่สามารถออกมาจากตรงนั้นได้

หนานอิงเห็นว่าอีกด้านหนึ่งของลานแห่งนั้นมีประตูที่ถูกปิดสนิทอยู่ แต่เดิมที่หนานอิงมาอยู่ที่นี่คราแรกนางเคยสงสัย แต่เมื่อเห็นว่าพวกเขาเอาลานแห่งนั้นมาเป็นสนามฝึกซ้อมฝีมือก็ไม่ได้สนใจอีก

ที่จริงแล้วสถานที่แห่งนั้นยังใช้ทำสิ่งใดอีก หนานอิงถึงขนาดขยับกายมองด้วยความตื่นเต้น

นางเด้งกายขึ้นยืนเมื่อได้ยินเสียงของลู่หนิงหวังตะโกนก้อง หานเซียวเองก็ลุกจากเก้าอี้เช่นกันร่างสูงนั้นยืนเคียงข้างนางอย่างสง่างาม

"ปล่อยเสือ"

สองคนที่อยู่ในนั้นท่าทางหวาดกลัวยิ่ง พวกเขาลนลานร้องขอชีวิตทั้งยังตะโกนก้องแต่เสียงยังดังน้อยกว่าเสียงทหารที่โห่ร้องจนหนานอิงรู้สึกปวดหู

เสือถูกปล่อยออกมาตัวหนึ่ง มันร้องคำรามอย่างน่ากลัว หนานอิงใจเต้นระรัวเมื่อเริ่มเข้าใจ

ลู่หนิงหวังและหานเซียวยกมุมปากแสยะยิ้ม ในขณะที่อ้ายเจิงหยิบพัดออกมาแล้วค่อย ๆ โบกพัดให้หนานอิงช้า ๆ 

อีกไม่นานสตรีผู้นี้คงได้ร้อนจนเหงื่อซึมฝ่ามือ เกรงว่าเห็นภาพน่ากลัวอาจจะเป็นลมไปเสียได้

แต่แล้วมือของเขาพลันหยุดชะงักเมื่อหานเซียวแย่งพัดของตนไปโบกให้นางเสียเอง

"คนของข้าไม่ต้องลำบากท่านเลขา"

สายตาคล้ายกับจะกินเลือดกินเนื้อของหานเซียวนั้นทำให้อ้ายเจิงร้อง เห๊อะ ออกมาคำหนึ่ง

"คนขี้หึง ข้าหวังดีแท้ ๆ พัดก็ของข้าดูเถิดคนผู้นี้ไร้สำนึกทั้งยังจ้องข้าเหมือนข้าไปแย่งของของท่านมาเสียอีก เอาเถิดข้าไม่ยุ่งแล้วเลิกมองได้แล้ว ข้าขนลุกหวาดกลัวจะแย่อยู่แล้ว"

อ้ายเจิงส่ายหน้าทั้งเอ่ยประชดประชัน หานเซียวยังยกยิ้มเย็นให้เขาอ้ายเจิงสบัดหน้าอย่างแง่งอนและยอมล่าถอยออกจากสตรีผู้นั้น

"ไม่สำนึกบุญคุณคน การที่นางอยู่ข้างกายท่านในตอนนี้มิใช่เพราะข้าหรอกหรือ"

หานเซียวได้ยินแล้วแต่มิได้สนใจนัก เขาจะพล่ามสิ่งใดก็เรื่องของเขา กระทั่งอ้ายเจิงยอมล่าถอยห่างจากหนานอิง หานเซียวจึงคลายใจไม่มองคนผู้นั้นอีก สายตาเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนกลับมามองหนานอิงอย่างเอาใจใส่

อ้ายเจิงหัวเราะในใจ หานเซียวคนสองหน้า ปฏิบัติกับเขาอย่างกับหนานอิงอย่างช่างแตกต่างกันเป็นอย่างยิ่ง เห๊อะ หากมีเรื่องเดือดร้อนอย่ามาอ้อนวอนขอร้องให้เขาช่วยอีกก็แล้วกัน 

หนานอิงบัดนี้ก็ไม่ได้สนใจคนทั้งสองเช่นกัน นางเฝ้ามองการลงโทษจนตากลมโตไม่กะพริบแม้แต่น้อย

อาวุธถูกโยนให้ทหารสองคนนั้นเป็นหอกยาวคมกริบคนละด้าม เสือหนึ่งตัวกับทหารสองคนจึงเริ่มประจันหน้ากัน

เป็นครั้งแรกที่หนานอิงได้เห็นเหตุการณ์นี้นางจึงจับจ้องอย่างตื่นเต้น มือสั่นระริกเมื่อเห็นว่าเสือกระโจนเข้ามาหาพวกเขาทั้งคำรามอย่างน่ากลัว

ทหารสองคนท่าทางบึกบึนแข็งแรง แต่เสือตนนั้นก็กำลังวังชาดีมากคล่องแคล่วว่องไว ผู้ใดจะเป็นผู้ชนะ

"นายน้อยพวกเขาจะรอดหรือไม่เจ้าค่ะ?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P