ในที่สุดหนานอิงก็ถูกพาตัวเข้าเมืองหลวง บัดนี้นางกำลังคุกเข่าต่อหน้าฝ่าบาทโดยมีลู่หนิงหวังและหานเซียวยืนอยู่ข้าง ๆ
ข้างกายฝ่าบาทนอกจากกงกงผู้รับใช้แล้วยังมีหานเซียวที่คอยประคองแขนของพระองค์ข้างหนึ่ง หนานอิงไม่กล้าเงยหน้ามองพระพักตร์แต่สุรเสียงแหบแห้งนั้นทำให้นางรู้ว่าบัดนี้ฝ่าบาทอาการประชวรไม่สู้ดีนัก
แม้จะในยามที่ประชวรหนักเช่นนี้ พระองค์ก็ยังคงให้ความสำคัญกับลู่หนิงหวังและหานเซียวเป็นอย่างมาก
"เงยหน้าขึ้นเถิด ข้าอยากเห็นสตรีที่พวกเขายอมรับนัก"
หนานอิงเงยหน้าขึ้น แม้นางจะเข้าเฝ้าฝ่าบาทแต่ตนเองกลับแต่งกายในชุดทำทั้งตัวอันเป็นชุดของบุรุษ ซึ่งนางแต่งกายเช่นนี้ตั้งแต่กลายเป็นนักฆ่าอย่างเต็มตัวเมื่อสามเดือนที่แล้ว หลังจากนั้นหนานอิงก็ไม่เคยแตะต้องอาภรณ์ของสตรีอีกเลย
ฝ่าบาทบัดนี้พระพักตร์ซูบซีด ใบหน้าผอมจนเห็นโครงหน้าชัดเจนทว่าสายพระเนตรกลับยังดียิ่ง ทรงยกมุมโอษฐ์ยิ้มบางแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
"ไม่เลว ท่าทางองอาจกล้าหาญ แม้แววตาจะดูดื้อดึงไปบ้าง หานเซียวเป็นดั่งที่เจ้าพูดจริง ๆ"
หานเซียวยิ้ม หนานอิงสงสัยยิ่งว่าหานเซียวเอ่ยกับฝ่าบาทถึงนางว่าอย่างไร ฝ่าบาททรงตรัสต่อ
"เรื่องงานแต่งงานของพวกเจ้า เราต้องการให้จัดขึ้นก่อนที่เราจะไม่สามารถอยู่ร่วมได้"
ทั้งหานเซียวและลู่หนิงหวังต่างคุกเข่า
"ฝ่าบาทอย่าทรงตรัสเช่นนั้น พระองค์ต้องทรงอายุยืนหมื่นปี หมื่น ๆ ปี พ่ะย่ะค่ะ"
ฝ่าบาทส่ายพระพักตร์
"มันก็แค่คำพูดเท่านั้น ผู้ใดก็รู้ว่ามิอาจเป็นความจริง"
ทรงตรัสกับหนานอิงด้วยสุรเสียงแผ่วเบาจนแทบหนานอิงไม่ได้ยิน
"เจ้านับเป็นพระชายาของสองอ๋องแล้ว ต่อไปต้องเผชิญเรื่องราวที่อาจจะคาดไม่ถึง จากสายตาของข้านับว่าพวกเขาเลือกคนไม่ผิด"
หนานอิงไม่เข้าใจที่พระองค์ตรัสได้ทั้งหมด แต่พอใจคาดเดาไว้ว่าคงจะเกี่ยวข้องกับเรื่องแย่งชิงราชบัลลังก์ ด้วยความจริงแล้วฝ่าบาทเองก็หาได้ทรงโปรดองค์รัชทายาทเท่าใดนัก ระยะหลังนี้องค์ชายรัชทายาทเชื่อคำยุยงของขุนนางยังซ่องสุมกำลัง หวาดกลัวว่าลู่หนิงหวังจะคิดก่อการกบฏ ถึงขั้นคิดว่าเขาคือองค์ชายที่ฝ่าบาทแอบซ่อนเอาไว้ผู้หนึ่งจึงต้องการสังหาร
เมื่อตอนที่พระองค์ทรงประชวรก่อนหน้านี้ ในวังหลวงเคลื่อนไหวรุนแรงจนเกือบจะเกิดแย่งชิงบัลลังก์ นางรู้มาเพียงเล็กน้อยว่าที่ฝ่าบาททรงยังอยู่ตรงนี้ เพราะช่วงเวลานั้นลู่หนิงหวังและหานเซียวคอยผลัดกันเคียงข้างพระองค์ไม่ยอมห่าง
นั้นเป็นช่วงเวลาที่เขาทั้งสองคนทิ้งนางไว้ที่ภูเขานั่นเพียงลำพัง
หลังจากฝ่าบาทสนทนากับนางไม่กี่คำหนานอิงก็ถูกอ้ายเจิงพาตัวออกมาจากวังหลวง สองคนเดินเคียงกันไป อ้ายเจิงจึงเอ่ยกับนางเบา ๆ
"ถึงเวลาเจ้าต้องกลับบ้านแล้ว เตรียมตัวให้ดีอีกไม่กี่วันนี้ต้องกลับสกุลหนาน"
หนานอิงมึนงงเป็นอย่างยิ่ง กลับบ้านหรือ นางมีบ้านตั้งแต่เมื่อใด นางถูกบิดาตัดขาดยังถูกมารดาเลี้ยงวางยาสังหาร และมารดาของนางก็ตายไปแล้ว
"ข้าไม่มีบ้าน"
อ้ายเจิงส่ายหน้า
"เจ้าต้องตกแต่งเข้าจวนอ๋องอย่างถูกต้อง ต้องมีบิดามารดารับรู้ ดังนั้นเจ้าต้องกลับสกุลหนาน ที่นั่นเปลี่ยนไปมากทีเดียวใหญ่โตโอ่อ่าและอันตรายขึ้นกว่าเดิมมาก เจ้าเห็นแล้วอาจจะชอบ"
หนานอิงลูบดาบที่ผูกไว้ที่เอว แววตาแข็งกร้าว
"ข้าจะสะสางแค้นของข้า ข้าไม่ต้องการเป็นพระชายา ข้าไม่มีทางชอบสกุลหนานอีกแล้ว"
อ้ายเจิงกลับหัวเราะ
"เจ้าลองดูเถิด ว่าเจ้าในตอนนี้สามารถเข้าจวนของท่านพ่อตารัชทายาทได้หรือไม่ เขายังเป็นถึงกั๋วกงผู้มีบารมีสูงส่งจนขุนนางน้อยใหญ่ต้องก้มศีรษะให้เขาอีกด้วย"
"ข้าเติบโตขึ้นที่นั่น ย่อมรู้จักที่นั่นดีคิดจะสังหารคนนั้นไม่ยาก"
"ได้หากเจ้าคิดว่าทำได้ ก็ลองดูเถิด ข้าอย่างไรเสียก็ว่างอยู่แล้ว แต่เรื่องวันนี้ให้สองอ๋องนั่นรู้ไม่ได้ หากพวกเขารู้ว่าข้าพาเจ้ากลับจวนสกุลหนานก่อนเวลาอันสมควรคงได้ลงโทษข้าเป็นแน่"
"ข้าแค่ไปฆ่าคนสองคน พวกเขาจะห่วงไปไย มิใช่เป็นพวกเขาหรอกหรือที่ในแต่ละวันผลักไสข้าให้สังหารคนคล้ายผักปลาไปแล้ว"
อ้ายเจิงหัวเราะ นำทางนางออกจากวังไปขึ้นรถม้า
"ดูเจ้าตอนนี้สิ พูดเรื่องฆ่าคนได้หน้าตาเฉย ต่างจากหนานอิงคนเก่าราวกับเป็นคนละคน"
หนานอิงยกยิ้มงดงามแต่แฝงด้วยความเหี้ยมเกรียมหลายส่วน
"หนานอิงคนเดิมตายไปตั้งแต่วันที่นางวิ่งลงน้ำไปแล้ว อย่าได้พูดถึงนางผู้อ่อนแออีกเลย"
หนานอิงไม่ยอมเข้ากลับจวนของท่านอ๋อง นางตรงไปที่คฤหาสน์สกุลหนานที่บัดนี้กลายเป็นจวนของสกุลหนานแล้ว ด้วยตำแหน่งกั๋วกงที่ท่านพ่อของนางได้รับมา จากการที่พระชายาขององค์รัชทายาททรงตั้งครรภ์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P
ไม่นะ หานเซียวจะตายแยบรี้ไม่ได้ ฮื่อออออๆๆ...