สตรีสองนางที่กำลังหลบอยู่ที่มุมหนึ่งในสวนของอุทยานหลวงแต่พวกนางไม่คิดว่าจะมีคนผู้หนึ่งพบเข้าเสียก่อน เมื่อจัดแจงอาภรณ์จนเรียบร้อยจึงได้รู้สึกตัว
บุรุษผู้นั้นนอกจากจะไม่เปิดโปงอาการลับ ๆ ล่อ ๆ ของพวกนางต่อทหารยามแล้วยังช่วยปกป้องเอาไว้อีกด้วย เขามองหนานอิงด้วยสายตาที่ทำให้อาฉีถึงกับรู้สึกว่าตนเองกำลังเป็นส่วนเกิน
ดวงตากลมโตของหนานอิงเบิกกว้าง
"หวังเหยียน"
ในยามนี้ที่เห็นนางหวังเหยียนแทบจะอดใจไม่อยู่แล้วด้วยไม่คาดฝันว่าจะพบนางในวังหลวงอันกว้างใหญ่แห่งนี้ ด้วยตนเองนั้นเพิ่งมาถวายคำแนะนำเรื่องราชกิจให้แก่องค์รัชทายาทและบังเอิญกลับออกมาในเวลานี้พอดี
หวังเหยียนในตอนนี้เป็นผู้ดำรงตำแหน่งราชครูอันสูงส่งและเป็นบัณฑิตหนุ่มที่มากความสามารถหาตัวจับได้ยาก แม้ว่าในครานั้นเขาจำต้องแต่งกับสองพี่น้องฝาแฝดสกุลหนานเพราะความจำเป็นแต่ในใจนั้นกลับไม่เคยลืมหนานอิงเลยแม้แต่วันเดียว
ที่ผ่านมาเขาได้ทราบข่าวว่านางยังมีชีวิตอยู่ก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง เดิมทียังคิดหาทางรับนางมาเป็นอนุแต่คาดไม่ถึงว่าจะได้ยินข่าวร้ายเรื่องสมรสพระราชทานเสียก่อน
"อิงเอ๋อร์ เจ้า"
หวังเหยียนเอาแต่ตกตะลึงจับจ้องหนานอิงอยู่เช่นนั้น อาฉีจึงกระแอมขึ้นมาคำหนึ่งคนสองคนที่ไม่ได้พบหน้ากันมานับปีนั้นแม้จะมีคำมากมายที่อยากจะพูดแต่กลับไม่สามารถเอ่ยออกมาได้
ในดวงตาของหวังเหยียนยังฉายชัดถึงความรักลึกซึ้งที่มีต่อหนานอิง
"นายหญิงเราต้องรีบออกจากวังแล้วท่านอ๋องคงรอท่านอยู่นอกวัง"
หนานอิงยิ้มอย่างนอบน้อมจากการแต่งกายของเขาและรู้ว่าหวังเหยียนมีความสามารถเช่นยิ่งนักบัดนี้เขาคงก้าวหน้าในอาชีพราชการเป็นอย่างยิ่ง
นางยอบกายให้เขาคราหนึ่งถึงนางจะเป็นว่าที่พระชายาแต่บัดนี้ยังมิได้สมรสนางก็เป็นสามัญชนผู้หนึ่งที่หาได้มีตำแหน่งใดพอที่จะเทียบเคียงคนที่รับราชการไม่
"อิงเอ๋อร์ขอข้าพูดคุยกับเจ้าสักคำสองคำได้หรือไม่"
อาฉีกลับทำหน้าไม่พอใจ นางขยับกายมาบังร่างของหนานอิงเอาไว้ หนานอิงกลับดึงแขนของนางเบา ๆ
"อาฉีเจ้ารอข้าสักครู่ บังเอิญพบเพื่อนเก่าที่ไม่ได้พบกันนานมีบางอย่างจะพูดคุยกับเขาเสียหน่อย"
"แต่นายท่านรออยู่"
อาฉีมิได้ยินยอมแต่สุดท้ายก็อดใจอ่อนไม่ได้ เมื่อเห็นสายตาของหนานอิงมองอย่างอ้อนวอน
"ก็ได้ ท่านเร็วหน่อยอย่าให้ข้าลำบากใจ"
หนานอิงพนักหน้าทั้งยิ้มให้นาง อาฉีจึงขยับกายออกถอยห่างจากพวกเขาสองสามก้าวไม่ได้ล่วงความเป็นส่วนตัวและไม่ได้ยืนห่างจนเกินไป
บัดนี้ล่วงเลยเข้ายามสนธยา แสงแดดอ่อนสาดส่องปะทะใบหน้าของหนานอิง แม้ว่าริมฝีปากของนางจะยังซีดเซียวด้วยพิษที่ถูกขับออกเมื่อสักครู่แต่ใบหน้ายามต้องแสงพระอาทิตย์กลับส่องประกายเจิดจ้ายิ่งนัก
หวังเหยียนมือสั่นเล็กน้อยเขากำลังพยายามควบคุมตนเองไม่ให้ดึงนางเข้ามากอด ความโหยหาและความคิดถึงที่เก็บกดมานานนับปีทำให้หัวใจของเขาคล้ายจะขาดรอนแล้ว
"พี่เหยียนท่านสบายดีหรือไม่"
เป็นหนานอิงที่เอ่ยขึ้นมาก่อน นางเห็นเขาในครานี้กลับมิได้รู้สึกถึงความรักใคร่เฉกเช่นหนุ่มสาวที่เคยมีในอดีต แต่กลับเป็นความรู้สึกราวกับได้พบญาติผู้หนึ่ง
เขาและนางต่างเดินคนละเส้นทางมาเนิ่นนานแล้ว เพียงแต่ว่าคนทั้งคู่กลับมิได้มีโอกาสพูดคุยกันและจบความสัมพันธ์กันเลยสักครา
"ข้าหรือมิได้สบายเลย อิงเอ๋อร์ข้าผิดต่อเจ้ายิ่งนักที่ผ่านมาให้คนคอยสืบข่าวเสาะหาแต่ไม่พบแม้แต่เงา กระนั้นข้าก็ไม่เคยทอดทิ้งความหวังว่าเจ้าจะยังมีชีวิตอยู่"
น้ำตาของหนานอิงแทบจะหยดลงมา บุรุษผู้นี้ไยโง่เง่าถึงเพียงนี้
"พี่เหยียนอดีตได้ผ่านมาแล้ว ท่านกับข้าในยามนี้ต่างคนต่างเดินคนละเส้นทางแล้ว"
หวังเหยียนใจกระตุก ท่าทางของนางแม้จะยังดูสนิทสนมดั่งวันวานแต่เห็นได้ชัดว่าคำพูดของนางนั้นคือได้ตัดขาดเขาไปแล้ว
"สิ่งที่ข้าเสียใจยิ่งคือไม่อาจปกป้องเจ้าได้ ข้าเพิ่งเข้าใจว่าสืบหาเจ้าอย่างไรก็ไม่พบที่แท้เป็นเพราะเจ้าอยู่ในจวนอ๋องนั่นเอง อิงเอ๋อร์หากเจ้ามิได้เต็มใจข้าจะทูลขอฝ่าบาทขัดขวางงานสมรสนี้เพื่อเจ้า"
หนานอิงกลืนน้ำลายแห่งความตื้นตันลงคอ แววตาของเขาท่าทางอันอ้อยอิ่งนี้ทำให้นางรู้สึกเจ็บในหัวใจเป็นอย่างยิ่ง นางส่ายหน้าทั้งแย้มยิ้ม
"อย่าเอาชีวิตของท่านมาเสี่ยงเพื่อข้าเลย พี่สมรสครานี้ล้วนเป็นข้าที่เต็มใจ"
นัยน์ตาของหวังเหยียนที่เคยเต้นระริกกลับคล้ายแสงจะหรี่ลิบลงอย่างเงียบเหงา ในใจของเขาปวดร้าวยิ่งนัก วาจาของนางในยามนี้คล้ายมีดที่กำลังกรีดบาดหัวใจของเขาจนแสบร้าว
เขาฝืนยิ้มให้นางอย่างเจ็บปวดอย่างน้อยมาครานี้แม้จะเจ็บเพียงใดแต่ก็ได้รู้ว่านางนั้นเต็มใจเขาก็เบาใจแล้ว ในครานั้นไม่รู้ด้วยเหตุอันใดหนานอิงกลับมีอาการซวนเซขึ้นมากระทันหันด้วยลมปราณภายในร่างกายเดินสะดุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ช่วยข้าทีสองสามีของข้าคือท่านอ๋องจอมโหด NC25 3P
ไม่นะ หานเซียวจะตายแยบรี้ไม่ได้ ฮื่อออออๆๆ...