เวลานี้ทุกคนในห้องต่างก็จ้องมองหลักฐานที่หลิงหยุนนำออกมาในขณะที่เสี่ยวเม่ยเม่ยก็นำหลี่ยี่ เจียวเฟย และมือสไนเปอร์ทั้งสามคนมาที่ตระกูลหลิง โดยมีเหล่ากุ่ยเป็นผู้นำทางเข้าไป และทั้งหมดก็เดินเข้าไปภายในห้องจัดเลี้ยง..
“เข้ามาได้!”
หลิงหยุนเปิดประตูให้ทุกคนเข้ามาด้านในและเอ่ยแนะนำทุกคนทันที..
“ท่านปู่..ทั้งหมดนี้คือมือสังหารขององค์กรนักฆ่า สองคนนี้คือนักฆ่าระดับสายเหลืองมีชื่อว่าหลี่ยี่กับเจียวเฟย ส่วนอีกคนเป็นนักฆ่าระดับสายดำชื่อว่าเสี่ยวเม่ยเม่ย และสามคนนั้นก็คือมือสไนเปอร์ขององค์กรนักฆ่าเช่นกัน ยังมีนักฆ่าระดับปฐพีหนึ่งคน และนักฆ่าระดับสวรรค์อีกสามคน แต่พวกมันถูกข้าสังหารตายไปหมดแล้ว..”
“หลิงห่าวจ้างเฉินเซินไปลอบฆ่าข้าไม่สำเร็จหลังจากนั้นไม่กี่วัน เขาก็จ้างนักฆ่าตามไปสังหารข้าอีกถึงสี่ชุด!” เหตุใดหลิงหยุนจะไม่เปิดโปงความชั่วช้าของหลิงห่าวเล่า
“หลิงหยุน..เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดต่ออีกแล้ว!”
หลิงลี่คว้าเช็คในมือของหลิงหยุนมาและปาเช็คใบนั้นใส่หน้าหลิงห่าวทันที จากนั้นเขาก็ไม่มองใบหน้าที่ซีดเซียวของหลิงห่าวอีกเลย แต่กลับหันไปจ้องหน้าหลิงเจิ้นลูกชายคนโตของตนเองแทน..
“ผู้นำตระกูล..ตอนนี้ความจริงก็กระจ่างชัดแล้ว หลิงห่าวเป็นลูกของเจ้า เจ้าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร”
เวลานี้ใบหน้าของหลิงเจิ้นแดงก่ำไปด้วยความโกรธ!
เขาหันไปมองหน้าหลิงห่าวนิ่งก่อนจะพูดออกมาว่า“ท่านพ่อ.. หลิงห่าวคิดร้ายกับพี่น้อง หนำซ้ำยังไม่ยอมรับผิด ตามกฏตระกูลหลิงแล้วนับว่าเป็นความผิดมหันต์ ไม่อาจอภัยให้ได้!”
“ท่านพ่อ!” หลิงห่าวถึงกับทรุดลงไปกองกับพื้นและรีบคลานเข้าไปอ้อนวอนหลิงลี่ทันที “ท่านปู่.. หลานผิดไปแล้ว ได้โปรดยกท่านให้ข้าสักครั้ง!”
เวลานั้นเอง..หลิงหย่งก็ได้เดินเข้าไปหาหลิงห่าว เขาคุกเข่าลงข้างๆพี่ชาย พร้อมกับอ้อนวอนหลิงลี่ด้วยความเจ็บปวด
“ท่านปู่..พี่ใหญ่พลั้งพลาดทำผิดไป ขอท่านปู่กับท่านพ่อได้โปรดยกโทษให้พี่ใหญ่ด้วย ให้โอกาสเขาได้กลับเนื้อกลับตัวสักครั้งเถิด!”
หลิงหย่งกับหลิงห่าวนั้นเป็นพี่น้องท้องเดียวกันแม้ว่าเขาจะโกรธในการกระทำที่ชั่วช้าของหลิงห่าว แต่เมื่อเห็นว่าหลิงห่าวจะต้องได้รับโทษตามกฏตระกูล เขาก็ไม่ลังเลที่จะรีบเข้าไปช่วยขอร้อง..
เมื่อเห็นเช่นนั้นหลิงลี่ก็ได้แต่ถอนหายใจพร้อมกับส่ายหน้า“หลิงห่าว.. ปู่ให้โอกาสเจ้าถึงสามครั้ง แต่เจ้าก็ยืนกรานปฏิเสธ มาถึงตอนนี้มันสายเกินไปเสียแล้ว!”
ชายชราได้แต่รู้สึกหนักใจ..ในเวลาเดียวกันนั้นเอง หลิงเสี่ยวก็ก้าวขึ้นมาด้านหน้า เขาไปยืนอยู่ตรงหน้าหลิงห่าวกับหลิงหย่งสองพี่น้อง แล้วจึงเดินไปหาหลิงลี่กับหลิงหยุน แล้วพูดขึ้นว่า
“ท่านพ่อ..หลิงห่าวยังเด็ก ย่อมทำผิดพลั้งไปบ้าง โปรดให้โอกาสเขาได้กลับเนื้อกลับตัวด้วยเถิด!”
จากนั้นจึงหันไปทางหลิงหยุนพร้อมกับพูดต่อว่า“หลิงหยุน.. ตอนนี้ใครผิดใครถูก ทุกคนก็ได้เข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว เจ้าก็ยกโทษให้หลิงห่าวเถิดนะ! ใหนๆ เจ้าเองก็ยังไม่ตาย พ่อว่า..”
หลิงหยุนส่ายหน้าไปมาพร้อมตอบกลับอย่างไม่รีรอ“ท่านพ่อ.. อภัยที่ลูกอกตัญญูไม่อาจปฏิบัติตามคำขอของท่านได้! ท่านพ่อเองก็เห็นกับตาแล้วว่า หลิงห่าวยืนกรานปฏิเสธมาโดยตลอด และไม่ได้สำนึกผิดในสิ่งที่ตัวเองทำเลยแม้แต่น้อย หากข้าไม่มีหลักฐานมัดตัวเขา เขาก็จะยังคงไม่ยอมรับ..”
หลิงห่าวที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นเมื่อได้ฟังคำพูดของหลิงหยุน ก็รู้ได้ทันทีว่าชีวิตของตนเองนั้นกำลังตกอยู่ในอันตราย สีหน้าของหลิงห่าวเวลานี้ดูคล้ายกับคนที่กำลังคลุ้มคลั่ง.. จู่ๆหลิงห่าวก็เอื้อมมือไปคว้าไหล่ของหลิงหย่งที่อยู่ข้างๆ ในขณะที่มือซ้ายก็ควักมีดสั้นที่คมกริบออกมาจ่อที่ลำคอของหลิงหย่ง!
ทุกคนในห้องต่างก็ไม่ทันได้ระมัดระวังตัวจึงได้ตกอกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น!
“หลิงห่าว..นี่เจ้า!”
“หลิงห่าว..”
“หลิงห่าว..นั่นน้องของเจ้านะ!”
“หลิงห่าว..เจ้าบ้าไปแล้วหรือไง”
ภายในห้องต่างก็มีเสียงร้องอุทานดังระงมไปทั่วเพราะไม่มีผู้ใดคิดว่าหลิงห่าวจะตัดสินใจทำเรื่องบ้าๆเช่นนี้..
“เจ้าหลานชั่ว!เจ้าบ้าไปแล้วจริงๆ!”
หลิงลี่ร้องตะโกนออกมาด้วยความโกรธอย่างไม่อาจควบคุมได้อีกเขายกมือขึ้นชี้หน้าหลิงห่าวพร้อมกับด่าว่า..
“น้องชายเจ้ามาขอร้องแทนแจ้าแต่เจ้ากลับเอามีดไปจ่อคอเขางั้นรึ เจ้า.. เจ้าส่งมีดมาให้ข้า และรีบไปขอขมาบรรพชนเดี๋ยวนี้!” จะตำหนิหลิงลี่ที่โกรธถึงเพียงนี้ไม่ได้เพราะตระกูลหลิงมีกฏว่าห้ามนำมีดเข้าไปภายในห้องบูชาบรรพชน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเมื่อหลิงห่าวนั้นแอบนำเข้าไปในคืนกราบไหว้บรรพชนด้วย..
หลิงหย่งร้องตะโกนออกมาอย่างโมโหเช่นกัน“พี่ใหญ่.. นี่เจ้า!”
คมมีดยังคงจ่ออยู่ที่ลำคอของหลิงหย่งและตอนนี้ก็เริ่มมีเลือดสีแดงไหลออกมาจากลำคอของหลิงหย่ง เวลานี้มีเพียงหลิงหยุนเท่านั้นที่ยืนมองหลิงห่าวซึ่งกำลังคลุ้มคลั่งด้วยท่าทีเฉยเมย..
“ข้าจำเป็นต้องทำเช่นนี้!หาไม่แล้ว ข้าก็ต้องตายอยู่ดี!”
ดวงตาทั้งสองข้างของหลิงห่าวแดงก่ำราวกับหมาป่าที่จนตรอกเวลานี้เขาไม่สนใจว่าจะเป็นใครหน้าใหนทั้งนั้น..
จากนั้นจึงร้องตะโกนออกไปว่า“ทุกคนอย่าขยับ! ระหว่างชีวิตของหลิงหย่งกับการนำข้าไปรับโทษตามกฏตระกูลหลิง ทุกคนเลือกกันเองเอง!” ในเวลาเดียวกันนั้น..หลิงเจิ้นที่ยืนอยู่ก็ถึงกับหน้าซีด ส่วนหลิงลี่เองก็ได้แต่ถอนหายใจ และคิดว่าหลานชายคนโตของเขานั้นช่างรนหาที่ตายแท้ๆ
หลิงหยุนอ้าปากออกกว้างและทันใดนั้นกระบี่เหินก็พุ่งออกมาจากปากของเขา ตรงเข้าใส่ร่างของหลิงห่าวที่กำลังใช้มีดจ่อคอหลิงหย่งอยู่..
สีหน้าของหลิงห่าวเปลี่ยนไปทันทีและยังไม่ทันที่มันจะได้รู้สึกตัว เลือดสีแดงก็พุ่งออกมาจากลำคอของหลิงห่าว และศรีษะของเขาก็ร่วงหล่นลงมาจากร่างที่ไร้วิญญาณ!
หลิงลี่ถึงกับต้องหลับตาไม่กล้ามองภาพที่น่าสยดสยองนั้น!
….
ในบรรดาสมาชิกตระกูลหลิงนั้น..นอกจากหลิงหยุนแล้ว ก็มีเพียงหลิงลี่ที่อยู่ในขั้นสูงสุด และเป็นขั้นที่สามารถใช้พลังเหนือธรรมชาติได้
หลิงลี่แทบไม่จำเป็นต้องใช้พลังวิเศษด้วยซ้ำไปเพราะเพียงแค่พลังปราณในขั้นเซียงเทียน-9 นั้น หลิงลี่ก็สามารถช่วยหลิงหย่งออกมาจากหลิงห่าวได้อย่างง่ายดายแล้ว..
หลิงลี่เพียงแค่ปล่อยลมปราณผ่านนิ้วและใช้พลังปราณแทนอาวุธจัดการกับหลิงห่าวก็ได้แล้ว แต่หลิงลี่เลือกที่จะไม่ทำเช่นนั้น เพราะในฐานะปู่คนหนึ่ง ทั้งสองคนก็ล้วนเป็นหลานชายของเขาทั้งสิ้น แม้เขาจะรู้ว่าหลิงห่าวทำผิดมหันต์ แต่ภายใต้จิตใจลึกๆนั้น ก็ต้องการให้หลิงห่าวหนีไปจากตระกูลหลิง..
เพราะหากหลิงลี่ลงมือแล้วก็ยากนักที่หลิงห่าวจะสามารถหนีไปได้ และหากให้ไปรับโทษตามกฏตระกูลหลิง หลิงห่าวก็ต้องตายถึงห้าครั้งจึงจะสาสม..
หากหลิงลี่คิดว่าหากตนไม่ลงมือหลิงหยุนก็อาจจะเป็นห่วงความรู้สึกของคนตระกูลหลิง และเลือกที่จะไม่ทำอะไร ปล่อยให้หลิงห่าวหนีไปได้ในคืนนี้ และหากเป็นเช่นนั้น ก็นับว่าชีวิตของหลิงห่าวอยู่ในความปลอดภัยแล้ว..
หรือไม่อย่างน้อย..หลิงห่าวก็ไม่ต้องตายต่อหน้าหลิงลี่! และนี่คือความคิดอ่านของหลิงลี่ก่อนที่หลิงหยุนจะลงมือจัดการกับหลิงห่าว..
แต่ก็ไม่อาจตำหนิหลิงลี่ได้หากเขาจะคิดเช่นนั้น!เพราะทั้งหลิงหยุนและหลิงห่าว ก็ล้วนแล้วแต่เป็นหลานของเขาทั้งสองคน หากคนหนึ่งคือหน้ามือ อีกคนก็คือหลังมือ..
กฏตระกูลก็ไม่ต่างจากกฏหมายทั่วไปที่เขียนขึ้นมาเพื่อไม่ให้คนกระทำผิดกฏตระกูลจึงไม่ได้มีไว้เพื่อสังหารลูกหลานในตระกูล คนอื่นๆ ที่อยู่ในห้องไม่ว่าจะเป็นหลิงลี่ หลิงเจิ้น หลิงเสี่ยว หรือว่าหลิงเย่ว.. ทุกคนต่างก็มีความคิดความอ่านคล้ายๆกัน!
และที่สำคัญ..หลิงหยุนเองก็ยังมีชีวิตอยู่!
แต่ถึงกระนั้น..ทุกคนต่างก็คาดเดาผิดไปอย่างมหันต์ ต่างคนต่างก็ประเมินอุปนิสัยของหลิงหยุนต่ำจนเกินไป และไม่มีใครคาดคิดว่าหลิงหยุนจะสังหารหลิงห่าวในทันทีเช่นนี้!
หลิงหยุนมีอุปนิสัยเช่นใดอย่างนั้นหรือ
เขาถือคติว่า..บุญคุณต้องตอบแทน แค้นต้องชดใช้!
เจ้าลอบสังหารข้าถึงห้าครั้งแต่ข้าจะลงมือสังหารเจ้าเพียงแค่ครั้งเดียว หากเจ้ามีความสามารถหนีได้ก็รอด แต่หากไม่.. ก็ต้องตาย!
และหากหลิงห่าวไม่จับหลิงหย่งเป็นตัวประกันเช่นนี้หลิงหยุนก็ยังหาเหตุผลที่จะจัดการกับหลิงห่าวในทันทีไม่ได้ แต่เมื่อเขาทำเช่นนี้ ก็เปิดโอกาสให้หลิงหยุนสามารถลงมือสังหารตนเองได้อย่างไร้ข้อกังขา..
หากถามว่าหลิงหยุนสนใจความรู้สึกของผู้อื่นหรือไม่
เวลานี้หลิงหยุนต้องการสังหารหลิงห่าวเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแล้วเขาจะต้องสนใจความรู้สึกของผู้อื่นไปทำไมกัน
หลิงห่าวเป็นคนชั่วร้ายและไม่เคยสำนึกในความผิดที่ได้ทำลงไป แกะดำเช่นนี้ไม่ว่าจะอยู่ในตระกูลหลิง หรือถูกขับออกจากตระกูล ในวันข้างหน้าก็ย่อมนำปัญหามาให้หลิงหยุนไม่จบไม่สิ้น!
ดังคำพูดว่ายากนักที่จะคอยระวังโจรผู้ร้ายหลิงหยุนเองก็ไม่มีเวลาว่างที่จะมาคอยระมัดระวังหลิงห่าวตลอดเวลาเช่นกัน..
ด้วยเหตุนี้หลิงหยุนจึงตัดสินใจสังหารหลิงห่าวในทันทีเพื่อที่จะรักษาตระกูลหลิงให้คงไว้ตลอดไป!
“หลิงห่าว..”
หลิงเจิ้นร้องตะโกนเมื่อเห็นร่างกับศรีษะของหลิงห่าวขาดออกจากกันต่อหน้าต่อตาเขารู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกมีดกรีดลงไปที่หัวใจ และรีบกระโดดเข้าไปหาร่างของหลิงห่าวทันที พร้อมกับหยิบศรีษะของเขามาถือไว้!
“พี่ใหญ่..พี่ใหญ่..”
หลิงหย่งนั้นมีอุปนิสัยห้าวหาญและใจกว้าง เขาเพิ่งจะถูกหลิงห่าวจับเป็นตัวประกัน แต่กลับไม่คิดเคียดแค้น เมื่อเห็นร่างไร้ศรีษะของหลิงห่าวนอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้น ก็รีบตรงเข้าไปหาพร้อมกับร้องไห้ราวจะขาดใจ..
“พี่ใหญ่..ใช่ว่าข้าไม่อยากช่วยท่าน แต่ครั้งนี้พี่ทำผิดมหันต์ เกินกว่าที่ใครจะช่วยได้!” หลิงหย่งเป็นคนตรงไปตรงมาแม้ว่าหลิงห่าวจะถูกหลิงหยุนฆ่า เขาก็รู้ดีว่าตามกฏตระกูลหลิงแล้ว หลิงห่าวก็ต้องตายอยู่ดี เขาจึงไม่ตำหนิหลิงหยุน เพียงแค่รู้สึกเสียใจเท่านั้น..
“หลิงหยุน..เจ้าไปขอขมาลุงใหญ่เดี๋ยวนี้!”
หลิงเสี่ยวนั้นต้องการไว้ชีวิตหลิงห่าวเขาจึงจงใจไปยืนขวางระหว่างหลิงหยุนกับหลิงห่าวไว้ แต่เมื่อกระบี่เหินเงาธนูพุ่งออกมา หลิงเสี่ยวก็ไม่อาจแก้ไขอะไรได้ทัน และหลิงหยุนก็ได้สังหารหลิงห่าวไปแล้ว Aileen-novel
เมื่อหลิงห่าวถูหลิงหยุนสังหารหลิงเสี่ยวก็รู้สึกตกใจอย่างมาก สิ่งแรกที่เขาทำคือตำหนิหลิงหยุน และสั่งให้หลิงหยุนไปขอขมาหลิงเจิ้น..
หลิงเสี่ยวกับหลิงเจิ้นเป็นพี่น้องที่เติบโตมาด้วยกันเมื่อลูกชายของหลิงเจิ้นถูกลูกชายของเขาสังหารตายเช่นนี้ เขาเองก็ไม่สามารถเข้าข้างหลิงหยุนได้เช่นกัน..
เพราะนี่จะเป็นปมแห่งความขุ่นเคืองใจระหว่างพี่น้อง.. หลิงเจิ้นเป็นผู้นำตระกูลหลิงมานานถึงสิบแปดปี..ย่อมมีอำนาจอิทธิพลมากพอตัว หากเขาต้องการใช้อำนาจอิทธิพลของตนเองแก้แค้นแทนหลิงห่าว เช่นนี้แล้วตระกูลหลิงจะไม่ต้องปั่นป่วนวุ่นวายอย่างนั้นหรือ
เพื่อเป็นการปกป้องลูกชายของตนเองหลิงเสี่ยวจึงต้องทำเช่นนี้!
แต่หลิงหยุนกลับตอบไปด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ“ท่านพ่อ.. ข้าไม่ได้ทำผิด เหตุใดข้าจึงต้องขอขมาด้วย”
“หลายเดือนที่ผ่านมา..เมื่อครั้งที่พวกท่านให้หลิงห่าวออกตามหาข้า พวกท่านเคยรู้หรือไม่ว่าข้าต้องเผชิญหน้ากับความตายมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง!”
“หลิงห่าวส่งคนไปลอบสังหารข้าถึงห้าครั้งภายในเวลาเพียงแค่แปดวัน..และครั้งสุดท้ายถึงส่งมือสังหารระดับสวรรค์ขององค์กรนักฆ่าไปลอบฆ่าข้า พวกท่านรู้หรือไม่ว่าหลิงห่าวใช้เงินไปกับการจ้างวานนักฆ่าไปทั้งหมดเท่าไหร่”
“สองร้อยล้านหยวน!” “เขาใช้เงินจำนวนสองร้อยล้านหยวนเพื่อฆ่าพี่น้องตัวเองนี่คือสิ่งที่หลิงห่าวทำ!”
“ท่านพ่อ..ท่านเพียงแค่เห็นข้าสังหารหลิงห่าวแค่ครั้งเดียว! แต่ท่านรู้หรือไม่ว่า.. ข้าถูกไล่ล่าสังหารจนแทบเอาชีวิตไม่รอดมาหลายต่อหลายครั้ง ท่านเคยรู้หรือไม่ว่าข้ารู้สึกเช่นใดบ้าง”
“ท่านพ่อ..ท่านรู้หรือไม่ว่าคนที่อยู่เพียงแค่ขั้นโฮ่วเทียน-3 แต่ต้องรับมือกับนักฆ่าระดับเซียงเทียนนั้น ข้าเอาชีวิตรอดมาได้อย่างไร”
“การที่ลูกชายของท่านมีชีวิตรอดกลับมาได้ไม่ได้หมายความว่าไม่ได้ถูกหลิงห่าวฆ่าไม่ใช่รึ ไม่เช่นนั้นวันนี้ข้าเองก็อาจจะไม่ได้รู้จักบรรพชนของตนเอง!”
หลิงหยุนโต้เถียงหลิงห่าวกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ยินยอมนั่นเพราะทุกอย่างที่เขาพูดมานั้นล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น!
เมื่อครั้งที่เขาสู้กับตี้ปานักฆ่าระดับปฐพีนั้นหากไม่ได้พลังชีวิตจากสมุนไพรชีฉียู่ และพู่กันจักรพรรดิที่คมกริบ เขาก็คงถูกตี้ปาสังหารตายไปแล้ว.. เช่นเดียวกับที่บ้านของเฉิงเทียนในคืนวันเชงเม้ง..หากไม่ใช่เพราะพู่กันจักรพรรดิที่ปลดปล่อยพลังอมตะให้ เขาก็คงถูกนักฆ่าระดับสวรรค์สังหารตายไปแล้วเช่นกัน..
และหากหลิงหยุนถูกสังหารตายไปตั้งแต่ครั้งนั้นมีหรือที่วันนี้จะสามารถกลับเข้าตระกูลหลิงกราบไหว้บรรพชนได้!
“หลิงห่าวลอบสังหารข้าถึงห้าครั้งแต่ท่านพ่อไม่เห็น! ข้าสังหารหลิงห่าวเพียงแค่ครั้งเดียว แต่ท่านกลับมองเห็น!”
“และเพราะท่านพ่อมองเห็น..ท่านจึงรู้สึกไม่สบายใจ และต้องการให้ข้าขอขมาเพื่อสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไป”
“ท่านพ่อ..ท่านตอบข้ามาว่าข้ามีความผิดอะไร”
“ชีวิตของหลิงห่าวมีค่า..แล้วชีวิตของเขาไม่มีค่าหรืออย่างไร”
“และในเมื่อมีเพียงข้าเท่านั้นที่ต้องเผชิญเรื่องนี้เพียงลำพังผู้เดียวในเมื่อวันนี้ข้าสามารถหาฆาตรกรตัวจริงพบแล้ว และสามารถที่จะสังหารมันได้ เหตุใดข้ายังต้องไว้ชีวิตมันอีกเล่า!”
คำพูดของหลิงหยุนนั้นล้วนแล้วแต่ถูกต้องหลิงเสี่ยวฟังแล้วได้แต่รู้สึกเจ็บปวดใจ เขารู้ว่าลูกชายของตนนั้นพูดความจริง และเข้าใจดีว่าหลิงหยุนรู้สึกเช่นไร
แต่เพื่อให้ตระกูลหลิงผ่านพ้นเรื่องวุ่นวายนี้ไปได้หลิงเสี่ยวจึงได้แต่พูดขึ้นว่า “อ่อ.. เพียงแค่เจ้าพูดว่ามันคือความจริง เจ้าก็จะสามารถฆ่าคนตระกูลหลิงต่อหน้าท่านลุงของเจ้า และต่อหน้าสมาชิกคนอื่นๆของตระกูลหลิงได้งั้นรึ เช่นนี้แล้วเจ้าก็กำลังทำผิดกฏตระกูลหลิงอย่างมหันต์เช่นกัน!”
หลังจากที่หลิงหยุนสังหารหลิงห่าวแล้วหลิงเจิ้นก็ไม่พูดอะไรอีก ปล่อยให้หลิงหยุนกับพ่อทะเลาะกันเอง..
ส่วนสมาชิกตระกูลหลิงคนอื่นๆก็ได้แต่พากันนิ่งเงียบ.. แต่แล้วจู่ๆ หลิงลี่ก็ตบโต๊ะเสียงดังพร้อมกับร้องตะโกนออกไป
“ลูกสาม..เจ้าหยุดพูดได้แล้ว!” “เรื่องนี้หลิงหยุนทำถูกต้องแล้ว!”
“ข้าสั่งให้หลิงห่าวไปตามหาหลิงหยุนหลังจากที่เขาพบหลิงหยุนแล้ว ไม่เพียงไม่รายงานข้า แต่ยังแอบส่งคนไปสังหารหลิงหยุน ทำให้หลิงหยุนกลับเข้าตระกูลหลิงได้ล่าช้า ทุกเรื่องล้วนเป็นความผิดมหันต์!”
“สิ่งที่เขาทำนั้นบ่งบอกว่าไม่เหลือความเป็นมนุษย์อยู่อีกแล้ว!”
“และเมื่อยู่ต่อหน้าทุกคนกลับยืนกรานปฏิเสธไม่มีท่าทีสำนึกผิด สมควรแล้วที่หลิงหยุนสังหารหลิงห่าวตายเช่นนี้!”
“หนำซ้ำยังกล้าพกมีดเข้าห้องบูชาบรรพชนในวันกราบไหว้บรรพบุรุษเท่ากับเป็นการลบหลู่บรรพชน นี่ก็เป็นความผิดเช่นกัน”
“หลิงหย่งเป็นน้องชายของเขาแต่เพื่อความอยู่รอดของตนเอง ถึงกลับกล้าเอามีดจ่อคอน้องชายเช่นนั้น นี่ก็คือความผิดอีกหนึ่งข้อ..”
“ความผิดใหญ่หลวงทั้งห้าข้อนี้..โทษตามกฏตระกูลหลิงก็คือตายสถานเดียว!” “และต่อให้หลิงหยุนไม่ฆ่าหลิงห่าวข้าเองนี่ล่ะที่จะเป็นคนฆ่าหลิงห่าวด้วยตัวเอง!”
“หลิงหยุนฆ่าหลิงห่าวไม่ใช่เพื่อแก้แค้นส่วนตัวแต่เขาฆ่าหลิงห่าวเพื่อให้ข้าไม่ต้องลงมือเองต่างหากเล่า! ไม่เช่นนั้นข้าก็คงต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิตที่ต้องฆ่าหลานชายตัวเอง!”
หลิงลี่แบกรับความผิดทั้งหมดไว้ที่ตนเองเพียงผู้เดียว..
ใหนๆหลิงห่าวก็ตายไปแล้ว ในฐานะผู้เฒ่าตระกูลหลิง หลิงลี่จำเป็นต้องหยุดความปั่นป่วนวุ่นวายในตระกูลหลิงที่เกิดขึ้นนี้เสียก่อน
อุปนิสัยของหลิงหยุนนั้นหลิงลี่รู้จักดีหากเขาต้องทะเลาะกับพ่อตนเองเช่นนี้ แน่นอนว่าหลิงหยุนต้องหนีออกไปจากตระกูลหลิงอย่างแน่นอน..
และหากหลิงเจิ้นแอบหาวิธีจัดการกับหลิงหยุนในภายหลังถึงตอนนั้นตระกูลหลิงคงมีแต่ความหายนะอย่างแน่นอน!
และในเวลานั้นหลิงเจิ้นก็ได้อุ้มร่างของหลิงห่าวไว้ และค่อยๆยืนขึ้นต่อหน้าทุกคน..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร