บทที่ 1569 : เป้าหมายของเซิ่งหยิงหยิง
หลิงหยุนปฏิเสธที่จะเล่นน้ำเซิ่งหยิงหยิงจึงได้ชวนหลิงหยุนออกไปข้างนอกแทน และเขาก็รับปากนางอย่างง่ายดาย
ในเวลาบ่ายสองโมงตรงรถสปอร์ตหรูสีแดงก็ได้ขับออกจากบ้านของเหออวี้ฉง มุ่งหน้าไปยังโรงแรมเพนนินซูล่าในเกาะมาเก๊า ภายในรถมีคนเพียงแค่สองคนเท่านั้นคือหลิงหยุนกับเซิ่งหยิงหยิง หลิงหยุนทำหน้าที่เป็นคนขับรถ และวันนี้เซิ่งหยิงหยิงก็สวมชุดสีแดงสดใสสะดุดตา
“มามาเก๊าทั้งทีไม่เข้าคาสิโนก็เหมือนมาไม่ถึงมาเก๊า!”
เซิ่งหยิงหยิงหันไปบอกกับหลิงหยุนที่นั่งอยู่ข้างๆและจ้องมองเขาราวกับเกรงว่าเขาจะหายตัวไปต่อหน้าต่อตา
หลิงหยุนถึงกับหัวเราะออกมาพร้อมตอบกลับไปว่า“ดูท่าเจ้าคงจะคุ้นเคยกับมาเก๊ามากกว่าปักกิ่งเสียอีกสินะ” “แน่นอน!”
เซิ่งหยิงหยิงยิ้มกว้างพร้อมกับพูดต่อว่า “ตั้งแต่เล็กจนโต พี่สาวคนนี้ของนายก็วนเวียนอยู่ระหว่างมาเก๊ากับฮ่องกง มากกว่าอยู่ที่ปักกิ่งเสียอีก!”
หลิงหยุนหันกลับไปถามอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก“นี่.. เจ้ากลายมาเป็นพี่สาวของข้าตั้งแต่เมื่อใดกัน”
เซิ่งหยิงหยิงหันไปยิ้มให้หลิงหยุนอย่างงดงามเป็นพิเศษพร้อมตอบเขากลับไปว่า “ข้าเองก็เพิ่งจะรู้ว่าเจ้าอายุยังไม่ถึงสิบแปดปีเต็มด้วยซ้ำไป!”
เวลานี้เซิ่งหยิงหยิงรู้แล้วว่า คำพูดของเหออวี้ฉงก่อนหน้านี้ล้วนถูกต้อง ระหว่างนางกับหลิงหยุนนั้น มีฐานะที่ห่างไกลกันยิ่งนัก การที่นางจะรู้สึกกับหลิงหยุนในเชิงชู้สาวนั้น คงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก..
แต่หลังจากที่ได้ปรับเปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อหลิงหยุนมาเป็นดังเช่นพี่กับน้อง และสหายชายหญิงแล้ว ช่องว่างที่ห่างไกล และความหนักอึ้งในหัวใจนั้น ก็ได้อันตรธานหายไปในทันที
หลังจากที่หลิงหยุนได้ยินคำตอบของเซิ่งหยิงหยิงเขาจึงหันไปทักทายนางด้วยสรรพนามใหม่ทันที “ยินดีที่ได้รู้จักท่านป้า!”
เซิ่งหยิงหยิงถึงกับหน้าง้ำขึ้นมาทันทีพร้อมกับหันไปตวาดใส่หลิงหยุนเสียงดัง “นี่! ข้าแก่ถึงขนาดต้องเรียกป้าเชียวรึ”
หลิงหยุนไม่ตอบแต่กวาดสายตามองไปรอบๆแทน ก่อนจะพูดขึ้นว่า “คิดไม่ถึงว่าเกาะเล็กๆอย่างมาเก๊า จะมีต้นไม้เขียวชะอุ่มงดงามถึงเพียงนี้ ไม่ว่าจะมองไปหนทางใดก็เพลินตายิ่งนัก”
เซิ่งหยิงหยิงกัดฟันกรอดก่อนจะร้องตะโกนบอกเขาไปว่า “นี่.. หากวันนี้เจ้าไม่ช่วยให้ข้าได้ชนะพนัน และได้เงินจำนวนเท่าที่เคยเสียให้เจ้าทั้งหมดคืนมา มิตรภาพระหว่างเราเป็นอันสิ้นสุด!”
หลิงหยุนถึงกับต้องยกนิ้วมือขึ้นลูบไล้จมูกพร้อมกับเอ่ยถามเซิ่งหยิงหยิงเสียงเบา“นี่เจ้ายังไม่ลืมเรื่องนั้นอีกรึ”
“หึ!ข้าพ่ายแพ้ให้กับเจ้าถึงสองครั้งสองครา สูญเสียเงินไปหลายร้อยล้านหยวน บัญชีแค้นครั้งนี้ อย่างไรเสียข้าก็ต้องเอาคืนให้ได้!”
หลิงหยุนยิ้มขื่นพร้อมกับตอบโต้ไปว่า “พวกเราสองคนต่างก็เล่นพนันกันอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม เหตุใดเจ้าจึงพูดราวกับเป็นความผิดของข้าฝ่ายเดียว”
“เชอะ..”
เซิ่งหยิงหยิงทำเสียงเย้ยหยันพร้อมกันมองหลิงหยุนตั้งแต่หัวจรดเท้า “นี่เจ้ายังกล้าใช้คำว่าบริสุทธิ์ยุติธรรมอีกงั้นรึ เจ้าเป็นถึงเซียน มีดวงตาที่สามารถมองทะลุปรุโปร่งได้ แต่กลับมาท้าข้าซึ่งเป็นคนธรรมดาเล่นพนันนี่นะ? นี่น่ะหรือที่เรียกว่าบริสุทธิ์ยุติธรรม!”
“เจ้าจะกล่าวหาว่าข้าโกงได้อย่างไรกันในเมื่อข้ามิได้ใช้ความสามารถพิเศษใดๆเลย!” หลิงหยุนตอบโต้
เซิ่งหยิงหยิงหันไปมองหลิงหยุนพร้อมกับหัวเราะเสียงแหลมทำให้หลิงหยุนถึงกับสูญเสียความมั่นใจ จนต้องร้องถามออกมาด้วยความร้อนใจ
“นี่เจ้าหัวเราะอะไรกัน!”
“เจ้ากล้าพูดได้อย่างมั่นใจงั้นรึ!”เซิ่งหยิงหยิงย้อนถาม พร้อมกับจ้องลึกลงไปในดวงตาของหลิงหยุน
หลิงหยุนได้แต่ยิ้มเจื่อนเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้นและหลังจากที่เขาได้พบกับเซิ่งหยิงหยิงครั้งสุดท้าย และได้ไปส่งนางกลับบ้านเพราะความเมามายนั้น เขาก็ยังไม่ได้พบเจอหญิงงามผู้นี้มานานมากกว่าหนึ่งเดือนแล้ว และคิดไม่ถึงจริงๆว่านางจะตามเขามาถึงที่นี่
“พ่อของเจ้าเป็นเช่นใดบ้าง”หลิงหยุนรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
เมื่อเอ่ยถึงบิดาขึ้นมาสีหน้าของเซิ่งหยิงหยิงก็เปลี่ยนเป็นภูมิอกภูมิใจ และมีความสุขขึ้นมาทันที แต่แล้วก็พลันเปลี่ยนเป็นเศร้าพร้อมกับรำพึงรำพันออกมาว่า “ท่านพ่อเหรอ!เฮ้อ.. น่าเสียดายที่..” เซิ่งหยิงหยิงเอ่ยค้างไว้เพียงเท่านั้นก็นิ่งงันไป
“น่าเสียดายอะไรงั้นรึ!”
หลิงหยุนเอ่ยถามด้วยความสงสัยใคร่รู้แต่เซิ่งหยิงหยิงก็รีบตัดบททันที และดูเหมือนนางไม่ต้องการที่จะเอ่ยอะไรต่อ
เซิ่งหยิงหยิงจำได้ว่า..โคตรเซียนหกนิ้วเซิ่งลิ่วฉี เคยบอกกับนางว่า ด้วยนรลักษณ์ของหลิงหยุนนั้น เขาคือมังกรที่สง่างาม!
“มีเรื่องหนึ่งที่ข้าอยากรู้ยิ่งนักและอยากจะถามเจ้าเช่นกัน!” เมื่อเห็นเซิ่งหยิงหยิงไม่ต้องการที่จะตอบ เขาจึงเอ่ยถามเรื่องที่ตนเองอยากรู้แทน
“เรื่องอะไรรึ”
“บิดาของเจ้าเองก็ได้ชื่อว่าเป็นเซียนพนันทั้งที่เป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไป มิได้มีพลังเหนือธรรมชาติแต่อย่างใด เมื่อต้องเผชิญกับผู้ฝึกฝนจนมีพลังเหนือธรรมชาติ เขาทำเช่นใดที่จะทำให้ตนเอง สามารถเอาชนะยอดฝีมือเหล่านั้นได้”
“…”เซิ่งหยิงหยิงถึงกับนิ่งอึ้งไป
หลิงหยุนรู้ดีว่าคำถามของตนนั้นเท่ากับเป็นการเปิดโปงวิชาทำมาหากินของอีกฝ่าย เซิ่งหยิงหยิงย่อมไม่เต็มใจที่จะตอบเป็นแต่
“ภายใต้อาทิตย์ดวงนี้มีเพียงแค่แพ้กับชนะเท่านั้นรึ”
เซิ่งหยิงหยิงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองหลิงหยุนพร้อมกับเอ่ยต่อทันที “ใช่ว่าทุกคนจะมีความสามารถพิเศษเช่นเจ้า”
“ความจริงแล้วแม้ใครๆจะเรียกขานพ่อของข้าว่าเซียนพนัน แต่เขาก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ชื่นชอบ และรักการเล่นพนันเป็นชีวิตจิตใจ เป้าหมายของเขาก็ไม่มีอะไรมาก พยายามชนะให้มาก และเสียให้น้อยเท่านั้นเอง..”
“ท่านพ่อของข้าเองก็รู้ดีว่าในโลกใบนี้มีผู้ที่มีพลังเหนือธรรมชาติอยู่ในน้อย แต่ด้วยทักษะในด้านการเล่นพนันที่ล้ำเลิศของเขานั้นทำให้เขาสามารถมองออกว่า นักพนันคนใดมีพลังเหนือธรรมชาติเช่นเดียวกับเจ้าบ้าง..”
“และหากเขาพบกับคนประเภทนี้..เขาจะรีบหาทางถอยห่างทันที!”
“…”
ครั้งนี้เป็นหลิงหยุนที่ถึงกับนิ่งอึ้งไปและได้แต่แอบคิดอยู่ในใจว่า ‘ง่ายๆ เพียงเท่านี้เองหรอรึ!’
หลังจากนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งในที่สุดหลิงหยุนก็หันไปเอ่ยกับหลิวหยิงหยิงพร้อมกับยิ้มกว้าง “สมแล้วที่เขาได้ฉายาโคตรเซียนหกนิ้ว!!”
ในเมื่อรู้ว่าโลกที่กว้างใหญ่ใบนี้มีผู้คนอีกมากมายที่เหนือกว่าตนมาก แต่กลับยอมถอยโดยไม่ปะทะ นับเป็นการกระทำที่ชาญฉลาด จึงทำให้สถิติการแพ้น้อยกว่าสถิติในการชนะมาก!
เซิ่งหยิงหยิงได้ยินหลิงหยุนเอ่ยชมผู้เป็นบิดาเช่นนี้ก็ถึงกับร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น“ข้าจะกลับไปเล่าให้ท่านพ่อฟังว่าเจ้าชมท่านด้วย!”
“ข้าเพียงแค่พูดความจริงเท่านั้น!”
จากนั้นหลิงหยุนก็เอ่ยบอกเซิ่งหยิงหยิงด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “แต่เจ้ายังห่างไกลพ่อของเจ้ามากนักแม่นางเซิ่ง!”
“ฉันต่างกับพ่อ..ฉันเล่นไพ่เพื่อต้องการหาเงิน เอาไว้ใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางท่องเที่ยว แล้วก็เอาไว้ซื้อเครื่องสำอางด้วย!”
“นี่เจ้าคิดว่าข้าเชื่อคำพูดของเจ้างั้นรึ”
หลิงหยุนแทบไม่อยากจะเชื่อเมื่อครั้งที่เซิ่งหยิงหยิงเล่นอยู่ในบ่อนของเย่เทียนสุ่ย นางได้ไปนับสิบล้านแต่กลับไม่หยุด เพียงแค่นั้นไม่พอซื้อเครื่องสำอางหรืออย่างไรกัน
“นี่!ข้ายังต้องเก็บเงินไว้ซื้่อเครื่องบินส่วนตัวด้วย เมื่อใดที่ข้ามีเงินซื้อเครื่องบินส่วนตัวได้ ข้าจะเลิกเล่นการพนันทันที!”
“อ่อ..เป้าหมายในการเล่นพนันของเจ้าก็คือเครื่องบินส่วนตัวหรอกรึ ราคาเท่าไหร่กัน?” หลิงหยุนเอ่ยถามขึ้นด้วยความสนอกสนใจ
เซิ่งหยิงหยิบตอบกลับไปว่า“ก็แค่สองร้อยล้าน.. ดอลล่านะไม่ใช่หยวน! ราคาไม่แพงใช่หรือไม่ ฮ่าๆๆๆ”
หลิงหยุนตอบกลับแบบไม่ล้อเล่น“ไม่เลย! วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าได้สมหวัง! ฮ่าๆๆ”
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเซิ่งหยิงหยิงจะนั่งนิ่งไม่มีสีหน้าท่าทางตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย จนหลิงหยุนต้องเอ่ยถามออกไปว่า
“นี่เจ้าไม่เชื่อคำพูดของข้างั้นรึ”
เซิ่งหยิงหยิงเพียงแค่ยิ้มๆแต่ไม่ตอบ จนหลิงหยุนต้องเอ่ยถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ “เหตุใดเจ้าจึงไม่เชื่อคำพูดของข้า”
“นี่พ่อสุดหล่อ!ข้ารู้ดีว่าเจ้าจะใช้วิธีใด เจ้าคงคิดที่จะเข้าบ่อนหาเงินสองร้อยล้านดอลล่าแบบง่ายๆสินะ?”
หลิงหยุนขยิบตาให้กับเซิ่งหยิงหยิงอย่างมั่นใจ“ก็ใช่น่ะสิ! มีอะไรน่าแปลก..” “ที่ข้าไม่เชื่อนั้นใช่ว่าไม่เชื่อมือเจ้า..”
เซิ่งหยิงหยิงเอ่ยตอบพร้อมกับอธิบายให้หลิงหยุนฟังต่อในทันที “คาสิโนใหญ่ๆในมาเก๊านั้น มีขีดจำกัดที่จะยอมให้นักพนันเล่นชนะได้ หากนักพนันคนใดชนะอย่างผิดสังเกต และถึงขีดจำกัด ส่วนใหญ่ก็จะถูกเชิญออกไป..”
“และหลังจากนั้นชื่อของเขาก็จะถูกขึ้นบัญชีดำไว้ทันที และครั้งหน้าก็อย่าได้หวังว่าจะเข้าไปที่คาสิโนแห่งนั้นได้อีก!”
หลิงหยุนเข้าใจได้ไม่ยากพูดง่ายๆก็คือ คาสินโนแต่ละแห่งจะมีขีดจำกัดให้นักพนันเล่นได้เงินสูงสุดจำนวนหนึ่งเท่านั้น หากไม่ชนะจนเกินขีดจำกัดนี้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร ทางคาสิโนก็จะปล่อยให้คนผู้นั้นเล่นต่อไปได้
หาไม่แล้ว..หากเจออย่างหลิงหยุนเข้า แน่นอนว่าคาสิโนทั้งเกาะมาเก๊าคงต้องกลายเป็นอัมพาตแน่!
แล้วคาสิโนต่างๆจะยังสามารถเปิดการต่อไปได้อย่างไรเล่า หลิงหยุนได้ฟังเช่นนั้นก็ได้แต่แสยะยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน“หึ! เปิดคาสิโน แต่กลับไม่ยอมที่จะเป็นฝ่ายสูญเสียงั้นรึ พูดง่ายๆก็คือจะเอาอย่างเดียว แต่ไม่ยอมเสีย!”
เซิ่งหยิงหยิงได้แต่ยิ้มพร้อมกับย้อนหลิงหยุนกลับไปทันที “ในทางกลับกัน.. หากให้เจ้าเป็นเจ้าของบ่อนคาสิโน เจ้าเองก็คงไม่ยอมเช่นกัน หาไม่แล้วหากเจอเซียนพนันที่มีพลังธรรมชาติเหมือนเจ้าจริงๆเข้า คาสิโนของเจ้าก็คงต้องปิดตัวเช่นกัน!”
หลิงหยุนไม่อาจโต้แย้งหญิงสาวได้จึงได้แต่ยกมือยอมแพ้ แต่ทั้งคู่ก็ตั้งใจที่จะไปเล่นสนุกๆเท่านั้น
และเวลานี้รถสปอร์ตหรูก็กำลังแล่นข้ามสะพานเวสต์เบย์ มุ่งหน้าสู่ที่ตั้งของโรงแรมเพนนินซูล่าทันที
“เอาล่ะพวกเราจะไปที่ใดก่อนดี”
“โรงแรมแซนด์มาเก๊า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร