บทที่ 1576 : ตีบทแตก
หลิงหยุนได้แต่คิดในใจว่า‘ข้าสังหารยอดฝีมือขั้นก่อสร้างรากฐานมามากมาย คิดว่าข้าจะหวาดกลัวเพียงแค่ไพ่ลงอักขระในคาสิโนเล็กๆงั้นรึ’
ยังไม่รู้ว่าอักขระเหล่านั้นจะสามารถสะกัดกั้นจิตหยั่งรู้และเนตรหยิน–หยางของหลิงหยุนได้หรือไม่ แต่ต่อให้สามารถสะกัดกั้นได้จริง เขาก็ย่อมมีหนทางที่จะทำให้อักขระเหล่านั้นออกฤทธิ์ไม่ได้เช่นกัน
เซิ่งหยิงหยิงได้ฟังหลิงหยุนเอ่ยปากด้วยสีหน้ามั่นอกมั่นใจเช่นนั้นนางถึงกับหัวเราะร่วน ก่อนจะตอบหลิงหยุนกลับไปว่า
“หลิงหยุนเจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าชื่นชอบอุปนิสัยใดของเจ้ามากที่สุด ข้าชอบที่เจ้าไม่เคยเกรงกลัวผู้ใดเลย ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเก่งกาจ หรือน่าเกรงขามมากเพียงใดก็ตาม!”
หลิงหยุนฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้มขื่นและตอบกลับไปว่า “พี่สาว! แต่ตอนนี้ข้าหวาดกลัวเจ้าที่สุด ได้โปรดถอยไปให้ห่างจากข้าด้วย!”
เวลานี้แผ่นหลังของหลิงหยุนแนบชิดติดโซฟาในขณะที่เซิ่งหยิงหยิงยังคงโน้มตัวเข้ามาหาไม่หยุด และใบหน้าของคนทั้งคู่ก็ค่อยๆเข้าใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆ
ทันทีที่หลิงหยุนเอ่ยปากพูดออกไปเช่นนั้นเซิ่งหยิงหยิงก็ถอยหลังกลับทันที นางเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น ก่อนจะถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจนัก
“ข้าไม่เข้าใจจริงๆข้าเป็นฝ่ายเข้าหาเจ้าก่อนเช่นนี้ แต่เหตุใดเจ้าจึงเอาแต่คอยหลีกหนีให้ห่างจากข้า หรือเจ้ารังเกียจและไม่ชอบข้ากันแน่”
“เจ้าคิดมากเกินไปแล้วใช่ว่าข้าจะรังเกียจเจ้า แต่พวกเราสองคนเพิ่งพบเจอกันไม่กี่ครั้ง เหตุใดเจ้าจึงต้องรีบร้อนพัฒนาความสัมพันธ์ด้วยเล่า”
หลิงหยุนถูกเซิ่งหยิงหยิงเป็นฝ่ายรุกจู่โจมเช่นนี้เขาจึงได้แต่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย แต่ก็เอ่ยปลอบโยนกลับไปว่า “พวกเราสองคนยังพอมีเวลาทำความรู้จักกันไม่จำเป็นต้องรีบร้อนนัก!”
ระหว่างที่เอ่ยปลอบโยนเซิ่งหยิงหยิงนั้นหลิงหยุนก็ยกมือขึ้นลูบไล้แผ่นหลังของนางอย่างอ่อนโยน แต่กลับคิดไม่ถึงว่า เรื่องราวจะยิ่งไปกันใหญ่ นั่นเพราะเซิ่งหยิงหยิงกลับทิ้งตัวลงเข้าใส่ร่างของเขา พร้อมกับโอบกอดไว้แน่น ปากก็ตำหนิเขาไม่หยุด
“เจ้าโกหก!อย่าคิดว่าข้าไม่รู้อะไร หลังจากออกจากมาเก๊า เจ้าก็จะไปหาบรรดาผู้หญิงของเจ้า ข้าจะมีโอกาสพัฒนาความสัมพันธ์ได้อย่างไรกันเล่า!”
“…”
หลิงหยุนถึงกับนิ่งอึ้งไปแต่หลังจากนั้นก็ได้เอ่ยบอกเซิ่งหยิงหยิงไปว่า “นั่นมันเมื่อก่อน.. ข้าสัญญาว่าหลังจากนี้จะไม่เป็นเช่นนั้นแน่!”
“เจ้าพูดจริงรึ!”เซิ่งหยิงหยิงเงยหน้าพร้อมกับเอ่ยถาม “จริงเสียยิ่งกว่าจริง..”หลิงหยุนตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
เซิ่งหยิงหยิงถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกับผละออกจากอ้อมอกของหลิงหยุน และพูดขึ้นว่า
“เช่นนั้นคืนนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไปก่อน!”
จากนั้นเซิ่งหยิงหยิงก็ถามหลิงหยุนต่อว่า“ข้าไม่เข้าใจจริงๆว่าเหตุใดเจ้าจึงไม่กล้า”
หลิงหยุนได้แต่หัวเราะออกมาพร้อมกับกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงติดตลก “ใช่ว่าข้าไม่กล้า แต่ข้าเกรงว่าหลังจากนั้นเจ้าจะตามข้าไปทุกที่ต่างหาก!”
“หึ!”เซิ่งหยิงหยิงทำเสียงขึ้นจมูกอย่างไม่พอใจนัก แต่หลิงหยุนก็หาได้ใส่ใจ และรีบถามถึงเรื่องการเล่นพนันในคืนนี้ต่อ
“ว่าแต่คือนี้เจ้าจะเล่นด้วยหรือไม่”
เซิ่งหยิงหยิงส่ายหน้าพร้อมตอบกลับไปว่า “ไม่! ข้าจะคอยดูเจ้าจัดการกับพวกเขาแทน น่าสนุกกว่ามาก!”
“ตกลง!”
ระหว่างที่หลิงหยุนสนทนาอยู่กับเซิ่งหยิงหยิงนั้นเขาก็เริ่มใช้จิตหยั่งรู้สำรวจเข้าไปดูภายในห้องวีไอพีนั้นอีกครั้ง เพราะคืนนี้โจวเหยากังได้เตรียมการที่จะเล่นพนันในห้องวีไอพีห้องนี้
เวลานี้ภายในห้องวีไอพีได้ถูกจัดเตรียมไว้อย่างเรียบร้อย ผู้จัดการเฟิ่งก็เดินเข้าเดินออกห้องนี้อยู่หลายครั้ง พนักงานในคาสิโนหลายคน ต่างก็เข้ามาช่วยกันจัดเตรียมความพร้อม เพียงแต่ครั้งนี้ เขาไม่เห็นโจวเหยากวงอยู่ในห้องด้วย
หลิงหยุนรู้ดีว่าโจวเหยากวงจะต้องเตรียมการอย่างรอบคอบเป็นแน่แต่หลิงหยุนก็คร้านที่จะใส่ใจนัก เพราะถึงอย่างไร ครั้งนี้ก็เป็นเพียงแค่การเล่นพนันเท่านั้น ไม่มีค่าพอที่จะให้เขาต้องใส่ใจมากไปกว่านี้
หลังจากนั้นราวครึ่งชั่วโมงโจวเหยากวงก็กลับเข้าไปที่ห้องวีไอพี เขายืนสำรวจรอบห้องอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็พยักหน้าเป็นการบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี
“ผู้จัดการเฟิ่งยังเหลือเวลาอีกเกือบชั่วโมง นักพนักคนอื่นๆน่าจะเริ่มทยอยมากันหมดแล้ว คุณอยู่ที่นี่คอยต้อนรับพวกเขา ส่วนผมจะขึ้นไปเชิญหลินเทียนด้วยตัวเอง..”
“ครับเจ้านาย..”
“หยิงหยิงเตรียมตัวได้แล้ว ได้เวลาที่พวกเราจะต้องลงไปข้างล่างแล้ว!”
หลิงหยุนเอ่ยบอกเซิ่งหยิงหยิงพร้อมกับจัดการเก็บหินพลังชีวิตกลับเข้าไปไว้ในแหวนดังเดิม จากนั้นจึงโคจรลมปราณเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกให้เป็นหลินเทียน
ไม่นานนักเสียงกริ่งภายในห้องก็ดังขึ้น..
โจวเหยากวงขึ้นมาถึงหน้าห้องแล้วหลิงหยุนจึงก้าวเดินไปเปิดประตู พร้อมกับร้องทักทาย “สวัสดีครับคุณโจว!”
“สวัสดีครับคุณชายหลินไม่ทราบว่าพร้อมหรือยังครับ” “ยิ่งกว่าพร้อม..”หลิงหยุนแสดงท่าทางว่าแทบอดทนรอให้ถึงเวลานี้ไม่ไหว พร้อมกับหันไปร้องตะโกนเรียกเซิ่งหยิงหยิงเสียงดัง
“หยิงหยิง..คุณพร้อมหรือยัง คุณโจวขึ้นมารับพวกเราด้วยตัวเองเชียวนะ!”
“พร้อม..ไปกันได้เลย!”
จากนั้นทั้งสามคนก็พากันเดินมุ่งหน้าไปยังห้องวีไอพีทันที
“ผมนี่มีตาแต่ไร้แววจริงๆคิดไม่ถึงว่าคุณชายหลินจะเป็นนักพนันที่มีฝีมือของตระกูลเหอ!”
ทันทีที่ก้าวเดินเข้าไปในลิฟท์แล้วโจวเหยากวงก็เป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนาขึ้นก่อน
“โอ้!!”
หลิงหยุนแสร้งทำเป็นร้องอุทานออกมาอย่างประหลาดใจพร้อมกับส่ายหน้าไปมา และแสร้งทำเป็นตีหน้าซื่อตอบกลับไปว่า
“คุณโจวพูดเรื่องอะไรกัน”
โจวเหยากวงยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัย“คุณชายหลิน อย่าแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องเลยครับ เรื่องที่คุณหนูเซิ่งไปเดินช้อปปิ้งกับคุณหนูตระกูลเหอนั้น ใครๆในมาเก๊าต่างก็รู้กันทั้งนั้น..”
“ในเมื่อคุณชายหลินเองก็เป็นแฟนของคุณหนูเซิ่งย่อมต้องรู้จักคุณหนูเหอเช่นกัน!”
หลิงหยุนกับเซิ่งหยิงหยิงหันไปมองตากันและต่างฝ่ายต่างก็เห็นรอยยิ้มในดวงตาของกันและกัน!
การที่โจวเหยากวงพูดเรื่องนี้ขึ้นมานั้นก็เพื่อต้องการที่จะบอกเขาเป็นนัยๆว่า แม้เขาจะไม่สามารถสืบรู้ฐานะที่แท้จริงของหลิงหยุนได้ แต่ก็พอที่จะคาดเดาจากฐานะของเซิ่งหยิงหยิงแทนได้
หลิงหยุนแกล้งทำเป็นตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจนัก“ดูเหมือนคุณโจวจะสนใจเรื่องฐานะของผมมากสินะครับ”
โจวเหยากวงตอบกลับยิ้มๆ“ในเมื่อคุณชายหลินเป็นผู้ที่คุณหนูเหอเชื้อเชิญมา ผมก็พอที่จะเข้าใจจุดประสงค์ของคุณหลินเช่นกัน!”
“ขอบอกตามตรงที่ผ่านมา ตระกูลเหอมีปัญหาเรื่องทายาทผู้สืบทอดกิจการมาโดยตลอด ทำให้แซนด์คาสิโนสามารถดึงลูกค้าที่เคยเล่นอยู่กับบ่อนของตระกูลเหอมาได้มากทีเดียว!”
“ในเมื่อคุณหนูเหอเป็นคนเชื้อเชิญคุณชายหลินมาช่วยเช่นนี้ผมเองก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่คงต้องมีการเปลี่ยนแปลงกติกาเล็กน้อย..”
ระหว่างที่โจวเหยากวงพูดนั้นประตูลิฟท์ก็เปิดออกพอดี โจวเหยากวงจึงเป็นฝ่ายเดินนำหนุ่มสาวทั้งคู่ออกมา ในขณะที่หลิงหยุนเองก็เอ่ยถามยิ้มๆ
“ไม่ทราบว่ากติกาเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง”
“ง่ายๆแต่ละฝ่ายจะต้องวางเดิมพันหนึ่งร้อยล้านไว้บนโต๊ะ หากชิปหนึ่งร้อยล้านไม่หมด ห้ามหยุดเล่นกลางคันโดยเด็ดขาด..” หลิงหยุนได้ยินเช่นนั้นจึงหันไปมองเซิ่งหยิงหยิงแทนการถาม เซิ่งหยิงหยิงพยักหน้าเล็กน้อย พร้อมกับอธิบายให้หลิงหยุนฟังว่า
“ก็ไม่มีอะไรมากเรียกว่าไม่หมดตัว ก็ไม่มีสิทธิ์ลุก!”
หลิงหยุนพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะหันไปพูดกับโจวเหยากวงว่า “คุณโจว ผมคิดว่าคุณคงจะเข้าใจอะไรผิดไป ผมรู้จักกับคุณหนูเหอจริง แต่เธอไม่ได้เชิญผมมาสร้างปัญหาให้กับแซนด์คาสิโนอย่างที่คุณคิด”
“คุณชายหลินคุณจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ พวกเราคงจะไม่สามารถบังคับอะไรคุณได้ อีกอย่าง ไม่มีคนตระกูลเหอมายืนยันเพื่อพิสูจน์ในเรื่องนี้ แต่เอาเป็นว่า หากจะเล่นต่อ ก็จะต้องปฏิบัติตามกฏกติกาที่ผมบอก แต่ถ้าคุณชายหลินไม่กล้า ผมก็จะยินยอมให้คุณกลับออกไปพร้อมกับเงินที่เล่นได้เมื่อตอนกลางวัน..”
โจวเหยากวงยิ้มเจ้าเล่ห์พร้อมกับจ้องมองหลิงหยุนด้วยแววตาท้าทาย ในขณะที่สีหน้าของหลิงหยุนเองก็เปลี่ยนไปเช่นกัน แต่ก็ยากที่แยกออกว่า เขากำลังรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจ หรือว่ากำลังลังเลใจอยู่กันแน่
โจวเหยากวงหารู้ไม่ว่าความจริงนั้นหลิงหยุนพร้อมตั้งแต่แรกแล้ว หาไม่เขาคงจะนำเงินที่เล่นได้กลับไปตั้งแต่เมื่อกลางวันแล้ว เหตุใดยังต้องรอจนถึงดึกด้วยเล่า
“ตกลง..ผมเล่น!”
หลิงหยุนแสร้งทำเป็นเม้มริมฝีปากแน่นราวกับว่านี่เป็นการตัดสินใจที่ยากยิ่งสำหรับเขา จากนั้นจึงย้ำกับโจวเหยวกวงอีกครั้งว่า
“แต่ผมขอยืนยันอีกครั้งว่าการตัดสินใจเล่นกับคุณในคืนนี้ เป็นเรื่องส่วนตัวของผม ไม่เกี่ยวข้องกับเซิ่งหยิงหยิง และตระกูลเหอเลยแม้แต่น้อย!”
“ดี!เชิญคุณชายหลินทางนี้..”
โจวเหยากวงเชื้อเชิญพร้อมกับเดินนำหลิงหยุนเข้าไปในห้องวีไอพีทันที เมื่อเขาไปด้านใน หลิงหยุนก็พบว่าเวลานี้ เจ้าหน้าที่ที่จะทำการแจกไพ่นั้น ได้ยืนประจำตำแหน่งของตนเองเรียบร้อยแล้ว
ภายในโต๊ะพนันขนาดใหญ่นั้นมีคนนั่งรออยู่ก่อนแล้วราวแปดคน สี่คนดูเหมือนจะเป็นชาวต่างชาติ และเป็นชายสามหญิงหนึ่ง สองคนอยู่ในวัยหกสิบได้ ส่วนอีกสองคนจัดว่าอยู่ในวัยกลางคน และดูเหมือนคนในวัยสามสิบเท่านั้น
ในบรรดาแปดคนนั้นเจ็ดคนยังคงนั่งสีหน้านิ่งเรียบไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึก และสายตาที่แหลมคมของพวกเขา ก็กำลังจ้องมองมาทางหลิงหยุนและเซิ่งหยิงหยิง ก่อนจะหันกลับไปมองหน้ากันเอง
ส่วนอีกหนึ่งคนในกลุ่มนั้นดูเหมือนจะเป็นชายหนุ่มที่อายุน้อยที่สุด ใบหน้ากลมมนสีขาวของเขานั้น ก้มมองกองชิปตรงหน้า และหันไปหยอกเย้ากับหญิงสาวข้างกายอยู่ตลอดเวลา โดยไม่สนใจหลิงหยุนเลยแม้แต่น้อย
“คุณชายหลินวันนี้มีคนที่จะมาร่วมเล่นด้วยทั้งหมดแปดคน พวกเขาต่างก็มาถึงก่อนหน้าคุณเล็กน้อย ขอเชิญคุณชายหลินนั่งลงที่ตำแหน่งเบอร์เก้าได้เลย!” โจวเหยากวงกวาดสายตามองไปรอบโต๊ะ ก่อนจะหันไปเชื้อเชิญหลิงหยุนให้นั่ง
หลิงหยุนยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเดินควงแขนเซิ่งหยิงหยิงไปนั่งตำแหน่งหมายเลขเก้าทันที..
“คุณชายหลินนี่เป็นชิปหนึ่งร้อยล้านของคุณ..”
ผู้จัดการเฟิ่งร้องบอกหลิงหยุนพร้อมกับนำกล่องใส่ชิปมาวางลงตรงหน้าเขา
“ขอบคุณมาก..”
จากนั้นหลิงหยุนก็ได้บอกกับผู้จัดการเฟิ่งว่า“รบกวนคุณช่วยจัดเก้าอี้ไว้ตรงนี้ให้ผมสักตัว!”
ผู้จัดการเฟิ่งเดินไปยกเก้าอี้มาวางไว้ให้ตามคำขอของหลิงหยุนพร้อมกับเชื้อเชิญเซิ่งหยิงหยิงให้นั่งลงทันที
“ผู้จัดการเฟิ่งคืนนี้น่าจะเป็นการเล่นพนันที่ตื่นเต้นอย่างที่คุณบอกไว้จริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะมีสาวสวยขนาดนี้เข้ามานั่งเล่นด้วย..”
ทันทีที่เซิ่งหยิงหยิงนั่งลงข้างกายหลิงหยุนใบหน้ากลมมนของผู้เล่นที่นั่งอยู่ตำแหน่งที่แปด ก็เงยขึ้นพร้อมกับจ้องมองหญิงสาวด้วยแววตาเป็นประกาย
“การเดิมพันใกล้จะเริ่มขึ้นแล้วหวังว่าคืนนี้คุณชายกัวจะมือขึ้นที่สุดนะครับ!”
ผู้จัดการเฟิ่งรู้จักฐานะของเซิ่งหยิงหยิงดีจึงไม่กล้าที่จะแตะต้องเธอ และรีบเปลี่ยนหัวข้อในการสนทนาอย่างรวดเร็ว
หลิงหยุนสังเกตเห็นแล้วว่าคุณชายกัวผู้นี้มีชิปอยู่บนโต๊ะมากถึงสามร้อยล้าน และดูเหมือนจะมากกว่าทุกคนในที่นี้ทั้งหมด..”
หลิงหยุนไม่รู้สึกประหลาดใจนักเพราะเมื่อตอนกลางวันนั้น เขาได้ยินโจวเหยากวงพูดทำนองว่า ได้เวลาที่ใครบางคนจะต้องตอบแทนเขาเสียที แต่ในใจของหลิงหยุนกลับคิดว่า คืนนี้ ชายหนุ่มหน้ากลมจะต้องเสียเงินมากที่สุด เขาจึงคร้านที่จะใส่ใจนัก.. หลังจากนั้นโจวเหยากวงก็ได้ประกาศด้วยน้ำเสียงที่ดังฟังชัด “เอาล่ะ ในเมื่อทุกคนมาพร้อมแล้ว หวังว่าทุกท่านคงจะเข้าใจกติกาในคืนนี้ดีแล้ว!”
จากนั้นโจวเหยากวงก็ได้หันไปทางผู้เล่นตำแหน่งที่แปด พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ผู้เล่นตำแหน่งที่แปดมีชิปมากถึงสามร้อยล้าน ตราบใดที่ชิปของคุณลดลงถึงสองร้อยล้าน คุณจึงจะสามารถหยุดเล่นได้..”
สรุปง่ายๆก็คือว่าอย่างน้อยๆ แต่ละคนหากไม่สามารถเล่นชนะได้ ก็จะต้องเล่นเสียหนึ่งร้อยล้านก่อน จึงจะมีสิทธิ์หยุดเล่นได้นั่นเอง!
หลังจากโจวเหยากวงพูดจบเขาก็ประกาศว่า.. “ขอเชิญทุกท่านตรวจไพ่ได้!”
พนักงานแจกไพ่ทำการหยิบไพ่กล่องใหม่ขึ้นมาพร้อมกับจัดการคลี่ลงบนโต๊ะอย่างชำนิชำนาญ
ทุกคนบนโต๊ะพยักหน้าพร้อมกันเป็นการยืนยัน และยอมรับว่าไพ่ไม่มีปัญหา! หลังจากนั้นพนักงานแจกไพ่ก็หยิบไพ่ทั้งหมดขึ้นมา ก่อนจะทำการคลี่หลังไพ่ลงบนโต๊ะอีกครั้ง และครั้งนี้ โจวเหยากวงกับผู้จัดการเฟิ่งต่างก็หันมองไปทางหลิงหยุน ซึ่งนั่งอยู่ในตำแหน่งที่เก้าพร้อมกัน
หลิงหยุนโน้มตัวไปข้างหน้าพร้อมกับสำรวจหลังไพ่อยู่ครู่หนึ่ง และแล้วสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป และเม็ดเหงื่อก็เริ่มผุดขึ้นบนหน้าผากของเขา หลิงหยุนหันไปมองเซิ่งหยิงหยิง และสีหน้าของนางก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน
โจวเหยากวงและผู้จัดการเฟิ่งต่างก็เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของคนทั้งสองแต่แล้วเขาก็รีบพูดตัดบททันที
“เอาล่ะทุกท่านนี่ก็ได้เวลาพอดี หากทุกท่านไม่มีปัญหากับไพ่ เกมการพนันจะเริ่มต้นขึ้นเดี๋ยวนี้แล้ว!”
“ไม่มีปัญหา!”
ทุกคนในโต๊ะต่างก็ไม่มีปัญหากับไพ่หลิงหยุนได้แต่ยกมือขึ้นเกาศรีษะ พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ผม.. ผมก็ไม่มีปัญหา!”
“เยี่ยม!ถ้าอย่างนั้นก็เริ่มแจกไพ่ได้เลย!”
สิ้นเสียงประกาศของโจวเหยากวงหลิงหยุนรู้สึกจิตใจห่อเหี่ยวราวกับลูกบอลที่ถูกปล่อยลม ในระหว่างนั้น หูของเซิ่งหยิงหยิงก็ได้ยินเสียงพูดของหลิงหยุนดังขึ้น
–หยิงหยิงข้าตีบทแตกหรือไม่-
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร