บทที่ 1575 : ไพ่ลงยันต์
“โอ้ว..”
“นั่นล่ะ..ช่างสบายเนื้อสบายตัวยิ่งนัก!”
“นี่..เจ้าออกแรงอีกหน่อยสิ! นั่นล่ะ.. อย่างนั้น! ทำตัวหมดเรี่ยวหมดแรงคล้ายคนไม่ได้กินข้าวไปได้!”
“อย่าขี้เกียจนักสิ!”
หลังจากรับประทานอาหารเย็นเรียบร้อยแล้วในราวสองทุ่ม หลิงหยุนก็กลับมานั่งชมวิวอยู่หน้าผนังกระจก โดยมีเซิ่งหยิงหยิงทำหน้าที่ยืนนวดคลายเมื่อยตามร่างกายให้กับเขา
“นับว่าฝีมือการนวดของเจ้าไม่เลวเลยทีเดียวนี่เจ้าไปเรียนมางั้นรึ”
เวลานี้เซิ่งหยิงหยิงกำลังยืนอยู่ด้านหลังของหลิงหยุน มือทั้งคู่บีบนวดไหล่ทั้งสองข้างของเขาอย่างช่ำชอง แต่แม้นางจะออกแรงจนสุดกำลังแล้ว หลิงหยุนก็ยังเอาแต่พร่ำบ่นว่านางไร้เรี่ยวแรง แล้วก็เกียจคร้าน นางจึงได้แต่กัดฟันกรอดด้วยความโมโห และไม่ยอมตอบคำถามของเขา
“นี่เจ้าโกรธข้ารึ”
หลิงหยุนเงยหน้าขึ้นมองเซิ่งหยิงหยิงพร้อมกับกล่าวยิ้มๆ “แม้เจ้าจะโกรธข้าก็ไม่มีประโยชน์อันใด หากเจ้าอยากจะฝึกวรยุทธกับข้าจริงๆ สิ่งแรกที่ต้องทำให้ได้ก่อนก็คือ เจ้าต้องรู้จักเคารพอาจารย์ แล้วก็เป็นฝ่ายให้เสียก่อน ที่สำคัญอย่าได้คิดหาทางลัดโดยเด็ดขาด..”
เซิ่งหยิงหยิบตอบโต้กลับไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“ที่เจ้าพูดเช่นนี้ก็เพราะไม่เชื่อว่าข้าจะเอาจริงเอาจังสินะ”
“เชื่อสิ!”
หลิงหยุนรีบตอบกลับไปทันที“ข้าย่อมเชื่อเจ้าอยู่แล้ว และรู้ว่าเจ้าเองก็เป็นคนที่กล้ามากคนหนึ่ง!”
เซิ่งหยิงหยิงถึงกับยิ้มเก้อเขินเมื่อนึกถึงความใจกล้าบ้าบิ่นของตนเองเมื่อตอนบ่าย และใจก็ถึงกับเต้นแรง แต่ในระหว่างนั้น หลิงหยุนก็ยกมือขึ้นชี้ไปที่ท้องทะเลเบื้องหน้า
“เจ้าดูเรือสำราญลำนั้นสิสวยงามมากทีเดียว!”
เซิ่งหยิงหยิงหันมองไปตามปลายนิ้วของหลิงหยุนแล้วจึงเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “นั่นน่ะเหรอ น่าจะเป็นเรือสำราญของตระกูลเหอ ภายในเป็นบ่อนคาสิโนเคลื่อนที่!”
“บ่อนคาสินโนกลางท้องทะเลนี่นะ!”หลิงหยุนพึมพำออกมาด้วยความสงสัย
เซิ่งหยิงหยิงยิ้มออกมาและตอบกลับไปว่า “ก็ใช่น่ะสิ! เจ้าอย่าลืมว่าธุรกิจหลักของมาเก๊าคือบ่อนคาสิโน ฉะนั้น ธุรกิจนี้ย่อมมีการพัฒนาไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และจะมีอะไรๆที่เหนือความคาดหมายของผู้คนออกมาให้เห็นอีกเรื่อยๆ”
“อืมม..เจ้ากล่าวได้มีเหตุมีผล!”
หลิงหยุนพยักหน้าเห็นด้วย“เงินหมุนเวียนในธุรกิจประเภทนี้คงจะมากมายมหาศาลทีเดียวสินะ”
“ใช่แล้ว!”
“ในการเปิดบ่อนคาสิโนนั้นสิ่งที่พวกเขาหวาดกลัว ไม่ใช่การที่นักพนันจะเล่นชนะ และได้เงินกลับไป แต่ที่พวกเขากลัวก็คือ.. การไม่มีนักพนันเข้ามาเล่นในบ่อนต่างหากเล่า!”
“อีกอย่างนักธุรกิจที่เปิดบ่อนคาสิโน ก็มักจะไม่ได้เปิดบ่อนเพียงอย่างเดียว แต่จะเปิดธุรกิจอื่นๆควบคู่ไปด้วย หากเจ้าสังเกตดูให้ดี รอบๆบ่อนคาสิโนจะมีธุรกิจให้บริการอื่นๆรายล้อมอยู่มากมาย ต่อให้นักพนันเล่นชนะได้เงินจากบ่อนออกมา ก็ยากที่จะต้านทานแรงดึงดูดของธุรกิจบริการด้านอื่นๆที่รายล้อมได้ไหว อีกอย่าง.. เงินที่ได้มาง่าย ก็มักจะไหลออกไปได้ง่ายเช่นเดียวกัน ท้ายที่สุด นักพนันเหล่านั้นมักจะกลับบ้านมือเปล่า..”
“พูดง่ายๆก็คือแทบจะไม่มีนักพนันคนใด ที่สามารถกลับออกจากมาเก๊าพร้อมเงินพนันที่เล่นชนะได้เลย หรือต่อให้ชนะกลับไปได้ พวกเขาก็จะติดอกติดใจ จนต้องย้อนกลับมาเล่นอีกครั้ง ซึ่งครั้งต่อไปก็มักจะเสียจนหมดตัวเสมอ!”
เซิ่งหยิงหยิงเล่าให้หลิงหยุนฟังเป็นฉากๆและสีหน้าของนางเวลานี้ก็เปลี่ยนเป็นจริงจังมากยิ่งขึ้น
หลิงหยุนหันไปยิ้มให้กับเซิ่งหยิงหยิงพร้อมกับถามต่อว่า “หากเป็นดังเช่นที่เจ้าว่า แล้วบรรดานักพนันเก่งๆที่ได้ฉายาว่าราชันคาสิโนบ้าง หรือแม้แต่โคตรเซียนอย่างพ่อของเจ้า พวกเขาไม่มีเงินมีทองเหลือเลยงั้นรึ”
“ฉายาเหล่านี้ก็ล้วนแล้วแต่ลวงโลก!”
เมื่อสนทนามาถึงตรงนี้เซิ่งหยิงหยิงก็ได้หยุดบีบนวดให้หลิงหยุน แล้วเดินไปยกเก้าอี้มานั่นข้างๆเขาแทน พร้อมกับเล่าต่อว่า
“ฉายาเหล่านั้นล้วนแล้วแต่ได้มาจากการแข่งขันเล่นพนันที่จัดขึ้นหากชนะในการแข่งขันใด ก็มักจะได้รับฉายาตามการแข่งขันนั้น..” “หลายคนได้ยินได้ฟังมาเพียงแค่ว่าโคตรเซียน ราชันคาสิโน หรือนักพนันเก่งๆที่ได้รับฉายาต่างๆนั้น เล่นได้เงินได้ทองไปมากมาย แต่คนเหล่านั้นไม่เคยรู้เลยว่า พวกเขาพร้อมที่จะสูญเสียแขน ขา หรือแม้แต่ศรีษะของตนเองได้ตลอดเวลา..”
“เล่นพนันสิบตาต้องมีการโกงอย่างน้อยเก้าตา คนนอกอาจมองเห็นว่า พวกเขามีทักษะในการเล่นพนันได้ยอดเยี่ยมเหนือชั้น แต่พวกเขาไม่เคยรู้เลยว่า คำว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้านั้นเกิดขึ้นในวงการพนันอยู่ตลอดเวลา หากไม่รู้จักสังเกต หรือเขาใจกฏธรรมดาข้อนี้ให้ดี ต่อให้เซียนพนัน หรือโคตรเซียน ก็ย่อมต้องมีจุดจบที่น่าสังเวช!”
หลิงหยุนยกมือขึ้นเกาศรีษะพร้อมกับเอ่ยถามเซิ่งหยิงหยิงว่า “เหตุใดข้าจึงรู้สึกราวกับว่า เจ้ากำลังเตือนข้าอยู่”
“ข้าเพียงแค่บอกเล่าให้เจ้าฟังเท่านั้น!”
เซิ่งหยิงหยิงปรายตามองหลิงหยุนพร้อมกับเอ่ยต่อ “โดยปกตินักพนักเก่งๆที่มีชื่อเสียงนั้น หลังจากที่สร้างชื่อเสียงให้กับตนเองจนโด่งดังเป็นที่รู้จักในวงการแล้ว พวกเขามักจะผันตัวจากนักเล่นไปทำงานให้กับบ่อนคาสิโนต่างๆแทน นอกจากจะได้เงินเดือนจากบ่อนแล้ว ยังสามารถเล่นกับลูกค้าเพื่อสร้างสีสันให้กับบ่อน และได้เงินที่เล่นชนะไปเป็นรางวัลบ้าง..”
“หากไม่ไปทำงานให้กับบ่อนคาสิโนก็อาจจะไปขอร่วมหุ้นก็ได้ อย่างโจวเหยากังเป็นต้น เขาก็นำเงินที่ได้จากการเล่นพนัน เข้าไปขอร่วมหุ้นกับบ่อนคาสิโนใหญ่ๆแทน และทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลกิจการแทนเจ้าของที่แท้จริง แต่เขาจะต้องมีความสามารถพอที่จะคุมบ่อนไม่ให้ขาดทุนได้ ไม่อย่างนั้น เจ้าของที่แท้จริงคงจะไม่สนใจให้ร่วมลงทุนด้วยแน่..”
หลังจากนั่งฟังเซิ่งหยิงหยิงเล่าอย่างเพลิดเพลินเขาก็หันไปถามนางว่า “แล้วพ่อของเจ้าล่ะ เป็นแบบใด”
เซิ่งหยิงหยิงตอบกลับยิ้มๆ“พ่อของข้าเคยทำงานให้กับบ่อนคาสิโนของตระกูลเหอ แต่ตอนนี้เขาวางมือหมดแล้ว และได้นำเงินไปร่วมลงทุนในกิจการของตระกูลเหอ เพื่อกินเงินปันผลเล็กๆน้อยๆ”
“ฟังดูแล้ว..กว่าที่พ่อของเจ้าจะมาถึงวันนี้ได้นั้น ไม่ง่ายเลยจริงๆ!”
“ใต้หล้านี้มีเรื่องใดง่ายดายบ้างเล่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งวงการพนัก ที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงและอันตรายมากมาย หากไม่รู้จักระมัดระวังตัวให้มากแล้วล่ะก็ ภายในคืนเดียวอาจหมดเนื้อหมดตัว และไม่เหลือแม้แต่ชีวิตก็ได้..”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้เซิ่งหยิงหยิงก็ได้แต่ถอนหายใจ พร้อมกับเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนจะพูดขึ้นว่า “เหมือนกับที่ข้าพบเจ้าในเมืองจิงฉูนั่นล่ะ..”
“ฮ่าๆๆ”
หลิงหยุนอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้และได้แต่เย้าแหย่เซิ่งหยิงหยิงว่า “เจ้าอยากได้เงินไปซื้อเครื่องบินส่วนตัวมิใช่รึ ไม่เช่นนั้นคงไม่ไปหาเรื่องตายถึงถิ่นของข้า! ต้องโทษตัวเจ้าเองแล้ว..”
เซิ่งหยิงหยิงถลึงตาใส่หลิงหยุนพร้อมตวาดกลับไป“เจ้ายังจะกล้าพูดอีกรึ”
หลิงหยุนเอ่ยถามเรื่องที่ยังค้างคาใจต่อ“หยิงหยิง.. มาคุยกันเรื่องการเล่นพนันคืนนี้จะดีกว่า เจ้าว่าจะออกมาในรูปแบบใด”
“ปกติแล้วหากเจ้าของคาสิโนลงมาเล่นด้วยตัวเองเช่นนี้ แน่นนอนว่าชิปบนโต๊ะต้องมีมูลค่าอย่างน้อยหนึ่งร้อยล้านขึ้นไป และจำนวนเงินที่มีโอกาสจะได้กลับไปก็มากถึงพันล้านเลยทีเดียว..” เซิ่งหยิงหยิงบอกกับหลิงหยุน
“แต่การพนันด้วยเงินจำนวนมากเช่นนี้จะจัดขึ้นเป็นการเฉพาะกิจเท่านั้น หากไม่พิเศษจริง ทางบ่อนจะไม่มีทางตั้งโต๊ะพนันที่เดิมพันสูงเช่นนี้แน่ และส่วนใหญ่ จะมีการเชิญเซียนพนันระดับสูงอย่างพ่อของข้ามาเป็นตัวแทนของคาสิโน เพื่อหมายตกปลาใหญ่..”
“แต่แน่นอนว่ายิ่งเงินเดิมพันสูงมากเท่าไหร่ ทุกอย่างก็จะอยู่ในการควบคุมของเจ้าของบ่อนมากขึ้นเท่านั้น..”
“ทันทีที่การพนันเริ่มต้นขึ้นถึงตอนนั้น ทุกอย่างจะเป็นปัญหาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเจ้ามือ กระทั่งทุกคนที่อยู่บนโต๊ะ พูดง่ายๆก็คือว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องนั้นล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาทั้งสิ้น.. ”
เซิ่งหยิงหยิงบอกเล่ามาถึงตรงนี้จึงได้หันไปยิ้มให้กับหลิงหยุน พร้อมกับถามขึ้นว่า “เจ้าเข้าใจที่ข้าพูดใช่หรือไม่”
สีหน้าของหลิงหยุนยังคงเรียบเฉยและเขาก็กำลังครุ่นคิดคำนวณอยู่ว่า รายได้แต่ละเดือนของบ่อนคาสิโนแต่ละแห่งนั้น คงจะเป็นตัวเลขที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว
“เข้าใจสิ!”
หลิงหยุนตอบเซิ่งหยิงหยิงพร้อมกับลุกขึ้นยืนและเอ่ยต่อว่า “มิน่าล่ะ.. แม้โจวเหยากวงจะคาดเดาว่าข้าสามารถมองทะลุไพ่ได้ แต่เขากลับไม่มีท่าทีหวาดกลัวเลย ที่แท้ก็มีกลโกงอยู่ทุกจุดนี่เอง!” “หยิงหยิงเจ้าพอจะคาดเดาได้หรือไม่ว่า พวกเขาจะทำเช่นใด เมื่อรู้ว่าข้าสามารถมองทะลุไพ่ได้”
เซิ่งหยิงหยิงลุกขึ้นยืนเช่นกันและหันไปบอกกับหลิงหยุนว่า “พวกเขาย่อมใช้สองวิธีจัดการกับเจ้า.. ซึ่งวิธีการแรกก็คือ ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงอย่างเช่นไพ่ชนิดพิเศษ ที่สามารถปิดกั้นรังสี หรือลำแสงพิเศษที่สามารถทำให้อีกฝ่ายส่องทะลุไพ่ได้..”
หลิงหยุนฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้มเพราะด้วยขั้นพลังบ่มเพาะของเขาเวลานี้ ทำให้เนตรหยิน–หยางของเขานั้น มีความสามารถในการมองทะลุทะลวงได้อย่างเยี่ยมยอด เขาจึงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวต่อเทคโนโลยีชั้นสูงที่ว่านี้เลย
“แล้วอีกวิธีล่ะ”หลิงหยุนเอ่ยถามต่อทันที
“วิธีนี้น่ากลัวกว่าวิธีแรกมากนักมันคือการใช้ยันต์ศักดิ์สิทธิ์! อธิบายให้เข้าใจง่ายๆก็คือ ไพ่ที่จะนำมาเล่นนั้น จะมีการนำไปคนที่พลังวิเศษอย่างเจ้า ทำการลงยันต์ไว้ที่ด้านหลังของไพ่แต่ละใบ ซึ่งยันต์นั้นจะไม่สามารถมองเห็นได้ และถึงตอนนั้น อย่าว่าแต่เจ้าจะมีตาวิเศษเลย แม้แต่มีเวทย์มนต์คาถาก็ยากจะมองทะลุได้อีก!”
“…”
ครั้นี้หลิงหยุนถึงกับนิ่งอึ้งไปจริงๆเพราะคิดไม่ถึงว่าวงการพนัน จะพัฒนาก้าวหน้าไปได้ไกลถึงเพียงนี้!
“ถึงกับลงยันต์เชียวรึ!”
เซิ่งหยิงหยิงไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องการบ่มเพาะพลังนางจึงบอกว่าเป็นยันต์ที่สกัดกั้นการมองทะลุไพ่ด้วยดวงตา แต่หลิงหยุนเชื่อว่า นี่จะต้องเป็นการสะกัดกั้นจิตหยั่งรู้เป็นแน่!
ใช่ว่าหลิงหยุนไม่เคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้เพราะเมื่อครั้งที่เขาไปโรงประมูลตระกูลเย่นั้น เขาจำได้ว่าจิตหยั่งรู้ของตนเอง ก็ไม่สามารถมองทะลุกล่องใบใหญ่ใบหนึ่งได้เช่นกัน และครั้งนั้นเขาเพิ่งจะอยู่ในขั้นซานเฉิงชี่ เท่านั้น!
อีกอย่างหลิงหยุนเองก็เป็นปรมาจารย์ด้านการปลุกเสกยันต์ จึงสามารถเข้าใจเรื่องเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย และดูเหมือนว่า เขาจะประเมินความสามารถของคาสิโนแห่งนี้ต่ำไปมาก!
“ในเมื่อเจ้ารู้เรื่องเหล่านี้ตั้งแต่แรกเหตุใดจึงไม่บอกข้าตั้งแต่เนิ่นๆเล่า” หลิงหยุนหันไปต่อว่าเซิ่งหยิงหยิง
“ก็เพราะข้าเชื่อว่าต่อให้สถานการณ์จะยากลำบากเพียงใด เจ้าก็จะสามารถเอาชนะได้น่ะสิ!”
“นี่เจ้าเชื่อมั่นในตัวข้ามากถึงเพียงนี้เชียวรึ”
“ก็ใช่น่ะสิ!อีกอย่าง ข้าก็ไม่เคยเห็นเจ้าแพ้เลยสักครั้ง!” เซิ่งหยิงหยิงยืดอก พร้อมกับเชิดหน้าอย่างมั่นอกมั่นใจ พร้อมกับพูดต่อทันที
“แต่ถึงจะเสีย..ก็เสียแค่เก้าสิบกว่าล้านที่เล่นได้มา จะเป็นไรไปเล่า”
“…”หลิงหยุนถึงกับนิ่งอึ้งไปอีกครั้ง พร้อมกับบ่นพึมพำ
“นี่พี่สาว..เจ้าจงใจพาข้ามาเสียหน้าในคืนนี้สินะ นี่เจ้าต้องการแก้แค้นที่ข้าชนะเจ้าใช่หรือไม่?”
เซิ่งหยิงหยิงหัวเราะจนตัวงอและตอบหลิงหยุนกลับไปว่า “แก้แค้นอะไรกัน เรื่องพวกนั้นข้าลืมไปหมดแล้ว! ข้าแค่อยากเห็นเจ้าตกที่นั่งลำบากบ้างเท่านั้นเอง..”
“เสียใจด้วยที่ข้าคงจะต้องทำให้เจ้าผิดหวัง!”
จากนั้นหลิงหยุนก็เดินเข้าไปหาเซิ่งหยิงหยิง พร้อมกับก้มหน้าลงไปกระซิบกับนางว่า “หลังจากคืนนี้ เจ้าเตรียมตัวเลือกเครื่องบินส่วนตัวที่ต้องการไว้ได้เลย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร